ณ บริษัท
วันนี้วีน่าลาหยุดหนึ่งวัน แองจี้จึงแกล้งเมินนักรบเพราะไม่มีวีน่าที่คอยหนุนหลังอย่างเช่นเคย ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจมากเพราะหญิงสาวไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองทั้งๆที่ได้ยินเสียงสาวข้างกายเขาคุยจ้อ
“วันนี้เราจะไปทานอะไรกันดีคะพี่นักรบ” หญิงสาวถามออกไปน้ำเสียงออดอ้อน
“พี่ตามใจตาต้าทุกอย่างเลยครับ” ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ก็ต้องแปลกใจเพราะแองจี้ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับอย่างเช่นเคย
“จริงนะคะ ตาต้าอยากทานอาหารญี่ปุ่นค่ะ แล้วก็อยากช้อปปิ้งกระเป๋าด้วย” หญิงสาวบอกออกไปน้ำเสียงออดอ้อน แถมยังพยายามเบียดหน้าอกของตนเข้าหาอกแกร่งของคนตัวโต ไม่น่ามองสักนิดในสายตาของแองจี้
“งั้นเราไปห้างก็แล้วกันนะครับ”
“ได้เลยค่ะ”
“ไปทานก๋วยเตี๋ยวกันไหมครับน้องแองจี้” ตุลาเดินเข้ามาชักชวนสาวสวยที่นั่งก้มหน้าก้มตาไปทานมื้อกลางวันด้วยกัน แม้หญิงสาวจะปฏิเสธอย่างเช่นที่ผ่านมาแต่เขาก็ถือว่าได้เอ่ยปากชวนอย่างที่ใจคิดแล้ว
“มีร้านก๋วยเตี๋ยวมาเปิดใหม่หน้าบริษัทหรอคะพี่ตุลา แองจี้ไม่รู้เลย” หญิงสาวแสร้งทำเป็นสนอกสนใจในสิ่งที่ตุลาเสนอมาให้
“ใช่ครับ ร้อนหน่อยแองจี้ทนไหวไหมครับ”
“ไหวสิคะ แองจี้ไม่ใช่คนประเภทติดหรู ไปกันเถอะค่ะถ้าจะให้ดีพี่ตุลาเลี้ยงนะคะ” ตุลายิ้มออกมาเต็มใบหน้า ดีใจมากที่หญิงสาวยอมไปทานข้าวด้วยกัน
“ได้เลยครับ ขอบคุณที่ให้เกียรติไปทานข้าวกลางวันกับพี่นะครับ พวกเราขอตัวก่อนนะครับบอส”
“ก็ไปสิ ถึงเวลาพักแล้วไม่ต้องมาขอหรอก” ท่าทางพูดคุยกันอย่างสนิทสนมของสองหนุ่มสาวต่างวัยทำให้นักรบอดรู้สึกหมั่นไส้ไม่ได้ เขาเลิกสนใจแล้วก็พาคนข้างกายไปทานอาหารแทน หญิงสาวเห็นเมนูแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นมากเพราะมีแต่เมนูที่หล่อนชอบทั้งนั้น หล่อนไม่พลาดที่จะสั่งทั้งก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นและก๋วยเตี๋ยวต้มยำมาทานเองสองชาม
“พี่ดีใจนะครับที่น้องแองจี้ยอมมาทานข้าวด้วย ว่าแต่ทานหมดแน่นะครับ น้องแองจี้ตัวนิดเดียวพี่ไม่คิดว่าจะกินจุไหว”
“ข้าวที่ไหนละคะเกี๋ยวเตี๋ยวต่างหาก แองจี้ทานหมดไม่เป็นภาระให้พี่ตุลาช่วยแน่นอนค่ะ รับประกันได้เลย” หญิงสาวตอบกลับน้ำเสียงสดใส กำลังจะได้ทานของอร่อยมันก็รู้สึกแฮปปี้เป็นธรรมดา
“ฮ่าๆ น้องแองจี้เป็นคนตลกนะครับเนี่ย” ตุลาหัวเราะชอบใจออกมาเบาๆ เขาโดนสาวน้อยตรงหน้าตกอีกแล้วสินะ
“เครียดมากก็แก่เร็วสิคะ ทานเถอะค่ะกำลังร้อนๆเลย น่าทานมากค่ะ” หญิงสาวตอบกลับอย่างติดตลกจากนั้นก็ลงมือทานอาหารทันที และก็เป็นไปตามคาดว่าเธอสามารถจัดการอาหารตรงหน้าจนหมดเกลี้ยง เพราะอิ่มจัดทำให้หญิงสาวเดินไปช้าลงสุดท้ายก็ไปถึงที่ทำงานสายไปสิบนาทีจนโดนคนตัวโตมองแรง
“ไม่รู้จักเวลา”
“...” หญิงสาวยังคงนิ่งไม่โต้ตอบอะไรออกมาสักประโยค คนที่พูดคุยจ้อหายไปไหนแล้วล่ะ
“ผู้ใหญ่พูดด้วยก็ไม่สนใจไม่มีมารยาท”
“อ้าว นี่คุณนักรบพูดกับดิฉันหรอคะเนี่ย”
“อย่ามายอกย้อน แล้วก็ไม่ต้องมาประชดด้วย”
“ทำไมต้องขึ้นเสียงกับแองจี้ด้วยล่ะครับ มีอะไรหรือเปล่าครับพี่นักรบ”
“ไม่มีอะไรหรอก พี่ก็แค่อยากจะอบรมมารยาทแฝดเราหน่อย ว่าแต่มาทำอะไรตอนนี้ล่ะ ไม่ได้ไปฝึกงานหรอ”
“มาขอพาแองจี้กลับก่อนเวลาครับ”
“ทำไมล่ะ”
“พอดีที่บ้านเกิดเรื่องนิดหน่อยครับ”
“เกิดอะไรขึ้นหรอ”
“เบสว่าไปคุยที่บ้านเถอะ อย่าเสียเวลาเลย ขอตัวก่อนครับพี่”
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เห็นว่าทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น แถมวันนี้ยังมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาร่วมวงด้วย นั่นก็คือนภเดชกับผู้เป็นลูกสาวคนเดียวอย่างน้ำเพชร เบสเล่าให้ฝาแฝดของตนฟังว่าทั้งคู่มาเพื่อทวงสัญญาที่เคยให้กันไว้ตั้งแต่สมัยรุ่นปู่แต่ผู้เป็นพ่ออย่างนาธานมองว่ามันก็เป็นแค่การพูดคุยเปรยๆของผู้ใหญ่เท่านั้นไม่ควรเก็บเอามาคิดจริงจัง
“พี่บรูคมีพี่ลดาทั้งคนจะไปหมั้นด้วยได้ยังไง ตลกไปกันใหญ่แล้วนะ”
“นั่นสิ เราสองคนต้องช่วยพี่ลดากับหลานนะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว แต่คนที่จะออกโรงก่อนคงไม่ใช่เราหรอก”
“แล้วจะเป็นใครล่ะ” แองจี้ยังไม่ทันตอบกลับนายหญิงของบ้านอย่างคาร่าก็เอ่ยออกมาน้ำเสียงราบเรียบว่า
“ทางเราต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ เราไม่สามารถทำตามคำพูดของคุณพ่อได้เพราะว่าลูกชายของเรากำลังจะแต่งงานในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าค่ะ”
“แต่งงาน! แต่งกับใครคะ พี่บรูคมีแฟนตั้งแต่เมื่อไรคะทำไมน้ำเพชรไม่เห็นรู้เรื่อง” หญิงสาวออกอาการไม่พอใจทันทีเพราะผู้ชายที่ตนหมายปองกำลังจะต้องเป็นของคนอื่น
“ก็เพราะว่าบ้านของพวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นไงคะคุณพี่น้ำเพชร” แองจี้ตอบกลับน้ำเสียงทะเล้น ทำเอาน้ำเพชรต้องกำมือแน่นเพื่อระงับความโกรธที่มีอยู่เต็มอกและแสร้งทำเป็นเสียใจ
“ต่างจากน้ำเพชรนะคะที่น้ำเพชรรอพี่บรูคมาตลอด”
“คุณจะมาทำให้ลูกสาวของผมต้องเสียน้ำตาไม่ได้นะ”
“ผมผิดเองครับ คุณนภเดชจะให้ผมทำอย่างไรคุณถึงจะพอใจล่ะครับ เรื่องของลูกผมไม่อาจตัดสินให้พวกแกได้จริงๆครับ” จบประโยคของนาธาน บรูคแอบยิ้มขำผู้เป็นพ่อ ทีกรณีนี้มาบอกว่าไม่อาจตัดสินได้แต่พอเป็นเรื่องของลดาและหลานในท้องท่านไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ตัดสินใจเลย อย่างนี้เขาเรียกว่าสองมาตรฐานหรือเปล่านะ