ปรไมยตัดสินใจออกไปข้างนอก ทั้งๆที่เวลานั้นตีสามกว่าๆ เพราะเขาเลือกลูก อยากจะขอโทษชาดาวีด้วย แต่หล่อนก็ต้องเข้าใจเขาเหมือนกัน เพราะคนอยู่ด้วยกัน ต้องผ่อนปรน อะลุ่มอหล่วย ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน แต่สำหรับชาดาวีแล้ว ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ปรไมยรีบไปดูอาการของลูกชายอย่างเร็วที่สุด ไม่สนใจชาดาวีที่หล่อนกำลังโกรธจัดหัวฟัดหัวเหวี่ยง จ้องเขานัยน์ตาเขม็งกร้าว ที่เลือกจะไป โดยทิ้งให้หล่อนนอนอยู่คนเดียว รีบรุดไปแล้ว ถึงโน่นประมาณครึ่งชั่วโมง เขาขับรถเร็ว พอๆกับความใจร้อนของตัวเอง พบว่าสิวันดานอนเฝ้าอยู่หน้าห้อง หลังจากที่เขาเข้าชี้แจงกับพยาบาลเวร ว่าเขาเป็นบิดาของเด็กชายวิศรุต พยาบาลทราบดังนั้นจึงพาเขาเข้ามาเยี่ยมบุตรชาย เขาจึงพบว่าสิวันดานอนหลับอยู่ ยามหล่อนหลับนัยน์ตาพริ้ม เขาไม่อยากกวนหล่อน คงเฝ้าอาการไข้ของลูกมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ และหลับพักผ่อนไม่เต็มที่ “เชิญทางนี้ค่ะ” พยาบาลเรียกเขาพร้อมกับเ