พบกัน

1905 คำ
มือเรียวพลิกเอกสารหลายสิบหน้าพลางขยับแว่นสายตา เอกสารกองนี้เธออ่านมารอบที่สามแล้ว ซึ่งตอกย้ำว่ากิจการของครอบครัวขาดสภาพคล่องจริงๆ อีกสามเดือนโรงงานจะเปิดอย่างเป็นทางการ แต่ก็ต้องมีการเปิดทดสอบและยังเครื่องจักรต่างๆที่ยังส่งมาไม่ครบ เธอจะไปหาเงินสิบล้านจากที่ไหน พรนับพันถอดแว่นสายตาแล้วนวดเบ้าตาเบาๆ เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นทำให้หญิงสาววางมือแล้วหยิบแว่นสายตามาสวม เธอสายสั้นไม่มากใส่เฉพาะเวลาอ่านเอกสารเพื่อถนอมดวงตา “หมอปันปันยุ่งอยู่หรือคะ” พยาบาลวัยสามสิบเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ค่ะ” เพราะเห็นว่าคิวคนป่วยของเธอหมดแล้วจึงหยิบเอาเอกสารของที่บ้านออกมาอ่านด้วย การทำงานของแพทย์แผนไทยก็ไม่ต่างจากแพทย์แผนปัจจุบัน แต่คนป่วยส่วนใหญ่เห็นแพทย์แผนไทยเป็นการรักษาทางเลือก คงต้องใช้เวลาอีกนานที่คนไข้จะเห็นเป็นทางเลือกหลักในการรักษา “พอดีมีคนไข้มา พูดไทยไม่ได้สักคำ” “เอ๋? เป็นแรงงานต่างชาติหรือคะ” พรนับพันถาม ช่วงที่ฝึกงานเคยลงพื้นที่ติดตามอาจารย์รักษาคนเจ็บคนป่วยในชุมชน เคยเจอแรงงานพม่าหรือลาวมาบ้าง “เปล่าค่ะ เป็นคนจีน” “คะ?” “คือเท่าที่เราพยายามสื่อสาร คือเขาไม่อยากไปโรงพยาบาลแพทย์แผนปัจจุบันค่ะ แต่เขาพูดภาษาจีนรัวๆ เราลองใช้แอพแปลภาษาก็ฟังกันไม่ค่อยทันเท่าไหร่” “ได้ค่ะ เดี๋ยวปันออกไปดูเอง” หญิงสาวลุกขึ้นยืน “สมกับเป็นคุณหมอปันปันของเราจริงๆเลยค่ะ” “พอเถอะค่ะ ไปดูคนไข้กันก่อน” หญิงสาวชิงพูดก่อนไม่อย่างนั้นคุณพยาบาลก็จะพูดเรื่องที่เธอเคยได้เข้าโครงการดูงานแลกเปลี่ยนที่จีนถึงหกเดือน และเรื่องที่เธอพูดได้สามภาษา ก็เธอมีความฝันที่อยากเอาวิทยาการแพทย์แผนไทยสู่ชาวโลก นอกจากการรักษาแล้วยังต้องเขียนบทความวิชาการอีก หญิงสาวเดินตามพยาบาลออกมาด้านนอก สายตาปะทะกับเจ้าของร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเข้ม ราวกับรับรู้ว่ามีสายตาจ้องมองอยู่ ชายคนนั้นหันมามองทางเธอ ดวงตาสีนิลจ้องมองอย่างไม่แน่ใจ เหมือนจะเคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อน แต่...เห็นที่ไหนกันล่ะ “หมอปันปันค่ะ คนนี้แหละค่ะ” “ค่ะ” คุณหมอสาวยิ้มรับแล้วเอ่ยทักทายกับคนไข้เป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้เราช่วยไหมคะ” เขานิ่งแทนคำตอบ พรนับพันคิดว่าเขาฟังไม่ชัดจึงพูดซ้ำ ดูท่าทางเหมือนนักธุรกิจน่าจะพูดภาษาอังกฤษได้นี่นะ หรือเขาเจ็บคอจนพูดไม่ได้ “ลองถามเขาเป็นภาษาจีนไหมคะ” คุณพยาบาลกระซิบถาม “สวัสดี คุณมีอะไรให้เราช่วยไหมคะ” คราวนี้พรนับพันถามเขาด้วยภาษาจีนกลาง สีหน้าเขาประหลาดใจเล็กน้อยแล้วพยักหน้ารับ “อากาศเปลี่ยน รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว” เขาพูดกลับด้วยภาษาจีน พรนับพันหรี่ตาลงเล็กน้อย รู้สึกเหมือนกำลังโดนทดสอบอยู่ แต่ช่างเถอะ เขาเป็นคนไข้ เธอมีหน้าที่รักษา “เชิญทางนี้ค่ะ ฉันจะซักประวัติคุณเอง” ดูท่าทางเธอจะจำเขาไม่ได้จริงๆ หลิวโม่โฉวเก็บซ่อนรอยยิ้มร้ายๆ ของตนแล้วเดินตามหญิงสาวร่างเล็กมาที่ห้องตรวจคนไข้ เธอผายมือเชิญให้เขานั่ง แล้วพยักหน้ากับคุณพยาบาล “ช่วยเตรียมเครื่องวัดความดันให้ด้วยค่ะ” “ได้ค่ะ” พรนับพันลงบันทึกประวัติคนไข้ด้วยตัวเอง “คุณมีอาการอะไรบ้างคะ” “คุณพูดภาษาจีนได้ดี” “คะ?” เธอมองเขาอย่างงุนงง “นี่เป็นคำชมใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยเจอแพทย์แผนไทยที่พูดภาษาจีนได้คล่องอย่างคุณ” “มีแพทย์แผนไทยที่พูดภาษาจีนได้หลายคนค่ะ เรามีโครงการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์ ฉันเลยพอจะพูดภาษาจีนได้ ว่าแต่คุณจะบอกฉันได้หรือยังคะว่ามีอาการอะไร” “นอนไม่ค่อยหลับ” เขาพูดไปตามตรง ครู่หนึ่งพยาบาลคนเดิมเดินกลับมาพร้อมเข็นเครื่องวัดความดันเข้ามาด้วย เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “ช่วยถอดเสื้อสูทของคุณออกด้วยค่ะ ขอวัดความดันคุณหน่อยนะคะ” พรนับพันทำเป็นไม่สนใจสายตาช่างสำรวจอย่างไม่เกรงมายาทของเขานัก เป็นคนของหน่วยไหนส่งมาดูการทำงานของเธอหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่เคยถูกร้องเรียนอะไรนี่นะ ไม่สิ เขาเป็นคนจีน ไม่น่าจะเกี่ยวข้องในองค์กรของเธอ แล้วเธอก็ไม่ได้ยื่นเรื่องขอทุนอะไรไว้ด้วยสิ หลิวโม่โฉวลุกขึ้นยืนแล้วถอดเสื้อสูทตัวนอกเผยเรือนร่างสมสวนแบบคนออกกำลังกายดี แต่เรื่องการนอนไม่หลับนั้นเขาเป็นจริง แต่ก็ไม่อยากพึ่งยานอนหลับแม้จะพยายามใช้วิธีบำบัดมาหลายอย่างก็ตาม “คุณหลิวโม่โฉว...” พรนับพันอ่านชื่อเขาตามพาสปอร์ตที่ได้เจ้าหน้าที่ไว้ “ครับ” “คุณมาทำธุรกิจที่เมืองไทยหรือคะ” เธอถามขณะที่พยายามใส่สายรัดแขนเพื่อความความดันให้เขา “ครับ” “การเดินทาง การทำงาน ส่งผลต่อสมองให้เกิดการนอนไม่หลับได้นะคะ” “ครับ” “คุณดื่มเหล้าสูบบุหรี่ไหมคะ” “นิดหน่อย” ช่างเป็นคนไข้ที่พูดน้อยเสียจริง พรนับพันฉีกยิ้มให้ พูดเยอะกว่านี้ดอกพิกุลจะร่วงหรือไงนะ เธอรอจนผลความดันออกแล้วจึงคีย์ข้อมูลลงไป “ความดันสูงนะคะ ไม่มีไข้ อ่อนเพลียไหมคะ” “ครับ” “อาการนอนไม่หลับในทางการแพทย์แผนไทยของเรามองว่ามีความสัมพันธ์กับธาตุทั้งสี่ ต้นเหตุของอาการนอนไม่หลับเกิดจากมีปริมาณธาตุไฟในร่างกายจำนวนมากเกินไป ส่งผลให้ร่างกายเกิดความร้อนสะสมเป็นปริมาณมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัวตลอดเวลา ส่งผลเสียทำให้เกิดปัญหาอาการนอนไม่หลับ การแก้ไขปัญหานอนไม่หลับด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทยจะมุ่งเน้นที่การลดธาตุไฟสะสมในร่างกาย โดยวิธีที่ง่ายที่สุด คือ การใช้สมุนไพรที่มีรสขม เย็น จืด เช่น มะระ ใบบัวบก ผักใบเขียว มาช่วยในรูปแบบอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มการทำกายบริหารร่วมกับการฝึกกำหนดลมหายใจ เช่น การเล่นโยคะ ชี่กง การยืดกล้ามเนื้อ เพื่อลดความร้อนที่สะสมในร่างกายค่ะ หรือใช้ตำรับยา “ศุขไสยาศน์” จะช่วยเรื่องธาตุไฟ ทำให้ลมพัดไหลเวียนดีขึ้น อาการนอนไม่หลับก็จะดีขึ้น รักษาร่วมกับการกดจุดก็สามารถช่วยได้ค่ะ แต่คนไข้ต้องเข้าใจด้วยนะคะว่าการรักษาต้องใช้เวลา ไม่เหมือนแพทย์แผนปัจจุบันที่จ่ายยานอนหลับให้ค่ะ” “โอเค. คุณจัดยาสมุนไพรมาให้ผม ผมกินยาสมุนไพรได้” “ได้ค่ะ คุณแพ้ยาแพ้อาหารอะไรไหมคะ” “ไม่มีครับ” เขาตอบแล้วนิ่งไปเล็กน้อยก่อนพูดต่อ “คุณสามารถกดจุดให้ผมได้ไหม” “ฉันการทำหัตถการให้คุณได้ค่ะ คุณมีเวลาไหมคะ” ชายหนุ่มอยากทดสอบเธอ เขาจึงเตรียมเวลาอันมีค่ามาเพื่อเธอโดยเฉพาะ “ครับ” “ค่ะ...” ปกติหน้าที่ให้คำแนะนำต้องเป็นพี่พยาบาล แต่เมื่ออีกฝ่ายรัวภาษาจีนใส่แบบนี้เธอเลยต้องทำแทนทุกอย่าง แนะนำให้เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปนอนรอบนเตียง พรนับพันนึกถึงการฝึกฝนอันหนักหน่วงที่ใช้นิ้วทั้งสิบรวมทั้งการท่องจำที่แม่นยำในการกดจุดรักษาคนไข้ การนวด การกดจุด การประคบ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการรักษา คนชื่นชมก็มี คนเข้าใจผิดก็เยอะ บางคนยังคิดแค่ว่าเรียนแพทย์แผนไทยประยุกต์จบมาทำงานเป็นหมอนวด คงเพราะรูปร่างเขาสูงใหญ่ทำให้เสื้อผ้าที่ผลัดเปลี่ยนดูสั้นๆ แปลกตาพิกล นี่เธอคงต้องเสนออาจารย์ให้หาชุดสำหรับคนตัวสูงๆ แบบนี้แล้วกระมัง หลิวโม่โฉวนอนบนเตียง กลิ่นสมุนไพรอบอวลในห้อง ปู่ของเขาเป็นแพทย์แผนจีนเขาเองก็เติบโตมากับกลิ่นยาสมุนไพร แต่เขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้นัก พ่อและคุณอาหลิวป๋อเหวินรับความรู้ด้านนี้และพัฒนายาสมุนไพรจีน แต่เขาสนใจด้านธุรกิจมากกว่าจึงไม่ได้เรียนตำรับยาต่างๆ เน้นผลิตและจำหน่าย เขาทำการตลาดยาทั้งแผนจีนและยาตะวันตก เครื่องมือแพทย์ ตลอดจนถือหุ้นในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังอีกมาก ความจริงพ่อของเขาก็สนใจเรื่องพวกนี้อยู่ก่อนแล้ว เรื่องที่เขาทำก็เสมือนสืบสานเจตนารมณ์ของพ่อ ตระกูลหลิวกลายเป็นผู้นำธุรกิจด้านการแพทย์ของประเทศ เขาประสบความสำเร็จในการงานจนเป็นที่นับถือของคนในแวดวงเดียวกัน แต่ลึกๆ เขากลับรู้สึกเหมือนตัวเองมีบางอย่างที่ขาดหายไป นิ้วมือเล็กๆ แต่กดถูกตำแหน่งอย่างแม่นยำ จังหวะเหมาะสมและน้ำหนักมือพอดี ความรู้สึกผ่อนคลายทำให้ร่างกายที่แบกภาระมาหลายสิบปีผ่อนคลายลง เขาไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีจนเหมือนเคลิ้มอยู่ในภวังค์จนกระทั่งเสียงหวานเรียกเขา "คุณคงไม่ได้พักผ่อนเต็มที่มานาน แต่เราคงให้คุณหลับที่นี่ไม่ได้ค่ะ” “ผมหลับไปหรือ?” “แค่สิบนาทีค่ะ” หญิงสาวยิ้ม “เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรอรับยาด้านนอกนะคะ” ก็ต้องเป็นเธอที่อธิบายเรื่องยาอีกสินะ พรนับพันโคลงศีรษะไปมาเผลอนึกถึงคำชวนของรุ่นพี่ที่อยากให้เธอไปประจำสปาที่ต่างประเทศ ‘ไปทำงานที่อเมริกาได้ตังค์เยอะนะ ยิ่งปันปันเป็นแพทย์มีใบประกอบวิชาชีพแบบนี้เป็นที่ต้องการมาก ภาษาเธอก็ดี’ ‘ปันปันอยากช่วยงานที่บ้านมากกว่าค่ะ’ ‘เปลี่ยนใจก็บอกพี่ได้นะ’ ‘ขอบคุณค่ะ’ ตอนนี้ต่อให้เธอทำงานต่างประเทศหรือไปทำงานเอกชนก็คงหาเงินมาช่วยที่บ้านไม่ได้ หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจอย่างไร้ทางออก หรือเธอต้องแต่งงานจริงๆ มันไม่ใช่แค่โรงงานแต่มีความหวังของคนมากมายรออยู่ คนไข้ที่เปลี่ยนมาใส่ชุดเดิมแล้วเดินมาที่จุดรับยา พรนับพันอธิบายการกินยาให้เขาเข้าใจ พอยืนใกล้ๆ แบบนี้แล้วเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าคุ้นหน้าเขาที่ไหน “ถ้ามีอะไรผิดปกติก็กลับมาที่นี่ได้นะคะ” “เราได้พบกันอีกแน่นอนคุณหมอพรนับพัน” เจ้าของร่างสูงจ่ายเงินค่ารักษาแล้วก็เดินออกไป ทิ้งให้เธอยืนนิ่งอย่างงุนงง ทำไมเขาทำเหมือนรู้จักเธอ หรือคืนนั้นที่เธอเมาแล้วทำตัวรั่วๆ ใส่เขาไปหรือเปล่านะ ทั้งเมาและไฟยังสลัวอีก เธอจำหน้าผู้ชายที่... เอ๊ะ! จะว่าเขาคนนี้ก็คล้ายผู้ชายคนนั้นอยู่นะ ไม่หรอก คงไม่บังเอิญอะไรแบบนั้นหรอก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม