EP 69

1244 คำ
“ผมยังไม่หิว และยังไม่อยากให้เมียลุกหนีไปไหนทั้งนั้น นอกจากนอนอยู่ใกล้ๆ ผมแบบนี้ ผมขอห้ามไม่ให้คุณทำอะไรในตลอดสี่ห้าวันที่เรามาพักผ่อนด้วยกัน นอกจากทำหน้าที่เมียให้ผมเท่านั้น และเช้านี้หน้าที่คุณก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว” แม้ตั้งใจจะนอนจ้องหน้าเมียนิ่งๆ กอดเมียเฉยๆ ชวนคุยด้วยเรื่องทั่วไปเท่านั้น แต่ร่างกายบางส่วนมันช่างดื้อดึง ช่างเรียกร้องอย่างอื่นเพิ่มเติมเข้ามาเสียนี่กระไร จนหัวใจต้องพ่ายแพ้ แล้วขยับกายไปหาใกล้ๆ ดันกายที่ตะแคงมองเขาอยู่ให้เปลี่ยนเป็นหงาย เพื่อให้กายกำยำได้เคลื่อนย้ายขึ้นไปทาบทับอย่างแผ่วเบา พร้อมกับมอบจุมพิตแห่งทิวากาลอย่างยากจะหักห้ามใจเอาไว้ได้ แต่เขาก็ยังพอจะควบคุมให้รสรักแห่งรุ่งอรุณนั้น เป็นไปด้วยความอ่อนช้อย หอมหวาน ซาบซ่านทรวงผิดกับเมื่อคืนนี้โดยสิ้นเชิง ปราณปริยาวดีต้องหลับตาพริ้มลงเมื่อมีฝ่ามืออุ่นเลื่อนไล้ไปตามผิวกายอย่างอ้อยอิ่ง สลับกับริมฝีปากของเขา พรมจูบตามติดไปแทบจะทุกตารางนิ้วของเรือนกาย ราวกับกำลังค้นหาสมบัติอันล้ำค่ามหาศาลที่เขาแทบไม่เคยพานพบมาก่อนก็ไม่ปาน ช่วงขาเรียวคลอเคลียอยู่กับช่วงขาแข็งแรงของเขาไปมา ปลายเท้าบางเองก็กอดเกี่ยวไปกับปลายเท้าของเขา เมื่อมีความรัญจวนจิต ด้วยอารมณ์เสน่หาเข้าครอบงำเรื่อยๆ กายขาวเปลือยกระสับกระส่ายไปมา เมื่อนิ้วของเขารุกเร้าไปหาจุดเร้นลับ แล้วกู่ก้องร้องเรียกให้ไฟปรารถนากระพือปีกขึ้น เตรียมพร้อมที่จะโบกโบยบินไปคู่กับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงได้โฉบลงไปนอนพักเอาแรง เมื่อพานพับกับความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า จากการท่องเวหา ล่องลอยไปในหมู่เมฆาน้อยใหญ่ของย่ำรุ่ง ที่หลายต่อหลายชีวิตต่างตระเตรียมลุกขึ้นมาประกอบสัมมาอาชีพตามปกติ ซึ่งผิดกับคู่รักที่ดูเหมือนจะเพิ่งมีห้วงเวลาอันหวานล้ำด้วยกันไม่กี่ครั้ง ที่ต่างขยับกายเข้าหากัน กอดเกี่ยวกันและกัน ก่อนจะค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงด้วยความอ่อนล้าระคนสุขล้นเหลือ เกือบสิบโมงถึงได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และความหิวก็เรียกร้องให้ทั้งสองต้องรีบลุกขึ้น เข้าไปชำระล้างร่างกายด้วยกันอย่างสุขใจ แล้วลงไปห้องอาหารในเวลาไม่นานนัก และเป็นเวลาที่จวงกำลังลงมือปรุงอาหารอย่างสุดท้ายพอดี ปราณปริยาวดีจึงรีบไปช่วยตักข้าวกับจัดโต๊ะ แม้จะถูกสามีสั่งห้ามว่าไม่ให้ทำอะไรแล้ว แต่ก็อดใจไม่ได้เพราะเห็นจวงเร่งรีบด้วยกลัวจะถูกตำหนิ “ป้าไม่รู้ว่าคุณๆ อยากจะกินอะไร เลยยำเนื้อย่าง ต้นจืดหมูสับตำลึงที่ลุงเก็บมาให้จากข้างรั้วตั้งแต่เช้าแล้วล่ะค่ะ แล้วมีผัดไข่ใส่หน่อไม้นี่ก็มาของเราค่ะ ลุงตัดมาตั้งแต่เมื่อวานป้าก็รีบต้มไว้เลย เพราะรู้ว่าคุณหนึ่งจะมา แล้วมื้อเย็นจะแกงเปอะให้กินนะคะ ใส่ผักชะอมด้วยอร่อยที่สุดค่ะ” จวงปรุงอาหารไป แล้วก็อวดสรรพคุณไปด้วย เพราะจะกล้าพูดกับปราณปริยาวดีมากกว่าพลาธิปที่มาทีไรก็มักจะเงียบๆ ไม่คุยอะไรมากมายนัก เจ้าของมือบางที่ตักข้าวใส่จานอยู่เงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานๆ ให้ด้วยความขอบคุณ “ฟังแค่ป้าพูดก็น้ำลายไหลแล้วล่ะค่ะ ป้าจะกินด้วยกันมั้ยคะหนึ่งจะได้ตักข้าวเผื่อ” คนถูกถามทำตาโตใส่ก่อนตอบ “ไม่เอ้าค่ะคุณหนึ่ง สิบโมงยังไม่ใช่เวลากินของป้ากับลุงหรอกค่ะ เมื่อเช้าได้ข้าวเหนียวหมูปิ้งจากตลาดไปหลายไม้ คงจะบ่ายๆ โน่นล่ะค่ะถึงจะกิน คุณหนึ่งรีบยกออกไปเถอะค่ะ ท่าทางคุณหนึ่งชายจะหิวแล้วล่ะค่ะ นั่งจ้องมองประตูครัวอยู่นานแล้ว” และปราณปริยาวดีก็เห็นว่าจริงดังคำจวงบอก เพราะเขาตักไม่กี่ครั้งข้าวจานแรกก็หมด จนตักเพิ่มให้อีกและเขาก็กินจนเกลี้ยง ก่อนจะนั่งลูบพุงไปมา จนอดขำเขาไม่ได้ “ไม่ต้องเก็บหรอก เดี๋ยวป้าจวงมาจัดการเอง ผมบอกแล้วไง ว่าห้ามคุณทำอะไรนอกจากทำหน้าที่เมียให้ผมเท่านั้น และตอนนี้ผมก็อยากจะพาเมียไปอวดคนที่ออฟฟิศแล้วด้วย” เขารีบจูงมือบางเดินออกจากห้องอาหารตรงไปหาประตูบ้าน แล้วคว้าร่มคันใหญ่ขึ้นกางเพราะกลัวผิวบางๆ ของเมียจะถูกแดดเลียจนคล้ำหมอง ปราณปริยาวดีอยากจะถามไม่น้อย ว่าออฟฟิศอะไรของเขา ถึงจะอยู่แถวนี้ แต่คิดอีกทีก็ไม่อยากกวนอารมณ์เขา จะยังไงเสียอีกไม่นานก็คงจะรู้จะเห็นเอง จึงเลือกที่จะเดินตามมือของเขาไปเงียบๆ เท่านั้น จากประตูบ้านไปหาประตูรั้วก็เป็นร้อยๆ เมตร ที่แปลงติดกับบ้านของเขานั้นกว้างใหญ่เป็นร้อยๆ ไร่ มีหลักโฉนดปักแบ่งไว้เป็นล็อกๆ ส่วนใหญ่จะว่างเปล่าไม่มีอะไร บางแปลงก็เริ่มมีคนงานกำลังขุดหลุมหลายต่อหลายหลุม ปราณปริยาวดีเดาว่าน่าจะปลูกบ้าน และคงจะเป็นบ้านทรงไทยด้วย เพราะป้ายหน้าทางเข้าที่มีตัวอย่างไว้ป้ายเบ่อเร่อ เดินเข้าไปจนสุดแนวเขตที่ ถึงได้พบเรือนไทยหลังเล็กๆ พอเข้าไปแล้วกลับเป็นห้องทำงานของพนักงานสาวๆ สามสี่คน ที่ต่างพากันหันมายิ้มให้เขา และจ้องมองมายังปราณปริยาวดีเป็นตาเดียวกัน ไม่มีมีใครกล้าถามนอกจากยกมือไหว้ทั้งเขาและเธอ แล้วรีบรินน้ำเย็นๆ มาต้อนรับ พลาธิปส่งยิ้มให้สาวๆ แล้วจูงปราณปริยาวดีไปนั่งลงกับชุดรับแขก ส่วนตัวเขานั้นเดินไปนั่งโต๊ะทำงานที่ว่างอยู่ เขาเปิดคอมเช็คเมล์ไม่นาน ก็หันไปถามเรื่องงานกับสาวๆ เกือบชั่วโมงกว่าจะเสร็จเรื่อง แล้วก็มีโฟรแมนเดินเข้ามาชักชวนให้ไปดูหน้างานด้วยกัน เขาไม่ลืมจะจูงมือบางกับกางร่มให้ไปด้วย ทำเอาสาวๆ ที่เดินกางร่มตามหลังมาถึงกับพากันซุบซิบๆ แล้วส่งเสียงหัวเราะออกมาเป็นระยะๆ เท่านั้น แต่ปราณปริยาวดีไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจใดๆ เพราะสัมผัสได้จากสายตาของทุกคนที่มองมายังเขากับเธอนั้น เป็นไปด้วยความชื่นชมมากกว่าจะเป็นอย่างอื่น แถมต่างคนก็ต่างคอยสอดส่องดูแลเอาใจใส่ ด้วยการยื่นน้ำดื่มมาให้ ยื่นผ้าเย็นมาให้ ยื่นพัดมาให้ด้วยความหวังดี “เราไปช้องปปิ้งกันดีกว่านะ” เมื่อเสร็จงานแล้วเขาจึงหันมาชวน ปราณปริยาวดีได้แต่พยักหน้ารับทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปช้อปอะไร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม