ตอนที่ 3

1010 คำ
“ฉันขอ...โทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจ...” “ไม่ได้ตั้งใจก็ลุกขึ้นสิ หลีกไปให้พ้นๆ ซะ!” พ่อคนที่นั่งนิ่งอยู่บนรถยังตะคอกใส่ไม่เลิก แต่หล่อนไม่มีสิทธิ์ไปโกรธเขานี่ ในเมื่อหล่อนเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเอง เขาไม่ชนเข้าให้ก็ดีแค่ไหนแล้ว รำไทยมีความคิดไม่ผิดจากนางเอกในละครเลยแม้แต่นิดเดียว “ฉัน... ขาแพลงลุกไม่ขึ้นค่ะ” รำไทยพยายามที่จะขยับตัวอีกครั้งแต่ผลก็เป็นแบบเดิมคือไม่สามารถเคลื่อนกายให้พ้นรัศมีล้อรถของพ่อคนอารมณ์ร้ายที่อยู่บนรถได้ หญิงสาวได้ยินเสียงเขาสบถเบาๆ ในลำคอด้วยความขุ่นเคือง ก่อนที่จะเปิดประตูรถและลงมาเผชิญหน้ากับหล่อน ให้ตายเถอะ เหมือนกับโลกหยุดหมุนทันทีเมื่อหล่อนกับเขาได้ประสานสายตากัน กระแสไฟฟ้าแล่นปรู๊ดปร๊าดไปทั่วทั้งร่างเพียงแค่ได้เห็นใบหน้าของผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ภามิน อิสรเกษม ผู้ชายที่ฝังอยู่ในความทรงจำของหล่อนตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตากัน ริมฝีปากแห้งผากลำคอสาวเป็นผุยผงแขนขาอ่อนเปลี้ยจนแทบจะเป็นลม พยายามบังคับสายตาให้ก้มลงมองพื้นไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว เขาสง่างามจนคนมองอย่างหล่อนหัวใจแทบหยุดเต้นเพราะความสมบูรณ์แบบไร้ที่ตินั้น เขาดูอันตรายสุดขีด แต่ก็น่าค้นหาอย่างที่สุดเช่นกัน ไม่คิดว่าผู้ชายที่แทบจะปลิดชีวิตของหล่อนวันนี้จะเป็นเขาไปได้... “เอ่อ...” “นึกว่าใคร ที่แท้ก็เด็กรับใช้ในบ้านน้ามุกนี่เอง...” เขาพูดด้วยน้ำเสียงดูแคลน ความเหย่อหยิ่งและถือตัวของเขาทอรัศมีออกมารอบๆ กายสูงสง่าที่น่าจะเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรอย่างแรงกล้า รำไทยหน้าชาดิก ก้มหน้ามองพื้นนิ่งหัวใจเต้นโครมครามด้วยความรู้สึกมากมายสับสนปนเปกันมหาศาล แต่เจ้าความรู้สึกที่มีมากที่สุดก็คงจะหนีความอับอายและขายหน้าไม่พ้น ผู้ชายคนนี้หล่อมาก หล่อราวกับไม่ใช่มนุษย์ก็จริง แต่เขาก็ใจร้ายไม่ผิดจากจอมมารสักนิด ภามินย่อตัวสูงๆ ของตัวเองนั่งลงบนส้นเท้า จ้องใบหน้างามที่ติดตราตรึงใจของรำไทยด้วยสายตาไร้ความรู้สึกใดๆ แม้พึงจะพยายามแสดงออกไปเช่นนั้น แต่ภายในอก ภายในร่างกายกลับขานรับต่อเสน่ห์นางอย่างรุนแรงจนเขาอดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ ความงามความเย้ายวนและแน่นอนว่าเจ้าหล่อนจะต้องหอมหวานไปทั้งเนื้อทั้งตัวทำให้เขาดื่มด่ำกับทุกรายละเอียดบนดวงหน้านวลนั้นไม่วางตา แก้มนวลเจือเลือดฝาดจนเป็นสีก่ำ ขณะที่ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก เขาลอบยิ้มออกมาเมื่อได้มองกลีบปากอิ่มเต็มสีแดงสดของเจ้าหล่อนชัดๆ เต็มตาแบบนี้ มันน่าจูบ... น่าขยี้ด้วยปากร้อนๆ ของเขายิ่งนัก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารำไทยจะยิ่งมองก็ยิ่งสวยแบบนี้ เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนเขาก็รู้สึกอึดอัดแทบบ้าที่ต้องเห็นเจ้าหล่อนอยู่ในรัศมีสายตา แต่ตอนนี้นะกำลังจะบ้ามากกว่าอีกเมื่อเห็นหล่อนอยู่ใกล้แค่เอื้อม อยากจะทำอะไรต่อมิอะไรกับเจ้าของร่างอรชรอ้อนแอ้นสมส่วนของเจ้าหล่อนให้หายอยากนักให้ตายสิ... ชายหนุ่มเลื่อนสายตาคมกริบของตัวเองจากกลีบปากอิ่มของรำไทยต่ำลงไปยังลำคอระหงที่ขาวเนียนหน้าดูดเม้มด้วยปากนัก และต่ำลงไปกว่านั้น แม้เจ้าหล่อนจะใส่เสื้อผ้ามิดชิดแบบปิดถึงลำคอ แต่ความอวบอัดของเต้างามที่พุ่งดันเสื้อตัวสวยออกมาก็ทำให้เขาถึงกับปากคอแห้งผาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่เพียงได้มอง ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นปรมาจารย์ในเรื่องเพศรสแบบเขาจะรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัวแบบนี้ ภามินบิดปากด้วยความคลื่นไส้สะอิดสะเอียนต่อความคิดของตัวเองที่มีต่อผู้หญิงตรงหน้า เขาสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ราวกับต้องการเรียกสติของตัวเองเช่นกัน และเมื่อสามารถควบคุมฮอร์โมนทางเพศให้เข้าที่เข้าทางได้แล้ว วาจาเผ็ดร้อนก็เริ่มต้นขึ้นอีก “มาวุ่นวายที่นี่ทำไม...” ชายหนุ่มกระชากเสียงถามออกไป แล้วก็นึกขึ้นได้ “อ๋อ... เธอจะมารับจ๊อบสอนแม่ฉันนี่น่า...” ความวาบหวามพุ่งเข้าทิ่มแทงร่างกายทันทีเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ของผู้ชายที่หล่อยิ่งกว่าเทพบุตรบนสวรรค์คว้าหมับมาที่เอวคอด จากนั้นก็ดึงร่างของหล่อนให้ลุกขึ้นยืนตามร่างสูงใหญ่ของเขา แม้กิริยาจะไม่ได้อ่อนโยนแต่รำไทยก็ยังอดเคลิบเคลิ้มไม่ได้ หัวใจของหล่อนเต้นแรงราวกับกำลังถูกใครกระหน่ำตี “ยืนดีๆ สิ...” และด้วยขาที่ยังเจ็บอยู่นั้นก็ทำให้หญิงสาวไม่มีทางยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ ร่างอรชรที่ซ่อนความอวบอัดเอาไว้มากมายจึงเสียหลักเอนพิงกายทรงพลังที่แน่นปั๋งไปด้วยกล้ามเนื้อเข้าโดยบังเอิญ และนั่นมันก็ทำให้กองไฟกองใหญ่ภายในกายหนุ่มของภามินระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อเรือนกายเสียดสีกันไปมา “อย่ายั่วให้มากนักนะ”กัดฟันเค้นเสียงคำรามใส่หน้าออกไป “ฉัน...ไม่ได้ยั่วนะคะ... แต่ยืนไม่ไหวจริงๆ” เงยหน้าขึ้นปฏิเสธแต่แล้วก็ต้องตกอยู่ในมนต์ขลังของผู้ชายสุดหล่ออีกครั้ง ทั้งคู่สบตากันเนิ่นนาน ก่อนที่ภามินจะเป็นฝ่ายรู้สึกตัวและผละออกห่าง แต่กระนั้นมือใหญ่ก็ยังคงกระชับเอวคอดและต้นแขนกลมกลึงเอาไว้กันเจ้าหล่อนล้มหน้าคว่ำลงไปกับพื้นอีกครั้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม