หลายวันผ่านไป ท่านประธานหนุ่มก็ยังคงมีวิถีชีวิตถ้ำมองในตอนเช้าก่อนไปทำงานทุกวัน เขาก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าจะแหกขี้ตาตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ เพื่อขับรถมาแอบมองเธอทำขนมและรดน้ำต้นไม่ในตอนเช้าเพื่ออะไรทุกวัน ทั้งๆ ที่พอไปถึงที่ทำงานก็เพลียจะแย่ จนต้องอัดกาแฟหนักกว่าเดิมเป็นเท่าตัวในช่วงนี้
หลายวันที่คอยตามแอบดูเธอ บางวันเขาก็มาดักรอเธอตอนเลิกงานด้วยและโชคดีได้ตามเธอไปจ่ายตลาด ได้ดูเธอเลือกซื้อของอย่างคล่องแคล่วและชำนาญ ยิ่งรู้สึกว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ช่างมีเสน่ห์น่าค้นหา เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าผู้หญิงที่เป็นแม่บ้าน อยู่กับเหย้าเฝ้าเรือน คอยจ่ายตลาด ทำกับข้าวรอสามี มันสุดแสนจะน่าเบื่อและไม่เร้าใจ เขาชอบแบบเซ็กซี่ๆ ร้อนแรงถึงใจในเรื่องบนเตียงมากกว่า แต่ทำไมมาตอนนี้ แม่สาวหวานที่แสนจะดูนุ่มนิ่มเรียบร้อยและท่าทางจะเก่งงานบ้านงานเรือนคนนี้ ถึงทำให้ใจเขาเต้นแรงได้
และที่สำคัญที่สุด ในวันหยุดที่ผ่านมา ที่เขาก็แหกขี้ตาตื่นแต่เช้ามานั่งแอบเฝ้ามองดูเธอที่หน้าบ้านเช่นเคย ก็ได้พบกับแม่ของเขาที่มาเยี่ยมเพื่อนรักถึงที่นี่ และสักครู่ก็เดินออกมาจากบ้านมากับแม่สาวหน้าหวาน แล้วพากันขึ้นรถออกไป และแน่นอน คนอยากรู้อยากเห็นอย่างเขาก็ต้องขับรถตามไปอยู่แล้ว
แม่เขาและหนูยาหยีของแม่ ได้พากันไปช้อปปิ้งที่ตลาดสด ที่ที่เขาเคยมาเดินตามด้อมๆ มองๆ แอบดูเธอแล้วหลายหน ครั้งนี้มันแตกต่างออกไปตรงที่เธอเดินจับมือควงแขนกันมากับแม่ของเขาในท่าทางแสนสนิทสนม มิน่าล่ะ แม่เขาถึงได้รักเธอและอยากได้มาเป็นสะใภ้นัก ก็แม่คุณแม่ทูนหัว เล่นเดินคอยประคองแม่เขาตลอดเวลา ชี้ชวนกันเลือกซื้อนั่นนี่ไม่หยุด ทั้งยังพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างสนุกสนาน ดวงตาของแม่เขาเป็นประกายสดใสเหมือนกลับมาเป็นสาวๆ อีกครั้ง คงเพราะเหมือนได้มีลูกสาวที่แสนน่ารัก อ่อนโยนและรู้ใจคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ อย่างที่เคยอยากมีมาตลอดชีวิต
ไม่นาน คนขับรถของบ้านเขาก็ถือของจนเต็มสองมือ สองสาวต่างวัยถึงได้หยุดช้อปปิ้งกันได้และยอมเดินทางกลับบ้านหลังนั้นอีกรอบ
ภาพเหล่านั้นมันทำให้ใจแกร่งของเขาอุ่นวาบ ช่างอบอุ่นและมีความสุขเหลือเกินที่ได้เห็นผู้หญิงคนนั้นรักใคร่และปฏิบัติต่อแม่ของเขาเหมือนดั่งแม่ของตัวเอง แม่และพ่อของเขาตาถึงจริงๆ ที่เลือกผู้หญิงคนนี้มาเป็นสะใภ้ ต่อให้เขาไม่เคยรู้สึกอะไรต่อเธอมาก่อน แต่เพราะความสวยและความน่ารักอ่อนหวานของเธอ ก็คงจะทำให้เขาอยู่ร่วมกับเธอฉันสามีภรรยาได้ไม่ยาก แม้จะไม่มีความรักให้กันเลยก็ตามที
