บทที่ 9 ให้นางตายจาก
ยามนี้ในจวนตระกูลหนิงกำลังวุ่นวายเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะไท่ฮูหยินที่ฟื้นขึ้นมาเอาแต่ร้องเรียกหาหนิงซือซือ จนแม่ทัพใหญ่หนิงต้องปลอบนางเป็นการใหญ่
"ท่านแม่ ซือเอ๋อร์นางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ยามนี้ทางการกำลังออกตามหาอยู่"
"ฮือออ เจ้าใหญ่ เจ้าต้องพานางกลับมาให้ได้นะ!!!"
แม่ทัพใหญ่หนิงถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะให้หนิงฮูหยินและหนิงเซียนออกไปด้านนอกห้องเสียก่อน เมื่ออยู่กันตามลำพังเพียงสองคน แม่ทัพใหญ่หนิง จึงเอ่ยกับมารดาของตนทันที
"ท่านแม่ ในเมื่อเรื่องราวมันเป็นเช่นนี้ก็ดีแล้วมิใช่หรือ ท่านทำใจเสียเถิด เดิมทีนางก็ควรหายไปตั้งแต่ยามเด็กแล้ว ถือว่านี่เป็นคราวเคราะห์ของนาง ให้นางรับเคราะห์แทนพวกเรา เพื่อให้จวนตระกูลหนิงอยู่รอด"
"แต่ว่า..."
"ท่านแม่ ท่านฟังข้า หากท่านอยากอยู่อย่างสุขกายสบายใจ อยากเห็นตระกูลหนิงรุ่งโรจน์ ท่านจงทำใจเสีย ท่านเข้าใจใช่หรือไม่? ท่านก็รู้เรื่องราวนี้มาตั้งแต่ต้น"
ไท่ฮูหยินหลับตาลง ก่อนจะร้องไห้ออกมา นางสงสารหนิงซือซือเหลือเกิน หลานสาวของนางไม่น่าจะต้องมาพบเจอเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้เลย
แม่ทัพใหญ่หนิงใช้เวลาปลอบมารดาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง เดิมทีเรื่องที่บอกไท่ฮูหยินว่าคนของทางการกำลังออกตามหาหนิงซือซือนั้นเป็นเรื่องโกหก เขาไม่ได้ส่งผู้ใดออกตามหานาง เขาเพียงจัดการด้วยวิธีของตนเอง แม้ยามนี้เรื่องราวจะบานปลายจนล่วงรู้ถึงคนในวังหลวงแล้ว แต่เขาย่อมมีวิธีรับมือ
หนิงเซียนที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินเข้ามาหาบิดาของตนทันที
"ท่านพ่อ ท่านย่าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?"
"หลับไปแล้ว เซียนเอ๋อร์ พ่อมีเรื่องอยากจะเตือนเจ้า"
"เรื่องอันใดหรือเจ้าคะ?"
"ยามที่เจ้าเข้าวังไปพบหนิงฮองเฮาเสด็จอาของเจ้า จงอย่าเอ่ยเรื่องของหนิงซือซือให้นางฟังมากนัก เงียบได้จงเงียบเสีย พ่อไม่อยากให้เรื่องราววุ่นวายไปมากกว่านี้"
หนิงเซียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยความสงสัย
"ท่านพ่อ ลูกเพียงเล่าเรื่องที่หนิงซือซือทำตัวไม่เหมาะสมให้เสด็จอาฟังเพียงเท่านั้นเองนะเจ้าคะ"
"ต่อไปนี้จงอย่าเอ่ยถึงนางอีก อีกสองวันพ่อจะปล่อยข่าวว่าพบศพของนางแล้ว"
"ท่านพ่อ!!! นี่ท่านพ่อจะไม่ตามหานางจริง ๆ หรือเจ้าคะ"
หนิงเซียนจ้องมองบิดาของตนด้วยความตกใจไม่น้อย แต่ในความตกใจนั้นก็มีความดีใจแอบแฝงอยู่
"นางถูกโจรป่าชิงตัวไป ขืนรับกลับจวนมาคงขายหน้าตระกูลหนิงเป็นแน่ เจ้าอยากขึ้นชื่อว่ามีน้องสาวที่เคยถูกโจรป่าย่ำยีเช่นนั้นหรือ? มิสู้บอกว่านางตายไปแล้วเสียยังจะดีกว่า ส่วนศพของนางก็บอกว่าถูกเสือป่ากัดกินไปเสีย เรื่องนี้พ่อจะจัดการเอง ต้องรีบจัดการก่อนพี่ชายใหญ่ของเจ้าจะกลับมาจากสำนักศึกษาบนเขา"
"เจ้าค่ะ"
หนิงเซียนรับคำ ก่อนจะมองดูบิดาที่เดินจากไป นางเดินกลับมาที่ห้องของตนเอง ก่อนจะมองดูชุดแต่งงานที่ทางวังหลวงเพิ่งส่งมาให้เมื่อไม่กี่วันก่อน
ชุดแต่งงานที่นางใฝ่ฝัน ตำแหน่งไท่จื่อเฟยที่นางถวิลหา ในที่สุดทุกอย่างก็ตกเป็นของนางสมดั่งใจหมาย ในที่สุดนางก็เอาชนะสตรีผู้นั้นได้
มู่หรงหลิน!!!
วังหลวง
"เจ้าว่าอย่างไรนะ รถม้าของจวนตระกูลหนิงถูกดักปล้นระหว่างทางเพราะพบกับโจรป่าเข้า ส่วนคุณหนูรองถูกลักพาตัวไปเช่นนั้นหรือ?"
"พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท"
หยางเซียวหลิ่นที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น เขาพอจะได้ยินมาบ้างว่าวันนี้สตรีจากจวนตระกูลหนิงจะเดินทางไปไหว้พระขอพรที่วัดเหลียนซาน ซึ่งเป็นวัดบนเขาที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เขาเองก็เคยไปที่นั่นคราหนึ่ง
เขาไม่เคยพบเห็นหน้าตาของคุณหนูรองผู้นี้มาก่อน แต่มู่หรงหลินเคยเห็นและเคยเล่าให้เขาฟัง เพราะนางมักจะติดตามท่านพ่อของนางไปเที่ยวเล่นที่จวนตระกูลหนิงอยู่บ่อยครั้ง นางบอกว่าคุณหนูรองผู้นี้ค่อนข้างขี้โรค แต่เป็นสตรีที่น่าคบหาไม่น้อย
"องค์รัชทายาท ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้พระองค์เข้าเฝ้าโดยด่วนพ่ะย่ะค่ะ"
หยางเซียวหลิ่นที่ได้ยินเช่นนั้นจึงหันไปมองขันทีที่เข้ามารายงานคราหนึ่ง ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปที่ตำหนักมังกรสวรรค์ทันที
"ถวายพระพรเสด็จพ่อ ถวายพระพรเสด็จแม่"
เมื่อมาถึงเขาก็พบกับเสด็จพ่อที่กำลังนั่งสนทนากับหนิงฮองเฮาด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก หนิงฮองเฮาที่เห็นเขาก็รีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
"เซียวเอ๋อร์ เจ้ามาหาแม่เร็วเข้า ยามนี้ญาติผู้น้องของเจ้าประสบเคราะห์กรรม เกือบจะถูกโจรป่าชิงตัวไปแล้ว โชคดีที่นางมีบุญบารมี จึงรอดปลอดภัยมาได้"
หยางเซียวหลิ่นที่ได้เห็นท่าทางเสแสร้งของหนิงฮองเฮาก็อยากจะอาเจียนออกมาเต็มทน แต่เขาจำต้องฝืนทนเอาไว้ ทุกวันนี้ที่เขาทำตัวเย็นชากับนาง ก็มากเกินพอแล้ว หากเขาอยากจะทำการใหญ่อันใดให้สำเร็จ ย่อมต้องอดทนไปก่อน
"ได้ยินว่าคุณหนูใหญ่ปลอดภัยดี แต่คนที่รับเคราะห์คือคุณหนูรอง ไม่ทราบว่าแม่ทัพใหญ่หนิงส่งคนออกตามหาแล้วหรือยังพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชื่อเสียงตระกูลหนิง เราจะช้าไม่ได้ ต้องรีบส่งทหารออกไปช่วยตามหาอีกแรง เผื่อว่าจะเจอตัวนางเร็วขึ้น"
หนิงฮองเฮาส่ายหน้าพลางยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตา
"ฮืออ ท่านลุงของเจ้าส่งคนออกตามหาแล้ว แต่กลับ ฮึก พบเพียงร่างที่ถูกฉีกทึ้งออกเป็นชิ้น ๆ ฮือ ท่านลุงของเจ้าบอกว่า นางน่าจะถูกเสือป่ากัดกิน พวกมันคงจะย่ำยีซือเอ๋อร์แล้วฆ่านางทิ้ง จนพวกเสือมาเจอเข้าจึงกัดกินร่างของนางเป็นอาหาร ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่อยากเอ่ยถึงแล้วเพคะ หม่อมฉันสงสารหลานสาวยิ่งนัก"
"แต่เวลาเพิ่งจะผ่านมาไม่กี่ชั่วยามเองนะพ่ะย่ะค่ะ เหตุใดจึงพบเจอศพเร็วยิ่งนัก แล้วนำศพกลับมาแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ? ให้ลูกไปดูได้หรือไม่ เผื่อมีสิ่งใดให้ช่วยได้บ้าง"
"แม่ไม่รู้ ฮือ แม่ไม่อยากเอ่ยถึงอีกแล้ว มันช่างเศร้าใจยิ่งนัก"
หนิงฮองเฮาคร่ำครวญปานจะขาดใจ ฮ่องเต้หยางเฉวียนที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยปรามหยางเซียวหลิ่นทันที
"เซียวเอ๋อร์เจ้าหยุดถามแม่เจ้าก่อนเถิด นางเสียใจอยู่เจ้าไม่เห็นหรือ อีกอย่างศพของคุณหนูรองก็ให้เป็นหน้าที่ของแม่ทัพใหญ่หนิงผู้เป็นบิดาของนางจัดการไปเสียเถิด เขาเป็นคนพบศพของบุตรสาวตนเป็นคนแรก ยามนี้คงจะเสียใจไม่น้อย เจ้าเป็นว่าที่บุตรเขย และว่าที่สามีของหนิงเซียน ควรจะไปปลอบโยนนางเสียหน่อย"
"ลูกมีงานด่วนต้องเร่งสะสางพ่ะย่ะค่ะ เห็นทีคงจะไปพบนางไม่ได้ ลูกขอทูลลา"
หยางเซียวหลิ่นเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ฮ่องเต้หยางเฉวียนปวดหัวกับพระโอรสของตนที่ไม่ยอมทำตามคำสั่ง ด้านหนิงฮองเฮาก็ลอบกำมือแน่น นับวันหยางเซียวหลิ่นยิ่งเหิมเกริมไม่เชื่อฟังนาง ขืนยังเป็นเช่นนี้ เห็นทีคงจะไม่ได้การเสียแล้ว
หยางเซียวหลิ่นกลับมาที่ตำหนักบูรพา ก่อนจะพบกับไป๋หยวน องครักษ์ลับของเขาที่มารออยู่นานแล้ว ไป๋หยวนทำความเคารพหยางเซียวหลิ่นก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
"ถวายบังคมองค์รัชทายาท"
"ไม่ต้องมากพิธี ไป๋หยวน เจ้าพบเบาะแสของอาเจวี๋ยแล้วใช่หรือไม่?"
หยางเซียวหลิ่นเอ่ยถามด้วยความดีใจ เขาส่งไป๋หยวนออกตามหาเบาะแสของมู่หรงเจวี๋ยมาร่วมหลายเดือนแล้ว เขาอยากพบกับมู่หรงเจวี๋ย อยากขอโทษที่ไม่อาจปกป้องสหายรักได้ เขากับมู่หรงเจวี๋ยเป็นสหายร่วมเรียนด้วยกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ สนิทสนมรักใคร่กันมาก เขาเองก็รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ไม่น้อย
ไป๋หยวนที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยตอบอย่างไม่รอช้า
"ยังพ่ะย่ะค่ะ แต่เมื่อหลายเดือนก่อน มีองครักษ์เงาที่กระหม่อมส่งให้ร่วมตามสืบด้วย คล้ายจะพบคนหน้าเหมือนท่านแม่ทัพใหญ่มู่หรงที่ทางขึ้นหุบเขาเหลียนหยาง แต่ป่าแถบนั้นเป็นป่ารกทึบ ไม่อาจสัญจรเข้าไปได้โดยง่าย กระหม่อมคาดว่าน่าจะไม่ใช่ท่านแม่ทัพใหญ่มู่หรงพ่ะย่ะค่ะ แถบนั้นมักมีโจรป่ามาดักปล้นชาวบ้าน ท่านแม่ทัพใหญ่มู่หรงไม่น่าจะไปที่นั่นพ่ะย่ะค่ะ"
"ไม่เจอแม้แต่ร่องรอยเลยหรือ"
"พ่ะย่ะค่ะ"
"เจ้าจงออกตามหาต่อไป ข้าเชื่อว่าอาเจวี๋ยจะต้องยังมีชีวิตอยู่เป็นแน่"
"พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท กระหม่อมจะทำตามรับสั่งอย่างสุดความสามารถ"