“มันไม่ลงว่ะ” ทั้งสามมาถึงยังที่หมายเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว กระทั่งตอนนี้จะสามทุ่ม ฟีนิกซ์ยังไม่มีทีท่าว่าจะลงจากรถ แล้วพวกเขาต้องมานั่งเฝ้ามันอยู่แบบนี้น่ะเหรอ ดูเสียเวลาชีวิตฉิบหาย
“หรือมันจะรู้ตัววะ” ฟลินต์พูดขึ้นด้วยความสงสัย หรือเพื่อนเขาจะรู้ตัวแล้วว่าถูกสะกดรอยตาม
“มีส่วน” แผ่นดินเอ่ยอย่างเห็นด้วย
“กูว่าไม่” แต่เพลิงกัลป์กลับไม่คิดแบบนั้น เหมือนฟีนิกซ์กำลังรอเวลา ทั้งสามจ้องไปยังรถคันที่มีเพื่อนตัวเองอยู่ข้างในซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล เนื่องจากรถฟีนิกซ์เป็นกระจกทึบเลยยากที่จะมองเห็นคนด้านใน
“รอดูอีกสักหน่อย” เผื่อว่ามันจะรอเวลาตามที่บอกไป
“.....” ฟีนิกซ์นั่งทอดสายตามองตรงไปยังเหล่าบอดี้การ์ดหน้าร้านที่เดินวนไปวนมา เขามาถึงได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว เพียงแต่ยังไม่ลงไปเท่านั้นเอง หลุบตามองเวลาก็เห็นว่าใกล้จะสามทุ่มแล้ว ทว่าทำไมคนที่รอยังไม่เข้างานอีก ไหนบอกว่าเข้างานหนึ่งทุ่มไง นี่ก็ผ่านมาจะสองชั่วโมงแล้วยังไม่เห็นโผล่มาอีก
แล้วในขณะนั้นเอง..
เอี๊อด
ปัง (เสียงปิดประตูรถ)
ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจหรอกกะอีแค่รถขับมาจอดหน้าร้าน พอคนเห็นคนที่ลงมาจากรถเท่านั้นแหละ ใบหน้าเรียบนิ่งแปรเปลี่ยนเป็นดุดันทันที นี่น่ะเหรอมาทำงาน
“หึ~”
“เดลไปทำงานก่อนนะพี่ทาม” เสียงหวานบอกกับรุ่นพี่หนุ่มที่พ่วงตำแหน่งเจ้าของร้านแห่งนี้
“เดี๋ยวก่อนเดล” เปิดประตูลงจากรถอ้อมไปหาคนตัวเล็กอีกฝั่ง
“คะ” หญิงสาวทำหน้างุนงงเมื่อช่อดอกไม้กับกล่องของขวัญถูกห่ออย่างดียื่นไปตรงหน้า
“สุขสันต์วันเกิด”
“พี่ทาม..” พี่ทามยังจำวันเกิดเธอได้ ตั้งแต่รู้จักทามกับแฟนสาว ทั้งสองก็ทำให้เธอมีวันเกิดทุก ๆ ปีเหมือนอย่างคนอื่น
“ห้ามร้องนะยัยเด็กขี้แย” เด็กคนนี้ไม่ว่าตนกับแฟนสาวจะทำอะไรให้มักจะอ่อนไหวทุกทีเลย
“ก็ดูพี่สิ ฮึก~”
“ของขวัญจากพี่กับเนย พี่ขอให้เดลมีความสุข พบเจอผู้คนที่มอบแต่ความรักให้ ขาดเหลืออะไรให้บอกพี่สองคนได้เลยไม่ต้องเกรงใจ เราเป็นน้องสาวของพี่กับเนย อย่าคิดว่าพี่จะมองเราเป็นอื่น”
ด้วยนิสัยที่น่ารัก ขยันอดทน เป็นผู้หญิงตัวเล็กแต่ความรับผิดชอบสูงมาก โมเดลเป็นคนที่ทำงานเก่ง หนักเอาเบาสู้ ทำให้ทามกับแฟนสาวชอบในความขยันของเด็กคนนี้มาก และก็พอรู้ว่าทางบ้านโมเดลเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าเขาและแฟนไม่ยื่นมือช่วย แต่โมเดลยังคงเป็นโมเดล เธอชอบทำงานหาเงินเองมากกว่า ถ้าจะให้ช่วยเฉย ๆ เธอไม่มีทางรับแน่นอน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ตนกับแฟนคอยหยิบยื่นงานให้ตลอด
“ขอบคุณมากนะคะที่ไม่ลืมน้องคนนี้”
“ลืมได้ไง มีแต่เด็กบางคนนั่นแหละลืมพี่”
“อะไรกัน เดลไม่ได้ลืมสักหน่อย”
“พรุ่งนี้ว่างไหม”
“ทำไมเหรอคะ”
“พี่เนยให้มาชวนเราไปเที่ยวด้วยกัน” พรุ่งนี้เขากับแฟนสาวมีแพลนจะไปเที่ยวทะเล หากแต่เนยแฟนของเขาอยากให้โมเดลกับน้องชายไปด้วย ถือว่าเที่ยวพักผ่อน
“พรุ่งนี้เหรอ..”
'มะรืนทำอาหารเยอะหน่อย'
ทว่าคำพูดของใครบางคนก็ผุดขึ้นมาในหัว
“พรุ่งนี้เดลไม่ว่างค่ะ”
“ไม่เป็นไร เอาไว้มีโอกาสเราค่อยไปด้วยกัน ส่วนนี่ของเจ้าเด็กดื้อ” แล้วถุงของเล่นเด็กก็ถูกยื่นมาตรงหน้าอีกครั้ง
“ขอบคุณแทนเลโก้ด้วยนะคะ”
“ไปทำงานเถอะ”
“เดลไปแล้วนะคะ”
“อืม”
“ทำงาน หึ~” ร่างสูงเปิดประตูก้าวลงจากรถเดินตรงเข้าไปในร้านด้วยท่าทีนิ่งขรึม เมื่อเข้ามายังด้านใน สายตาคมกริบขยับมองหาที่นั่งที่คิดว่าเป็นส่วนตัวที่สุด กระทั่งเหลือบไปเห็นโซฟาที่ตั้งอยู่มุมลึกสุดของร้าน ไม่รอช้าเท้าหนักตรงดิ่งไปยังโซฟาทันที
“สวัสดีครับ” แล้วไม่นานพนักงานก็เข้ามารับออเดอร์
“มีไวน์ไหม”
“มีครับ”
“เอาตัวที่แรงสุดมา” รู้สึกหงุดหงิดภายในใจ คงต้องหาอะไรมาดับอารมณ์ที่มันกำลังปะทุอยู่ตอนนี้สักหน่อย
“ได้ครับ” จากนั้นพนักงานก็แยกตัวออกไป ฟีนิกซ์กวาดสายตามองสำรวจไปรอบ ๆ บริเวณ บรรยากาศก็ไม่ได้แย่ ถือว่าใช้ได้เลย ปกติเขาต้องเป็นฝ่ายดูแลลูกค้าร้านตัวเอง พอมาเป็นลูกค้าร้านอื่นดูบ้างก็แปลกอยู่เหมือนกัน หรือเป็นเพราะเขาไม่ชอบไปไหนมาด้วยเลยไม่ชิน ต้องบอกก่อนว่าฟีนิกซ์ไม่ใช่คนชอบเที่ยวเหมือนเพื่อนอีกสามคน เวลาที่มีส่วนใหญ่จะอยู่แต่บ้าน แล้วคอนโดนั้นเขาแทบไม่เข้าไปอยู่เลย พอมีเธอเข้ามา เขาก็ไม่ได้กลับบ้านเหมือนทุกครั้ง ไม่รู้สิ แต่จู่ ๆ ก็ชอบวิวที่คอนโดขึ้นมา
มุมหนึ่งของร้าน
“มึงดูมัน เมื่อวานเราพยายามโทรหาชวนแทบตายมันไม่รับ แล้วดูวันนี้ดิ” เพลิงกัลป์สบถออกมาด้วยความหงุดหงิด ที่ไหนได้มันก็แอบมาดื่มคนเดียวนี่เอง ทั้งสามนั่งแอบอยู่มุมหนึ่งของร้าน สายตาคอยมองหาเหยื่อ อยากรู้ว่าผู้หญิงที่เพื่อนติดหน้าตาจะเป็นยังไง
“มันคงเบื่อมึงแหละ”
“เบื่อมึงนั่นแหละ”
“เบื่อมึง”
“สัส พวกมึงจะเถียงกันทำส้นตีนอะไร” ฟลินต์ต้องห้ามศึกก่อนที่มันสองตัวจะลงไปต่อยกันที่พื้น แม่งไม่น่าเลยเขา ไม่น่ามากับพวกมันเลยจริง ๆ
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง”
“อย่าลืมมาเอาด้วยล่ะ”
“ยังอีก”
“เหอะ/เหอะ”
“โมเดล”
“ค่ะพี่เมฆ”
“ออเดอร์ลูกค้าโต๊ะแปด”
“ได้ค่ะ” หญิงสาวเข้าไปรับออเดอร์เพื่อนำไปเสิร์ฟลูกค้าที่โต๊ะ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังจะเจอกับใคร
ตึก ตึก
“ขออนุญาตค่ะ..” ประโยคหลังเบาลงเมื่อสบตาเข้ากับลูกค้าที่กำลังมองมา
“วางสิ”
“คะ..ค่ะ” ตกใจอยู่ไม่น้อยที่เจอเขา ไหนเมื่อเช้าพี่อคินบอกว่าเขากลับดึกยังไงล่ะ แล้วเธอก็มารู้จากอคินว่าเขาน่ะเป็นเจ้าของบริษัทหลายแห่ง งานที่ทำอยู่จึงค่อนข้างยุ่ง บ้างวันต้องกลับดึกเนื่องจากประชุมงาน ทว่าทำไมเขาถึงมาโผล่ที่ร้านได้ล่ะ
“ไหนบอกเข้าหนึ่งทุ่ม”
“ใช่ค่ะ”
“....” แต่ที่เขาเห็นมันไม่ใช่ เธอมาถึงร้านเกือบสามทุ่ม ทั้งยังมากับผู้ชายสองต่อสอง
“คุณจ้องหน้าฉันเหมือนมีอะไรผิดปกติอย่างนั้นแหละ” มือเล็กเลื่อนขึ้นจับใบหน้าตัวเองเพื่อเช็กดูว่ามีอะไรติดหน้าไหม
“....”
“ฉะ ฉันกลับไปทำงานก่อนนะคะ”
“....” เขายังคงนิ่งไม่พูดกับเธอ อาการของเขาเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง
ฟีนิกซ์ปล่อยคนตัวเล็กกลับไปทำงานต่อ สี่ทุ่มเมื่อไหร่เธอต้องกลับไปกับเขาเท่านั้น ไม่มีข้อแม้อะไรทั้งนั้น เพราะเขาได้บอกเธอไว้ก่อนมาแล้ว
เวลาเดินไปเรื่อย ๆ ผู้คนในร้านเริ่มแน่น ทำให้มองหาคนตัวเล็กยากมากขึ้น ฟีนิกซ์พยายามสอดส่องสายตามองหาคนของตัวเอง ไม่รู้เธอหายไปไหน ยิ่งตัวเล็ก ๆ อยู่ด้วย แล้วในตอนนั้นเอง.. อคินก็เดินเข้ามา
“นายครับ”
“มาทำไม”
“ผมเป็นห่วงเลยมาดู” อคินเห็นว่าคนเยอะเลยเข้ามาดูเจ้านาย เขาไม่ได้มาพร้อมกับฟีนิกซ์หรอก เขาตามมาทีหลัง
“....” เขาไม่ได้สนใจลูกน้องตัวเอง กระทั่งได้ยินเสียงบทสนทนาวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งดังอยู่ด้านหลัง
“เชี่ย มึงเห็นน้องคนนั้นเปล่าวะ แม่งโคตรขาวน่าเอาฉิบหาย”
“ไหนวะ”
“น้องชุดชมพูไง”
“อยากเจอหน้าเลยวะ”
“เดี๋ยวหาแป๊บ นั่นไงเดินมาละ”
“ล่อเลยไหมล่ะ”
“น่าสนใจอยู่นะ อยากได้ยินเสียงครางสาวหวานดูบ้าง”
เขาได้ยินทุกประโยคที่พวกมันคุยกันชัดเจน ฟีนิกซ์นั่งนิ่ง ทว่ารังสีความน่ากลัวได้แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ อคินเหลือบมองไปยังคนกลุ่มนั้นเล็กน้อย แล้วเขาก็รู้ว่าพวกมันพูดถึงใคร เพราะคนที่พวกมันพูดถึงกำลังเดินไปที่โต๊ะพอดี
“คนสวยจ๊ะ ถ้าพี่จะขอบะ..”
โครม!! เพล้ง
“แม่มึงตาย!” อคินสบถออกมาด้วยความตกใจ เขามองเศษขวดเศษแก้วแตกอยู่ที่พื้น เพลงที่ดังอยู่เงียบลงแทนที่ด้วยไฟร้านที่เปิดสว่างขึ้น ทุกสายตาจับจ้องมายังคนตัวโตที่เอาแต่นั่งนิ่งไม่ขยับ
“นะ นายครับ”
“คุณ!” โมเดลรีบเข้ามาดูด้วยความรวดเร็ว จังหวะที่เธอวิ่งมาได้มีแรงกระชากดึงอย่างแรง จนตัวเธอถลาล้มลงไปนั่งข้างฟีนิกซ์ หากดึงไว้ไม่ทันมีหวังได้เหยียบเศษแก้วแน่
พรึบ!
ตุ๊บ!
“อ๊ะ” ใบหน้าสวยกระแทกเข้ากลางอกอย่างแรง
“ฉันเดินไม่ไหว” เขาบอกเสียงเรียบ แววตาของเขาราวกับคนเมาไร้สติ โมเดลคิดว่าเขาน่าจะเมาหนักจนเผลอเอาเท้าไปเตะโต๊ะล้มแน่นอน
“คุณเมาเหรอ คุณ คุณฟีนิกซ์” ร่างสูงทิ้งน้ำหนักตัวจนคนตัวเล็กต้องรีบยกมือขึ้นกอดพยุงตัวเขาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นได้ล้มไปทั้งคู่แน่ ภาพที่เธอกอดฟีนิกซ์ได้ตกอยู่สายตาของคนทั้งร้าน ก่อนที่เจ้าของร้านอย่างทามจะเข้ามาดูสถานการณ์ เขาไปรับแฟนสาวกลับมาเจอเหตุการณ์นี้เข้าพอดี จึงต้องมาดูสักหน่อย
“เกิดอะไรขึ้นเดล”
"ลูกค้าเมาค่ะพี่ทาม"
"ให้พี่ช่วยไหม"
"ที่รัก อืม~" เสียงคนเมาดังขึ้น ทำเอาทามที่ยื่นมือเข้ามาหมายจะช่วยคนตัวเล็กเป็นต้องหยุดชะงักกลางอากาศ อคินทำเพียงยืนกลั้นขำมองดูเหตุการณ์เงียบ ๆ
"เดี๋ยวเดลจัดการเองดีกว่าค่ะ"
"เดลรู้จักเขาเหรอ"
"ก็..ค่ะ"
"พี่ว่าพี่ช่วยเราดีกว่า"
"ไม่เป็นไรค่ะ" เธอรีบปฏิเสธทาม แล้วหันไปหาอคิน
"พี่อคินช่วยเดลหน่อยค่ะคุณเขาเมาหนักมาก"
"ฮะ?" อย่าบอกว่าเธอเชื่อเจ้านายเขานะ ดูไม่ออกจริง ๆ เหรอวะ แล้วเขาทำไงได้อะ ก็ต้องตามน้ำไปดิ
"นายแพ้แอลกอฮอล์ด้วยสิ ทำไงดี"
"จริงเหรอคะ"
"ใช่ครับ ๆ แพ้หนักด้วย"
"งั้นรีบพาคุณเขากลับเถอะพี่"
"เดี๋ยวผมไปเตรียมรถก่อนนะครับ!" พูดจบอคินก็วิ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว
"พะ พี่"
"...." ก้มมองคนเมาพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ
"ไหวไหม"
"ไหวค่ะ"
"พี่ช่วย" ทามช่วยจับตัวฟีนิกซ์ให้ยืนขึ้น จากนั้นโมเดลก็ประคองคนตัวโตออกไปจากร้านเพื่อพากลับ ระหว่างที่พยุงฟีนิกซ์ไป เธอไม่รู้เลยว่ามีสายตาสามคู่กำลังจ้องมองมาด้วยความสนใจ
"ตอแหลเหี้ย ๆ" > เพลิงกัลป์
"แสดงเก่งมาก" > แผ่นดิน
"หึ~" > ฟลินต์