พสวีก็คิดเหมือนกันว่า เมื่อไหร่หนอ ที่เขานั้น จะได้พบเจอเนื้อคู่ แท้ ที่ถูกใจเสียที
และก็วิงวอน ให้ฟ้าท่านประทานให้เสียที
แต่ขออย่างเดียว อย่าให้เป็นเช่นอดีต และประวัติศาสตร์จะต้องไม่ซ้ำรอย
กับอาหารตรงหน้าคือราดหน้าที่เขารู้สึกหิวจัด นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจมา
แค่เตร็ดเตร่ เดินเสียจนทั่ว แล้วก็นึกหิว
แต่ก็คิดว่า เขาควรจะมอบความสุขให้แก่ตัวเองบ้าง
เพราะมัวแต่ทำงานงกๆ แทบจะไม่มีเวลา ที่จะปลีกไปที่อื่นได้ เพราะงานที่รับผิดชอบหนัก
และอีกเหตุผล ก็คือ ความมัธยัสถ์ของเขานี่เอง
กำลังจะใช้ช้อนและส้อมตักเส้นก๊วยเตี๋ยวเส้นใหญ่พร้อมกับน้ำราดที่ร้อนจนควันออกฉุย
และรสชาติน่ากิน
จากนั้นทานได้สามสี่คำ จึงได้เงยหน้าเหลือบสายตามองหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
มีความรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก กับดวงหน้ารูปไข่ ที่หันซีกหน้าไปทางอื่น
และก้มหน้าก้มตาทานอาหารอย่างเดียว
จนเส้นผมปิดบังหน้าเอาไว้
พสวีเริ่มใจเสีย หากเขาต้องกลับมาเผชิญกับหญิงสาวปากร้ายคนนี้อีกครั้ง
แต่เขา ก็ไม่ได้นึกกลัวหล่อนหรอก
เรื่องอะไรพสวีจะกลัว นอกเสียจากรำคาญอย่างเดียว และก็เบื่อผู้หญิงที่เข้าใจยาก
ที่ไม่มีเหตุผลอะไร นอกจาก จะเอาแต่ใจของตัวเองอย่างเหลือร้าย
เขาพยายามไม่เงยหน้าไปทางหล่อน คิดว่าทานให้เสร็จแล้วก็จะรีบลุก
และพสวีนั้น จะทำอย่างไรดี เพราะว่า เขาเป็นชายหนุ่ม ที่ไม่ชอบให้ผู้หญิงหยามน้ำใจ เสียด้วย
แต่สุดท้าย สิ่งที่หนุ่มดวงตาคมครุ่นคิด ก็คืออาการนิ่งสงบ
ในขณะเดียวกันที่ ขิมมพัสตร์เพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง
ว่าคราวนี้ ค นที่หล่อนเผลอพลาด นั่งร่วมโต๊ะอีกครั้ง ใกล้เขา คือ น้องชายของอดีตพี่สะใภ้
ดังนั้นแววตาของนางแบบสาว จึงเป็นฝ่ายหรี่มอง ชายหนุ่มที่เขา ดูเงียบสงบ
หลังจากที่ทานเสร็จแล้ว
แต่ว่า เขานั้นยังไม่ทันลุกจากไป
หล่อนจึงเป็นฝ่ายชิงพูดขึ้นกับเขา
ขณะที่แขกร่วมโต๊ะ ซึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคนซึ่งทานข้าวหมูแดง ลุกจากไปแล้ว
“ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ดวงเราถึงได้โชคดี หนีห่างจากกันแค่ไหน ก็ต้องมาพบเจอกันเหมือนเก่า ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งคะ คุณพสวี”
แววตาและสีหน้าที่ทักทายของหล่อน เหมือนดาราสาวเจ้าบทบาทที่หล่อนกำลังเล่นละคร
ด้วยน้ำเสียงที่ยวนยั่วกึ่งท้าทาย
ชายหนุ่มยังไม่รู้สึกอิ่ม จึงยังไม่ลุก
แต่ก็คิดในใจว่า เรื่องอะไรเขาจะต้องไปเกรงกลัวหล่อน
คนอย่างพสวีไม่เคยกลัวใครหรอก
ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ตาม
แต่เมื่อเขาดูขรึมเงียบเหมือนจะไม่ใส่ใจกับหล่อน
ก็เลย ทำให้นางแบบสาวนั้นชักสีหน้าอย่างรู้สึกไม่พอใจ
แอบบ่นตำหนิในใจว่า
“ ดู๊ คราวนี้ ทำเหมือนกับคนที่ไม่ได้เอาปากมาด้วย แล้ว จะให้หล่อนพูดค้อนกับลมกับแล้ง ยังงั้นหรือไง ฮึ”
แต่หล่อน ก็ไม่ละความพยายาม ที่ดูเหมือน อยากจะเอาชนะเขาอย่างเดียวเท่านั้น
เพียงแต่คิด เพราะขิมมพัสตร์ นั้น ไม่ชอบผู้ชายที่ดูแข็งขืน หรือว่า เขาปฎิเสธความต้องการของหล่อน
เนื่องจาก เพราะหล่อนมั่นใจว่า หล่อนนั้น เป็นคนมีเสน่ห์
และถ้าหล่อนร่ายมนต์เสน่ห์กับใคร
ก็ไม่มีพลาดสักนิดเดียว
คนๆนั้น ต้องหลงใหลหล่อน
แต่นี่ คนอย่างเขานั้น ก็กลับมองเห็นหล่อน เป็นเหมือน ขี้เถ้าเและเศษผงธุลี ที่ไร้ค่า ไม่มีค่าความสำคัญอะไร
ฮึ แต่มี หรือ ที่ คนอย่างขิมมพัสตร์จะยินยอมง่ายล่ะ
ถ้าหากไม่เล่นงานตอบ หรือว่าราวีใส่เขากลับคืนเดี๋ยวนั้น
ยิ่งขิมมพัสตร์คิดว่า ยิ่งเขาท้าทายหล่อน
หล่อนก็ยิ่งอยากจะเล่นงานเขาให้หัวฟัดหัวเหวี่ยงไปเลย
“คุณนี่ ท่าทางจะเป็นใบ้ หรือยังไง เพราะคุณ ดูเหมือน ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ เหมือนคนอื่นเขา เอาเสียเลย”
หล่อนกล้าวิจารณ์เขาตรงๆ พร้อมกับเบะปากใส่
ซึ่งทำให้อีกฝ่าย คือ พสวี ที่เขาเหมือนถูกหล่อนดูถูกอย่างแรง
ถึงกับตาแข็งกร้าวใส่ พร้อมโต้ด้วยน้ำเสียงตึงๆกลับไป ใบหน้าก็เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเข้มจัด
“ ผมไม่ได้เป็นใบ้ หรือว่า หูหนวก แต่เป็นเพราะว่า ไม่อยากจะตอบ และพูดกับคุณมากกว่า”
“แล้ว นี่คุณ เป็นอะไรไปหรือ คะ เหนื่อยหรือว่าอ่อนเพลีย เพราะงานหนัก หรือว่าเจ้านายใช้งานหนักเกินไปล่ะ”
เขารู้สึกรำคาญกับน้ำเสียงที่ชอบยั่วยวนของนางแบบสาว
มีความรู้สึกว่า หล่อนนั้นใส่ใจ ในเรื่องของเขามากเกินไป
จนกลายเป็นการละลาบละล้วงไปแล้ว
“เอ้อ ผมว่า ดูเหมือน คุณนี่ เป็นคน ที่ชอบ จะเข้ามาจุ้น กับเรื่องคนอื่น มากเหลือเกินนะ ”
ขิมมพัสตร์ตอบ
“ทำไมล่ะ คะ คุณคิดอย่างนั้น แต่ฉัน ก็คิดว่า เพราะคุณและฉันนั้น ต่างก็เคยรู้จักกันมาแล้ว ก็น่าจะทักทายกันบ้าง ตามประสาคนที่เคยพบเห็นกันมาก่อน”
ทำให้พสวีพูดอะไรไม่ออก สะอึกและอึ้งมากกว่า
และไม่เข้าใจเจตนานางแบบสาวซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของอดีตพี่เขย
ว่าหล่อนจะมาไม้ไหน และก็ต้องการอ ไรกันแน่
และพสวีก็คิด หลังจากที่เขาได้พิจารณาด้วยสายตาแล้ว
บอกกับตัวเองว่า หล่อนมีความสะสวย โดยเฉพาะดวงหน้าหวาน และมีดวงตาคมที่เจ้าเสน่ห์
ดูทั้งยวนยั่ว และท้าทายสายตาหนุ่มเพศตรงข้ามได้อย่างฉกาจนัก ในเสน่ห์ ที่ชวนตะลึง
ซึ่งคิดว่า มันน่าจะเป็นธรรมดา ของหญิงสาวที่คร่ำหวอด และ คลุกคลีอยู่ในวงการอย่างหล่อน
เพราะว่า เท่าที่ดูสายตาแล้วนั้น หล่อนเปรี้ยวจี๊ด
พสวี เขาก็ไม่อยาก จะคิดว่าหล่อนนั้น จะไม่มีแฟน เสน่ห์อย่างนี้ ใครๆก็ต้องหลง
ผู้ชายคนไหน ก็ต้องสนใจ
เพราะ เขาก็คิดว่า คนในวงการนี้ ที่มีข่าวคราว ก็ล้วนแต่มี แฟน กันเกลื่อนกลาด และเกร่อ อย่างมาก