บทที่2-2 ร่วมมือ

1321 คำ
ยามนี้หญิงสาวค่อนข้างเมาเล็กน้อย ทว่ายังประคองสติตนเองเอาไว้ได้ ฟ่านเฉินหย่อนกายนั่งลงข้างนาง ก่อนจะสั่งให้คนนำสุรามาเพิ่ม เย่หลีเหลือบตามองฟ่านเฉินคราหนึ่ง แม้จะไม่ชอบใจเพียงใด แต่อย่างไรคนเขาก็เป็นถึงองค์ชาย นางย่อมต้องไว้หน้าเสียหน่อย ฟ่านเฉินรินสุราใส่จอกให้เย่หลี ก่อนจะเอ่ย "ดื่มเก่งไม่น้อยเลยนี่คุณหนูเย่" เย่หลีเพียงยิ้มไม่ได้ตอบรับสิ่งใด ฟ่านเฉินเองก็ไม่ละความพยายามที่จะชวนนางสนทนา เย่หลีเริ่มรำคาญบุรุษผู้นี้แล้ว นางจึงหันไปมองเขาทันที "องค์ชายรอง พระองค์ทรงต้องการจะทำอะไรเพคะ เหตุใดจึงมาชวนหม่อมฉันดื่มเช่นนี้ แล้วยังพูดจาไม่หยุด ช่างหนวกหูเสียจริง" ฟ่านเฉินเมื่อถูกเย่หลีต่อว่าก็ไม่ได้โกรธเคือง ฝีปากนางร้ายกาจเขาเองก็มิใช่ว่าไม่รู้จึงไม่ได้ถือสาหาความอะไร บริเวณที่เขาและนางนั่งดื่มสุราค่อนข้างลับตาคนเพราะเป็นที่นั่งที่มีราคาแพงและเป็นส่วนตัวมากที่สุด จึงไม่มีใครผ่านมาทางนี้ ฟ่านเฉินโบกมือไล่พวกเสี่ยวเอ้อร์และองค์รักษ์ออกไปให้หมด แล้วกล่าวกับเย่หลีว่า "ได้ยินว่าคุณหนูเย่มีเรื่องทุกข์ใจเกี่ยวกับพี่ชายใหญ่ของข้า ข้าอยากบอกว่า ข้าช่วยเจ้าได้นะ" เย่หลีเมื่อได้ยินก็หันมามองฟ่านเฉิน นางสร่างเมาบ้างแล้ว หญิงสาวจ้องมองบุรุษตรงหน้า ไม่นานก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา ฟ่านเฉินขมวดคิ้ว แต่มิได้ปริปากพูดอะไรออกไป เย่หลีจ้องมองเขาเขม็ง ก่อนจะเอ่ย "องค์ชายรองท่านกำลังพูดเรื่องขบขันอะไรกัน ในเมืองหลวงผู้ใดไม่รู้บ้างว่าท่านน่ะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับองค์ชายใหญ่ อย่ามาคิดหลอกใช้ข้าเสียให้ยากเลย" ฟ่านหลิ่นส่งเสียงเหอะออกมา เดิมทีเขาคาดเดาเอาไว้แล้วว่าคนอย่างเย่หลี ย่อมหลอกได้ไม่ง่าย และเขาเองก็เตรียมแผนที่สองเอาไว้แล้วเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูของเย่หลี "ไม่ขอปิดบังคุณหนูเย่ เดิมทีข้าพึงใจในตัวน้องสาวของท่านที่เกิดจากอนุผู้นั้น ข้าพบนางก่อนพี่ชายของข้า แต่พี่ชายใหญ่กลับมาแย่งสตรีของข้าไป" "ท่านว่าอย่างไรนะ" เย่หลีหันขวับไปมองฟ่านเฉิน แต่เพราะคนทั้งคู่อยู่ใกล้กันมากเกินไป เมื่อนางหันไปจมูกของนางจึงชนเข้ากับจมูกของเขา ฟ่านเฉินชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะขยับถอยห่างออกมา เย่หลีเองก็ทำหน้าไม่ถูก นางกระแอมไอแล้วจึงซักถามเขา "ท่านบอกว่า ท่านชอบเย่หลิงน้องสาวของข้าอย่างนั้นหรือ" นางไม่เข้าใจเลยจริงๆว่านังน้องสาวสารเลวผู้นั้นมีอะไรดีกัน องค์ชายทั้งสองคนถึงหลงนางหัวปักหัวปำเช่นนี้! เมื่อเห็นว่าเย่หลีเริ่มจะมีโทสะ ฟ่านเฉินก็ยกยิ้มมุมปาก เขาต้องการเช่นนี้อยู่แล้ว พูดยั่วยุให้นางดูแย่ ให้ความเกลียดชังในใจของนางพุ่งปะทุมากขึ้นกว่าเดิม "ใช่แล้ว เพราะอย่างนี้พวกเรายิ่งควรร่วมมือกันไม่ใช่หรือ ข้าไม่ต้องการสิ่งใด เพียงต้องการเย่หลิงของข้าเท่านั้น ข้าได้นางมา ส่วนเจ้าก็ได้พี่ชายใหญ่ของข้าไป เจ้าว่าดีหรือไม่" เย่หลีหรี่ตามองฟ่านเฉินและแสร้งถามเขาด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยุ "ท่านไม่ต้องการตำแหน่งองค์รัชทายาทหรือ" ฟ่านเฉินเหมือนถูกเย่หลีตอกตะปูทะลุโดนจุดตาย ดวงตาของเขาวาววับเป็นอย่างยิ่ง ก็เพราะพี่ชายบัดซบได้ตำแหน่งคังอ๋องแล้วอย่างไรเล่า อีกทั้งยังมีความดีความชอบเขาจึงต้องเร่งลงมือ บัดนี้พระวรกายของเสด็จพ่อก็ไม่สู้ดีเท่าใดนัก แม้จะปิดข่าวไม่ให้ผู้คนภายนอกล่วงรู้ แต่คนในวังล้วนรู้ดีว่าเสด็จพ่อคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน และเวลานี้ล้มป่วยจึงไม่มีเวลาไปสนใจจับตาดูพฤติกรรมของเหล่าองค์ชายมากนัก เขาต้องรีบดำเนินการตามแผน สร้างความปั่นป่วนและสร้างความร้าวฉานให้ฟ่านหลิ่นและแม่ทัพใหญ่เย่ จะได้สำเร็จตามแผนเร็วยิ่งขึ้น ฟ่านเฉินปรับสีหน้าให้เป็นปกติ และเอ่ยกับเย่หลีอย่างไม่ยี่หระ "ข้าอยากได้เย่หลิงมากกว่า" เย่หลีเค้นเสียงเย็นออกมา บุรุษหน้าโง่พวกนี้เป็นบ้ากันไปหมดแล้วหรือไร บุตรสาวภรรยาเอกเช่นนางอยู่ตรงหน้ากลับไม่คว้า แต่ต้องการบุตรที่เกิดจากอนุเสียอย่างนั้น โง่งมทั้งพี่ทั้งน้อง! "แล้วข้าจะรู้ได้เช่นไรว่าท่านไม่ได้โกหก" "เย่หลี ภายนอกเล่าลือกันว่าข้าอยากได้ตำแหน่งองค์รัชทายาท แต่ทว่าแท้จริงแล้วมิใช่เลย ข้าเพียงอยากใช้ชีวิตอิสระ ที่ข้าทำทุกอย่างไปยอมเป็นศัตรูกับพี่ชายใหญ่ก็เพราะต้องแบกรับความหวังของเสด็จแม่ หากข้าได้สมปรารถนากับเย่หลิง ข้าจะไปใช้ชีวิตอิสระเสรีกับนาง ขอเพียงวันที่เจ้าได้ขึ้นเป็นฮองเฮา จะไม่ทำร้ายข้าและคนของข้า เป็นการตอบแทนที่ข้าช่วยให้เจ้าสมหวัง หวังว่าการค้านี้ของเราจะราบรื่น เจ้าคิดเช่นไร" “แล้วมารดาท่านจะไม่ผิดหวังในตัวท่านหรือ” “ถึงยามนั้นเมื่อใดข้าคงต้องยอมรับ เสด็จแม่ไม่ได้มีข้าเป็นบุตรชายคนเดียวเสียหน่อย เจ้าก็รู้ ข้าสัญญา ขอเพียงเจ้าทำให้ข้าได้สมหวังกับเย่หลิง เจ้าก็คือผู้มีพระคุณของข้า เย่หลี ความรักทำให้คนเราทำได้ทุกอย่าง แลกได้ทุกอย่าง เจ้าคงเข้าใจ” เย่หลีมีท่าทีครุ่นคิดใคร่ครวญ ความรักทำให้คนยอมทำได้ทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องจริง แต่สำหรับนางแล้วความรักไม่สำคัญ อำนาจที่รออยู่ต่างหากที่นางต้องการอย่างแท้จริง นางเชื่อว่าฟ่านเฉินย่อมมีหนทางช่วยให้นางและฟ่านหลิ่นได้สมปรารถนา แต่หากว่าเขาคิดตลบหลังเล่า นางไตร่ตรองก่อนจะมองฟ่านเฉินคราหนึ่ง ช่างเถิด รอให้นางได้สมปรารถนาเมื่อใด ถึงยามนั้นค่อยหาทางลอบสังหารเขาทิ้งเสียก็สิ้นเรื่องมันจะยากตรงที่ใดกันเล่า ส่วนเย่หลิงแน่นอนว่านางย่อมไม่ปล่อยให้น้องสาวตัวดีมาเป็นตัวมารขวางความสุขของนางอยู่แล้ว คิดๆ ดูแล้วการค้านี้นางได้กำไรเห็นๆ ยืมดาบฆ่าคนเพื่อให้ตนเองได้สมปรารถนานับว่าเป็นวิธีการที่ดี เขาเป็นคนยื่นข้อเสนอมาเองไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดนางจะไม่ตอบรับเล่า เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางก็หันมาเอ่ยกับฟ่านเฉิน "ตกลง" เมื่อเห็นว่านางตอบตกลงตามแผน เขาก็พึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ชายหนุ่มยกจอกสุราของตนขึ้นมาดื่ม พลางกล่าวว่า "อีกสิบวันพี่ชายใหญ่จะจัดงานเลี้ยงวันเกิดของเขาที่จวนคังอ๋อง งานเลี้ยงคืนนั้นเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะลงมือ ไว้ข้าจะส่งคนไปแจ้งแผนการกับเจ้าอีกครา" "ตกลง หม่อมฉันจะรอฟังข่าวดีจากพระองค์" คนทั้งสองยิ้มและสบตากัน แต่เมื่อลับหลังต่างคนต่างมีแววตาเป็นประกายเย็นเยียบและความเจ้าเล่ห์มากกลอุบายอย่างไม่ปิดบัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม