Tulip 5

1628 คำ
Tulip 5 หลายวันผ่านไป ช่วงเย็นของวันเสาร์หลังจากที่ส่งดอกไม้เสร็จฉันกลับมาที่บ้านเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดเตรียมตัวออกไปตามนัดของเพื่อนสนิทที่กลับมาได้เพียงแค่สองวันก็ชวนฉันไปเที่ยวต่อเสียแล้ว และที่ตื่นเต้นมากอีกอย่างนอกจากจะเจอเพื่อนคือขนมที่ฉันฝากเพื่อนซื้อไปแล้วก่อนหน้านี้ “ถ้าเมาโทรหาพี่นะ พี่จะไปรับห้ามขับรถกลับมาเอง” “รับทราบค่ะ” “หรือจะให้พี่ไปส่งดี” พี่พิมพ์ยังไม่วางใจ เพราะวันนี้ฉันตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะขับรถไปร้านเหล้าเอง ก็จริงอย่างที่พี่สาวบอกถ้าเมาก็คงจะไม่ขับกลับอย่างแน่นอน แต่เรียกรถกลับพี่ก็คงจะเป็นห่วงอีก “เอาแบบนี้ จะกลับโทรมาพี่จะไปรับ” “ไม่ให้ไปค่ะ ไปคนเดียวไม่ได้นั่งรถตอนกลางคืนคนเดียวหนูเป็นห่วง” รีบเอ่ยห้ามพี่สาวทันที “เดี๋ยวผมไปกับพี่พิมพ์ก็ได้ครับ” น้องลมที่วันนี้อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันเอ่ยอาสา พอได้ยินแบบนั้นพี่สาวฉันก็รีบพยักหน้ารับทันที “ก็ได้ ๆ ถ้าอย่างนั้นขอเมาแบบทิ้งตัวเลยนะคะ แต่ว่าหนูขับมอเตอร์ไซค์ไปนะ ถ้าขากลับให้ลมช่วยขับได้ไหม?” ท้ายประโยคฉันเอ่ยถามลมที่คิดว่าน่าจะต้องขับรถฉันกลับ “ได้ครับ” “โอเค ถ้าอย่างนั้นฝากด้วยนะ เจอกันค่ะ หนูจะไปเมาแล้ว” เอ่ยบอกพี่สาวพร้อมกับรอยยิ้ม พี่พิมพ์เดินมาส่งจนถึงหน้าประตูรั้วรอปิดประตูหลังจากที่ส่งฉันเสร็จ เสื้อแจ็กเกตหนังสีดำถูกสวมทับเสื้อสีขาวด้านในกางเกงยีนรัดรูปถูกเลือกขึ้นมาสวมในวันนี้ หมวกกันน็อกใบใหญ่ถูกสวมลงบนศีรษะพร้อมออกเดินทางไปยังสถานที่นัดหมายระหว่างตัวเองและเพื่อนสนิท มือข้างหนึ่งค่อย ๆ บิดคันเร่งส่วนมือซ้ายและเท้าซ้ายยังคงเปลี่ยนเกียร์รถเพื่อเร่งความเร็วหรือลดความเร็วแรงของรถ สายลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านร่างขณะรถยังเคลื่อนตัวไปด้านหน้าทำให้รู้สึกดีมาก เหมือนได้พบเจออิสระอีกแล้ว นานแล้วที่ฉันไม่ได้ขับรถตอนกลางคืน ครั้งล่าสุดคือขับไปพัทยาคนเดียวเพราะอยากพักผ่อน และทริปที่ไกลที่สุดคือไปเชียงใหม่พร้อมกับเพื่อนสนิท สนุกมากเราสองคนขับรถมอเตอร์ไซค์ไปด้วยกัน เหนื่อยก็พักแล้วก็ไปต่อเรื่อย ๆ เจอฝนบ้าง เจอแดดบ้าง แต่เป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริง ๆ ร้านเหล้าในย่านท่องเที่ยวคือสถานที่นัดหมายของเราในวันนี้ ฉันขับรถเข้าไปจอดยังโซนจอดรถของที่ร้านและเริ่มที่จะลังเลว่าจะเอาฉันจะเอาหมวกกันน็อกไว้ที่ไหน ใบนี้ฉันหวงมากเพราะพี่พิมพ์ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดหลังจากที่ฉันซื้อรถมอเตอร์ไซค์ได้เพียงแค่หนึ่งเดือน ฉันหวงอะ กลัวจะหาย “พี่คะ เอาหมวกกันน็อกเข้าได้ไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามพนักงานการ์ดของที่ร้าน “ไม่ได้ครับน้อง ฝากไว้ไหมล่ะ ยังไงพวกพี่ก็นั่งอยู่ตรงนี้” “งั้นฝากค่ะพี่” ฉันบอกอย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างน้อยก็มีพี่ ๆ การ์ดอยู่ตรงนี้ล่ะนะ อีกทั้งยังมีกล้องวงจรปิดอยู่ ฝากไว้ก็ไม่เป็นอะไร เมื่อตรวจเช็กตัวเองเสร็จถึงได้เดินเข้าไปภายในร้าน ข้อความที่เพื่อนส่งมาให้คืออยู่โซนวีไอพีชั้นสอง แต่ว่ามันอยู่ตรงไหนล่ะวีไอพีชั้นสองน่ะ “ขอโทษนะคะ วีไอพีชั้นสองไปทางไหนคะ” และแน่นอนว่าหากไม่รู้ฉันจะไม่ยืนงงอยู่นานหรอกค่ะ ถามสิคะ ไม่รู้ก็แค่ถามแค่นั้นเลยค่ะ “วีไอพีนะคะ เชิญทางนี้ค่ะ” พนักงานใจดีเดินนำไปส่งจนถึงทางขึ้นชั้นสองฉันไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังด้านบน บนชั้นสองมีห้องแบ่งย่อยและถูกกั้นไว้อย่างชัดเจนเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ฉันเดินไปตามทางเดินสลัวอย่างไม่เร่งรีบแม้จะรู้สึกว่ามีคนเดินตามหลังอยู่ก็ตาม กระทั่งเดินไปจนถึงห้องที่เพื่อนอยู่ถึงได้ยกมือเคาะก่อนจะเปิดเข้าไป เคาะไว้ก่อนค่ะถึงแม้ตอนนี้เสียงเพลงและแสงไฟจะวิบวับมากแค่ไหนก็ตาม แต่เชื่อไหม พอก้าวเข้ามาภายในห้องวีไอพี เสียงเพลงแทบจะถูกตัดออกไปเกือบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ยังมีเสียงเพลงดังเข้ามาอยู่นะไม่ใช่ไม่ได้ยินเลย “ขวัญ!! คิดถึง” ร่างสมส่วนของไข่มุกเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉันร้องเรียกชื่อเสียงดังทั้งยังรีบวิ่งเข้ามาสวมกอดฉันไว้แน่น “คิดถึง ๆ เป็นยังไงบ้าง” ฉันเองก็รีบถามเพื่อนกลับไปเช่นเดียวกัน “สนุกมาก มีของฝากแกเยอะเลย” หลังจากผละออกห่างไข่มุกก็รีบดึงมือฉันให้เดินไปนั่งที่โซฟา มุมด้านหนึ่งของห้องสามารถมองเห็นด้านล่างของร้าน ที่ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวนั่งจนเต็มทุกโต๊ะรวมถึงบนเวทีที่มีนักดนตรีกำลังแสดงอยู่ พอเพลงสนุกนักท่องเที่ยวก็ลุกขึ้นเต้น ดูมีชีวิตชีวากันสุด ๆ เลยล่ะ “ขอบใจนะ สั่งอะไรหรือยัง” ฉันถามเพื่อนมือก็ถอดเสื้อแจ็กเกตตัวที่สวมอยู่ออกทำให้ท่อนบนมีเพียงเสื้อยืดรัดรูปสีขาวเอวลอย “ว้าว ๆ ๆ เซ็กซี่อีกแล้ว” ไข่มุกรีบเอ่ยแซวทันทีหลังจากที่เห็นว่าฉันถอดเสื้อตัวนอกออก “แกก็ไม่ต่างนะ ยั่วใครคะ?” ฉันถามกลับอย่างตั้งใจแซวเพื่อน “เหอะ ไม่ยั่วใครทั้งนั้นแหละ” ไข่มุกบ่นเสียงเข้มทั้งยังยื่นมือไปชงเครื่องดื่มใส่แก้วแล้วกระดกรวดเดียวจนหมด จากนั้นก็เริ่มชงเผื่อมาให้ฉันด้วย “เด็ก ขอแชร์โต๊ะให้ลูกค้าหน่อย” นั่งดื่มกันไปได้สักพักก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับประโยคเมื่อสักครู่ ฉันไม่ได้หันกลับไปมองเพราะดูท่าแล้วเจ้าของเสียงน่าจะรู้จักกับไข่มุกนะ “ใคร อยากได้ความเป็นส่วนตัวนะ” ไข่มุกบอกเจ้าของเสียงด้วยน้ำเสียงงอแง “เพื่อพี่ สามคน แต่ห้องมันเต็ม แชร์ห้องให้พวกมันนั่งด้วย เดี๋ยวพวกมันเลี้ยงเองทุกอย่างเลยเครื่องดื่มมิกเซอร์หรือกับข้าวได้หมด” เจ้าของเสียงยังต่อรอง ไข่มุกมองหน้าฉันอย่างปรึกษาทันที มันรวยนะแต่ชอบของฟรี เมื่อได้ยินคำว่าจะจ่ายให้มันก็ตาโตเท่าไข่ห่านแล้ว “ยังไง แชร์โต๊ะนั่งเฉย ๆ” ไข่มุกถามความคิดเห็น ฉันยิ้มขำ ๆ พลางมองเพื่อนก่อนจะพยักหน้าตกลง ไข่มุกขยิบตาให้กวน ๆ ก่อนจะตะโกนตอบเจ้าของเสียงก่อนหน้านี้ จากเงาสะท้อนของกระจกเหมือนเจ้าของเสียงจะยังเปิดประตูค้างไว้อยู่เพื่อรอฟังคำตอบจากไข่มุกนะ “ได้ แต่เลี้ยงด้วยทุกอย่างเลย” “โอเค ปิดดิล พวกมึงเข้าไปนั่งรอเดี๋ยวกูให้เด็กไปเอาเครื่องดื่มมาให้” ประโยคนั้นจบลงพร้อมกับกลุ่มคนที่เดินเข้ามาใกล้ ฉันขยับไปนั่งชิดที่มุมโซฟาด้านหนึ่งเพื่อที่กลุ่มคนมาใหม่จะได้มีที่นั่ง “สวัสดีไข่มุก จำพวกพี่ได้ไหม?” เสียงคนที่มาใหม่เอ่ยถามไข่มุกอย่างเป็นกันเอง ไข่มุกมองทั้งสามคนก่อนจะพยักหน้าและยกมือไหว้คนที่มาใหม่ “จำได้ค่ะ สวัสดีค่ะ นี่เพื่อนหนูนะชื่อพิมพ์ขวัญ” จู่ ๆ เพื่อนก็แนะนำอีกฝ่ายให้รู้จัก ทำให้ฉันต้องรีบวางแก้วแล้วยกมือไหว้ทั้งสามคนไป “สวัสดีค่ะ” ยกมือไหว้เงาทั้งสามเงา เพราะตอนนี้ภายในห้องก็ไม่ได้สว่างมากนัก ทำให้มองหน้าทุกคนไม่ชัดสักเท่าไหร่ “สวัสดีครับ วันนี้ขอนั่งด้วยนะ โต๊ะเต็มหมดเลย” คนตัวสูงคนหนึ่งเอ่ยบอกฉันทำเพียงแค่ส่งยิ้มและพยักหน้าให้เท่านั้น มีคนตัวสูงคนหนึ่งนั่งลงที่โซฟาตัวเดียวกับฉัน ส่วนอีกสองคนนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับคนที่นั่งโซฟาตัวเดียวกับฉันและอีกคนนั่งที่หัวโต๊ะ “ดูเด็ก ๆ ด้วยนะพวกมึง” คนมาใหม่เอ่ยบอกผู้ชายสามคนที่นั่งอยู่ที่มุมโซฟาอีกด้านของเรา “อ้อ ลืมแนะนำตัว พี่ชื่อโอเชี่ยนนะเป็นพี่ของไข่มุกน่ะ” พี่ที่เข้ามาขอให้แชร์โต๊ะเอ่ยแนะนำตัวเองกับฉันอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้โดยที่ไม่ลืมส่งยิ้มให้คนมาใหม่ “ส่วนนั่นเพื่อนพี่ ไอ้เลโอ ไอ้คริสแล้วก็ไอ้เขต” พี่โอเชี่ยนแนะนำให้เราทุกคนได้รู้จักกัน แต่ก็ไม่สามารถนั่งร่วมโต๊ะได้ในตอนนี้เพราะพี่เขาบอกว่าต้องไปตรวจเครื่องดื่มที่มาส่งวันนี้ ฉันและเพื่อนนั่งฟังเพลงและดื่มไปเรื่อย ๆ มีบ้างที่โยกตามเพลง เครื่องดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าถูกยกขึ้นดื่มเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง กลุ่มเพื่อนพี่ชายของไข่มุกก็ดื่มทั้งยังคุยกันอยู่เช่นเดียวกัน ส่วนฉันกับเพื่อนก็คุยกันอย่างที่ทำ ไม่ได้รู้สึกกดดันหรือไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิดเมื่อมีเพื่อนร่วมโต๊ะแบบนั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม