อาการโล่งใจเกิดขึ้นในทันที เมื่อจอมเนี้๊ยบคว้ากระเป๋าสะพาย แล้วลุกขึ้นเดินตรงไปหาประตู พิมพ์ภิษาเดินตามไปส่งอย่างคนมีมารยาท แม้นี่จะไม่ใช่ห้องของเธอเลยสักนิดก็ตาม และดูเหมือนว่าเลขาจะคิดอะไรขึ้นได้เลยหันกลับมา
“อ้อ! เกือบลืมเตือนอีกเรื่อง สำคัญซะด้วย” พิมพ์ภิษายืนนิ่งรอฟัง
“ความสัมพันธ์ระหว่างน้องกับคุณเบียร์ มีแค่อยู่ในห้องนี้เท่านั้น อยู่ข้างนอกถ้าคุณเบียร์ไม่เอ่ยปากบอกความจริงกับใคร น้องก็เป็นได้แค่ใครก็ได้ที่แกจะแนะนำ...รับรู้กันไว้ตามนี้นะคะ”
อาการโล่งอกเกิดขึ้นทันทีที่ประตูปิดลง พิมพ์ภิษาไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งใดๆ ในห้องชุดสุดหรูและกว้างใหญ่นี้ นอกจากเดินไปหากระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง ที่คนรถยกไปวางไว้ให้บนเตียง
แล้วลงมือจัดเข้าตู้มีมากมายเหลือเฟือ เกินความจำเป็นในความคิด หรืออีกนัยก็คือเป็นเพราะเธอหอบข้าวของมาน้อยเอง
แม้จะเลยเวลาอาหารเที่ยงมาเป็นชั่วโมงแล้ว แม้ว่าเมื่อเช้าจะไม่ได้กินอะไรนอกจากกาแฟสองแก้วเท่านั้น แต่ก็รู้สึกว่าลำคอตีบตัน ไม่อยากกลืนอะไรลงไปเลย แม้กระทั่งน้ำ จึงขังตัวเองอยู่ในห้อง เพื่อปรับให้ชินกับข้าวของใหม่ๆ ที่ตายแล้วเกิดอีกไม่รู้กี่สิบชาติถึงจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของมัน
สิบโมงเช้าของวันถัดมา พิมพ์ภิษาโบกแท็กซี่แทนการขับออดี้สีขาว ไปรอรับพ่อที่โรงพยาบาล หัวใจนั้นเปี่ยมไปด้วยความหวัง ว่าจะได้เห็นรอยยิ้มแห่งความดีใจจากพ่อ
เมื่อลูกคนนี้อุตส่าห์เสียสละเรือนกาย เพื่อทดแทนบุญคุณ แต่ก็ได้แค่ใบหน้าเรียบเฉย ตอนเห็นพ่อถูกน้าลัดดาประคองออกจากรถแล้วนั่งรถเข็นต่อเท่านั้น
อดีตเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของเธอ เดินมากระซิบบอกว่าเตรียมห้องพิเศษไว้ให้แล้วเรียบร้อย ระหว่างรอพบแพทย์ ซึ่งจะต้องมีหลายคนช่วยกันวินิจฉัย
ว่าจะทำยังไงกับเนื้อร้ายนั้น หลังอ่านประวัติคนไข้ที่ได้มาจากโรงพยาบาลแรกแล้ว
“นี่มันอะไรกันคะคุณไวน์ น้างงไปหมดแล้วค่ะ”
ลัดดาเอ่ยในทันที เมื่อได้อยู่เป็นการส่วนตัวสามคน เพราะรู้ว่าสามีก็อยากถามลูกสาวไม่น้อย
หากแต่ปากหนักไม่ยอมเอ่ยเท่านั้น คนถูกถามก็เข้าใจดีในข้อนี้ เลยเดินไปทรุดกายลงนั่งเก้าอี้ข้างเตียง มีพ่อกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่
“ไวน์ได้งานใหม่ค่ะ แล้วก็เพิ่งรู้ว่าเจ้านายชาวอังกฤษรู้จักกับบริษัทนายทุน ที่จะสร้างโรงแรมริมน้ำตรงตลาดเราค่ะ ไวน์เลยเล่าให้ฟัง ว่าพวกเราไม่อยากให้สร้างแล้วยุบตลาดทิ้ง เจ้านายไวน์ก็เห็นด้วยเพราะแกชอบวิถีชาวบ้านค่ะ”
“เหรอคะ”
ลัดดาทำตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ ส่วนขจรนั้นยังคงนั่งนิ่ง ฟังแล้วจับตามองลูกสาวเท่านั้น นั่นทำให้คนกำลังแต่งเรื่องโกหกพ่อ รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาได้ไม่ยาก
แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง นอกจากเดินหน้าเล่าเรื่องที่คิดมาทั้งคืนแล้วต่อไป
“เจ้านายเลยเสนอซื้อที่ดินแปลงนั้นทั้งหมด แล้วบอกไวน์ว่าจะปล่อยไว้แบบนั้น จนกว่าตลาดจะปิดตัวลงเองค่ะ”
“แล้วเรื่องรักษาพยาบาลนี่ล่ะคะ”
ลัดดามีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่เมื่อเห็นสามีไม่ว่าอะไรเลยถามข้อสงสัยอื่นต่อ
“บริษัทนี้ร่ำรวยมากค่ะ นี่เป็นสวัสดิการให้พนักงาน ที่ตกลงใจจะไปฝึกงานอยู่ต่างประเทศสักหกเดือนหรือหนึ่งปี เพื่อกลับมาเป็นผู้จัดการดูแลสาขาในประเทศไทยต่อไปค่ะ”
“หมายความว่าคุณไวน์”
“ค่ะ ไวน์จะไปฝึกงานอยู่อังกฤษ เพื่อคุณพ่อจะได้มารักษาแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยไงคะ แล้วน้าดากับน้องๆ ก็ได้สิทธิ์นี้เหมือนกันด้วยค่ะ ระหว่างไวน์ไม่อยู่ คงจะต้องรบกวนน้าดาช่วยดูแลคุณพ่อแทนแล้วล่ะค่ะ”
“ทำยังกับแกมีเวลาไปดูแลฉันอย่างงั้นล่ะ”
แม้น้ำเสียงประชดประชันจะออกจากปากพ่อ แต่พิมพ์ภิษาก็อ่านได้จากท่าทีว่า พ่อไม่เคร่งเครียดเหมือนเก่าแล้ว แค่นี้เธอก็ชื้นใจขึ้นมาเป็นกองแล้ว
เมื่อได้ทำให้พ่อคลายกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายลง
“แล้วแน่ใจเหรอ ว่าเจ้านายแกจะไม่เปลี่ยนใจไปสร้างโรงแรมซะเอง”
นี่คือข้อกังวลเดียวในใจขจร แต่ก็ลดน้อยลงกว่าวันก่อนแล้ว เพราะเมื่อเช้าก่อนออกจากบ้าน ได้ข่าวจากคนในตลาด ว่าทีมงานขนข้าวของออกจากหน้างานไปบางส่วนแล้ว
นั่นแปลว่าลูกก็คงไม่โกหกหรือ หลอกเป็นแน่ แต่ก็ไม่อยากจะแสดงความรู้สึกผ่อนคลายออกมาให้เห็นมากนัก เลยนั่งหน้าขรึมแบบเดิมระหว่างรอฟังคำบอกของลูก
“ไม่หรอกค่ะคุณพ่อ เพราะเจ้านายเป็นคนรักธรรมชาติค่ะ เห็นแกบอกว่าจะไม่ทำอะไร จนกว่าตลาดพวกเราจะปิดตัวลงเท่านั้นค่ะ คุณพ่อสบายใจได้นะคะ”
“น่ารู้เร็วกว่านี้หน่อย จะได้ไม่ขายร้านให้กำนันเอียด เสียดายจังเลย” เพราะเขาเพิ่งรับเงินมาเมื่อวันก่อนเอง
“แต่ดาว่าขายเอาเงินไปไถ่ที่สวนไว้ก็ดีแล้วล่ะค่ะคุณพี่ ตอนนี้กำนันก็ยังให้เราเช่าร้านขายต่อได้ ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วนะคะ คุณพี่อย่าคิดเรื่องอื่นอีกเลยค่ะ คิดแค่เรื่องรักษาตัวให้หายก็พอนะคะ”
“จริงด้วยค่ะคุณพ่อ เนื้อร้ายไม่ค่อยถูกกับความเครียดเท่าไหร่นะคะ”
“เป็นหมอเหรอ ทำเป็นมารู้ดี”
พิมพ์ภิษาไม่กล้าต่อปากต่อคำกับพ่อ แต่ก็ดีใจไม่น้อย เมื่อเห็นใบหน้าอันเคร่งขรึม มีแววแย้มยิ้มน้อยๆ ออกมา แค่นี้จริงๆ ที่ลูกอย่างเธออยากได้ อยากเห็นจากพ่อมาแทบจะตลอดชีวิต
“แล้วนี่จะไปเมื่อไหร่ล่ะ”
“เอ่อ! ยังไม่มีกำหนดแน่นอนค่ะ อาจจะอาทิตย์หน้าหรือเดือนหน้านะคะ ไวน์อยากให้การผ่าตัดของคุณพ่อผ่านไปก่อน ไม่รู้ว่าเจ้านายจะยอมให้รอขนาดนั้นหรือเปล่านะคะ”
“โอ๊ย! แกจะไปไหนก็ไปเถอะ ไม่ต้องมารอฉันหรอก แกอยู่ก็ใช่ว่าจะช่วยหมอรักษาฉันได้ เดี๋ยวรอนานๆ เขาได้เฉดหัวออกจากงานอีก ได้อดตายกันพอดี ฉันจะนอนพักระหว่างรอหมอดีกว่า เหนื่อย! จะไปไหนก็ไปเหอะไป๊ทั้งสองคน”