บทที่-8-ความใกล้ชิด
กะทันหัน
อลิษา นางแบบชื่อดังเห็นคนที่เธอหมายปองจะตะครุบ จับจูงมือของผู้หญิงที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่นางเอกมาร่วมงานก็หน้าบึ้งจนลืมไปว่า ตนนั้นไม่มีสิทธิ์
ความจริงเพลงพิชชามีคู่หมั้นอยู่แล้ว เธอก็รู้ดี แต่เพราะ Sex ที่นักธุรกิจสาวมอบให้ รวมทั้งเงินทองของมีค่ามันมากมายมหาศาล หญิงสาวจึงอยากได้เพียงคนเดียวไม่อยากเผื่อแผ่ใคร เมื่อผู้หญิงคนใหม่ดูมีความหมายต่อเพลงพิชชา อีกทั้งมีความสวยพุ่งจนเธออิจฉา และโคตรจะเจ็บใจ เมื่อคนที่เธอวางกับดักเอาไว้ กลับไม่ตกลงไปในหลุม
เสียงฮือฮาของนักข่าวและเพื่อนของนางแบบสาวคนสวยดังสนั่น นักข่าวต่างถ่ายรูปกันพรึบพรับ และยื่นไมค์สัมภาษณ์นักธุรกิจผู้มีอำนาจทันที
“ไม่ทราบว่า คุณเพลงพิชชารู้จัดกับน้องอลิษได้ยังไงคะ” นักข่าวทุกคนรู้ ว่านักธุรกิจคนนี้เป็นใคร และมีคู่หมั้นแล้ว แสดงว่า ข่าวลับ ๆ ที่เล็ดลอดออกมาว่า ชอบผู้หญิง มันคงเป็นความจริงแล้วสินะ
“เรารู้จักกันในฐานะที่คุณอลิษเป็นแบรนด์ให้บริษัทค่ะ” เพลงพิชชาตอบเสียงเรียบ แววตานิ่งไม่มีการวอกแวก สมกับเป็นนักธุรกิจหลายหมื่นล้าน แต่เจ้าของงานหน้าม้านกับคำตอบนั้น
“มีของขวัญอะไรให้น้องเขาหรือเปล่าคะ” นักข่าวพยายามหาข่าว เผื่องานนี้จะเป็นรักสามเศร้าเราสามคน
“ของขวัญมีค่ะ หนูสุเอาของขวัญที่เราเตรียมมาให้คุณอลิษสิจ๊ะ” เพลงพิชชาพูด
“ค่ะ…” สุพรรณษาแม้จะทำตัวไม่ถูก เนื่องจากไม่เคยมางานแบบนี้ และไม่เคยเจอนักข่าวมาก่อน แต่ยังดี ที่มีคุณอาอยู่ข้าง ๆ ไม่อย่างนั้นคงแย่
“สุขสันต์วันเกิดนะคะ ขอบคุณที่เป็น Presenter ให้บริษัทเรานะคะ นี่ค่ะของขวัญวันเกิด หนูสุเลือกให้กับมือเลยนะคะ” นักธุรกิจคนสวยพูดยิ้มๆ พลางรับกล่องของขวัญจากหลานสาวมอบให้นางแบบดังเองกับมือ
“ขอบคุณค่ะ คุณพิช” นักข่าวฮือฮาเมื่อนางแบบสาวเอ่ยชื่อเล่น เพลงพิชชายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แววตาเย็น ๆ นี่ขนาดเธอพูดว่าไม่สนิทแล้วนะ ยังจะเรียกชื่อเล่นแบบนี้อีก
“ยินดีค่ะ แต่ถ้าจะให้ดี ชื่อเล่น ควรให้คนสนิทเรียกจะดีกว่านะคะ หวังว่า เราจะได้ร่วมงานกันต่อไป” คราวนี้ไร้เสียงฮือฮา เพราะทุกคนต่างระแวดระวังว่านักธุรกิจคนดังจะมีอะไร Surprise อีกไหม
“รับสิคะ ของขวัญนี้มีค่ามาก หนูสุเลือกให้คุณอลิษาด้วยความตั้งใจและเต็มใจนะคะ” ย้ำชัด ๆ
อลิษายื่นมือออกไปรับ พยายามไม่ให้สั่น แต่ดูเหมือนจะยากเย็นเหลือเกิน
หญิงสาวรู้ดี ว่าต่อแต่นี้ ความสัมพันธ์ของเธอ และเพลงพิชชาคงหมดลงแล้ว หัวใจสาวสวยบีบรัด เธอไม่อยากยอมรับความจริงในข้อนี้เลยจริง ๆ ยังหวังว่าจะได้เงิน ได้งานและมีความสุขบนเตียงอีก แม้เธอจะนอนกับผู้ชายหลายคน แต่กิจกรรมบนเตียง หญิงสาวยกให้เพลงพิชชาเป็นอันดับหนึ่ง แล้วทำไมต้องจบแบบนี้ด้วย !
เมื่อเป้าหมายรับของไปแล้ว เพลงพิชชาจึงกดมุมปากลงเบา ๆ โดยที่ไม่มีใครเห็น
“หนูสุ อยากกลับบ้านหรือยัง”
ไม่ถามเฉย ๆ เพราะก้มหน้าสวยมาใกล้ ๆ แถมเป่าลมร้อนๆ เข้าในรูหูของสุพรรณษาอีก หญิงสาวคอย่น เกิดความรู้สึกสยิว และประหม่า ในห้องนี้มีผู้คนอยู่เยอะแยะ แต่คุณอาของเธอกลับทำโจ่งแจ้ง แล้วจะไม่ให้หญิงสาวหวั่นไหวได้ยังไง
คนทำกลับไม่สนใจ เพราะมือนุ่มได้ลูบไล้เอวของเธอแล้ว พรุ่งนี้ได้มีข่าวใหม่เกิดขึ้นแน่นอน
นักข่าวที่เห็นภาพนั้นต่างก็กดชัตเตอร์รัว ๆ พร้อมกับเสียงฮือฮาอีกครั้ง อลิษามองภาพนั้นด้วยความเจ็บใจ เหมือนกับว่าเธอโดนเอาคืน ที่คราวนั้นเธอปล่อยข่าวว่ามีนักธุรกิจคนดังออกจากคอนโดของเธอ อีกครั้งเธอเรียกชื่อเล่นเข้า รอบนี้เพลงพิชชาเลยจัดให้เธอเน้น ๆ ว่าอย่าได้ล้ำเส้นแบบนี้
นางแบบคนดังกัดฟันกรอด มือกำแน่น แล้วรีบปั้นหน้า เมื่อนักข่าวอยู่กันเยอะแยะ หากข่าวออกมาไม่ดี จะมีผลต่องานของเธอเอาได้
“หนูสุ เรากลับกันดีไหม เดี๋ยวมันจะดึกก่อน ไม่ได้ทำอะไรกันพอดี” พูดเสียงนุ่ม ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าพรุ่งนี้จะมีข่าวของตนเองหรือเปล่า จะมีผลกระทบอะไรไหม เพราะต่อให้มีภาพหลุด ว่าเธอมีอะไรกับผู้หญิงออกมาจริง ๆ ก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่ดี
เมืองไทยที่การเงินเป็นใหญ่ คนที่มีเงินมีอำนาจ จะชี้เป็นชี้ตายในสังคมยังไงก็ได้หมด จึงไม่จำเป็นจะต้องกลัวแม้แต่น้อย สุพรรณษาตัวแข็ง เมื่อคุณอาละมือจากการลูบไล้ เปลี่ยนมาเป็นการกอดเอวบางแทน หญิงสาวออกอาการเขิน ๆ ก่อนจะพยักหน้าแล้วก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาแปลก ๆ ของคนตัวโต
“เคค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจ เพลงพิชชาก็ยิ้มหวานทันที
“ขอตัวนะคะ ต่อจากนี้ขอให้คุณอลิษามีความสุขและมีงานเยอะ ๆ นะคะ” มุมปากยกขึ้นนิด ๆ ส่งไปให้เจ้าของงาน อลิษายืนตัวเกร็ง เมื่อคำอวยพรจากนักธุรกิจคนดังคล้ายกับการข่มขู่ชอบกล
“ขอตัวนะคะ” เพลงพิชชาโอบเอวของสุพรรณษาแล้วเดินออกมาจากห้อง ท่ามกลางแสงแฟลชและเสียงฮือฮาของนักข่าวทุกคน
“ตกลงชอบผู้หญิงนี่นา แล้วที่หมั้นอะยังไง หมั้นหลอก ๆ เพื่อธุรกิจงี้เหรอ”
“ถึงว่าไม่แต่งกันสักที เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง”
“พรุ่งนี้ได้ข่าวใหม่แล้ว” นักข่าวตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่นักธุรกิจสาวเปิดเผยตัวว่าชอบกินเพศเดียวกัน อลิษาฟังแล้วยิ่ง
เจ็บแค้น ทำไมถึงไม่เป็นเธอ ทำไมเธอถึงไม่ได้สิทธิ์นั้นบ้าง
“จะลงข่าวนี้ก็ระก็ระวังนะ” อีกคนเตือน
“ใช่ ๆ อย่าลืมว่าคุณเพลิงพิชชาเขาเป็นอะไร ระวังเอาไว้ให้ดี ถ้าถูกอุ้มก็อย่าโทษใครล่ะ”
พ้นจากสายตารู้เห็นของทุกคนในงานแล้ว สุพรรณษานึกว่าเพลงพิชชาคงจะเดินห่างจากเธอ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องแสดงละครอีกต่อไป แต่เธอคิดผิด เพราะคนตัวโตกลับเบียดชิดเหมือนอยากให้คนอื่นมาเห็นซะงั้น
คนเป็นอาคงไม่รู้ ว่าทำแบบนี้หัวใจของเธอก็เต้นคร่อมจังหวะ กายสาวเกิดความร้อนวูบวาบเหมือนไม่เคยต้องมือชายยังไงยังงั้น แต่อะไรบางอย่างในงาน มันยังคงติดค้างอยู่ในใจ อาพิชคงมีอะไรกับนางแบบคนสวยสาวคนนั้นจริง ๆ
อย่างที่ทองธนาบอก ดูจากสายตาที่ทั้งคู่มองกัน มันมีเลศนัยทำให้รู้สึกแปล๊บๆ ในหัวใจ ซึ่งไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่
เมื่อเข้ามาในลิฟท์สาวอีสานจึงรีบผละออกผละออกจากคนเป็นอาราวกับถูกไฟช็อต แม้อยากให้อาคนสวยกอดเอวต่อไปอีกนิดก็ตาม
สายตาของเพลงพิชชามองตามหลานนอกไส้ด้วยสายตาแพรวพราวโดยที่เธอไม่รู้ตัว
บรรยากาศรอบกายของทั้งคู่ก็ดูแปลกไป แต่ไม่เชิงว่าอึมครึม แต่ก็ไม่โล่งสักเท่าไหร่ บางครั้งสาวอีสานยังมีความรู้สึกว่า ท้ายทอยมันเย็นวาบ และสะบัดร้อนสะบัดหนาว หญิงสาวจึงห่อไหล่ แล้วขยับหนีไปอยู่มุมซ้ายมือ ห่างจากอาคนสวยเล็กน้อย เนื่องจากในลิฟท์พื้นที่ก็ไม่ได้กว้างขวางมากมายเท่าไหร่นัก
สุพรรณษาครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ถายในงาน ก็ไม่เข้าใจว่าที่อาพิชพูดแบบนั้นต้องการอะไรกันแน่ กำลังเล่นอะไรอยู่งั้นเหรอ ไม่กลัวว่านักข่าวจะเอาไปเขียนหรือยังไง เขาอาจจะใส่สีตีไข่ก็ได้ ว่าชอบกินผู้หญิง แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ จะมีผลต่อบริษัทไหม
แล้วคู่หมั้นคนนั้นล่ะจะว่ายังไงบ้าง ถ้ารู้ว่าคุณอาเคยนอนกับสาว ๆ มาแล้ว เขาจะถอนหมั้นไหม ทุกอย่างมันตีกันในสมองของเธอราวกับแข่งรถวิบาก
ทว่า หัวใจอีกส่วนมันดันรู้สึกดีใจซะนี่
สาววัยใสไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนเป็นสักเท่าไหร่ คิ้วโก่งงามดั่งคันศรพลันขมวดมุ่น จึงไม่รู้ว่าเพลงพิชชาคอยสังเกตทุกอากัปกิริยาของคนเป็นหลาน จนกระทั่งลิฟท์เปิดออก
“…..” เพลงพิชชามองดูว่าหลานสาวจะรู้สึกตัวหรือยัง แต่สิ่งที่เห็น สุพรรณษายังคงครุ่นคิด เหม่อลอยไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย นักธุรกิจสาวจึงถอนหายใจ พลางส่ายศีรษะเบา ๆ แล้วจับข้อศอกนุ่มนิ่มพาเดินออกจากลิฟท์
“…..” สาวอีสานพลัดถิ่นสะดุ้งวาบ แล้วมองหน้าคนเป็นอาทันที
“อะไร…” เพลงพิชชาถามเสียงเรียบ
“อาพิชจับแขนหนูทำไมคะ”
“หวงเหรอ…” อาสาวถาม แล้วลากแขนนุ่มตามมาติด ๆ
“เปล่านี่คะ…”
ทำไมจะต้องหวง ก็แค่…แค่ เขินนิดหน่อย
“แล้วเราจะถามอาทำไม” ถามกวน ๆ
“ก็…หนูแค่อยากรู้ ว่าอาพิช มากอดเอวหนู มาจับแขนหนูทำไม หรืออาพิษชอบผู้หญิงกันคะ” ปึ้ง ถามได้ตรงประเด็น
“แค่กอดหลาน มันผิดตรงไหน” แก้ตัวได้ดี แต่คนฟังค้อนขวับจนตาแทบถลน
“งั้นก็ไปกอดทองธนาสิคะ”
“ทำไมอาจะต้องไปกอดกับทองด้วย” ถามกลับ
“อ้าว ก็หลานนี่คะ กอดกับหลานจะเป็นไรไป” นักศึกษาคนสวยไม่ยอมแพ้
“มันคนละอย่าง”
“อย่างเดียวกันแหละค่ะ หลานเหมือนกัน”
พูดไปก็มองแขนของตนไป ก่อนจะตกใจ เมื่อถูกอีกคนลากเข้ามุมพร้อมทั้งกอดเอาไว้แนบอกอุ่น
“อะ อา”
“…..” สาวจากแดนไกลอึ้ง พูดอะไรไม่ออก
“อาเพิ่งรู้ ว่าเราเถียงเป็นเหมือนกัน” อาคนสวยพูดเสียงกระซิบ หลานนอกไส้จะทำอะไรได้ นอกจากสะท้านวูบวาบ
“อะ อาคะ อากอดหนูแบบนี้ไม่ได้นะคะ” ระล่ำระลักบอก
“ทำไมถึงจะไม่ได้” ก้มใบหน้าสวยคมลงมาใกล้ ๆ สุพรรณษาเบนหน้าหนี ทำให้จมูกโด่งประกบกับแก้มสาวเต็ม ๆ
“…..” ต่างคนต่างอึ้ง แต่นั่นใช้ไม่ได้กับเพลงพิชชา เพราะการที่ผ่านสังเวียนรักมานานจนเชี่ยวชาญ มีหรือที่จะปล่อยให้เหยื่อเนื้อหวานหลุดจากปากได้
ถึงเหยื่อจะเป็นหลาน แต่ยังไงก็ไม่ใช่เลือดเดียวกัน เธอสามารถจับกินได้ ไม่จำเป็นจะต้องสนใจ ว่าสังคมจะมองยังไง ในเมื่อคนที่ควรจะสนใจที่สุด ก็อยู่ในอ้อมกอดของเธอแล้วตอนนี้
“อาอยากรู้จัง ว่าปากเล็ก ๆ ของเราที่เถียงอาเก่ง ๆ แบบนี้ จะหวานแค่ไหน” เสียงแหบพร่าเขย่าประสาทของหลานต่างสายเลือดให้กระเจิดกระเจิง
“อะ อา อาพูดอะไร หนูไม่เข้าใจ” ความจริงเข้าใจในสิ่งที่อาสาวพูด แต่ในตอนที่สมองมันไม่จูน คำพูดจึงเปล่งออกมาเอง โดยที่ไม่ทันได้กลั่นกรอง
“ถ้าอาจูบ หนูสุจะว่ายังไง” หยั่งเชิง
“…อาพิชบ้าไปแล้ว หนูเป็นผู้หญิง แล้วจะให้อาจูบนี่นะคะ” สุพรรณษาอื้ออึง
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ผู้หญิงกับผู้หญิงก็จูบกันได้ มาลองดูหน่อยไหม รับรอง หนูสุจะชอบ”