มือบางเปิดดูกระเป๋าอีกครั้ง คล้ายๆ จะสำรวจตรวจตรา ว่าไม่ได้หยิบจับอะไรที่เป็นของเขามา เมื่อมันมีแต่สมบัติที่ตัวเองแล้วก็รูดซิปปิดไว้ดังเดิม
นาฬิกาเรือนละหลายแสนบนแขนเรียว ถูกถอดออก ดวงตาคู่เศร้าจ้องมองหน้าปัดอีกครั้ง ก่อนจะตั้งอะไรสองสามอย่างแล้ววางมันไว้ตรงโต๊ะกลาง ใกล้กับกุญแจรถหรูที่เขาสรรหามาให้ใช้
แล้วลากกระเป๋าเดินออกจากห้องไป ไม่คิดจะเหลียวกลับมามองอีก พอๆ กับตอนเดินผ่านผู้คน ที่คงจะสงสัยว่าผู้หญิงเอาตัวเข้าแลกเงินอย่างเธอ ถูกเขาเขี่ยทิ้งแล้วหรืออย่างไร
ถึงได้เข็นกระเป๋าใบเดิม เดินผ่านหน้าไปอย่างไร้ชีวิตชีวา แต่เธอไม่คิดจะสนใจคนพวกนั้นอีกต่อไปแล้ว เพราะมีความเสียใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้มาบดบังไว้
ฟ้าเริ่มมืดครื้ม แม้จะเป็นช่วงบ่าย ลมยังคงพัดกรรโชกแรง เมื่อเข็นกระเป๋าออกไปยืนรอโบกแท็กซี่อยู่หน้าคอนโดหรูหรา เห็นว่ารถติดยาวเป็นทิวแถว ไม่มีวี่แววว่าจะขยับเขยื้อนไปไหน
บวกกับความไม่อยากกลายเป็นเป้าสายตา ให้ใครต่อใครมอง เลยตัดสินใจเดินเท้าไปตามบาทวิธีเรื่อยๆ ไม่คิดจะเหลียวกลับมามองเบื้องหลังอีกเลย
‘เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!’
แม้จะมีเสียงฟ้าคำรามร้อง เสียงสายฟ้าฟาดเปรี้ยงปร้างลงมา แต่สองขาเล็กเรียวก็ไม่ยอมหยุดก้าวเดิน ความกลัวที่เคยมี
กำลังถูกความเสียใจ กับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตอีกครั้งมาบดบังเอาไว้ จนไม่หลงเหลือพื้นที่ให้มันแล้ว แม้ความกลัวจะมีติดตัวมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกก็ตามที
สายน้ำจากฟากฟ้าโปรยปรายลงมา ช่างช่วยกลบหยาดหยดน้ำตา กำลังไหลรินอาบสองแก้มลงไปได้ดียิ่ง หญิงสาวก้าวเดินต่อไป ไม่คิดจะเหลียวกลับไปมองเบื้องหลัง
และไม่คิดจะสนใจกับผู้คนบนท้องถนน ที่มองมาด้วยความสงสัย ว่าทำไมเธอถึงได้เดินตากฝนอย่างไม่แยแสใครต่อใคร
มือบางอีกข้างที่ว่างเว้นจากการเข็นกระเป๋า ยกไปลูบหน้าท้องที่มีลูกน้อยอยู่ในนั้น ลูกที่จะไม่มีวันได้รับรู้เรื่องราวของพ่อ หรือเรื่องราวของปู่ย่าตายาย ลูกที่จะมีแม่เป็นผู้หญิงไร้อดีต ไร้ญาติขาดมิตร
ชีวิตวันข้างหน้าจะสุขจะทุกข์ยังไงเธอไม่อาจจะบอกได้ รู้แต่ว่า จะรักและเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอจะทำได้ และจะไม่พาลูกหวนกลับมาหาอดีตอันเจ็บช้ำตลอดไป
ย่าเงินกำลังเก็บถั่วฝักยาวอยู่ค้าง ไม่ห่างจากบ้าน ถึงกับต้องหันไปมองหาต้นเสียงที่ดังเข้าหูมา เป็นรถตู้ของพ่อลูกชายตัวดีนั่นเอง ละไมยืนเก็บอยู่ไม่ห่างก็พลอยมองตามไปด้วย
ตั้งใจว่าจะวางตะกร้าในมือแล้วไปช่วยคนในรถ แต่เห็นเขียดกับพอดีออกมาจากรถ เลยทำงานของตัวเองต่อไปเท่านั้น
“เก็บถั่วแล้วก็ไปเก็บพริกกับมะเขือเทศด้วยนะละไม”
“ค่ะคุณย่า”
ย่าเงินวางมือจากงาน แล้วเดินไปยืนดูลูกชายกำลังถูกลิฟต์ในรถยกลงจากรถช้าๆ แม้จะดีใจที่ลูกมา
แต่ก็มีเรื่องอื่นที่ค้างคาอยู่ในหัวมาหลายวัน คิดว่าจะได้ถามลูกให้กระจ่างสักที
“สวัสดีครับคุณแม่! ทำอะไรอยู่เหรอ”
ไพทัชยกมือไหว้แล้วยิ้มให้แม่ทันทีที่วิลแชร์เคลื่อนออกจากลิฟต์ได้
“อืมๆ สวัสดี แล้วนี่นึกยังไงถึงมาหาฉันได้ล่ะ ทำไมไม่รอให้ฉันโทรตามจิกก่อนเหมือนทุกครั้ง”
ย่าเงินเหน็บลูกหนักๆ แต่ก็เดินนำลูกเข้าบ้านไปอยู่ดี โดยที่ตัวเองนั้นขึ้นบันไดที่มีเพียงห้าขั้น ส่วนลูกใช้ทางลาดตรงข้าง บันไดแทน
“แหมแม่ก็! ผมคิดถึง เลยมาหาแล้วก็เอาของมาฝากเยอะแยะด้วย”
ไพทัชหันไปมองสองคนรับใช้ กำลังขนของหลายต่อหลายถุงลงจากรถ ย่าเงินพลอยมองตามแล้วถอนหายใจหนักๆ เพราะของกินหรือของบำรุงลูกหอบมาให้ครั้งก่อนๆ ยังไม่หมด
แต่ป่วยการจะบ่น เลยเดินไปยังห้องหนังสือ เพราะลับหูลับตาคนในบ้านถ้าต้องการจะคุยเรื่องไม่อยากให้ใครรู้
“มาก็ดีแล้ว แม่มีเรื่องจะถามหน่อย ว่าแต่เจ้าเบียร์กลับหรือยังล่ะ ไหนบอกว่าไปสองอาทิตย์ไง นี่จะสามแล้วนะ ยังไม่เห็นเลย”
“จะไปรู้มันเหรอแม่ อาจจะมีความสุขกับเมียเลยเที่ยวเพลินล่ะมั้ง ช่างมันเถอะ ทำงานหนักมาทั้งชีวิต ให้มันพักนานๆ น่ะดีแล้ว จะได้มีเหลนมาฝากแม่ไวๆ ไง ไม่อยากได้เหรอ เห็นบ่นทุกครั้งที่เจอหน้าผมนี่ แล้ว...”
ไพทัชยังพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำ ก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอด ไม่เห็นก็เดาได้ ว่าเป็นสปอร์ตของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนั่นเอง ย่าเงินเป็นคนไปชะเง้อมองตรงหน้าต่าง
พอเห็นว่าเป็นใครเลยหันไปหาลูกชาย
“ตายยากจริงๆ พูดถึงปุ๊บก็มาปั๊บ ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ชำระความพร้อมกันทั้งพ่อทั้งลูก”
ไพทัชทำหน้างง ไม่รู้ว่าตัวเองกับลูกไปทำความผิดอะไรไว้ แม่ถึงจะมาชำระความ แต่เขายังไม่ทันพูดอะไร ลูกชายก็เดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าเจือยิ้มน้อยๆ แล้ว
“ย่าสวัสดีครับ พ่อสวัสดีครับ ทำไมมาอยู่นี่ได้ล่ะพ่อ” คฑาธรเดินหิ้วถุงตรงไปหาย่า ที่เพิ่งยกมือรับไหว้หลานด้วยใบหน้าไม่เบิกบานนัก
“นี่ของฝากครับย่า ส่วนของพ่ออยู่บ้านนะ มีตั้งหลายถุงกองเต็มไปหมด”
เขาหันไปยิ้มให้พ่อ
“อืมๆ ขอบใจนะ อุตส่าห์ซื้อมาฝาก แต่พ่ออยากได้หลานมากกว่า ย่าก็คงอยากได้เหลนด้วย พอจะมีข่าวดีให้หรือยัง”
คนพ่อแซวลูกน้อยๆ แล้วหันไปหาพอดีกับรวย เข้ามาพร้อมเครื่องดื่มและของว่าง แล้วออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับรู้ว่าเจ้านายมีเรื่องจะคุยกันก็ไม่ปาน
“ไวน์ไปไหนครับย่า”