บทที่3.ผู้ชายที่มาพร้อมกับสายฝน...

1528 คำ
“อารมณ์เสีย...ชอบสอดกันจริ๊ง!” ข้าวผัดจานใหญ่ แวซ็องกวาดเรียบ รสชาติพอใช้ ไม่ได้อร่อยเลิศ แต่ก็พอถูไถไปได้เพราะเขากำลังหิวจัด “อร่อยใช่ม๊า พรุ่งนี้มากินอีกหรือเปล่า สายใจจะได้รอ” ชายหนุ่มพยักหน้า เขาชี้เสื้อที่ตัวเองใส่ พร้อมทั้งถามหาร้านขาย “อยากได้เสื้อต้องซื้อที่ไหนล่ะ” สายใจตั้งใจฟัง แม้ไม่ได้คำตอบที่เธอถามออกไป... “เลยออกไปอีกนิดมีร้านขายอยู่ เดี๋ยวสายใจพาไปเอง เดี๋ยวพี่ฝรั่งจะหลงทางน่ะจ้ะ” ได้ควงฝรั่งรูปหล่อ มันโก้หยอกที่ไหน สายใจเลยรีบอาสา เพื่อหวังผล หากฝรั่งรูปหล่อนี่สนใจเธอ แหมๆ มันคงเหมือนขึ้นสวรรค์ “แม่...หนูพาพี่ฝรั่งรูปหล่อไปซื้อของนะแม่ เดี๋ยวมา” หล่อนหันไปร้องสั่งผู้หญิงที่อาวุโสกว่า นางขยับปากด่าไม่ต่างอะไรกับบุตรสาว... “ไม่รู้เลือดใคร เห็นผู้ชายหล่อไม่ได้สิ! ระริกระรี้ขึ้นมาเชียว” ชายหนุ่มเดินตามแรงจูงของสายใจ เขาจดจำภูมิทัศน์ เมื่อแถวนี้ตรอกซอก ซอยแทบจะเหมือนกัน หากเขาหลง คงไม่มีโอกาสได้เจอกับเมวิกาอีก เพราะฉะนั้นแวซ็องต้องระวังตัวดีๆ “อีสาย!! จะไปไหน” ผู้ชายหน้าเหี้ยม ร้องถามเสียงดังลั่น สายใจแอบเบ้ปาก...ยังไม่มีคำจำกัดความระหว่างความสัมพันธ์ของตัวเองกับ พี่วินมอเตอร์ไซน์หน้าเข้ม แต่ดูเขาจะออกตัวแรง!! ใบหน้าอวบอูมนั่นแดงก่ำ เธอจึงจำใจถอยห่างฝรั่งรูปหล่อ เสียดายใจแทบขาดแต่เมื่อประเมินผลได้ ผลเสีย เธอต้องเลือกที่มั่นคงมากกว่า “ไปด้วยไม่ได้แล้วล่ะนะ เดี๋ยวเขาไม่พอใจเอา” หล่อนส่งยิ้มแหยๆ ให้และแวซ็องก็พยักใบหน้ารับรู้ เขาไปคนเดียวก็สบายใจดี เมื่อตัวเองไม่ได้สนใจสายใจ หล่อนตกเกณฑ์ที่เขาต้องการ ชายหนุ่มเดินโต๋เต๋ไปเรื่อยๆ หลังจากมีสตางค์อุ่นๆ อยู่ในกระเป๋ากางเกงแม้น้อยนิดแค่หยิบมือเท่าที่แวซ็องเคยพกติดก้นกระเป๋า ชายหนุ่มเดินไปเรื่อยเปื่อย พยายามจำตำแหน่งเดิมไว้ในสมอง แวซ็องต้องการที่สุดตอนนี้คือโทรศัพท์เพื่อติดต่อเซดริกน้องชาย เขาอยู่ไม่ได้...ถ้าตัวเองไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้...ก็ต้องมีเงินในกระเป๋า ร้านขายโทรศัพท์อยู่ไม่ไกลนัก ชายหนุ่มเดินเข้าไปในร้านและพยายามรวบรวมคำพูดง่ายๆ เพื่อเจรจาเป็นความโชคดีที่เขาเคยมีเลขานุการเป็นสาวไทย หล่อนสอนให้เจ้านายหนุ่มหัดพูด เพื่อจะได้พูดคุยรู้เรื่องโดยไม่เสียเปรียบ เพราะนักธุรกิจคนไทยส่วนมากเขี้ยวลากดิน มันเลยเป็นความโชคดีที่ดิดิเย่ร์ลงมือในประเทศที่เขาสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้โดยไม่ต้องใช้แค่ภาษามือ... “มีอะไรให้รับใช่ไหมครับ? เอ่อพูดภาษาไทยได้ไหมเอ่ย” หนุ่มเจ้าของร้านทักเสียงใส เมื่อมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาในร้าน แต่เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาเต็มๆ เขาเริ่มปวดหัวจี๊ดเพราะลูกค้าคนที่เข้ามาตาสีฟ้าแจ่ม ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไม่ใช่ชายไทย “ได้นิดหน่อย!” “แหมรอดตัวไปที...อยากได้อะไรครับ? โทรศัพท์หรือที่ชาร์จแบต” เขาบ่นเบาๆ ค่อยโล่งอก หากสื่อสารกันไม่รู้เรื่องมันจะพาลปวดหัวเปล่าๆ “โทรศัพท์ฉันต้องการโทรศัพท์” คนขายมองจากสภาพการแต่งตัวของลูกค้า ต่อให้เป็นฝรั่งมังค่า แต่มาแบบเสื้อยืดรองเท้าแตะหูคีบแบบนี้ คงไม่ค่อยมีเงินเท่าไร? เขาหยิบโทรศัพท์ราคากลางๆ ขึ้นมาวาง พร้อมทั้งแจ้งราคาซึ่งแวซ็องพยักหน้าเข้าใจ งบในกระเป๋ามีจำกัด แต่เขาต้องรีบหาตัวช่วย โทรศัพท์เครื่องเล็กราคาไม่แพง แต่ก็เล่นเอาเงินที่เพิ่งได้มาพร่องเกือบหมด มหาเศรษฐีอย่างเขาต้องมาคำนวนรายจ่ายอย่างกระเหม็ดกระแหม่เป็นครั้งแรก แค่คิดก็อยากหัวเราะ...ก็เพราะความสมเพชที่มีต่อดิดิเย่ร์ ยังไงไอ้หมอนั่นก็เป็นน้องชายเขา เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเข้าใจผิดรอให้ดิดิเย่ร์ใจเย็นลง เขาจะเข้าไปปรับความเข้าใจกับมันใหม่ แต่เวลานี้ต้องหาที่ซ่อนตัวหลบเพลิงโทสะของสามีขี้หึงให้พ้นเสียก่อน แวซ็องเดินออกมาจากร้านขายโทรศัพท์ เขาหามุมสงบเพื่อต่อสายหาน้องชาย ชายหนุ่มภาวนาในใจ...เขาแทบจะวิงวอนพระเจ้าเลยแหละ ก็ไอ้น้องชายตัวแสบมันรับสายคนแปลกหน้าที่ไหนกัน หากมีเบอร์แปลกๆ ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวเซดริกกดทิ้งแบบไม่ใส่ใจ “รับเถอะๆ ตังกูมีน้อยไอ้เวรเซดริก!” เขาสบถสลับกับด่า ฟังเสียงสัญญาณที่ดังขึ้น แต่กลับไม่มีการกดรับจากปลายสาย “โว้ย!! รับสิโว้ยยยย” เสียงเรียกเข้ายังดังไม่หยุด เซดริกชะโงกหน้ามองหน้าจอที่กะพริบถี่ๆ เขาบ่นพึม “เบอร์ใครวะ?” งานกองสุ่มหัวจนทำไม่ทันก็พี่ชายสุดหล่อหนีไปพักร้อน...เขาเลยต้องอยู่โยงเฝ้าเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์คนเดียว จริงสิ!! ตั้งแต่เมื่อวานช่วงหัวค่ำ จนกระทั่งถึงตอนนี้...เขายังไม่สามารถติดต่อแวซ็องได้สักครั้ง ไอ้หมอนั่นคงไม่ได้นอนเพลินจนลืมตื่นและนิสัยแอคทีฟอย่างพี่ชายเขาไม่น่าจะนอนหลับเพลินขนาดนั้น ชายหนุ่มตงิดๆ เขาตัดสินใจกดรับสายหลังจากปล่อยให้มันดังอยู่นาน “ไอ้หอกหัก! กว่าจะรับได้ โทร. กลับมาด้วยกูไม่มีตัง” เสียงแวซ็องโวยดังลั่น!! เซดริกกำลังจะถามอีกฝ่ายก็ชิงวางสายเสียก่อนแล้ว เสียงสัญญาณดังตูดๆ อาจจะเป็นเพราะเงินในโทรศัพท์อาจจะหมด เกิดอะไรขึ้นล่ะ? แม้จะยังงงๆ แต่เซดริกก็รีบกดต่อสาย พร้อมกับรีบถาม เมื่อเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแวซ็อง? “เฮ! พี่ชายนายเปลี่ยนเบอร์ทำไม? ฉันพยายามติดต่อนายแต่ไม่มีคนรับสายเลย” “เอาเรื่องไหนก่อนดีล่ะ มันเกิดขึ้นเยอะจนฉันเองยังมึน” แวซ็องทรุดนั่งบนเก้าอี้ข้างทาง จุดจอดรถโดยสารประจำทาง เขากวาดตามองรอบตัว เมื่อไม่คนรู้จักไม่มีใครสนใจเลยเริ่มต้นคุยกับเซดริกได้อย่างสบายใจขึ้น “เล่ามาเลยพี่...ฉันต้องการรู้ทุกเรื่องเลย” คนใจร้อนกรอกเสียงตอบและรอฟังอย่างตั้งใจ “ไอ้ดิดิเย่ร์มันส่งคนมาเก็บฉันนะสิ...ไอ้เวรตะไรนั่นหึงโหดฉิบ!” “ไอ้ลูกหมา!” เซดริกสบถลั่น “ฉันหลบมันได้ แต่มันยึดรถฉันกับโทรศัพท์ไปเสียนี่...ตอนนี้ฉันเลยตกอับไม่มีเงินสักบาท” แวซ็องพูดเพลียๆ เขาไม่ได้บอกน้องชายเรื่องถูกรูดทรัพย์จากโจรกระจอกเสียอีกอย่าง มันเป็นเรื่องซวยซับซวยซ้อน “พี่ต้องการอะไรว่ามา...เดี๋ยวฉันจัดให้” เซดริกเกือบหัวเราะก๊ากๆ ...เขารีบย้อนถาม มโนสภาพของพี่ชายไม่ออกเลยสักนิด ชายหนุ่มมาดเท่หรูตั้งแต่หัวจรดตีน หากไม่มีเงินในกระเป๋าเท่ากับนกไร้ปีก เป็นปลาไร้ครีบหาง มันคงทำให้พี่ชายหงุดหงิดสิ้นดี “แม่มคราวซวย...มาทีหลายซับหลายซ้อน ฉันหนีไอ้ลูกหมาดิดิเย่ร์ได้ แต่กลับถูกโจรกระจอกรูดทรัพย์ซวยมหาซวยเลยว่ะ" เสียงบ่นยังดังไม่หยุด…ชายหนุ่มหลุดปากบอกเซดริกจนได้ เขาไม่เคยมีความลับกับน้องชายคนนี้ “เอาน่า...นึกว่าเทพีแอโฟรไดลงโทษพี่ก็แล้วกัน ต่อไปนี้คงไม่มีแล้วล่ะ พี่ก็รีบหาทางเคลียร์กับไอ้ลูกหมานั่นเร็วๆ สิ” “ปล่อยให้มันบ้าไปก่อน...อีกสักพักมันก็จะรู้เอง” แวซ็องพยายามเป็นพี่ที่เข้าใจน้อง เมื่อเขาเป็นหัวหอกของออกัสตัส “เอาเงินสดใช่ไหมพี่ชายจะได้ให้คนหอบเอาไปให้สักล้านสองล้าน” “อย่าเวอร์ว่ะ...เอาบัตรเครดิตลูกน้องแกมา ของใครก็ได้ วงเงินไม่เกินสองแสนแค่นี้ล่ะที่ฉันต้องการ” “โว๊ะ!! อย่างพี่นี่นะจะใช้เงินแค่นั้น แล้วพี่จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร” “เออสิ!! ฉันจะหลบไอ้ดิดิเย่ร์ก็ต้องเนียนหน่อย” “ไม่ม้าง!! ... ฉันว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่แน่?” “ไม่มี๊!” ตอบเสียงสูงปรี๊ดแสดงถึงพิรุธ...แค่นี้เซดริกก็จับไต๋พี่ชายได้แล้วล่ะ ไอ้ที่บอกว่าจะหลบคงมีบางอย่างเป็นแรงจูงใจและไอ้ที่สามารถรั้งพี่ชายจอมเจ้าชู้ของเขาไว้ได้ ก็น่าจะเป็น... ผู้หญิง... “ด่วนจี๋...เลยใช่ไหมพี่ชาย บอกพิกัดมาจะส่งคนเอาไปให้” เซดริกคงต้องส่งคนไปเฝ้าระวังภัยให้แวซ็องอีกทาง แต่คงต้องอยู่ห่างๆ เดี๋ยวไอ้หมาดิดิเย่ร์มันตามดมกลิ่นเจอ หลังวางสายเซดริก ชายหนุ่มล้วงเงินในกระเป๋าออกมานับหลังจ่ายค่าโทรศัพท์ จ่ายค่าข้าว เขาเหลือเงินอีกพันกว่าบาท
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม