“ป้าโทรถามให้ได้ค่ะ ถ้าคุณหนึ่งมีเบอร์คุณปานมาให้นะคะ”
นั่นเป็นเรื่องที่เขาหมดปัญญา ขนาดเบอร์เมียยังไม่มี นับประสาอะไรกับเบอร์แม่ยายเล่า สุดาคิดขึ้นได้เลยหันไปหาเขา เพราะมีเบอร์เก็บไว้ในเครื่องนานแล้ว
“แล้วจะให้ป้าโทรถามทางคุณหนึ่งให้หรือเปล่าคะ จะได้บอกด้วยว่าคุณหนึ่งจะไปหา”
“นอกจากเขาจะไม่บอกทางป้าสุแล้ว คงจะปิดบ้านหนีผมด้วยซ้ำละมั้งครับ ป้าสุทำเหมือนไม่รู้ว่าเขาเกลียดขี้หน้าผมแค่ไหน เฮ้อ!!! แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะครับ”
เขาถอนหายใจหนักๆ แล้วเดินไปนั่งลงชุดรับแขกด้วยอาการของคนหัวเสีย จนผู้แม่หมั่นไส้เลยเหน็บเข้าให้หนักๆ
“จะทำยังไงก็รอสิ พรุ่งนี้เย็นเมียเราก็คงจะกลับแล้วล่ะมั้ง หรือถ้าคิดว่าจะนอนคนเดียวไม่ได้ หรือจะลงแดงตายก่อน ก็แล้วทำไมไม่เรียกแม่ม้งแม่มิ้นท์อะไรนั่นมาแก้ขัดไปก่อนล่ะ พวกผู้ชายนี่เหมือนกันหมด ห่างเรื่องอย่างว่าไม่ได้สักคืน”
“คุณแม่น่ะ ทำไมต้องมาแกล้งผมตอนนี้ด้วยนะ แทนที่จะช่วยผมคิดว่าจะหาทางไปบ้านโน้นยังไง”
เพราะไม่มีทางที่เขาจะทำอย่างแม่แนะนำแน่ ลำพังวันนี้ต้องหนีการไล่ล่าจากคู่ขา โทรตามจิกเป็นร้อยรอบก็แย่พออยู่แล้ว ถ้าขืนโทรไปหามีหวังไปไหนไม่รอดแน่
“คุยอะไรกันแม่ลูก เสียงดังไปถึงหน้าบ้าน”
พาทิศโผล่เข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าเจือยิ้มน้อยๆ ไปหาเมียกับลูก สุดาเลยรีบหนีไปเตรียมมื้อเย็นตามหน้าที่ พลาธิปไม่ได้ตอบอะไรพ่อ เพราะขี้เกียจเล่าเกิดพ่อถามถึงสาเหตุ
ด้วยรู้ดีว่าพ่อคงจะช่วยอะไรไม่ได้แน่ พิไลพรรณเลยเป็นคนเปิดปากบอก
“อ้าว! แล้วทำไมไม่โทรถามคุณปานล่ะ ผมว่าผมมีเบอร์แกตั้งแต่คราวก่อนที่ไปขอหนูหนึ่งให้ลูกชายคุณอยู่นะ”
ร่างสูงที่นั่งหน้างออยู่ ถึงกับดีดตัวขึ้นทันควัน เมื่อพ่อกลายเป็นคนจะช่วยเขาให้คลายทุกข์ได้ เหมือนครั้งที่ให้ไปขอเมีย แต่แม่อิดออด ส่วนพ่อนั้นไม่ได้ว่าอะไรนอกจากทำตามใจลูกทันควัน
นั่นทำให้ค่อยคลายความขุ่นเคืองในตัวพ่อลงมาในระดับหนึ่ง แต่วันนี้มันลดลงมาอีกเยอะแยะเชียว
“หนึ่งเอ้ย! ทำงานอยู่หรือเปล่าลูก ออกมาหายายหน่อยสิ”
คุณยายวันยืนใช้ผ่ามือตบประตูไม้เก่าแก่ เพื่อเรียกหลานที่เพิ่งจะเก็บสำรับมื้อเย็นแล้วเข้าห้องไปไม่นาน และมีร่างสูงยืนอยู่ไม่ห่าง ด้วยอาการลุ้นนิดๆ ว่าเมียจะออกมาหรือเปล่า
“คุณยายมีอะไรเหรอคะ หนึ่งกำลังจะ...”
ดวงหน้าสวยในชุดผ้าถุงลายไทยกับเสื้อกล้าม ถึงกับชะงักเมื่อเปิดประตูออกมา แล้วเจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ หรือไม่คิดว่าคนอย่างเขา จะอยากพาตัวเองมาเยี่ยมเยือนที่นี่หรือที่บ้านแม่ยายเลยสักนิด
“เดี๋ยวยายจะไปเช็ดตัวให้ตาหน่อย หนึ่งก็จัดการหาข้าวปลาให้พ่อหนึ่งกินก่อนนะ เพราะยังไม่ได้กินอะไร แต่ก่อนอื่นไปเอาเสื้อผ้าตามาให้พ่อหนึ่งเปลี่ยนชั่วคราวหน่อยก็แล้วกัน จะได้อาบน้ำรอให้เมียทำกับข้าว”
หลานสาวมองตามหลังยายตาละห้อย แต่ก็ยอมเดินไปหาเสื้อผ้ามาให้คนยืนเก้ๆ กังๆ ตรงหน้าประตูอยู่ดี มิหนำซ้ำก็ยังต้องเดินเข้าห้องหาผ้าเช็ดตัว
แปลงสีฟันอันใหม่และบีบยาสีฟันใส่ไว้ให้เขา ตามหน้าที่เมียที่ดี ก่อนจะออกจากห้อง โดยไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว อีกคนก็ไม่ว่าอะไรนอกจากเดินเข้าห้องน้ำด้วยความอารมณ์ดีกว่าชั่วโมงที่แล้วเท่านั้น
กลับออกมาอีกที ก็มีเมนูไข่น้ำ ยำปลากระป๋อง กับผัดผักน้ำมันหอย พร้อมข้าวสวยร้อนๆ จัดรออยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขาไม่ได้ว่าอะไรนอกจากนั่งลงคว้าช้อนกับส้อมมาถือ ตาก็มองตามเมียเดินไปเปิดตู้เย็น
ได้น้ำมาวางไว้ให้หนึ่งเหยือก แล้วก็กลับเข้าครัวไป ไม่นานก็ออกมาพร้อมมะละกอสุกปอกเป็นริ้วๆ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำวางไว้ให้ แล้วก็เดินหายเข้าไปในห้อง
“หนึ่งเอ้ยหนึ่ง อาบน้ำอยู่หรือเปล่าลูก”
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป คุณยายวันก็ต้องมาเคาะประตูห้องหลานอีก เมื่อออกมาแล้วเห็นหลานเขยยืนเฝ้าหน้าห้องนอนเมียอยู่และไม่กล้าเรียก เพราะกลัวเสียงจะดังไปถึงอีกห้อง ยายเลยต้องออกโรงเอง
ส่วนคนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และไม่อยากเดาว่าค่ำคืนนี้ จะจัดที่ให้สามีนอนที่ไหน ระหว่างในกับนอกห้อง แม้จะเทใจไว้อย่างแรก แต่ก็กลัวตากับยายจะว่าไม่น้อย
“หนึ่งเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จค่ะคุณยาย” สุดท้ายก็ต้องยอมมาเปิดประตูอยู่ดี เมื่อยายเรียกซ้ำๆ
“ช้าจริงเรา แล้วทำไมต้องล็อกห้องด้วย ผัวเลยต้องยืนแง่วรออยู่หน้าห้องเป็นนาน”
ว่าแล้วคุณยายวันก็กลับไปห้อง ปราณปริยาวดีเองก็รีบเดินหนีเขาหมายจะไปหวีผมที่เพิ่งสระเสร็จใหม่ๆ ต่อ แต่ผู้เป็นสามีก็ก้าวยาวๆ ตาม แล้ววาดวงแขนกอดเมียจากด้านหลังทันควัน
“อุ๊ย!!! คุณหนึ่ง ปล่อยฉันสิ ฉันจะไปหวีผม”
“ไม่ปล่อย คุณตั้งใจจะหนีหน้าผมด้วยการไม่กลับบ้าน จนให้ผมต้องเดือดร้อนตามมาถึงที่นี่ คิดเหรอว่าจะหนีผมพ้นน่ะ บอกแล้วไงว่าคุณจะต้องทำหน้าที่เมียให้ผม”
“ปล่อยฉันลงสิคุณหนึ่ง ฉันจะหวีผม”
ร่างที่มีผ้าถุงกับเสื้อกล้ามดิ้นไม่หยุด เมื่อถูกเขาอุ้มเดินไปหาเตียง แต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงดังมาก เพราะกลัวจะถึงหูตากับยาย แม้ห้องจะอยู่คนละฟากของเรือน แต่บ้านสวนเวลากลางคืนนั้นเงียบเชียบไม่น้อย
“ปล่อยให้โง่เหรอ อยากหนีนักใช่มั้ย”
ร่างสูงใหญ่ที่วางร่างเพรียวไว้กับเตียงแล้วตามขึ้นไปติดๆ นั้น ส่งยิ้มให้อย่างมีเลศนัย
“อื้ห์ม...”
แล้วก็ปิดเรียวปากนุ่มไว้อย่างรวดเร็ว ปล่อยให้สองเรียวแขนเมียทุบตามไหล่ได้ตามสบาย เพราะเขารู้ดีว่ามันไม่สะเทือนกล้ามเป็นมัดๆ ของเขาหรอก และเขาก็จะริดรอนเรี่ยวแรงเมียด้วยจูบอันหวานล้ำในอีกไม่ช้า