หลังจากที่กลับมาจากห้องโถงใหญ่แล้ว ทั้งสามคนก็ช่วยกันเก็บข้าวของในเรือนจนหมด เพราะมีข้าวของไม่มากนักจึงใช้เวลาแค่สองวันเท่านั้น ส่วนข้าวของมีค่าอื่นๆนางเก็บเอาไว้ในมิติเรียบร้อยแล้ว เวลาว่างที่เหลือก่อนที่จะต้องเดินทางไกลนั้นนางก็นำไอแพดออกมาเปิดดูหนังหรือซีรี่ย์ที่โหลดมาฆ่าเวลาไปพลางๆ แต่จะนำออกมาใช้ในช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น เพราะตอนนี้นางยังไม่รู้จะบอกกับสาวใช้ทั้งสองว่ายังไง
และแล้ว วันเวลาที่ต้องเดินทางไกลก็มาถึง ขบวนทัพของพ่อสามีก็เตรียมพร้อมที่หน้าประตูเมืองแล้ว ขบวนของตระกูลเยว่มีด้วยกันถึง 5 คันรถม้า และ 20 เกวียนสำหรับสัมภาระ ส่วนบ่าวไพร่นั่นบ้างก็เดินเท้า บ้างก็ขึ้นไปนั่งกับเกวียนสัมภาระ
" ออกเดินทางได้ " เยว่เหอขี่ม้าด้วยท่าทางองอาจ เหล่าชาวเมืองต่างมาร่วมส่งทัพใหญ่ที่จะมุ่งหน้าสู่ชายแดนกันมากมายคับคั่ง ฟางซินและสาวใช้ทั้งสองของนางนั่งอยู่ในรถม้าคันที่สอง ต่อจากรถม้าของเยว่เทียนกับไฉ่หง การเดินทางนั้นไม่ค่อยราบรื่นนัก เพราะต้องแวะพักเป็นระยะ เพื่อให้ทหารและม้าได้หยุดพักจากการเดินทางตลอดทั้งวัน กว่าที่ขบวนทัพจะถึงชายแดนก็ใช้เวลาไปถึง 40วัน
ค่ายทหารชายแดน
ขบวนของแม่ทัพเยว่มาถึงแล้ว ตอนนี้ทุกคนกำลังแยกย้ายกันไปพักผ่อน ส่วนคนอื่นๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทหารก็แยกขบวนออกไปยังจวนรับลองที่ฮ่องเต้พระราชทานให้แก่แม่ทัพเยว่ ซึ่งเป็นจวนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ไม่ห่างจากตลาดมากนัก สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย เรียกได้ว่าเป็นเมืองติดชายแดนที่เจริญรุ่งเรื่องเป็นอย่างมาก นั่นเพราะมีชินอ๋องเป็นผู้ดูแลที่แห่งนี้นั่นเอง
" เอ่อ ฮูหยินน้อย นายท่านสั่งให้ท่านพักอยู่ที่เรือนทางตะวันตกขอรับ ส่วนท่านนายท่านสั่งให้พักเรือนหลังทางนั้นขอรับ " พ่อบ้านตู้เสวียนเอ่ยบอกแก้สตรีทั้งสอง
" รบกวนพ่อบ้านตู้ช่วยให้คนมาขนของและนำทางด้วย " ฟางซินเอ่ยขึ้น ซึ่งพ่อบ้านตู้นั้นได้เตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว เขาให้บุตรสาวของตนเดินนำทางนางไปที่เรือนตะวันตกและให้สาวใช้อีกคนนำทางไฉ่หงไปยังเรือนหลังที่จัดเอาไว้ให้
ฟางซินเดินมาถึงเรือนตะวันตกก็ยิ้มอย่างยินดี เพราะด้านข้างของเรือนมีสระบัวและยังมีศาลาหกเหลี่ยมหลังเล็กๆตั้งอยู่ด้วย นางชื่นชอบบรรยากาศในเวลานี้อย่างมาก ตั้งใจว่าจะมานั่งเล่นที่นี่หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ให้สาวใช้ทั้งสองจัดการข้าวของที่นำมาด้วยจนแล้วเสร็จ นางก็ไปนั่งเล่นที่ศาลาสระบัว แต่ไม่คิดว่าคนรักของสามีจะมานั่งอยู่ก่อนแล้ว
" ขออภัยด้วยเจ้าค่ะที่ข้ามานั่งที่นี่โดยไม่ได้ขออนุญาตจากท่านก่อน " ไฉ่หงเอ่ยขึ้น พลางจ้องมองไปยังฟางซิน
" ไม่เป็นไรที่นี่ไม่ใช่ของๆข้า เจ้าจะมานั่งเล่นก็ไม่เห็นเป็นไร "
" เจ้าค่ะ ข้าเองก็ชอบที่นี่มาก เพราะที่จวนตระกูลไฉ่ก็มีสระบัวเช่นนี้ ท่านเองก็คงชอบที่นี่ใช่ไหมเจ้าคะ น่าแปลกที่เราชอบอะไรเหมือนๆกัน " ไฉ่หงเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่ส่งไปไม่ถึงดวงตา
" งั้นหรอ " ฟางซินเอ่ยอย่างไม่สนใจนัก และตอนนี้นางก็ไม่อยากจะนั่งเล่นที่นี่แล้วจึงคิดที่จะเดินกลับไปที่เรือนของตนเอง แต่เมื่อหันกลับไปก็ชนเข้ากับเยว่เทียนที่เดินเข้ามาพอดี
เขาโอบรัดนางเอาไว้เพื่อไม่ให้ตกลงไปในสระบัว นั่นจึงทำให้เขาได้สัมพัสกับร่างกายของนางเป็นครั้งแรก กลิ่นกายที่หอมออ่นๆทำให้เขารู้สึกอยากจะสูดดมให้มากยิ่งขึ้น เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
" ท่านพี่ " เสียงของไฉ่หงดังขึ้นเรียกสติของเยว่เทียนให้กลับมาพอดี
" ขอบคุณเจ้าค่ะ ช่วยปล่อยข้าด้วย " ฟางซินเอ่ยบอกกับเขา จากยั้นก็เดินกลับเรือนพักของตนเองไป เยว่เทียนมองตามหลังนางไปจนสุดสายตา ไฉ่หงที่เห็นว่าเขาจ้องมองไม่หยุดจึงเข้าไปเกาะแขนของคนรัก
" ท่านพี่ เป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ มาเหนื่อยๆมานั่งตรงนี้ก่อนเจ้าค่ะ ข้าจะนวดให้ " นางเอ่ยบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงที่ออ่นหวาน เยว่เทียนนั่งลงตามที่คนรักเอ่ยบอก แต่ในจิตใจนั้นกลับครุ่นคิดถึงร่างนุ่มนิ่มและหอมกรุ่นของสตรีที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาเอกของเขา เขาหลับตาลงเมื่อนิ้วเรียวของคนรักนวดลงบนขมับทั้งสองข้างของเขาอย่างแผ่วเบา
" ฮูหยินเจ้าคะ หิวหรือไม่ บ่าวจะไปขอของว่างจากแม่ครัวมาให้รองท้องนะเจ้าคะ " ซูมี่เอ่ยบอก
" ก็ดีเหมือนกัน ไปยกมาเถอะ " นางนั่งลงบนม้าหินอ่อนที่ตั้งอยู่หน้าเรือนนอนของตนเองพลางมองไปรอบๆอย่างรู้สึกดี กลิ่นหอมของดอกไม้ส่งกลิ่นหอมออ่นๆที่เมื่อสูดดมแล้วทำให้นางรู้สึกสบายใจอย่างแปลกประหลาด
ซูมี่เดินกลับมาพร้อมกับกาน้ำชาและขนมที่แม่ครัวทำขึ้นในวันนี้ เพื่อเป็นของว่างให้กับเจ้านายในจวน ฟางซินกัดชิมรสชาติของขนมแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะดื่มชาตามลงไป นางนั่งเล่นอยู่หลายชั่วยาม จึงกลับเข้าไปในเรือน เพราะตอนนี้กลางยามเซินแล้ว [15.00-16.59]