3
ไฟสุมทรวง
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดำเนินแบบค่อยเป็นค่อยไป ฝ่ายชายไม่รีบร้อนค่อย ๆ จีบค่อย ๆ หยอดทีละนิดละหน่อย แต่ทำบ่อยทุกวันไม่เคยหยุด กลายเป็นความสม่ำเสมอและเคยชินของฝ่ายหญิงไป จากร้านนวดสปาที่เจอกันทุกสัปดาห์ นวินเปลี่ยนมาเป็นชวนฝ่ายหญิงมาว่ายน้ำเล่น ที่คอนโดมิเนียมของเขาบ้าง
“ไปว่ายน้ำเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะครับน้องเอย สระว่ายน้ำอยู่ชั้นถัดไปนี้เองไม่ไกลเลย”
“เอ่อ จะดีเหรอคะพี่กันต์” พรธีราลังเลเล็กน้อย
“ดีสิครับอากาศร้อน ๆ แบบนี้พี่ไม่อยากไปที่อื่น ว่ายที่คอนโดตัวเองนี่แหละ แต่พี่ไม่มีเพื่อนคนอื่นเขาไปว่ายเป็นกลุ่มเป็นก้อน มีพี่คนเดียวก็เขินเหมือนกันนะครับ สายตาสาว ๆ แต่ละคนมองพี่เหมือนตัวประหลาด”
“เขาไม่ได้มองเหมือนตัวประหลาดหรอกค่ะ เขามองคนหล่อ”
“แต่คนหล่อคนนี้อยากมีเพื่อนเล่นน้ำนะครับน้องเอย” เขาอ้อนแบบที่เคยทำมาตลอดสองเดือน น้ำเสียงนุ่ม ๆ ทำให้พรธีราใจอ่อนทุกที
“ก็ได้ค่ะงั้นเรางดไปสปากันนะคะพรุ่งนี้”
“ครับน้องเอยพรุ่งนี้เจอกัน พี่จะรอน้องเอยนะครับ”
“ได้ค่ะพี่กันต์” หญิงสาวเลื่อนหน้าจอวางสายจากชายหนุ่มแล้ว แอบรู้สึกว่าตัวเองใจกล้าเกินไปหรือเปล่า ที่รับปากจะไปว่ายน้ำที่คอนโดมิเนียมของเขาสองต่อสองแบบนั้น
‘สระว่ายน้ำรวมนี่ยัยเอยไม่มีอะไรหรอก’
พรธีราคิดในแง่บวกไว้ก่อน ครั้นเดินลงมาจากบ้านก็พบกานต์สินีนั่งรออยู่ในห้องรับแขกเพียงลำพัง ไม่เห็นพี่ชายของเธอนั่งอยู่ด้วย จึงรีบเดินเข้าไปทักทายแขกคนสำคัญของพี่ชาย
“สวัสดีค่ะพี่ฝ้าย วันนี้แต่งตัวสวยจังเลยค่ะ” หญิงสาวทักทายคนที่นั่งรอในชุดเดรสสีชมพูเปิดไหล่ทั้งสองข้าง ผมถูกรีดจนเรียบดูเงางาม มีนัดกับพี่ชายของเธอทีไร กานต์สินีแต่งตัวสวยแบบนี้ทุกที ขนาดผู้หญิงด้วยกันยังต้องอดชื่นชมไม่ได้
“สวัสดีค่ะน้องเอย ขอบใจที่ชมพี่นะคะว่าแต่วันนี้หยุดอยู่บ้านเหรอคะ พี่นึกว่าไปทำงานเสียอีก”
“วันนี้ที่บริษัทมีทำความสะอาดครั้งใหญ่ค่ะพี่ฝ้าย เลยหยุดกันทั้งหมด พี่ฝ้ายมีนัดกับพี่เอื้อเหรอคะ”
“ใช่จ้ะนัดไปดูหนังกันวันนี้ ไม่เห็นเอื้อบอกเลยว่าหยุดทั้งบริษัทพี่ก็นึกว่าหยุดแค่เอื้อเสียอีก”
“พี่เอื้อคงลืมบอกน่ะค่ะพี่ฝ้าย แล้วนี่มีคนไปตามพี่เอื้อให้หรือยังคะ”
“ยังเลยพี่เพิ่งมาเมื่อกี้นี้เอง นวลเข้าไปเอาน้ำในครัวบอกว่าเดี๋ยวออกมาค่อยไปตามให้”
“เอยว่างพอดี งั้นรอแป๊บนะคะเดี๋ยวเอยไปเรียกพี่เอื้อให้ ฝากบอกนวลว่าไม่ต้องไปตามแล้ว ให้ไปทำงานต่อได้เลยนะคะ”
“ได้จ้ะเดี๋ยวพี่บอกนวลให้ ขอบใจมากจ้ะน้องเอย”
ครู่หนึ่งสองพี่น้องก็เดินลงบันไดบ้านมาพร้อมกัน พัสวีตรงเข้าไปนั่งด้านข้างกับคนรัก ส่วนคนเป็นน้องสาวก็ปลีกตัวไปเดินเล่นสวนหย่อมข้างบ้าน ปล่อยให้ทั้งคู่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน สักพักหนึ่งพวกเขาก็ขึ้นรถขับออกจากบ้านไป
“หมู่นี้น้องเอยดูสดใสจังเลยนะคะเอื้อ เหมือนคนกำลังมีความรักอยู่เลย” กานต์สินีพูดกับคนรักด้วยความสงสัย หลังรับบริการนวดก่อนหนังฉายสิบห้านาทีเสร็จสิ้นลง
“ที่บ้านก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับฝ้าย แต่รอให้เจ้าตัวบอกเองดีกว่า น้องเอยโตแล้วเราเลยอยากปล่อยให้คิดตัดสินใจเอง”
“ฝ้ายชักอยากเห็นแล้วสิคะว่าหน้าตาแฟนของน้องเอยเป็นยังไง ต้องหล่อแน่ ๆ เลยค่ะฝ้ายว่า”
“หล่อไหมไม่รู้แต่ต้องเป็นคนดีเท่านั้น ถึงจะผ่านด่านพี่ชายคนนี้ไปได้”
“เอื้อก็อย่าโหดนักเลยค่ะ ว่าแต่คนดูไปไหนหมดคะเนี่ย” กานต์สินีหันไปมองรอบ ๆ ไม่เห็นคนดูแม้แต่ที่นั่งเดียว ตอนแรกนึกว่าหนังยังไม่ฉายคงยังไม่เข้ามากัน แต่นี่กำลังจะได้เวลาฉายหนังแล้ว กลับมีเพียงเธอกับพัสวีแค่สองคนเท่านั้นเอง
“ไม่รู้สิครับ แต่ดูแค่นี้เอื้อว่าก็ดีเหมือนกันนะฝ้าย เอื้อว่าเป็นส่วนตัวดีออก” พัสวีบอกแล้วเอนหลังกับพนักโซฟา ที่มีหมอนใบใหญ่หนุนหลังอีกที ที่นั่งพิเศษนี้สามารถนอนดูหนังได้ พร้อมบริการผ้าห่มกับอาหารการกินให้เสร็จสรรพ
“ส่วนตัวเกินไปหรือเปล่าคะแบบนี้ แต่ก็ดีเหมือนกันค่ะเป็นส่วนตัวอย่างที่เอื้อว่าจริง ๆ” กานต์สินีนอนเอนศีรษะพิงไหล่คนรัก สายตาจับจ้องบนจอภาพยนตร์ตรงหน้า
หนังฉายผ่านไปราวสิบห้านาที ภาพบนจอก็เริ่มมีบางอย่างแปลกไปจากเดิม กลายเป็นภาพถ่ายแสนสวยของหญิงสาวคนหนึ่ง ทุกภาพที่เคลื่อนอยู่บนหน้าจอ ล้วนแต่เป็นภาพแอบถ่ายทั้งนั้น ภาพเลื่อนไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับเสียงเปียโนเพราะ ๆ และจบท้ายด้วยข้อความที่ว่า
‘ฝ้ายครับแต่งงานกับผมนะ’
กานต์สินีดันตัวออกจากไหล่ของคนรัก เห็นเขายิ้มให้อย่างอ่อนโยนหญิงสาวก็หัวเราะออกมาเบา ๆ มีพนักงานเดินถือช่อกุหลาบช่อโตมาให้เขา
“ฝ้ายครับแต่งงานกับผมนะ” ดอกไม้ช่อโตถูกยื่นไปให้คนรัก พร้อมกับคำพูดเดียวกับบนจอไม่มีผิด
“เราหมั้นกันแล้วนะคะเอื้อ” หญิงสาวบอกเขาเบา ๆ ยื่นมือออกไปรับช่อดอกไม้มาถือไว้ ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของคนมีความสุข
“ก็ใช่ไงครับแต่เรายังไม่ตกลงวันแต่งงานกันเลย ผมเลยอยากขอฝ้ายแต่งงานกันแบบเป็นทางการสักที ว่าไงครับตกลงแต่งงานกันเลยนะฝ้าย” พัสวียิ้มกว้าง ๆ รอความตอบจากฝ่ายหญิง ซึ่งเจ้าตัวก็แอบอมยิ้มนิด ๆ บนหน้า ก่อนจะคลายรอยยิ้มกว้าง ๆ ในเวลาต่อมา
“ตกลงค่ะเอื้อ” หญิงสาวโผเข้ากอดคอคนรัก เธอสวมแหวนหมั้นของเขาอยู่ก่อนหน้าแล้ว วันนี้แค่ตอบตกลงการแต่งงานกับเขาเท่านั้นก็พอ
“นี่เอื้อเหมาโรงใช่ไหมคะ” กานต์สินีเพิ่งนึกออกว่าทำไมทั้งโรงถึงไม่มีคนดูเลย
“เราดูหนังกันต่อดีกว่าครับฝ้าย” พัสวีไม่ตอบแต่รอยยิ้มของเขาบอกว่าเขาเหมาโรงนี้เอาไว้จริง ๆ
“ทำไปได้นะคะเอื้อ” หญิงสาวตีท่อนแขนเขาเบา ๆ ก่อนจะเอนศีรษะบนไหล่ของคนรักอีกครั้ง มือของกานต์สินีถูกพัสวีกุมเอาไว้แบบหลวม ๆ ก่อนที่นิ้วทั้งห้าจะสอดประสานกันจนแนบแน่น เป็นการดูหนังที่เต็มไปด้วยความสุขของทั้งคู่