“เฮงๆ รวยๆ”
พาขวัญตบเช็คจำนวนห้าหลักกลางๆ ที่ได้รับจากรัญญาลงบนโต๊ะทำงาน ใครจะว่าเธอหน้าเงินเธอไม่สน ในเมื่อเธอไม่ได้ขอ แต่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอล้วนๆ อันนี้รวมถึงเรื่องที่โทร.ไปฟ้องเจ้านายตัวจริงอย่างรัญญาด้วย
และนี่แหละคือที่มาของคำว่าเลขาฯ เงินเดือนเฉียดแสน อันที่จริงบริษัทจ่ายเงินเดือนให้เธอสี่หมื่นห้า ที่เหลือก็ได้เป็นสินรางวัลจากรัญญา จำนวนเงินก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของคนให้ ส่วนคนรับจะมากหรือน้อยก็ไม่เกี่ยงที่จะรับไว้อยู่แล้ว
ในเมื่อความจนมันน่ากลัว จะห้าบาทสิบบาทเธอเอาหมด!
แต่ที่ได้มานั้นมากกว่าหลายเท่า หญิงสาวยกเช็คขึ้นจูบอีกครั้งรัวๆ ก่อนจะหย่อนไว้ในกระเป๋าสะพายด้วยกลัวว่ามันจะหาย อันเนื่องมาจากเกรงใจรัญญา ไหนจะต้องโทร.อายัดเช็ค ไหนจะต้องเซ็นเช็คให้ใหม่ หากไม่ทันจะหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้ทำงาน เสียงเจ้านายหนุ่มก็ดังขึ้นผ่านอินเตอร์คอม
“สมศรีเข้ามาพบผมหน่อย”
“ค่ะ”
พาขวัญสูดหายใจเข้าลึกอย่างระงับอารมณ์เมื่อเผลอขานรับออกไป ถ้าจะสับสนเบอร์นี้ เดี๋ยวตอนบ่ายเธอลาไปเขตแจ้งเปลี่ยนชื่อเลยดีไหม เป็นสมศรี ตันติวัฒน์ ให้สมใจเขา
ดะ เดี๋ยว สมใจเขาหรือว่าสมใจเธอกันแน่ ทำไมต้องเปลี่ยนเป็นนามสกุลของเขาด้วย เพ้อเจ้อใหญ่แล้วนะไอ้ข้าว
พอสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปแล้ว ก็รีบคว้าไอแพดเข้าห้องเจ้านายไป โดยไม่ลืมส่งสัญญาณเคาะบอกเป็นเชิงขออนุญาต รักษามารยาทการเป็นเลขาฯ ที่ดีเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
แล้วภาพที่เห็นควรเป็นภาพที่เจ้านายหนุ่มนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน อ่านเอกสารที่เธอนำมาให้ไม่ใช่เหรอ แต่นี่เขากลับนั่งจิบกาแฟอยู่บนโซฟาตัวเดิมอย่างสบายใจเฉิบ
ถามจริงตำแหน่งประธานบริษัทนี่ไม่เอาเหรอ ถ้าไม่เอายกให้เธอก็ได้ สัญญาว่าจะไม่ทำให้โฮมไอเดียเจ๊งเป็นอันขาด
และเพราะว่ามันอิมพอสซิเบิล ฉับพลันดวงตาหลังเลนส์กรองแสงก็หรี่แคบอย่างไม่ไว้ใจคนเป็นเจ้านาย พลางคิดว่าเตชน์จะมาไม้ไหนอีก คิดอยู่หลายตลบในหัวก็มีอยู่แค่เรื่องเดียว
ลวงเธอมาทำมิดีมิร้ายหรือเปล่า...
