นี่เป็นโฉมหน้าอีกด้านของคนที่เคยรักเธอมากกว่าสิ่งใด หยาบร้ายจนมัสมินคิดไม่ออกว่าจะพูดอย่างไรให้เขาเข้าใจเจตจำนงอันแท้จริงของเธอ
“ริคคะ...”
“คุณยังจำชื่อผมได้อีกหรือ...ผู้ชายโง่ ๆ คนหนึ่งที่ให้คุณหลอกใช้เอาเงินไปหาความสบายของตัวเอง!”
ลอวเรนซ์สวนกลับมาทันควันที่หญิงสาวนั่งเบาะข้างตัดสินใจทำลายความเงียบด้วยการเรียกชื่อเขา มัสมินเหลือบแลใบหน้าเครียดเคร่งและดวงตาส่องประกายกล้าแข็งมองไปข้างหน้าบนเส้นทางทอดตัวคดเคี้ยวตามแนวหาดทรายใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ เธออยากจะอยู่นิ่งเฉยหากไม่เห็นว่าเขาเหยียบคันเร่งจนตัวเลขบอกความเร็วบนหน้าปัดดิจิทัลทะลุพิกัดที่กำหนดบนท้องถนนไปมากแล้ว ตัวตนของเขานอกจากโมหะแรงยังบ้าบิ่นจนเธอนึกไปไม่ถึงว่าอีกด้านของเทพบุตรจะเป็นยิ่งกว่าซาตานมาจุติ
“ริค! คุณขับรถเร็วไปแล้วนะคะ!” มัสมินตัดสินใจโพล่งออกมาขณะมือบางกุมกระเป๋าไวโอลินบนตักไว้แน่น และดูเหมือนจะได้ผล ลอวเรนซ์ชลอความเร็วลงหากแต่กลับหักพวงมาลัยรถลงทางหาดทรายเปล่าร้างผู้คน เมื่อรถสปอร์ตหรูสีน้ำเงินอาบประกายระยับของแสงจันทร์จอดลงสนิทมัสมินจึงตัดสินใจอีกครั้งเปิดประตูรถและก้าวพรวดออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เธอลืมเสียสนิทว่าพื้นเบื้องล่างเป็นหล่มทราย ทันที่ที่รองเท้าส้นสูงสี่นิ้วหยั่งลงไปร่างนั้นจึงเสียหลักล้มนั่งอยู่ข้างรถสปอร์ตคันงาม
“จะรีบไปไหนล่ะ...มิวซีอา...ผมกับคุณ เรายังไม่ได้คุยกันให้รู้เรื่องสักนิด”
เสียงเย็นเยือกดังขึ้นพร้อมร่างสูงใหญ่ก้าวมายืนพิงข้างรถของเขามองดูหญิงสาวซึ่งนั่งนิ่งบนทรายนุ่มโดยไม่ยอมให้ความช่วยเหลือหนำซ้ำยังเหยียดรอยปากหยักราวสมเพชกับภาพที่ร่างบางกำลังปลดสายรัดรองเท้าส้นสูงและดึงมันทิ้งไปอย่างทุลักทุเล
มัสมินดูราวผู้หญิงหมดสิ้นหนทางเมื่อร่างบางในชุดราตรีคล้ายคนหมดแรงนิ่งอยู่กับที่แทบไม่อยากลุกไปไหน เธอหันไปมองใบหน้าคมคายของคนแล้งน้ำใจที่ก็ยังทนยืนดูอยู่ได้ไม่คิดจะช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น เขาไม่เคยรักเธอเลยหรืออย่างไร คิดแล้วน้ำตาแห่งความน้อยใจก็พาลไหลออกมา
“ให้ฉันกลับที่พักเถอะค่ะ ริค ...ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ”
“ใช่สิ มิวซีอา!...ในเมื่อคุณได้เงินจากพ่อของผมไปจนอิ่มแล้ว คุณก็คงไม่อยากพูดอะไรอีก คงต้องสงบปากสงบคำไว้คอยตีหน้าซื่อหลอกเอาเงินจากผู้ชายหน้าโง่คนอื่นต่อไป คุณมันโสเภณีชัด ๆ! “
หญิงสาวแทบหยุดลมหายใจของตัวเองเมื่อคนร่างใหญ่กระชากไหล่ทั้งสองของเธอฉุดลากร่างนั้นไปจนถึงที่น้ำกลิ้งมาบรรจบกับหาดทรายก่อนคลื่นสลายเป็นฟองฟ่อง
“ริค!...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคะ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณเป็นเจ้าของเซลิโน่ ถ้าคุณไม่พอใจที่เห็นฉันอยู่ที่นี่ ฉันก็จะไปให้พ้นหน้าคุณเสียคืนนี้เลยก็ได้!”
“คุณคิดอะไรง่ายแบบนี้เสมอเลยสินะมิวซีอา! ผมเพิ่งรู้ว่าคุณชอบหากินง่าย ๆ ด้วยการใช้ตัวเองเข้าแลกไม่เคยกลัวว่าชื่อเสียงตัวเองจะป่นปี้ยังไง คุณขู่พ่อผมใช่มั้ยให้จ่ายคุณสิบล้านไม่อย่างนั้นจะไม่ยอมปล่อยผมกลับอิตาลี คุณแอบไปทำความตกลงกับพ่อผมคงเห็นว่าท่านเชื่อคนง่าย คุณยอมแลกทุกอย่างเพื่อเงินแม้แต่ใช้ความรักของคนอย่างผมเป็นเครื่องมือ คุณทำแบบนี้กับผู้ชายมาแล้วสักกี่คน เลว! จะให้ใช้คำว่าอะไรถึงจะเหมาะกับคนไร้ศักดิ์ศรีอย่างคุณ!”
“ไม่นะคะ...ลอวเรนซ์”
มัสมินปล่อยน้ำตาให้ไหลพรากเมื่อได้ยินคำบริภาษจากเขาผิด ๆ จิอานนี่พูดกับเขาเช่นนั้นหรือ...ทำไมพ่อของเขาจึงโยนความผิดให้เธอรับไว้ทั้งหมดทั้งก็รู้อยู่แก่ใจ
เธออาจผิดที่รับเงินจำนวนนั้นด้วยความจำเป็น หากแต่ใยผู้หยิบยื่นให้จึงทุบทำลายความดีของเธอไม่มีเหลือ และการแก้ตัวย่อมไม่ใช่ทางออกในเวลานี้ หญิงสาวรู้ดีว่าคำพูดผิดวิถีอาจทำให้ชีวิตย่อยยับในพริบตา
“คุณหลอกเอาเงินจากพ่อผมตั้งสิบล้านทั้งที่คุณก็รู้ดี...” ชายหนุ่มดึงร่างระหงเข้าหาอกกว้างก่อนเค้นเสียงลอดไรฟันอยู่ชิดใบหูของหญิงสาว
“ว่าคุณไม่ได้สูญเสียอะไรเลยนอกจากคำโกหกหลอกให้พ่อผมคิดว่าผมจะอยู่กับคุณไม่กลับฟลอเรนซ์ เขาตามผู้หญิงต่ำ ๆ อย่างคุณไม่ทัน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมไม่เคยได้ลิ้มลองคุณแม้แต่ครั้งเดียว!”
“แต่ทุกอย่างก็จบสิ้นไปแล้ว นุ่นแค่ต้องการให้คุณกลับไปอิตาลีเพื่อที่คุณจะได้ไปอยู่กับคนที่เหมาะสม”
“เหลวไหล! ใครจะไปคิดว่านั่นเป็นความหวังดีจากผู้หญิงหิวเงินอย่างคุณที่รับเช็คสิบล้านไปแล้วยังจะมีหน้ามาบอกว่าให้ผมได้อยู่กับคนที่เหมาะสม คุณเอาเงินหายเข้ากลับเมฆไปทั้งที่ผมยังไม่ได้อะไรเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนแม้แต่นิดเดียว ถ้าผมรู้สักนิดว่าคุณจะเล่นเกมกับคนอย่างผมแบบนี้ ผมก็จะได้ใช้ตัวคุณซะให้คุ้มกับเงินที่พ่อผมต้องเสียไป!”
“คุณอยากได้อะไรคะริค...ถ้าคุณอยากได้เงินคืนนุ่นจะหามันมาให้คุณ แต่อย่าทำกับนุ่นแบบนี้”
“เมื่อก่อนผมคิดว่าจะถนอมคุณไว้ หลงงมงายคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์หวงศักดิ์ศรีของตัวเอง เงินมากมายขนาดนั้นอยากรู้นักว่าจะหามาใช้คืนได้ยังไงไหวถ้าไม่ไปเป็นอีตัวจับเศรษฐีหน้าโง่มาปอกลอก ผมไม่ต้องการเศษเงินนั่นหรอก แต่ที่ผมต้องการคือชีวิตของคุณ!”
“ริค!”