ชีคซาอิสเดินตามหญิงสาวร่างเล็กไปอย่างเงียบกริบ ชายหนุ่มได้แต่สงสัยอยู่ไม่น้อยว่าทำไมถึงไม่มีสาวใช้เดินตามเหมือนนางฮาเร็มคนงามของชีคฮาซานเลยสักคน
ชายหนุ่มเดินตามร่างบอบบางไปติดๆ ใบหน้าคมเข้มฉายแววสงสัยไม่น้อย ทำไมวันนี้นางฮาเร็มคนนี้ถึงไม่แต่งตัวได้ดูสมฐานะสักเท่าไหร่ ถือเพราะออกมาเที่ยวนอกคฤหาสน์กันแน่ เจ้าหล่อนถึงแต่งกายแบบสบายๆ แบบนี้ออกมา
แล้วดูสิซื้ออะไรตั้งเยอะแยะ สองมือเล็กมีแต่ข้าวของทั้งนั้น ตัวก็เล็ก มือก็เล็ก รูปร่างดูบอบบางขนาดนี้ เขาก็ยักกะรู้ว่าชีคฮาซานนิยมหานางฮาเร็มที่ดูเด็กขนาดนี้ ตอนแรกเขาคิดว่าลัยลาอายุน้อยที่สุดแล้ว
แต่ตอนนี้เขาชักไม่แน่ใจเสียแล้ว ว่านางฮาเร็มคนนี้น่าจะอ่อนกว่าน้องสาวของเขาอย่างแน่นอน
“อุ๊ย...ขอโทษค่ะ”
น้ำเสียงหวานเอ่ยขอโทษ เมื่อเธอเดินถอยหลังมาสองสามก้าวแล้วชนเข้ากับใครบางคน เมื่อเอ่ยขอโทษแล้วนันนาก็รีบหันมาขอโทษขอโพยคนที่เธอถอยหลังมาชนเป็นการใหญ่
แต่คนที่ถูกเธอชนกลับยืนนิ่ง ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ สายตาคู่คมกล้าได้แต่ก้มลงมามองใบหน้างามกับดวงตาหวานซึ้งที่กำลังแหงนขึ้นมาขอโทษเขาด้วยความตะลึง เมื่อเห็นใบหน้าเต็มๆ ของผู้หญิงที่ทำให้น้องสาวของเขาต้องตาย
ชีคซาอิสไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางฮาเร็มคนนี้ของชีคฮาซานจะน่ารัก น่าทะนุถนอมถึงขนาดนี้ ใบหน้างาม จมูกโด่งเชิดรั้น คิ้วโก่งดั่งคันศร ขนตาก็ยาวเรียงกันเป็นแพ ริมฝีปากแดงระเรื่อเล็กนิดเดียว แถมที่ร้ายไปกว่านั้นนางฮาเร็มคนนี้ยังมีลักยิ้มพร้อมกับเขี้ยวเล็กๆ อีกสองเขี้ยวประดับเรียงกันอยู่ภายใต้ริมฝีปากแดงระเรื่อน่าจูบนั่นอีก
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ”
น้ำเสียงหวานเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นอาการยืนนิ่งของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนนี้
คนที่ถามกลับยืนนิ่ง จ้องมองคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยความตะลึง แต่ฉับพลันเขาก็นึกถึงใบหน้าของน้องสาว ความโกรธแค้นก็กลับมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมเข้มสบตามองใบหน้างามด้วยสายตาราบเรียบ
ชายหนุ่มสังเกตอาการตื่นตระหนกของหญิงสาวตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า...
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”
“ฉันต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ”
นันนาโค้งคำนับเล็กน้อย จากนั้นก็รีบสาวเท้าเดินออกมาจากสถานที่ที่ชวนให้อึดอัดนั้น เมื่อกี้เธอเห็นสายตาโกรธแค้นจากผู้ชายตัวสูงคนนั้น และมันก็ดูน่ากลัวไม่น้อย ทำไมผู้ชายมันถึงได้น่ากลัวแบบนี้หนอ แต่ก็ยกเว้นไว้คนหนึ่งล่ะ ก็ท่านชีคของเธอนี่แหละที่สุภาพน่ารัก อ่อนโยน ไม่ได้น่ากลัวอย่างผู้ชายที่เธอดันไปถอยหลังชนเมื่อกี้
ชีคซาอิสได้แต่หัวเสีย เมื่อจู่ๆ ผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นก็เดินหนีเขาไปหน้าตาเฉย ชายหนุ่มเดินตามไปติดๆ โดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว สายตาคู่คมจับจ้องที่ร่างเล็กกำลังเดินซื้อของ จนตอนนี้มันแทบจะเต็มมือทั้งสองข้างของเธอทีเดียว
นันนาเดินซื้อของจนเสร็จ จากนั้นหญิงสาวก็ตัดสินใจเดินทางกลับไปที่ร้านอาหารที่นาสรีนกับอดีตเจ้านายสาวนั่งรออยู่ บรรยากาศโดยรอบแม้จะไม่คึกคักเท่าที่ควร อาจเพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนั่นเอง
แม้ว่าวาลิเมียร์จะไม่ได้เจริญเหมือนอย่างเอลจิเรีย แต่อย่างน้อยทั้งสองเมืองนี้ก็เป็นแหล่งเศรษฐกิจของสองรัฐเลยทีเดียว
หญิงสาวร่างเล็กก้าวเท้าไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มหวาน ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างก็หันมายิ้ม จ้องมองสาวน้อยหน้าตาน่ารัก ที่กำลังเดินตรงไปยังร้านอาหารที่อยู่อีกมุมหนึ่งของถนน ร่างเล็กเดินตรงไปยังร้านอาหารอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้เธอเองก็รู้สึกหิวแล้วเหมือนกัน เท้าเล็กกำลังเดินเลี้ยวไปอีกด้านหนึ่งของถนน
ฉับพลันก็มีมือหนาของใครบางคนกระชากร่างเล็กบางจากด้านหลัง พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กปิดจมูกของเธอ แรงดิ้นของร่างเล็กไม่ได้ทำให้คนที่สูงสะทกสะท้านเลยสักนิด ไม่นานหญิงสาวร่างเล็กก็คอพับคออ่อนอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของเขา
“ฉันบอกเธอแล้วยังไงอะมินา ว่าเธอหนีฉันไม่รอดหรอก”
น้ำเสียงเหี้ยมพูดออกมาอย่างชิงชัง สายตาคู่คมกล้าก้มลงมามองหญิงสาวร่างเล็กในอ้อมแขนด้วยสายตาเฉยชา แต่ในใจกลับนึกชังชีคฮาซานไม่น้อย ในเมื่อมีนางฮาเร็มอยู่แล้ว ทำไมจะต้องเข้ามาวุ่นวายกับน้องสาวของเขาด้วย
ชีคซาอิสได้แต่นึกเสียดายในความน่ารัก ของคนในอ้อมกอด ชายหนุ่มรู้สึกอิจฉาคนที่ได้ครอบครองคนในอ้อมกอดไม่น้อย ทำไมผู้หญิงน่ารัก อ่อนหวาน ดูบอบบางแบบนี้ถึงได้ยอมไปเป็นนางฮาเร็มของชีคฮาซาน
//////////////////////
นันนาขยับกายพลิกอย่างขบเมี่อย สายตาคู่หวานกะพริบสองสามครั้ง จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมาอย่างเกียจคร้าน ร่างเล็กขยับลุกขึ้นนั่ง แต่พอเธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เพราะเจ้าของในห้องนอนของเธอมันไม่เหมือนเดิม ก่อนดวงตาจะเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
“ที่นี่มันที่ไหน”
น้ำเสียงหวานพึมพำออกมาอย่างหวาดกลัว เท้าเล็กรีบเลื่อนลงมาแตะพื้น ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินตรงไปยังประตูห้องนอน แต่ยังไม่ทันที่มือเรียวเล็กจะได้เปิดประตูห้อง
ประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกมาเสียก่อน พร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มและดุดัน ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้อง ชีคซาอิสเปิดประตูเข้ามาอย่างไม่สนใจ ผู้หญิงที่ขยับกายหลีกทางให้เขาเลยสักนิด ชายหนุ่มเดินผ่านร่างเล็กเข้าไปหยุดอยู่กลางห้อง พร้อมกับหันมาจ้องมองอีกฝ่ายที่ยืนลีบอยู่ที่ประตูอย่างชิงชัง
“คุณเป็นใคร”
นันนาเอ่ยถามชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างหวาดกลัว หากเธอจำไม่ผิดผู้ชายคนนี้เป็นคนเดียวกับที่เธอถอยหลังไปชนเมื่อวานอย่างแน่นอน ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลน้ำเข้มคู่นั้น
“แล้วที่นี่ที่ไหน”
ชีคซาอิสยืนกอดอกจ้องมองหญิงสาวร่างเล็กด้วยรอยยิ้มหยันๆ แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะดูน่ารักยังไง แต่จิตใจของหล่อนก็ยังสกปรกอยู่ดี หน้าตาสวยหวานแต่จิตใจกลับดำยิ่งกว่าอีกาเสียอีก
นันนาแหงนหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเห็นอีกฝ่ายยังยืนเงียบ เธอก็ยิ่งใจเสีย สายตาคู่หวานซึ้งเหลือบไปมองทางด้านประตู เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ยอมพูด ทางเลือกสุดท้ายของเธอก็คือเดินออกไปดูด้านนอกก็แล้วกัน จะได้รู้เสียทีว่ามันที่ไหน
ร่างเล็กขยับกายหันหลัง จากนั้นก็สาวเท้าเดินตรงไปยังประตูห้อง ซึ่งอยู่ห่างจากเธอไม่เกินห้าก้าว แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวเท้าก้าวที่สองด้วยซ้ำ น้ำเสียงห้าวติดจะดุก็ตวาดเสียงดังลั่น
“จะไปไหน”
นันนาชะงักเท้าที่กำลังจะเดิน จากนั้นก็หันมามองเจ้าของเสียงอย่างตื่นตระหนก ใบหน้าหวานซีดจนแทบจะเป็นกระดาษทีเดียว เมื่อเธอสบตามองใบหน้าคมเข้มที่บัดนี้ดูเรียบตึง ดวงตาคู่สีน้ำตาลเข้มกำลังจ้องมองเธออย่างเกรี้ยวกราด
“เอ่อ...”
“ที่ฉันถามทำไมไม่ตอบฮะ” น้ำเสียงกร้าวตวาดใส่คนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ
“จะออกไปข้างนอกค่ะ” นันนาตอบคนตรงหน้าอย่างหวาดกลัว
ชีคซาอิสยืนมองอาการตื่นตระหนกของผู้หญิงเจ้ามารยาตรงหน้าอย่างเกลียดชัง เขาได้ยินกิตติศัพท์ถึงความร้ายกาจของหล่อนมานับไม่ถ้วน วาจาและ กิริยาที่ร้ายกาจ ชอบเหยียบคนอื่นให้ด้อยกว่าตัวเองเสมอ แต่พออยู่ต่อหน้าผู้ชายก็ดูอ่อนแอ บอบบางจนเขาอยากจะอ๊วก ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้จะร้ายกาจ มารยาหลายร้อยเล่มเกวียนแบบนี้
“เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เพราะต่อไปเธอจะต้องอยู่ที่นี่”
“ที่นี่หรือคะ” นันนาทวนคำคนตัวโตตรงหน้าอย่างแปลกใจ
/////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...