ทั้งหมดทั้งมวลมานี้ เป็นเหตุผลสำคัญ ผลักดันให้เขาตัดสินใจในเรื่องสำคัญของชีวิตไปได้โดยง่ายดาย
“อะไรนะปรินซ์ ลูกว่าอะไรนะ”
“ผมตกลงแต่งงานกับยาหยีครับ ถ้าเขายอมแต่งกับผมนะแม่”
“พี่ปรินซ์ คิดดีแล้วหรอพี่”
น้องชายคนที่สามเอ่ยค้านหวังให้พี่คิดให้ถี่ถ้วน เพราะถ้าการแต่งงานในครั้งนี้ เกิดอะไรผิดพลาด พวกเขาจะไม่มีทางย้อนกลับไปแก้ไขเรื่องราวต่างๆ ได้อีกแล้ว
“เออ คิดดีแล้ว แต่งๆไป มีหลานให้แม่ ก็แค่นั้น”
สามหนุ่มมองหน้ากันอย่างนึกแปลกใจ พี่ชายคนเดิมที่ให้ตายยังไงก็ไม่มีทางยอมให้ใครมาสั่งให้ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ เพราะอะไรถึงยอมให้แม่ชักนำในเรื่องใหญ่ที่สุดของชีวิตได้แบบนี้
“เห็นไหม แม่บอกแล้วว่าปรินซ์จะต้องชอบน้อง”
“ชอบเชิบอะไรกันครับแม่ ผมแค่ทำตามความต้องการของแม่นะ แค่อยากให้แม่สมหวัง ยังไงผมก็อายุปูนนี้แล้ว ไม่ได้คิดจะรักใครอยู่แล้ว ถ้าเอาลูกสาวที่แม่รักมาเป็นเมีย ครอบครัวก็คงสงบสุข แต่อย่าหวังว่าผมจะรักเธอนะ คงไม่มีวันนั้นแน่”
ท่านประธานหนุ่มยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ทำเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย เหมือนเลือกร้านกินข้าวก็ไม่ปาน ทำให้คนที่รู้จักเขาดีทั้งหมดเริ่มสงสัยในความเปลี่ยนไปของเขา ซึ่งจากนี้ต่อไปคงต้องคอยจับตาดูพฤติกรรมของพี่ใหญ่ของบ้านเสียแล้ว
ซึ่งแน่นอนว่าพ่อกับแม่ที่เลี้ยงเขามาจนโต ย่อมสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างในเรื่องนี้ แล้วไม่มีทางที่เรื่องนี้จะเล็ดลอดพ้นไปจากสายตาผู้ใหญ่ทั้งสองได้แน่นอน
“อ่าว พี่ปรินซ์แต่งงานอย่างนี้แล้ว สาวๆ ที่ผูกปิ่นโตไว้จะทำยังไงครับ ถ้ายังจะเลี้ยงไว้ต้องเก็บซ่อนดีๆ นะ ถ้าเมียพี่รู้เรื่องเข้า ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่”
ปราณนต์ ลูกชายคนที่สาม แบดบอยประจำบ้านเอ่ยถามและให้คำแนะนำ เพราะถ้าเป็นเขา ถูกบังคับให้แต่งงานทั้งๆ ที่ไม่ได้รักกันแบบนี้ คงไม่ยอมเลิกกับสาวๆ ในสต๊อกแน่
“ก็ต้องเลิกสิวะ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ แค่ขี้เกียจมีปัญหา ทำงานก็เหนื่อยจะแย่ ถ้ามีเรื่องงอแงอีก จะรำคาญลูกสาวแม่เอา”
พี่ใหญ่ของบ้านรีบแก้ไขความเข้าใจผิด เมื่อคำตอบแรกทำให้คนทั้งบ้านหันมามองที่ตัวเองตาเขม็งราวกับจะจับผิดอะไรเขาเสียอย่างนั้น
“ดีแล้ว แม่ไม่เห็นด้วยที่จะต้องไปเลี้ยงพวกผู้หญิงแบบนั้น มีเมียแล้วก็ต้องหยุด พวกแกก็เหมือนกัน เพลาๆ ลงบ้าง ถ้ายังทำตัวเหลวไหลลอยไปลอยมา มั่วไปทั่วแบบนี้ แม่จะหาเมียให้รายคนเลย”
“โห ไม่เอานะครับ”
เสียงโอดครวญของสามหนุ่มดังออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ต่างเสียวสันหลังวาบว่าแม่จะพูดจริงทำจริง พวกเขาคงไม่มีทางรอดไปได้แน่ เพราะขนาดพี่ใหญ่ที่ว่าแข็ง ยังยอมให้แม่จับคลุมถุงชนจนสำเร็จได้เลย
“ดีๆ คุณ หาเมียเป็นตัวเป็นตนให้เจ้าพวกนี้ มันจะได้เลิกซ่าเสียที หึหึ”
พ่อผู้แสนอยู่ในโอวาทของแม่หัวเราะอย่างสะใจ แหม ตัวเองมีเมียเป็นตัวเป็นตนแถมมีลูกเป็นโขยง ไม่ได้มีชีวิตโลดโผนอิสระอย่างพวกเขา คงจะอิจฉาละสิ พ่อนะพ่อ ไม่น่าไปเพิ่มเชื้อไฟให้แม่แบบนั้นเลย เดี๋ยวก็ไม่รอดกันหมดหรอก
“เอาล่ะๆ แม่ขอจัดการเรื่องตาปรินซ์ให้เรียบร้อยก่อน คนอื่นๆ แม่จะพิจารณาตามพฤติกรรมต่อไป”
“คร้าบบบบ”
สามหนุ่มประสานเสียงอย่างพร้อมเพรียง พลางคิดว่าต้องเริ่มหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเองเสียแล้ว
“อาทิตย์หน้าน้าภาก็ได้ผ่าตัดแล้วนะลูก จะไปเยี่ยมไหม จะได้เจอน้องด้วย”
แม่ผู้สมใจยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง เธอแอบคาดหวังอยากให้ลูกชายได้เจอหน้ากันกับสาวน้อยที่แสนน่ารักอย่างว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ
“ไว้เจอกันงานแต่งทีเดียวเลยดีกว่าครับ ฝากแม่เยี่ยมน้าภาด้วยแล้วกันครับ”
เขารู้ทันว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่ จึงแกล้งดับฝันแม่เล่นๆ แต่ใครจะรู้อะไร ว่าเขานั้นแอบไปเจอหนูยาหยีสุดที่รักของแม่มาหลายครั้งแล้ว
“เอางั้นก็ได้จ้ะ เดี๋ยวแม่จะไปคุยกับน้าภาอีกรอบ เอาคำตอบจากยาหยีอีกครั้ง คราวที่แล้วน้องก็อ้ำๆ อึ้งๆ เพราะกลัวว่าปรินซ์จะไม่ยอม แล้วน้องเป็นผู้หญิงเกิดตอบอะไรออกไปก่อนจะดูไม่ดี หรือไม่ก็คงไม่อยากแต่งนั่นแหละ แต่น้องเป็นคนไม่ชอบเอาเปรียบใคร ไม่อยากใช้เงินเรารักษาแม่เขาฟรีๆ แล้วแม่ยังเสนอยกหนี้ให้และจะไถ่ถอนบ้านจากธนาคารและจัดสินสอดให้อีก น้องยิ่งไม่กล้ารับ ใจจริงทั้งแม่และน้าภาอยากให้ลูกทั้งสองเป็นฝั่งเป็นฝาน้องก็รู้ คงไม่ยากที่จะตกลงแต่งเพื่อความสุขของแม่เขาล่ะ”
“ก็แล้วแต่ทางฝ่ายหญิงเขาจะตัดสินใจละครับ ทางผมก็ตามนั้น ยังไงก็ได้ แล้วแต่แม่เลยครับ”
ปากพูดไปแต่ใจก็ลุ้นให้หญิงสาวยอมตอบตกลงแต่งงาน ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เหตุผลเดิมนั่นแหละ อยากให้แม่ของเขาสมหวังที่ได้ลูกสะใภ้ตรงตามใจ