ตอนที่ 6 - 1 ทำลายแผนการ

1462 คำ
“คารวะคุณหนูใหญ่เจียง คุณหนูรองกู้ เอ่อ…แม่นางใช่คุณหนูรองจวนแม่ทัพใช่หรือไม่เจ้าคะ” หลูเจียงหลีที่มาร่วมงานในวันนี้เช่นกันคำนับสตรีทั้งสามพร้อมทั้งกล่าวทักทายออกมา รอยยิ้มเสแสร้งไม่จริงใจที่นางแสดงออกมาทำให้ซูเยว่ซินรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาทันที เหตุใดชีวิตก่อนนางถึงได้มองอีกฝ่ายไม่ออกกัน หรือจะเป็นเพราะนางเป็นสตรีที่โง่งมจริงๆ “ตามสบายเถิดแม่นางหลู ใช่แล้วนี่คือพี่หญิงซู คุณหนูรองสกุลซู ตระกูลแม่ทัพที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำการในเมืองหลวงของเรา” กู้มู่หรงกล่าวออกมาอย่างไม่ถือตน นางรู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ค่อยชอบหน้าตนนัก เพราะอีกฝ่ายมีไมตรีกับพี่ชายรอง พี่ชายต่างมารดาของนาง “ยินดีที่ได้พบเจ้าค่ะ” หลูเจียงหลีหันไปผูกมิตรกับคุณหนูรองสกุลซูทันที ทว่าสีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายที่แสดงออกมานั้นช่างเย็นชายิ่งนัก เพราะสตรีผู้นี้ไม่แม้แต่จะมองหน้านาง หลูเจียงหลีนึกขุ่นเคืองอยู่ภายในใจ ทว่ากลับไม่กล้าที่จะแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา “ท่านแม่ของพวกข้ารออยู่ เห็นทีต้องขอตัวก่อน” คุณหนูใหญ่สกุลเจียงกล่าวออกมา นางไม่อยากแม้แต่จะพูดคุยกับสตรีตรงหน้า เพราะผู้ใดในวัยนางบ้างที่จะไม่รับรู้ถึงความน่ารังเกียจของอีกฝ่าย หลูเจียงหลีไม่รั้งบรรดาคุณหนู ซึ่งเป็นบุตรีของภรรยาเอกทั้งสามเอาไว้ให้ตนต้องอับอาย นางจึงทำท่าคำนับส่งอย่างอ่อนน้อม ทว่านางกลับแอบส่งสัญญาณให้แก่สาวรับใช้ที่ติดตามนางมา ว่าให้ลงมือตามแผนการที่วางไว้ แต่มีหรือที่การกระทำเหล่านี้จะรอดพ้นสายตาของซูเยว่ซิน ริมฝีปากงามแสยะยิ้มออกมา ก่อนที่นางจะเดินติดตามรั้งท้ายคุณหนูทั้งสองไปไม่ห่าง แต่แล้วระหว่างทางเดินที่พวกนางต้องเดินผ่านกันนั้นคับแคบ สาวรับใช้ผู้นั้นกลับทำท่าจะเหมือนจะหกล้มแล้วเซจะไปชนเข้ากับกู้มู่หรง เพื่อที่จะทำให้ร่างของกู้มู่หรงไปกระแทกร่างของคุณหนูใหญ่สกุลเจียงให้ตกน้ำไป ทว่าความว่องไวของซูเยว่ซินที่เดินรั้งท้ายมา รีบเข้าไปดึงกู้มู่หรงและเจียงซีหรูให้ถอยหลังออกมา ทำให้สาวใช้ผู้นั้นพุ่งกายไปกระแทกราวสะพาน แล้วตกลงไปในน้ำแทน หลูเจียงหลีถึงกับตาเบิกโพลง ด้วยไม่คิดว่าแผนการที่วางเอาไว้จะผิดพลาด นางหันไปมองคุณหนูรองสกุลซูก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังยกยิ้มให้นางเพียงเล็กน้อย ใจของหลูเจียงหลีกระตุกวูบ นางรีบหลบสายตาของอีกฝ่าย แล้วมองไปยังสาวรับใช้ของนางทันที สาวรับใช้ที่ตกลงไปในน้ำรีบตะเกียกตะกายเรียกร้องให้คนช่วย ทำให้ผู้คนในงานพากันตกอกตกใจ รีบโผล่หน้าออกมาดูว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ผู้ติดตามบางคนที่ติดตามเจ้านายมา รีบกระโดดน้ำลงไปช่วยผู้ที่ตกลงไปในน้ำทันที หลูเจียงหลีที่กำลังจะหันไปตำหนิคุณหนูรองสกุลกู้ กลับต้องชะงักปากของตน เพราะนางยังไม่ทันกล่าวสิ่งใดออกมา เสียงหวานของคุณหนูรองตระกูลแม่ทัพก็ดังขึ้นอย่างเยือกเย็น “ระวังหน่อย เพราะหากเป็นข้าที่ตกลงไป มิใช่เพียงแค่สาวรับใช้ผู้นั้นที่จะต้องชดใช้ คนที่สั่งการของนางย่อมต้องถูกทรมานด้วยเช่นกัน" ขนอ่อนของหลูเจียงหลีลุกชัน นางไม่เคยพบเจอกับคุณหนูรองจวนแม่ทัพมาก่อน และไม่เคยมีความแค้นอันใดกับอีกฝ่าย ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด ใจนางจึงรู้สึกหวาดกลัวอีกฝ่ายยิ่งนัก เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว นางจึงต้องเก็บปากเก็บคำที่จะกล่าวออกมา แล้วรีบเข้าไปดูสาวใช้ที่ติดตามตนมาในทันที แผนการวันนี้ของนางล้มไม่เป็นท่า ไม่รู้ว่าคุณหนูรองจวนแม่ทัพรู้ได้เยี่ยงไร ว่าสาวรับใช้ของนางต้องการกระทำสิ่งใด แต่การที่นางทำงานล้มเหลวเช่นนี้ เขาผู้นั้นจะต้องตำหนิและไม่สนใจไยดีนางเป็นแน่ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วนางจะทำเยี่ยงไรดี หลังจากที่หลูเจียงหลีจากไปแล้ว คุณหนูทั้งสองจึงรีบคำนับขอบน้ำใจซูเยว่ซิน ที่มองเห็นสิ่งผิดปกติและยื่นมือให้ความช่วยพวกนางเอาไว้ได้ทัน มิเช่นนั้นพวกนางคงทำให้บิดามารดาต้องรู้สึกอับอายขายหน้าเป็นแน่ ทั้งสองต่างคิดเห็นตรงกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแผนการของสตรีผู้นั้น ทำให้ภายในใจพากันนึกขุ่นเคืองอยู่ไม่น้อย “ขอบน้ำใจพี่หญิงซูยิ่งนักเจ้าค่ะ หากท่านไม่ว่องไว รีบคว้าตัวข้าและพี่หญิงเจียงเอาไว้ ป่านนี้พวกเราคงจะต้องเป็นฝ่ายที่ตกลงไปในน้ำแทนสาวใช้ผู้นั้นเสียแล้ว” “ข้าฝึกวรยุทธ์มาเล็กน้อย ทำให้หูตาว่องไว พวกเจ้าไม่เป็นอันใดก็ดีแล้ว รีบกลับไปหาพวกผู้ใหญ่กันเถิด ป่านนี้พวกนางคงจะเป็นห่วงพวกเราแย่แล้ว” ซูเยว่ซินยิ้มกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงถ่อมตน ก่อนที่นางจะจับมือคุณหนูทั้งสองให้เดินตามนางไป ไม่แม้ที่จะสนใจหันกลับไปมองสตรีที่มองตามพวกนางด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา หลังจากงานเลี้ยงเลิกลา ผู้มาเยือนก็พากันแยกย้ายกลับจวนของตน ตระกูลซูเองก็เช่นกัน ซูเยว่ซินรู้สึกอารมณ์ดียิ่งนัก เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นได้ผิดเพี้ยนไปจากชีวิตก่อนแล้ว นางสามารถแก้ไขเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้ แม้ไม่ได้เอาความสาวรับใช้ผู้นั้น คุณหนูรองสกุลกู้กับคุณหนูใหญ่สกุลเจียง ต่างก็พอที่จะพากันคาดเดาได้ว่า เป็นความตั้งใจของผู้ใด เพียงแต่ทั้งสองไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของอีกฝ่าย และไม่รู้ตัวว่าพวกนางไปทำสิ่งใดให้อีกฝ่ายชิงชัง จนถึงขั้นวางแผนทำให้พวกนางต้องอับอาย “คุณหนูรองเจ้าคะ เหตุใดคุณหนูรองกู้กับคุณหนูใหญ่เจียงไม่เอาผิดสาวรับใช้ผู้นั้นเล่าเจ้าคะ ข้าน้อยเห็นว่าอีกฝ่ายตั้งใจชัดๆ” ชิงหลวนเอ่ยถามคุณหนูรองออกมาอย่างไม่เข้าใจ “เจ้าเองก็มองออกเช่นนั้นรึ ว่าอีกฝ่ายตั้งใจ” ซูเยว่ซินเอ่ยถามสาวรับใช้คนสนิทด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ หากเป็นเช่นนี้ชีวิตก่อนชิงหลวนก็สังเกตเห็นแล้วหรือไม่ แต่เพราะเหตุใดถึงไม่ยอมบอกนาง ปล่อยให้นางเชื่อว่าคุณหนูรองกู้นิสัยไม่ดีไปเสียได้ “ข้าน้อยมองไม่ออกหรอกเจ้าค่ะ แต่พอได้เห็นคุณหนูรองที่รีบดึงคุณหนูทั้งสองให้ถอยหลังมา ข้าจึงมองเห็นว่าสาวรับใช้ผู้นั้นตั้งใจ เพราะหากคนไม่ตั้งใจจะพุ่งเข้าไปชนราวสะพานอย่างแรงเช่นนั้นหรือเจ้าคะ” ข้อสงสัยของชิงหลวนทำให้ซูเยว่ซินฉีกยิ้มออกมา นางพอจะเข้าใจแล้วว่าที่จริงแล้ว ชีวิตก่อนชิงหลวนเองก็มองไม่ออกเช่นกัน เพราะชีวิตก่อนนางหาได้สอดมือเข้าไปยุ่งกับเหตุการณ์นี้ไม่ จึงได้เห็นเพียงจากที่ไกลๆ เท่านั้น เลยพากันเข้าใจผิดไปตามที่สตรีผู้นั้นต้องการให้ทุกคนได้เข้าใจ “จะว่าไปก็สมน้ำหน้านะเจ้าคะ ทำงานไม่สำเร็จยังต้องมารับกรรมอีก แต่ยามที่กลับจวนไปสาวรับใช้ผู้นั้นคงหนีไม่พ้นถูกคุณหนูผู้นั้นสั่งลงโทษเป็นแน่ เหตุใดสตรีที่มีใบหน้างดงามถึงได้มีจิตใจต่ำทรามเช่นนั้นกัน คุณหนูรองอย่าได้ไปคบหากับสตรีเช่นนั้นเชียวหนาเจ้าคะ ไม่เป็นผลดีกับคุณหนูรองแน่ๆ” ชิงหลวนยังพูดออกมาตามที่ตนเองคิด ซูเยว่ซินรับฟังอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ ในใจพลันรู้สึกยินดี อย่างน้อยชีวิตนี้ก็ยังมีชิงหลวนที่คอยช่วยเตือนสติ หากในชีวิตก่อนนางปล่อยให้ชิงหลวนได้แสดงความเห็นของตนเองออกมาได้อย่างเต็มที่เช่นนี้ มีหรือที่นางจะหลงเดินทางผิด นางส่งยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วรับปากว่าจะไม่คบหากับสตรีจากสกุลหลูเด็ดขาด ชิงหลวนรู้สึกโล่งใจก่อนที่จะยิ้มแย้มออกมาแล้วบอกเล่าเรื่องราวของคุณชายคุณหนูในตระกูลกู้ให้นางได้ฟัง จนรถม้าถึงจวนตระกูลซู
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม