บทที่5
ผีปอบกับผู้ชายปากแดง
วันต่อมา
พะแพงมานั่งประชุมที่บ้านผู้ใหญ่แต่เธอลากณภัทรมาด้วยเขากล้ำกลืนฝืนทนนั่งรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างมายังลานประชุมที่มีชาวบ้านทั้งหมู่บ้านกำลังนั่งล้อมวงกันอยู่
"มาๆ วันนี้พวกเราจะมาประชุมเรื่องงานประจำปีที่จะจัดขึ้นในอาทิตย์หน้านี้ ทางวัดจะมีเลี้ยงขนมจีนน้ำยาใครว่างๆก็ไปช่วยงานที่วัดหน่อยนะ" ผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงดัง
"ผะ ผู้ใหญ่!! แย่แล้วผู้ใหญ่!!" เสียงชาวบ้านวิ่งหน้าตาตื่นมายังลานประชุม
"เกิดอะไรขึ้นวะไอ้ศร!"
"เมื่อตอนตีห้าฉันลงไปเก็บเบ็ดที่สระหลังบ้านไอ้เบิ้ม ฉันเห็นอีบัวกำลังกินไก่ดิบ ตอนที่มันเห็นฉันมันทำท่าจะวิ่งมาหาฉันด้วยแต่ฉันหนีไปบ้านไอ้ก้านอีบัวมันเลยไม่ตามมา"
"เฮ้ย!" ชาวบ้านลุกฮือกันจนแทบทั้งหมู่บ้าน
"รู้ได้ไงน้าศร บางทีอีบัวมันอาจจะลื่นล้มปากแตกก็ได้นะ" พะแพงแย้งแต่หนุ่มกรุงเทพอย่างณภัทรกลับมองว่าเป็นเรื่องตลกผีสางอะไรกัน
"เออใช่ๆ" เสียงชาวบ้านแตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายนึงเชื่อไอ้ศรอีกฝ่ายเชื่อพะแพง
"อีแพงกูพูดจริงๆ อีบัวมันเป็นปอบ!!"
"ไอ้ศรมันพูดถูกผู้ใหญ่จำเรื่องเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนได้ไหม ก่อนวันงานก็มีคนเห็นแม่ใหญ่ใบกินซากสัตว์ พระอาจารย์เคยบอกว่าถ้าบ้านแม่ใหญ่บัวมีทายาทผู้หญิงเมื่อไหร่ปอบมันจะกลับมาแล้วมันก็มาตรงช่วงจังหวะงานบุญใหญ่ของหมูบ้านเราด้วย"
"เออถูกของมึงไอ้ไม้อีบัวมันเป็นหลานแม่ใหญ่ใบเป็นไปได้ที่มันจะเป็นทายาทปอบ"
ชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มปักใจเชื่อผู้ใหญ่บ้านจึงสั่งให้ทุกคนเงียบแล้วช่วยกันเป็นหูเป็นตา
"ผู้ใหญ่!! ผู้ใหญ่!!!"
"เออ อะไรอีกวะ!!"
"ไอ้เผือกมันนอนตายอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน ผู้ใหญ่ไปดูมันหน่อยเร็ว!!"
เมื่อมีคนตายทุกคนก็ลุกฮือรีบขับรถมอเตอร์ไซค์คว้ามีดคว้าไม้ไปดูแต่ณภัทรไม่ไปเขาเลือกที่จะนั่งรออยู่ที่นี่จนชาวบ้านกลับมารวมตัวประชุมกันอีกครั้ง
"ไม่ปอบกินก็ผีแม่ม่าย!"
เอาล่ะวะงานนี้สนุกแน่พะแพงขับรถมาที่บ้านก็รีบไปนั่งคุยกับยายศรมีถึงเรื่องผีปอบผีแม่ม่าย ยายสีเล่าว่าเมื่อครั้งที่ยายใบยังอยู่แกชอบไหว้เจ้าไหว้ทรงจนวันหนึ่งยายใบไปทำผิดครูของจึงย้อนเข้าหาตัว หากมีทายาทเป็นผู้หญิงก็ต้องสืบทอด ปอบ ต่อไป
"แล้วมีทางแก้ไหมยาย"
"ปอบมันจะเลือกแต่ผู้ชายคราวที่แล้วมันเอาชีวิตผู้ชายในหมู่บ้านเราไปสิบกว่าคนพระอาจารย์เลยให้ผู้ชายในหมู่บ้านทาปากแดงจนยายใบตายนั่นแหละ"
"ฮ่าาา ทาปากแดงเนี่ยนะไร้สาระฉิบหาย" ณภัทรเดินหนีเข้ามาในบ้านเขารู้สึกตลกขบขันกับความคิดของชาวบ้านที่นี่เหลือเกิน ณภัทรเดินเข้ามาเปิดตู้เย็นสายตาเขาก็เหลือบมองไปยังห้องนอนของน้าเสกชายร่างท้วมหันมามองเขาช้าๆ
ฟู่!!!
น้ำในปากพุ่งออกมาแถมณภัทรยังสำลักน้ำหัวเราะจนท้องแข็ง น้าเสกก็เอากับเขาด้วยเล่นทาปากแดงอย่างกับโดนพวกตบปากมาเลย
"นี่น้าก็เอากับเขาด้วยเหรอจะบ้ากันไปใหญ่แล้วฮ่าๆๆๆ"
"ปากดีไปเถอะไอ้หน้าหล่อระวังคืนนี้อีบัวมันจะมาจกไส้หรือไม่ก็เอามึงไปทำผัว"
"มาเลยผมจะตบให้คว่ำกร๊ากกกก"
ตะวันตกดินชาวบ้านต่างปิดบ้านกันเงียบไม่มีใครปล่อยลูกหลานออกมาเลยแม้แต่หมาแมวก็ถูกล่ามโซ่เอาไว้ ณภัทรเดินเอากับข้าวไปให้บ้านยายศรีแล้วนึกขำคนแก่ที่เคยนอนดึกปิดบ้านตั้งแต่หกโมงเย็น เขาไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางนางไม้และไอ้วิธีแก้บ้าๆนั่นเขาก็ไม่มีวันเชื่อ
"ผีกลัวลิปสติกสีแดงก็ปาใส่หน้าแม่งเลยดิ ฮ่าๆๆ คนแถวนี้คิดอะไรที่มันซับซ้อนจริง"
(ประกาศๆ ชาวบ้านโหนกสวยหมู่ที่แปด ขณะนี้มีคนพบศพลูกยายเอี้ยงแถวบ่อปลาบ้านไอ้เบิ้มใครว่างมารวมตัวกันที่บ้านผู้ใหญ่เวลานี้เลย ประกาศๆ)
กลับเข้าบ้านมาทั้งน้าเสกทั้งพะแพงต่างก็ทาปากแดงกันทั้งคู่อาหารมื้อนี้พาให้เขาอิ่มหนำสำราญใจเหมือนได้ดูละครลิงปะทะชะนีน้อย ตกดึกคนที่ต้องใช้ความสงบในการทำงานก็ขอตัวขึ้นไปด้านบนปล่อยให้น้าหลานนั่งดูละครหลังข่าวกันไป เขาดูยอดค่าใช้จ่ายและโอนเงินให้กับช่างตรวจเช็กบิลที่ผู้จัดการผับแต่ละสาขาส่งมา รายได้มหาศาลขนาดนี้เขาไม่ต้องไปนั่งให้ไข่เปื่อยก็มีเงินเข้าบัญชีทุกวัน
ณภัทรเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้พะแพงขึ้นมาก็รีบอาบน้ำอาบท่าทาแป้งเย็นหอมๆ เธอนอนเล่นเกมในโทรศัพท์รุ่นเก่าจนเสียงหมาหอนดังไล่มาจากแถบบ้านยายศรีจนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านเธอ ด้วยความกลัวเธอเลยหยิบลิปสติกสีแดงแล้วย่องมาเปิดมุ้งของณภัทรเพื่อจัดการทาปากให้เขา อย่างน้อยเธอจะได้สบายใจ
"แค่นี้ปอบก็ไม่กล้ามาจกพุงแล้วล่ะ"
วันต่อมา
ณภัทรตื่นสายเพราะเมื่อคืนเขาทำงานดึกจยเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ คนตัวสูงเดินงัวเงียเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเองด้านล่างเสียงพะแพงกำลังลงมือทำอาหารกว่าเขาจะอาบน้ำเสร็จพะแพงก็คงทำอาหารเสร็จพอดี เขาเปิดน้ำฝักบัวทิ้งไว้เพื่อปรับอุณหภูมิให้คงที่แต่พอมองไปที่กระจกตรงอ่างล้างมือเท่านั้นเขาก็ตกใจตัวเองยิ่งกว่าเห็นผีเสียอีก
"อะไรวะเนี่ย!!! ใคร ใครมันทำกับกูแบบนี้!!!"
------------------------------
น้องหวังดีอีพี่อย่าวีนสิ ผู้ชายปากแดงฮะๆๆ
อ่านแล้วคอมเมนต์หน่อยนะคะเดี๋ยวมาต่ออีก