อลิเซียน่าพาตัวเองมานั่งเหม่อลอยอยู่บนม้านั่งในสวนกุหลาบหลังบ้าน ไม่ได้คิดสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวแม้กระทั่งดวงอาทิตย์ซึ่งกำลังส่องแสงอยู่เหนือศีรษะ หลังทานอาหารเช้าเสร็จเธอก็ออกมานั่งตรงนี้ วิ่งมาที่นี่เพื่อสงบสติอารมณ์
“จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้” เธอพึมพำกับตัวเอง มองไปยังดอกกุหลาบสีแดงขนาดใหญ่ที่สุดในสวน
“ใครจะรู้!” มีคนกระซิบกลับมาทำให้เธอสะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนเธอจะพบว่าลูก้ายืนอยู่ข้างหลัง เขากำลังกอดอกพลางมองเธออยู่
“คุณมาทำอะไรที่นี่คะ?” อลิเซียน่าขมวดคิ้วแล้วยืนขึ้น
ส่วนเขาก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้มากขึ้นโดยที่ยังจับจ้องใบหน้าของเธออย่างไม่ละสายตา
“ฉันเห็นคุณนั่งอยู่ที่นี่ ก็เลยแวะมาทักทายก่อนกลับ” ลูก้าสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง “ตอนนี้คุณดูเหมือนหญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์” เขายิ้มแล้วกระซิบเสียงต่ำ
“และตอนนี้คุณดูเหมือนสตอล์กเกอร์จริง ๆ” อลิเซียน่าโพล่งโดยไม่คิด ก่อนจะก้าวถอยหลังด้วยความหวาดหวั่น
“สตอล์กเกอร์!?” ลูก้าหัวเราะเบา ๆ ทางด้านอลิเซียน่ากลับรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วกว่าปกติ
“ไม่เห็นมีอะไรน่าตลกเลย” อลิเซียน่าบ่นพึมพำ ลืมความกลัวไปสิ้นเชิงโดยไม่รู้ตัว เธอแค่อยากทำให้เขาโกรธ แต่เหมือนจะตรงกันข้าม มันเหมือนกับว่าเธอเล่าเรื่องตลกให้เขาฟัง
“แล้วถ้าฉันเป็นสตอล์กเกอร์จริง ๆ ล่ะ หรือฉันอาจแย่กว่านั้น คุณจะว่ายังไง?” ลูก้าโน้มยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวคู่สนทนา ใบหน้าอมยิ้มคล้ายขบขันขณะที่อลิเซียน่าพูดไม่ออก ทำได้เพียงแค่จ้องมองเขาโดยไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่สามารถหลบสายตาของเขาได้ รวมถึงไม่แน่ใจว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร?
ลูก้าเดินผ่านเธอตรงไปที่พุ่มกุหลาบ หญิงสาวมองตามจึงเห็นว่าเขาเด็ดดอกกุหลาบเดียวกันกับที่เธอมองอยู่ก่อนหน้านี้ อลิเซียน่าอยากห้ามเขาแต่ไม่ทันเสียแล้ว เขาเด็ดกุหลาบดอกนั้นออกมาแล้ว ก่อนถือมันกลับมาหาเธอพลางยื่นให้ เธอลังเลไม่อยากรับ แต่เขาก็ยื่นดอกกุหลาบมาตรงหน้านิ่งโดยไม่คิดขยับ หญิงสาวจึงต้องยื่นมือออกไปรับอย่างช่วยไม่ได้
“เจอกันอีกครั้งเร็ว ๆ นี้คัพเค้ก!” เขาทิ้งท้ายและเดินจากไป
อลิเซียน่ายืนอยู่ตรงนั้นด้วยอาการตะลึงงัน มองตามแผ่นหลังของเขากระทั่งลับสายตา ถึงได้เลื่อนสายตากลับมามองดอกกุหลาบในมือ
อลิเซียน่าขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจนัก เขามาทำลายความสงบสุขของเธอ แถมมาทำลายดอกกุหลาบที่เธอชอบอีกด้วย เขากำลังคิดจะทำอะไร?
เขาเป็นผู้ชายลึกลับ ชอบพูดเป็นปริศนาจริง ๆ
เธอถอนหายใจ ก่อนจะดึงสติกลับมาสู่ปัญหาที่กำลังเผชิญ เมื่อครู่ตอนที่เขาคุยกับเธอ อลิเซียน่าเกือบจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนี้เขาจากไปแล้ว จิตใจของเธอถึงกลับมาเต็มไปด้วยความกังวลอีกครั้ง
เธอตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้านเพื่อตามหาแดนนี่ เรื่องบางเรื่องจำเป็นต้องคุยกับคู่กรณี ปัญหาถึงจะเคลียร์ได้ เธอเดินวนเวียนหาเขาจนทั่วแต่ไม่เจอ สักพักเธอจึงเดินไปด้านข้างของตัวบ้าน ตรงไปทางประตูสีน้ำตาลก่อนเปิดมันเข้าไปโดยไม่เคาะ
“ฉันจะโทรหาคุณอีกครั้งในภายหลัง!” แดนนี่เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะหลังจากวางสาย “คุณลืมวิธีการเคาะประตูก่อนที่จะเข้าห้องคนอื่นแล้วเหรอเซียน่า?” แดนนี่ยืนขึ้นจากเก้าอี้ พลางเดินอ้อมโต๊ะมายืนอยู่ข้างหน้าเธอ ขณะที่เธอจ้องมองเขาด้วยความโกรธ นอกจากประเด็นที่ต้องการพูดคุย มันยังผสมด้วยความโมโหที่เกิดจากการที่เธอต้องเดินตามหาเขานานสองนาน
“คุณรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วใช่ไหม!” อลิเซียน่าถามเขาอย่างไม่พอใจ มือของเธอกำแน่น ดวงตาราวกับจะเปลี่ยนเป็นสีแดง แดนนี่จึงถอนหายใจก่อนพิงหลังกับโต๊ะพลางกอดอกมองเธอ
“แน่นอนฉันรู้” เขาพยักหน้า
เธอยังคงจ้องมองเขาเป็นเวลานานด้วยอยากถามเขามากกว่านี้และอยากด่าเขา แต่เธอทำไม่ได้
“ทำไมคุณไม่สนใจอะไรเลยแดนนี่ คุณยอมรับเรื่องนี้ได้ยังไง!?”
เธอโกรธที่ถูกกดดันและบงการจนขาดอิสรภาพ ส่งผลให้จากนั้นไม่นานน้ำตาของเธอก็รินไหลออกมา
“ถ้าฉันสนใจ อะไรจะเกิดขึ้น มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงงั้นเหรอเซียน่า ใช่ว่าคุณจะไม่รู้?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยคล้ายไม่เดือดร้อน นั่นทำให้เธอโกรธมากยิ่งขึ้น
“คุณอยากแต่งงานจริง ๆ เหรอแดนนี่ คุณจะทำเรื่องที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ได้จริง ๆ เหรอ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ดวงตาของแดนนี่สั่นเทาครู่หนึ่งพร้อมกับหัวใจของเขาที่เริ่มเต้นเร็วขึ้น แต่เขากำมือไว้แน่นเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่ง อดกลั้นไม่ให้แสดงอะไรออกไป
“มันไม่สำคัญว่าฉันต้องการอะไร! ฉันจะทำในสิ่งที่เจ้านายสั่งให้ฉันทำ” แดนนี่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ
อลิเซียน่าจับแขนเขาไว้ ทำให้แดนนี่ตัวแข็งทื่อ
“แต่มันสำคัญสำหรับฉันมากแดนนี่ ฉันขอโทษแดนนี่ แต่ฉันรักและเป็นห่วงคุณในฐานะเพื่อนและพี่ชาย ฉันไม่ได้รักคุณแบบคนรัก และฉันไม่ต้องการแต่งงานกับคุณ ฉันไม่สามารถยอมรับคุณในฐานะสามีของฉันได้” อลิเซียน่าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกมา เธอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวว่าคำพูดของตนเองส่งผลกระทบต่อแดนนี่มากมายแค่ไหน
เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำให้หัวใจของเขาแตกสลายอย่างรุนแรง
เธอไม่รู้เพราะเธอไม่รู้ว่าเขารักเธอ…
เธอไม่รู้ว่าเธอเป็นคนเดียวที่เขารักมาตลอดชีวิต…
“แล้วคุณจะทำยังไง” แดนนี่ถามขึ้นมาอย่างเศร้าใจ “คุณจะวิ่งหนีไปอีกงั้นเหรอ!?” เขาถาม และคำถามนั้นทำให้เธอหันกลับไปมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง
“ข้อหนึ่ง… คุณรู้ดีเซียน่า… ว่าทำไม” แดนนี่ยืดหลังตรง “ข้อสอง… คุณไม่สามารถหนีจากที่นี่ได้...” แดนนี่ก้าวเท้าเข้าหาเธอ
“ข้อสาม… ถ้าคุณหนีไป แด๊ดของคุณจะพาคุณกลับมาและลงโทษคุณอย่างหนักที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งเขา” เขาจับมือเธอไว้
“เขาจะส่งฉันออกไปตามล่าคุณ และพาคุณกลับมา” แดนนี่จับแขนของเธอไว้ อลิเซียน่าจึงรู้สึกเหมือนถูกคุกคาม เธอถึงได้พยายามผลักมือเขาออกแต่มันก็ไม่เป็นผลเพราะเขาแข็งแรงมาก
“จากนั้นเขาจะขอให้ฉันทรมานคุณ จนกว่าคุณจะยอมแพ้...” แดนนี่คำราม จับข้อมือของเธอแน่นขึ้น เขาทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด แต่เพียงไม่นานเขาก็หยุด สายตาของเขาจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ
“คุณจำได้ไหม” แดนนี่ลากนิ้วไปตามรอยแผลเป็นจากกริชบนผิวหนังของเธอ ขณะที่อลิเซียน่าน้ำตาคลอ
“ฉันจะต้องทำร้ายคุณอีกครั้ง... ฉันจะต้องทำร้ายคุณเพื่อให้คุณมีชีวิตอยู่!” เขาจับแขนเธอแน่นขึ้น
“คุณยังจะคิดว่าฉันเป็นคนเดียวที่เห็นแก่ตัวอีกไหม?” แดนนี่ปล่อยข้อมือเธอ สีหน้าและท่าทางเต็มไปด้วยความฉุนเฉียว ในที่สุดเขาก็แสดงความโกรธที่เขาเก็บซ่อนไว้ข้างในออกมา
“ทุกครั้งที่คุณไม่ยอมฆ่าใครบางคน ฉันต้องทำหน้าที่นั้นแทนคุณ ทุกครั้งที่คุณวิ่งหนีห่างออกไป ฉันต้องพาตัวคุณกลับมา และเพื่อให้คุณมีชีวิตรอด ทุกครั้งฉันถึงต้องทรมานคุณ” เสียงของแดนนี่สั่นไหวด้วยความเสียใจ
“ฉันไม่ใช่คนเดียวที่เห็นแก่ตัว ในโลกของเรา ทุกคนเห็นแก่ตัวกันหมด แม้แต่การกระทำที่ดีที่สุดก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เห็นแก่ตัว” เสียงของแดนนี่เบาลงในประโยคสุดท้าย
“คุณ… อลิเซียน่า” เขาหยุดพูดหลังจากเอ่ยเรียกชื่อของเธอ ขณะที่บนใบหน้าของอลิเซียน่าเต็มไปด้วยน้ำตา “คุณก็เห็นแก่ตัวมากพอ ๆ กับฉัน!”
ได้ยินดังนั้นเธอก็รีบเดินออกมาแล้วหันหลังวิ่งทันที
ที่เธอวิ่งหนีไม่ใช่เพราะเขาทำร้ายเธอ…
แต่เป็นเพราะเธอรู้ว่าเขาพูดถูก…
เป็นเพราะเธอรู้ว่าเธอเห็นแก่ตัวจริง ๆ …
แดนนี่ทำเพียงเฝ้ามองดูแผ่นหลังของเธอ เห็นหญิงสาววิ่งหนีอย่างร้อนรนแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลาย จากนั้นจึงยกมือขึ้นขยี้ผมไปมา ‘เชี่ย!… เขาทำอะไรได้บ้าง?’ เขาพลอยรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันควัน เขาควรบอกเธอว่าจะไม่มีงานแต่งงาน แม้เธอจะอยู่ในใจของเขามาตลอด แต่เขาไม่เคยคิดอยากครอบครองเธอ… เพราะเธอไม่ใช่ของเขา