เขาถึงกับถอนหายใจหนักๆ ให้กับความเผด็จการเกินเหตุของตัวเอง ก่อนจะใช้เหตุผลมากกว่าอำนาจอธิบายออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบราบ
“ผมมีกฏแบบนี้ก็เพราะว่า ผู้หญิงทุกคนที่ผมเอามาอยู่ด้วย มักจะมีปัญหาเรื่องเงินค่านั่นนี่ของครอบครัวมาให้ผมปวดหัวอยู่เรื่อยๆ เวลากลับบ้านไปเยี่ยมใครก็ตาม ไม่พ่อก็แม่ หรือไม่ก็ปู่ย่าตายาย จะต้องมีจ่ายนั่นนี่ตลอด ผมไม่ใช่คนขี้เหนียวอะไร แต่ไม่ชอบการรีดไถเงินด้วยวิธีนี้ เพราะผมรู้ดีว่าคนที่ผมเลี้ยงคิดหรือกำลังจะทำอะไร”
พิมพ์ภิษาไม่ได้เอ่ยอะไรอีกเช่นเคย เพราะไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเขาเจอผู้หญิงแบบไหนบ้าง เธอก็ไม่เคยคิดจะเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมมากกว่าเดิมที่เขาตกลงไว้อยู่แล้ว แต่เขาคงไม่เชื่อใจเธอ ไม่ไว้ใจเธอแน่
“เอาเป็นว่าวันนี้ผมให้คุณไปหาพ่อได้ก็แล้วกัน แต่ต้องรีบไปรีบกลับมาให้ทันทำมื้อเที่ยงนะ แล้วคุณก็ต้องบอกพ่อคุณว่าต้องไปที่ไหนสักแห่ง จะติดต่อไม่ได้อีกหลายเดือน หรืออะไรก็ว่าไป ผมยืดหยุ่นให้คุณได้แค่นี้ล่ะ ถือเป็นโบนัสค่าบีบยาสีฟันให้ก็แล้วกัน”
พิมพ์ภิษามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วคว้าช้อนขึ้นตักอาหารไปใส่ชามข้าวต้มอย่างรวดเร็ว
“ถ้าขืนคุณยังไม่รีบกิน เวลาที่จะได้ไปเยี่ยมพ่อก็จะเหลือน้อยลงนะ อย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน”
เพียงเท่านั้น มือบางก็คว้าช้อนมาตักอาหารใส่ชามข้าวอย่างเร่งรีบไม่แพ้เขาเลย เพราะจะได้รีบเก็บล้างข้าวของแล้วรีบไปหาพ่อ ป่านนี้ไม่รู้จะทำอะไรอยู่ และไม่รู้ว่าจะอยากเห็นหน้าลูกคนนี้บ้างหรือไม่
ลัมโบร์กินี ฮูราแคนสีขาว แล่นเข้ามาจอดกึก หน้าประตูทางเข้าตึกผู้ป่วยนอก โดยที่ผู้โดยสารไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้นสักนิด แต่มีหรือจะสั่งหรือขัดแย้งได้ ในเมื่อเขาชอบวางอำนาจบาตรใหญ่ใส่อยู่ตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่ไม่ยอมให้นั่งแท็กซี่หรือขับรถมาเอง แต่อาสามาส่งแทน
“ผมจะกลับไปกินมื้อเที่ยงประมาณบ่ายโมงนิดๆ นะ ถ้าไปแล้วไม่เจอคุณ ผมจะลงโทษอย่างหนักสักสามรอบ ถ้าอยากรับโทษก็เชิญช้าๆ ได้”
หญิงสาวหันไปมองคนคาดโทษด้วยใบหน้าเรียบเฉย และยังคงนั่งอยู่ในรถตามเดิม จนบุรุษพยาบาลมาเปิดประตูให้ พอออกจากรถได้ เขาก็ขับไปหน้าตาเฉย ไม่สนใจจะมองพนักงานรอบข้างสักนิด ว่าจะคิดยังไง เมื่อเห็นเธอลงมาจากรถของเจ้านายอีกคน
“ไวน์! มาทำอะไรเหรอจ๊ะ”
เพื่อนสาวเคยทำงานแผนกเดียวกัน ทักทายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พิมพ์ภิษารู้ว่าในใจคนถามนั้น มีความสงสัยใคร่อยากรู้อย่างล้นเปี่ยมซุกซ่อนอยู่
แต่เธอจะไม่มีทางเปิดปากบอกอะไรแน่ เพราะรังแต่จะทำให้เรื่องลุกลามใหญ่โต กลายเป็นขี้ปากคนทั้งโรงพยาบาลก็ว่าได้
“มาเยี่ยมคุณพ่อน่ะจ้ะ”
ยิ้มแล้วก็รีบหิ้วกระเป๋าของฝากพ่อ ตรงไปหาลิฟต์ทันที พอขึ้นไปถึงห้องก็ประจวบเหมาะกับพ่อกำลังจะกินยา มีน้าดากำลังจัดเตรียมให้เหมือนเคย เลยรีบเอาน้ำผักเทใส่แก้ววางไว้ใกล้มือพ่อ
“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ เมื่อวานไวน์มัวทำงานเลยไม่ได้มาเยี่ยม แล้วก็ไม่มีเวลาโทรหาด้วยค่ะ”
เพราะกลัวพ่อจะไม่พอใจเลยต้องรีบแก้ตัวไว้ก่อน คนเป็นพ่อหันไปมองลูกด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่เอ่ยอะไร นอกจากรับยาจากลัดดามาใส่ปากตามด้วยน้ำในแก้ว
โดยไม่ได้สนใจกับน้ำผักของลูกเลย ทำเอาอดน้อยใจไม่ได้ แต่ก็ทรุดกายลงนั่งข้างเตียงพ่ออยู่ดี
“บอกแล้วว่าไม่ต้องมาถ้ามันจะกระทบเรื่องงาน เดี๋ยวแกถูกไล่ออก ฉันก็คงไม่ได้ผ่าตัดพอดี แกรู้มั้ยว่ามันต้องใช้เงินเป็นล้านๆ เลยนะ”
คนเป็นพ่อเลยอดประชดนิดๆ ไม่ได้
“ไม่ไล่หรอกค่ะคุณพ่อ”
แต่ลูกไม่ได้คิดว่าพ่อประชดสักนิด และดีใจที่อย่างน้อยๆ พ่อก็พูดดีด้วย ไม่ชักสีหน้าไม่พอใจใส่เหมือนเคย เลยรีบลุกขึ้นมาคว้าแก้วน้ำผักส่งให้พ่อด้วยใบหน้าเจือยิ้ม ลัดดาเองก็ยิ้มเหมือนกัน
“คุณพ่อดื่มก่อนสิคะ จะได้แข็งแรงค่ะ”
“กะอีแค่ผักปั่นนี่นะจะทำให้ฉันแข็งแรง แกเห็นฉันเป็นคนโง่นักหรือไง”
กระนั้นคนเป็นพ่อก็ยอมรับแก้วจากมือลูกขึ้นจิบอยู่ดี เพียงแค่นี้จริงๆ ที่ลูกอยากได้ อยากเห็น แต่ก็ได้เห็นนิดเดียวพ่อก็ปั้นหน้ายักษ์ใส่แล้ว
“แล้ววันนี้ไม่ทำงานหรือไงถึงได้มา”
“ทำค่ะ อีกหน่อยไวน์ก็จะกลับ พรุ่งนี้ก็ต้องเตรียมตัวเดินทาง ไวน์คงจะมาเยี่ยมคุณพ่อไม่ได้แล้วนะคะ แต่จะพยายามโทรมาถามค่ะ”
พิมพ์ภิษาอดดีใจไม่ได้ ที่เคยโกหกพ่อไว้เรื่องไปเมืองนอก ไม่งั้นก็คงจะหาเหตุผลจะหายหน้ามาเยี่ยมพ่อไม่ได้แน่
“ไม่ต้องโทรมาหรอก เปลืองเงินเปล่าๆ โทรต่างประเทศไม่ใชถูกๆ นะ” ขจรเอ่ยเสียงห้วนใส่ลูกอีก
“แต่ไวน์ห่วงคุณพ่อนี่คะ อีกอย่างไวน์จะโทรทางไลน์ค่ะ ไม่เสียเงินเลย”
ลูกสาวส่งเสียงนุ่มไปหา ใบหน้าก็เจือยิ้มด้วยความดีใจ แต่คนพ่อกลับไม่เอ่ยหรือไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมา
“แล้วไม่รู้ว่าจะได้ผ่าตัดเมื่อไหร่ ผ่าแล้วจะดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้ด้วยค่ะ บอกตรงๆ ว่าไวน์ห่วงคุณพ่อมากค่ะ”
ลูกเลยถามพ่อต่อไปด้วยความไม่ย่อท้อ เพียงเพื่อหวังจะให้พ่อคุยด้วยดีๆ บ้างก็เท่านั้น
“แกห่วงแล้วจะช่วยอะไรได้ ปล่อยให้หมอรักษาฉันไปตามขั้นตอนนั่นล่ะ ส่วนแกก็ทำงานไป ก่อนเจ้านายจะไม่ชอบใจ ที่แกโดดงานมาเยี่ยมฉันบ่อยๆ แบบนี้ จะมาห่วงอะไรนักหนา ฉันยังไม่ตายง่ายๆ หรอก ถ้าไม่มีอะไรก็กลับๆ ไปได้แล้วไป๊! ฉันจะได้หลับได้นอนบ้าง หมอให้พักผ่อนเยอะๆ ช่วงนี้”