ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ฉันนั่งมองนักศึกษาที่เดินผ่านไปผ่านมาใต้ตึกคณะที่ฉันเรียน....ทุกคนต่างเร่งรีบกับการไปรอลิฟต์เพราะใกล้ได้เวลาเข้าเรียนของแต่ละเอกแล้ว..ส่วนฉันได้แต่ยืนรอพี่สาวด้วยความร้อนรนเพราะกลัวจะขึ้นไปเช็คชื่อไม่ทัน...พี่สาวฉันก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับฉันแต่คนละคณะ
“อยู่ไหนนะพี่แบม...” ฉันพึมพำออกมาเบา ๆ พร้อมกับชะเง้อคอมองหาพี่สาวตัวเองก่อนจะเห็นร่างเพรียวที่รีบเดินเข้ามาหาฉัน
“พี่แบมทำไมมาช้านักล่ะ...” ฉันถามก่อนจะมองหน้าพี่สาวต่างสายเลือด
“เมื่อเช้าตื่นสายอ่ะดิ แม่ไม่ยอมปลุก...”
“แล้วที่โทรนัดเพลงมาแต่เช้ามีเรื่องอะไรหรอ” ฉันถามพี่สาวตัวเอง เพราะทุกวันนี้ฉันนอนหอไม่ได้กลับบ้านเลย ฉันต้องทำงานพิเศษช่วงเลิกเรียน ฉันเลยต้องหาที่พักที่มันใกล้ๆ ที่ทำงาน ส่วนพี่สาวฉันนอนบ้าน
“ตอนนี้แกมีเงินเก็บสัก4หมื่นไหม”
“ห๊ะ!! ตั้ง 4 หมื่น เพลงไม่มีหรอก...” ฉันตอบเสียงหลง....เงินตั้ง 4หมื่น ฉันจะไปมีได้ยังไง...พี่แบมมองหน้าฉัน สีหน้าพี่เขาตอนนี้ดู ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“มีอะไรหรือเปล่าพี่แบม...” ฉันถามด้วยความสงสัย
“แม่พี่ติดหนี้พนันเขาตั้ง 8 หมื่น แล้วพี่ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมา ช่วยแม่จ่ายอะ...”
“พี่แบม น้าพิมพ์ยังไม่เลิกเล่นอีกหรอ?!?...” พี่แบมพยักหน้าตอบฉันเบา ๆ ก่อนจะพูด
“ถ้าแกไม่มี พี่ก็มีไม่ถึง...คงต้องไปขอ...” พี่แบมหยุดพูดก่อนจะ มองหน้าฉันด้วยสีหน้าลำบากใจ...
“ไม่ได้พี่แบม...พ่อต้องเก็บตังเอาไว้รักษาตัวด้วยนะ...”
“แล้วจะให้พี่ทำยังไงเพลง...ถ้าแม่ไม่มีเงินไปให้...พวกมันก็จะบุก มาที่บ้านอะ แล้วคุณลุงก็ต้องรู้เรื่องที่แม่ติดพนัน...” คุณลุงที่ว่าคือพ่อฉันเอง...
“แต่พี่แบม...เพลงว่ามันน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้...เงินตั้ง 8หมื่นนะพี่...” ฉันคิดว่ามันต้องมีวิธีอื่นที่มันดีกว่านี้ ที่ไม่ใช่ไปรบกวนเงินพ่อแบบนี้
พี่แบมมองหน้าฉันก่อนจะเมินหน้าหนีไปอีกทางพลางลูบ หน้าตัวเองอย่างใช้ความคิดพร้อมกับเสยผมสลวยขึ้นอย่างลวก ๆ
ฉันเองก็พยายามใช้ความคิดว่าจะหาทางช่วยน้าพิมพ์ยังไงดี..แต่ คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก
“พี่รู้ละ จะเอาเงินมาจากไหน...” แต่จู่ ๆ พี่แบมก็พูดขึ้นพร้อมกับ มองไปอีกด้านหนึ่งของหลังตึกคณะ ฉันมองตามพี่แบมก่อนจะ เห็นว่าพี่ราชันย์กับพี่เบลล์กำลังยืนคุยกันอยู่ และที่สำคัญพี่เบลล์ กำลังร้องไห้ พี่สองคนนั้นคือรุ่นพี่ในมหา’ลัยฉัน พี่เบลล์คือรุ่นพี่ที่คณะ และที่ฉันรู้จักเพราะพวกพี่เขาค่อนข้างดังในมหา’ลัย
เขากำลังทะเลาะกันหรอ...แต่ไม่หรอก พี่เบลล์ดูไม่ได้โวยวายอะไรเลย แค่ยืนร้องไห้ พี่ราชันย์ก็เอาแต่จับไหล่...
“พี่แบมจะไปไหน...” ฉันถามก่อนจะรีบเดินตามพี่เขาไป
ฉันกับพี่แบมเรามาหยุดอยู่ตรงซอกตึกใกล้ ๆ กับที่พี่ราชันย์และพี่เบลล์อยู่..แล้วพี่แบมกับฉันจะค่อย ๆ โผล่หน้าออกไปดูเหตุการณ์ตรงหน้า
“พี่แบม พี่แบมจะทำอะไร...” ฉันถามพี่เขาอย่างไม่เข้าใจ...พี่แบม หันมาทำท่าให้ฉันเงียบก่อนที่พี่เขาจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายทั้งรูปทั้งวิดีโอ
“พี่แบม...” ฉันเรียกพี่เขาอีกครั้งแต่พี่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรฉัน ฉัน เลยเลื่อนสายตาไปมองพี่ราชันย์กับพี่เบลล์อีกครั้ง ก่อนจะเห็นว่าเขาสองคนกำลังกอดกัน...
เดี๋ยวนะ พี่เบลล์คบอยู่กับพี่ธันไม่ใช่หรอ ?
แต่ทำไมเขาถึงมายืนกอดอยู่กับพี่ราชันย์ได้ล่ะ...
“แม่ง สงสารพี่ธันชิบหายเลยอะ เขาจะรู้ไหมว่าแฟนตัวเองมายืน กอดกับผู้ชายคนอื่นอะ” พี่แบมเลิกถ่ายรูปกับวิดีโอก่อนจะหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงโมโห พร้อมกับหันไปมองสองคนนั้นเป็น ระยะ ที่พี่แบมดูโมโหขนาดนั้นเพราะพี่แบมชอบพี่ธันเดอร์มาก เหมือนมีช่วงหนึ่งที่พี่ธันเขาดูเหมือนจะสนใจพี่ฉัน...แต่มันก็แค่ไม่กี่วัน...แล้วพี่เขาก็หายไปสุดท้ายก็คือไปคบกับพี่เบลล์
“นี่พี่คิดจะทำอะไร...” ฉันถาม
“ก็จะเอาไว้เรียกเงินกับอิพี่เบลล์ไง...แม่งมั่วโคตร...”
“พี่แบม เพลงไม่เห็นด้วยนะ...อย่าทำแบบนี้เลย มันไม่โอเคอะ เราทำแบบนี้มันไม่ดีนะพี่...”
“หรือจะให้พี่ไปขอตังค์พ่อแกหรอ...จะเอาแบบนั้นไหมละ!”
“แต่พี่แบม...”
“แกอยู่เฉยๆ เถอะเพลง แล้วทำตามที่พี่บอก โอเคมั้ย!!”
Rrrrrrrrrrrrrrrr
ในระหว่างที่ฉันกำลังยืนเถียงกันอยู่นั้น จู่ ๆ โทรศัพท์พี่แบมก็ดังขึ้น ฉันกับพี่แบมมองหน้ากันเลิกลั่กทันทีที่ได้ยินเสียง พี่แบมรีบปิดเสียงโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะรีบพาฉันเดินออกไปจากตรงนั้น
“ใคร!!!” เสียงพี่ราชันย์ตะโกนไล่หลังพวกฉันแล้วตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่วิ่งตามหลังมา
“เพลง...จำไว้นะ ไม่ว่าเขาจะพูดจะขู่อะไร แกต้องเอาเงิน 8 หมื่นมาให้ได้ โอเคนะ...” พี่แบมหยุดวิ่งก่อนจะจับตัวฉันไว้แล้วพูดขึ้น
“แต่พี่แบม เพลงไม่ทำนะ...”
“แกต้องทำเพลง บางทีโลกมันก็บังคับให้เราต้องทำเลวเพื่อความอยู่รอด...แกช่วยพี่ทีนะ...”พี่แบมพูดแค่นั้นก่อนจะรีบหลบไปอีกทาง ฉันก็ได้แต่ยืนอึ้งกับการกระทำของพี่แบม..และกำลังจะตัดสินใจก้าวเท้าวิ่งหนีต่อ
แต่มันก็ช้ากว่ามือหนาที่เอื้อมมากระชากแขนฉันไว้ T^T
“ทำอะไร!!!” พี่ราชันย์กระชากแขนฉันให้หันไปเผชิญหน้ากับเขา ก่อนจะตะคอกถาม
“พะ เพลง...” ฉันมองหน้าพี่เขาตื่น ๆ ตอนนี้ใบหน้าพี่เขามันแสดงถึงอารมณ์โกรธแบบสุดเลยๆ
“ฉันถามว่าเธอกำลังทำอะไร!”
“พะ เพลง...”
“ถ่ายอะไรไปบ้าง! ห๊ะ !!”
“ ........”
“เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน...” พี่ราชันย์พูดพร้อมกับยื่นมือออกมาอยู่ตรงหน้าฉัน แต่คือฉันไม่มีโทรศัพท์ไง โทรศัพท์ที่ถ่ายมันของพี่แบม
“ไม่มีค่ะ...”
“เธอ!!....เธอต้องการเท่าไหร่ ?” พี่ราชันย์เรียกฉันอย่างเหลืออดก่อนจะพูดประโยคถัดไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“คะ?”
“ค่ารูปที่เธอถ่ายไปอะ เท่าไหร่...ฉันจ่ายได้หมด แต่เธอต้องลบรูปพวกนั้น...” พี่ราชันย์พูดก่อนจะหยิบกระเป๋าตังออกมา
ฉันเงียบอย่างใช้ความคิด ถ้าฉันไม่เรียกเงินพี่เขา พ่อก็ต้องเดือดร้อนแน่ๆ ฉันจะทำยังไงดี...
ฉันเม้มปากตัวเองแน่นอย่างตัดสินใจได้แล้วว่าฉันต้องทำยังไง...
“ปะ แปดหมื่นค่ะ...” ฉันตัดสินใจทำอย่างที่แบมพูด...ถึงมันจะเป็นวิธีที่เลวมากแต่ฉันไม่อยากให้พ่อเดือดร้อน
“เหอะ!! เดี๋ยวนี้คนแม่งหากินกันง่ายเนอะ...” พี่ราชันย์หัวเราะในลำคอก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียด ๆ ฉันได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าสบตาพี่เขา
“มีพร้อมเพย์ใช่มั้ย เอาเบอร์มาเดี๋ยวฉันพร้อมเพย์ไปให้” พี่ราชันย์พูดก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาให้ฉัน ฉันรับมาด้วยก่อนจะพิมพ์เบอร์ให้พี่เขา...
“ถ้าได้เงินแล้วก็ช่วยทำตามที่ตกลงกันไว้ด้วยนะ...แล้วฉันหวังว่าจะไม่มีใครที่โดนเธอทำแบบนี้อีก...”
“.......” ฉันเงียบพร้อมกับพยักหน้าให้พี่เขาแทน พี่ราชันย์มองหน้าฉันก่อนจะหันหลังเดินออกไป แต่พี่เขาก็หันกลับมามองฉันอีกครั้งแล้วพูด
“ถ้าเธอผิดคำพูด หรือคิดเล่นแง่กับฉัน...ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่....” พี่ราชันย์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่พอฟังตอนท้ายประโยคแล้วฉันรับรู้ได้ว่าพี่เขาจะทำแบบนั้นจริง ๆ
พี่แบมที่หลบอยู่ในตอนแรกก็รีบเดินมาหาฉันหลังจากที่พี่ราชันย์เดินกลับไปแล้ว
และไม่นานก็มีข้อความแจ้งเตือนว่ามียอดเงินโอนเข้าบัญชีฉันแล้วเรียบร้อย...
“ขอบใจนะเพลง...”
“ต่อไปนี้เพลงจะไม่ช่วยพี่ทำอะไรแบบนี้อีก...”ฉันพูดแค่นั้นก่อนจะหันหลังเดินหนีพี่แบม...
ภาพแววตาและน้ำเสียงของความดูถูกที่พี่ราชันย์ใช้มอง ใช้พูดกับฉัน..มันยังคงติดตาฉันไม่เลิก
หลายวันต่อมา...
มหาลัย
เวลา 12.45 นาที
“ฮัลโหลลล...วันนี้เลี้ยงไรพวกกูคะ?” นาราที่มาพร้อมกับซอลเดินมาจับไหล่ฉันก่อนจะตะโกนใส่หู
“อะไร เงินจะกินกูยังไม่ค่อยจะมีเลย จะให้เลี้ยงพวกมึงอะฝัน”
“โห่!! อิเพลง วันเกิดมึงนะ...” ซอลพูดก่อนจะวางกระเป๋าลงบนโต๊ะที่พวกเราชอบมานั่งรอเรียน...ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง
“ก็ใช่ไง วันเกิดกู กูเลยตัดสินใจไม่เลี้ยงอะไรไงจ้ะ...” ฉันพูดก่อนจะยิ้มให้พวกมัน...
“หาร!!” อีฟที่พึ่งมาถึงอีกคนก็พูดขึ้นซะเสียงดัง
“No!! ” ฉันพูดก่อนจะยกมือห้าม
“No พ่อง! พวกกูจะกินกันมึงอย่ายุ่งยากดิ..." ซอลพูดด้วยน้ำเสียงติดรำคาญก่อนจะลุกขึ้นเดินมาล็อคคอฉัน
“สรุปจะให้พวกกูเลี้ยงมะ ถ้าไม่ให้เลี้ยงมึงเจออิอ้วนโดดทับแน่! "
“เดี๋ยวๆ อินา เกี่ยวไรกับกู...กูเป็นคนอ้วนอ่อนแอและบอบบางจะไปโดดทับใครได้..." อีฟพูดก่อนจะชี้มาที่ตัวเองอย่าง งง ๆ ส่วนฉันก็เริ่มเจ็บหนังหัวขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะซอลมันทับผม
“โอ๊ยยย มึงแขนมึงทับผมกู” ฉันหันไปโวยวายใส่ซอลก่อนจะดันให้มันปล่อย
“บอกก่อนว่าจะไปเลี้ยงวันเกิด " ซอลพูดแกมบังคับฉัน
“เออๆๆๆ ไปๆ " ฉันรีบตอบก่อนจะดันให้มันปล่อยแขนออกจากคอฉัน
“ก็แค่เนี๊ยะ!!" ซอลเดินกลับไปนั่งที่เดิมแล้วพูดอย่างอารมณ์ดี
“เออ ๆ พวกมึงเห็นข่าวในเพจซุบซิบของมอป้ะ ที่เขาบอกว่า
พี่เบลล์รุ่นพี่คณะเราที่เป็นแฟนกับพี่ธันอะ แอบคบซ้อนกับ
พี่ราชันย์เด้อ มีรูปที่เขาแอบกอดกันด้วย เพจพึ่งลงไปเมื่อ 2-3 วันที่แล้วมั้ง”
“อิเหี้ย จริงดิ..." นาราพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ จะไม่ให้ตกใจได้ไง
มัน FC พี่ธันเดอร์เขา
“เออ แต่กูพึ่งเห็นเมื่อเช้า คนมันแชร์ ๆ ต่อกัน คนด่ากันเยอะมากอะ เพราะส่วนใหญ่ก็แฟนคลับพี่ธันกับพี่ราชันย์ทั้งนั้นอะ " ซอลพูดด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดดูหน้าข่าวนั้นให้พวกฉันดู แต่พอฉันเห็นข่าวแล้วรูปที่เขาเอามาโพสต์ มันกับทำให้ใจฉันกระตุกวูบทันที...
เพราะรูปที่เอาไปแนบกับข่าวมันเป็นรูปที่พี่แบมถ่ายเมื่อวันนั้น....
พี่แบมเป็นคนปล่อยงั้นหรอ...
“โดนด่าหนักสุดก็น่าจะพี่เบลล์ป่ะว่ะ เหมือนทำให้เพื่อนแตกคอกันเลยอะ " อีฟพูดขึ้น
“ไม่นะ! กูต้องตามไปปลอบใจพี่ธันนนน " นาราพูดก่อนจะลุกขึ้น
“น้อย ๆ หน่อยเถอะมึงอะ...ไม่ต้องสนใจเรื่องของชาวบ้านเขานักหรอกกก”
“โห่!! อิซอล มึงไม่สนใจเลย รู้ก่อนพวกกูอีกกก "
“พอ ๆ เลิกเถียงกันเถอะ รีบ ๆ ขึ้นเรียนเถอะจ้ะ ตอนเย็นจะได้ไปเลี้ยงวันเกิดอิเพลงมัน " อีฟห้ามสงครามระหว่างสองคนนั้น ก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินนำพวกฉันขึ้นห้องเรียน...
แต่ให้ตายเถอะ ในหัวฉันตอนนี้มันคิดวนเวียนแต่เรื่องรูปที่หลุดไป..มันหลุดไปได้ยังไง พี่แบมเป็นคนทำจริงๆ งั้นหรอ...ฉันไลน์ไปหาพี่แบม พี่เขาก็ยังไม่ตอบฉัน...
แต่ก็ช่างมันสิ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน แล้วฉันก็ไม่ได้เป็นคนทำด้วย
ฉันไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวลอะไรก็ได้...
ฉันเลิกคิดก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างตั้งใจ แล้วพอเลิกเรียนพวกเพื่อน ๆ ก็ลากตัวฉันไปกินเลี้ยงวันเกิดและที่สำคัญ พวกมันให้ฉันเลือกร้านไง เพราะงั้นร้านนมแล้วกันมึง !! ฉันพา เพื่อนไปนั่งร้านนมที่ฉันชอบแต่พวกมันไม่ค่อยชอบด้วยหรอก มันอยากไปคลับกันมากกว่า...แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะพวกมันดันปาก ไวให้ฉันเป็นคนเลือกร้าน..พวกมันทำได้แค่หน้าหงิกกันเพราะขัดใจเจ้าของวันเกิดอย่างฉัน อิอิ...
พอหลังจากกินเลี้ยงกันเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันกลับห้องของแต่ละคน อันที่จริงฉันก็ขอบคุณพวกเพื่อน ๆ ฉันนะ ที่มันให้ความสำคัญกับฉันขนาดนี้...มันคอยดูแล คอยเป็นห่วงฉันในทุก ๆ เรื่อง ถ้าไม่มีเพื่อนทั้งสามคน ฉันก็ไม่รู้ว่า ชีวิตฉันจะเป็นยังไง...
หอ W
“ขอบคุณค่า” หลังจากที่ลงจากรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างฉันก็หันไปจ่ายตังค์พร้อมกับขอบคุณเขา ก่อนจะพาตัวเองเดินขึ้นมาที่ชั้น 4 แล้วเดินตรงไปยังห้องฉันพร้อมกับหยิบกุญแจขึ้นมาไขห้อง
แกร๊ก..
แอดด...
ฉันเปิดประตูก่อนจะเดินเข้าห้องแล้วกดเปิดสวิทช์ไฟพร้อมกับก้มลงถอดรองเท้าแล้วหยิบขึ้นไปวางที่ชั้นให้เรียบร้อย
“ไง...” ฉันสะดุ้งตัวก่อนจะหันหลังไปมองเสียงทุ้มที่มันดังอยู่ในห้องฉัน