ตามด้วยภาพจูบ ลูบ คลำและสอดใส่ ไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียววูบวาบไปหมดทั่วท้องน้อย
“อ่านรายงานการประชุมให้ผมฟังหน่อย”
เสียงนั้นเปรียบได้กับเสียงแก้วที่แตกละเอียดดังขึ้นในหัวของคนที่คิดหมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่ต่ำกว่าสะดือ ก่อนพวงแก้มของคนหน้าแตกหมอไม่รับเย็บจะเห่อร้อนอย่างอับอายตัวเองที่เล่นคิดเองเออเองไปไกลจนสุดกู่ ทั้งที่เขาแค่เรียกมาให้อ่านรายงานประชุมเท่านั้น
แต่เดี๋ยวก่อน! เจ้านายเธออ่านออกเขียนได้ ทำไมต้องใช้เธอมาอ่านให้ฟังด้วย ปกติวันๆ ไม่อยากเฉียดใกล้ ยิ่งไม่เห็นหน้าด้วยยิ่งดี ถ้าไม่ใช่ว่าเรียกเธอมาเพื่อเอาคืน ในเรื่องที่เธอโทร.ไปฟ้องรัญญา ก็คิดเป็นเรื่องอื่นไม่ได้เลย
ความเงียบไร้เสียงตอบรับใดๆ จากเลขาฯ สาวทำให้เตชน์หันไปมอง ก่อนจะพบว่าพาขวัญยืนเชิดหน้า คอตั้ง ดวงตาหลังเลนส์ในกรอบแว่นที่ฮิตใส่กันในรุ่นคุณยายทวดถลนราวกับเคียดแค้นใครสักคนมาชาติหนึ่ง ทำเขาหลุดยิ้มขำ หากไม่นานก็รีบดึงหน้าให้ตึง
“เอ้า ยืนทื่อเป็นหุ่นยนต์ ลืมไขหลานหรือถ่านหมดล่ะคุณ”
พาขวัญเผลอค้อนใส่อย่างลืมตัว ก่อนจะก้าวฉับๆ มาหยุดตรงหน้าเจ้านายหนุ่ม แล้วปฏิกิริยาที่ว่าของเลขาฯ สาวทำเอาเตชน์อึ้ง ปกติอีกฝ่ายทำตัวไร้ความรู้สึกอย่างกับหุ่นยนต์ อะไรเข้าสิงหล่อนงั้นเหรอ ผีบ้านผีตึกหรือเปล่า
“ท่านรองฯ ก็ทราบดีนี่คะว่าฉันมีงานอื่นต้องทำเยอะแยะ ในขณะเดียวกันท่านรองฯ ออกจะว๊าง ว่าง อ่านเองเถอะค่ะ”
ลับหลังเจ้านายตัวจริงอย่างรัญญา พาขวัญที่ไม่เคยยอมตกเป็นลูกไล่ของเตชน์ง่ายๆ ประกอบกับอยากพาตัวออกห่างจากเขาเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องหมกมุ่นไปกับเรื่องไร้สาระอีก พอเหน็บเจ้านายเสร็จก็หมุนตัวออกจากห้องไปทันที ทว่าไม่ทันจะก้าวเท้าพ้นประตูห้องทำงานอันหรูหรา เสียงทรงอำนาจที่ไม่บ่อยครั้งจะได้ยินพลันดังขึ้น
“ถ้าคุณก้าวออกจากประตูนั่น ผมจะลาออกจากตำแหน่งรองประธาน แล้วมาดูกันว่าใครจะฉิบหายมากกว่ากัน”
ท่องไว้ไอ้ข้าวว่าเงิน รถ คอนโดฯ เป็นของนอกกาย... ที่หายาก ดังนั้นเจ้านายใช้อะไรก็ทำๆ ไปเถอะ อย่าดื้อ!
คว้าแฟ้มเอกสารหมับทันทีที่เดินมาหยุดตรงหน้าเขาอีกครั้ง พร้อมกับระงับอารมณ์ไม่ให้ยื่นมือออกไปข่วนหน้าหล่อๆ ให้เสียโฉม เพียงเห็นว่านัยน์ตาทรงเสน่ห์ของเตชน์ไหวระริกอย่างผู้ชนะ
เข้าใจว่าทีใครทีมัน แต่ก็อย่าให้ถึงตาเธอก็แล้วกัน!
“อะๆ ผมบอกให้คุณนั่งเหรอ” คนที่ทำท่าจะหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาตัวตรงกันข้าม ตัวเดียวกับที่รัญญานั่งก่อนหน้านี้ถึงกับสะดุ้งโหยง ก่อนจะยืนขึ้นอีกครั้ง มองเจ้านายที่ทำตัวเหมือนพระเจ้าด้วยสายตาขุ่นข้นขณะกางแฟ้มออกกว้าง
จากนั้นพาขวัญก็หลุบสายตาอ่านรายงานการประชุมด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น แต่กลับสร้างรอยยิ้มขำขึ้นบนหน้าของอีกคน
เริ่มจากชื่อบริษัท เรื่องที่จะประชุม วันเดือนปี สถานที่ รายชื่อผู้เข้ามาประชุม สลับมองหน้าเจ้านายหนุ่มเป็นครั้งคราวและทุกครั้งก็จะประสานเข้ากับดวงตาลุ่มลึกของเจ้านาย นั่นหมายความว่าเขาจับตามองเธออยู่ตลอดเวลา
“หยุดก่อนคุณข้าว”
“คะ” พาขวัญขานรับเชิงตั้งคำถาม
“ช่วยทวนรายชื่อคณะกรรมการและหุ้นส่วนที่เข้าประชุมให้ผมฟังใหม่”
พาขวัญสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างระงับโทสะ รายชื่อหุ้นส่วน ไหนจะคณะกรรมการอีกตั้งเท่าไร พ่วงด้วยตำแหน่งหน้าที่ ทำไมต้องอ่านทวน ระเบียบวาระประชุมไม่สำคัญกว่าหรือไง กระนั้นก็ยอมอ่านทวนให้เขาฟังเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เสร็จแล้วเธอจะได้พาตัวออกไปจากห้องทำงานเขาเสียที
คนบ้า! เล่นจ้องเอาๆ ไม่รู้หรือไงว่าคนเขาอึดอัด
กระทั่งถึงลำดับสุดท้ายของรายชื่อคณะกรรมการ ต่อด้วยรายชื่อของเขาที่ไม่เข้าร่วมประชุม ถึงตรงนี้เตชน์บอกให้เธอหยุดอีกครั้ง ทั้งที่กำลังจะอ้าปากอ่านวาระการประชุม
“หยุดๆ”
“คะ”
“กาแฟผมชืดหมดแล้ว ช่วยเอาแก้วใหม่ให้ผมที ขออเมริกาโน่เหมือนเดิมนะข้าว ฟังคุณอ่านชักง่วงแฮะ” พูดไม่ทันขาดคำเตชน์ก็หาวหวอด พาขวัญเห็นแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้
“กลางค่ำกลางคืนแทนที่จะนอนพักผ่อน กลับเอาเวลาไปทำอย่างอื่น”
“เมื่อคืนอยู่ใต้เตียงผมมารึไง อย่างกับตาเห็น”
คนที่คิดดังไปหน่อยเบิกตากว้าง แล้วก็รู้สึกคันยุบยิบที่ปากอยากจะแก้ต่างว่าไม่ได้อยู่ใต้เตียงย่ะ แต่อยู่บนโซฟากับเขาต่างหาก แต่เกรงว่าเรื่องจะเข้าตัวเลยรีบปฏิเสธออกไป
“แหม ฉันแค่เดาเองนะคะท่านรองฯ แต่กลับเดาถูกซะด้วย”
“หึ” เตชน์เยาะเสียงขึ้นจมูก ทำไมเขาไม่รู้ว่าถูกเลขาฯ สาวหลอกด่าเรื่องมั่วผู้หญิง ขึ้นชื่อว่าเขาแล้ว ในเรื่องที่คนอื่นร่ำลือกันนอกจากความหล่อรวยก็เรื่องผู้หญิงนี่แหละ
ในขณะที่พาขวัญค้อมศีรษะเล็กน้อยเป็นการตอบรับคำสั่ง ก่อนจะรีบพาตัวออกไปจากห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านาย
เตชน์ที่เห็นว่าทำตัวหล่อไปวันๆ แบบนี้ ใครจะรู้บ้างว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ตัวพ่อ ถ้าไม่อยากถูกเขาต้อนจนจนมุมก็ให้รีบถอยออกไปตั้งหลักโดยด่วน