ตอนที่ 1.เมียที่ไม่ต้องการ (1)

1304 คำ
รถตู้สีขาวแล่นไปตามถนน สองข้างทางเป็นหมู่บ้านในเขตชานเมือง กว่าสี่ชั่วโมงนับตั้งแต่รถคันนี้ได้แล่นออกมาจากใจกลางเมืองหลวงของประเทศ ผู้โดยสารในรถมีเพียงหญิงสาวคนเดียวเดินทางมาตามลำพังกับคนขับรถ พร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ร่างผอมบางอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวคลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ตลายตารางสีดำสลับขาว สวมกางเกงยีนส์สีซีดตามสภาพผ่านการใช้งานมานานจนสีเดิมจางลง ศีรษะได้รูปเอียงซบกระจกหน้าต่างรถ สายตาทอดมองทิวทัศน์ข้างทางด้วยแววตาเหม่อลอย ผมยาวสลวยถูกถักเป็นเปียยาวไว้ด้านหลังคลุมทับด้วยหมวกแก๊ปสีดำ ใบหน้าอ่อนใสไร้เครื่องประทินโฉมดูราวกับสาวน้อยไร้เดียงสา คนขับรถละสายตาจากกระจกส่องหลัง พลางแอบคิดในใจว่า “หวังว่าคนนี้จะเป็นคนสุดท้าย ถ้าไม่ใช่อีก ผู้หญิงในโลกนี้ ก็คงไม่มีคนที่ถูกใจคุณจิณณ์หรอก” นายเพิ่มทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถนำหญิงสาวไม่ต่ำกว่าสิบคน ไปส่งให้ จิณณ์ หลานชายคนเดียวของ เจ้าสัว เจียง ในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา เพื่อให้จิณณ์คัดเลือกเป็นเจ้าสาวของเขา แทนภรรยาที่เสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อน แต่หลานชายของท่านเจ้าสัวไม่เคยสนใจหญิงสาวคนไหนเลย ผู้หญิงยังไม่ทันก้าวเข้าบ้านก็ถูกปฏิเสธแล้ว “กลับไปบอกคุณปู่ด้วย ว่าฉันไม่ต้องการผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น” ผู้หญิงคนแล้วคนเล่าถูกปฏิเสธ บางคนคิดว่าตัวเองสวยมั่นใจว่า หากหลานชายเจ้าสัวได้พบต้องตกหลุมรัก ไม่ยอมจากไปง่ายๆ พาตัวเองเข้าไปพบเขาถึงในห้อง ก่อนจะถูกอีกฝ่ายลากตัวมาโยนทิ้งเหมือนขยะชิ้นหนึ่ง “นายเพิ่ม เอาตัวผู้หญิงคนนี้กลับไป อย่าให้ฉันเห็นหน้าอีก!” วันหนึ่งเจ้าสัวทนไม่ไหวต้องไปพบกับหลานชายด้วยตัวเอง นายเพิ่มอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย “แกต้องการผู้หญิงแบบไหนบอกฉันมา ผู้หญิงคนไหนที่จะทำให้แก ลืมเมียของแกได้ ฮะ เจ้าจิณณ์” จิณณ์แค่นยิ้มหยัน มองคนเป็นปู่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง หากแฝงรอยเจ็บช้ำ ในฐานะหลานเขาไม่อาจระบายความแค้นในใจตัวเองกับผู้เป็นปู่ได้ ความเจ็บปวด ความสูญเสียของเขาเกิดจากเจ้าสัวเจียงทำไว้ทั้งสิ้น “คุณปู่บอกให้ผมลืมอรหรือครับ หึ คุณปู่อาจจะลืมสิ่งที่ทำกับอรไว้ แต่ผมไม่ลืมว่าอรตายเพราะอะไร” คนเป็นหลานแค่นเสียง แววตาขมขื่นเมื่อต้องฝืนพูดสิ่งที่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บช้ำออกมา “ปู่บังคับอรให้มีลูก ทั้งๆ ที่รู้ว่าร่างกายของอรฝืนรับไม่ได้ ผมดูแลอรอย่างดี ระวังเรื่องนี้เสมอ แต่ปู่ก็บังคับให้อรท้อง ปู่ทำให้อรตาย!” ท่านเจ้าสัวเจียงต้องการให้หลานชายมีทายาทให้ท่าน แต่ภรรยาของจิณณ์มีปัญหาสุขภาพ ร่างกายไม่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ จิณณ์รักภรรยาของเขามากจึงไม่คิดมีทายาท ทำให้ท่านเจ้าสัวไม่พอใจ ตระกูลของท่านมีจิณณ์เป็นทายาทคนเดียว ลูกชายก็เสียชีวิตไปตั้งแต่หนุ่มๆ เหลือหลานชายไว้ให้ท่านดูแล หากจิณณ์ไม่ยอมมีลูกก็เท่ากับตระกูลของท่านต้องสิ้นสุดลง แม้จะมีญาติห่างๆ แต่ก็ไม่ใช่สายเลือดโดยตรง ท่านทำใจให้ตระกูลของท่านไร้คนสืบทอดไม่ได้ จึงขอร้องแกมบังคับให้หลานชายมีลูก แต่จิณณ์ก็รักภรรยาเกินกว่าจะยอมให้เธอเป็นอันตราย เจ้าสัวจำต้องไปขอร้องให้หลานสะใภ้ยินยอม “หนูอร ขอให้หนูเห็นแก่ปู่ ยอมให้เจ้าจิณณ์มีลูกกับผู้หญิงที่ปู่หาให้ ปู่ไม่อยากให้ตระกูลของเราต้องไร้ทายาท หนูคงไม่เห็นแก่ตัว จนปล่อยให้ตระกูลของเราต้องสิ้นสุดในรุ่นนี้ใช่ไหม” เมื่อภรรยาของหลานชายไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ท่านจึงคิดหาวิธีให้หลานชายรับผู้หญิงสักคนแล้วมีลูกแทนหลานสะใภ้ ท่านคิดง่ายๆ ว่า หากอีกฝ่ายยินยอมก็จะสมปรารถนา โดยไม่รู้ว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมในชีวิตของหลานชาย เมื่อภรรยาของจิณณ์รักสามีจนยอมให้ตัวเองตั้งครรภ์ โดยไม่คิดจะให้ผู้หญิงคนอื่นมาทำหน้าที่แทน เธอปกปิดเรื่องการตั้งครรภ์ไว้จนอายุครรภ์ได้ห้าเดือน ตอนนั้นจิณณ์ถูกเจ้าสัวสั่งให้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อประสานงานทางธุรกิจ เมื่อเขากลับมา จึงได้รู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์แล้ว และที่สำคัญภรรยาของเขาครรภ์เป็นพิษจนร่างกายรับสภาพไม่ไหว แท้งเด็กออกมาพร้อมกับเสียชีวิตในวันที่เขากลับมาถึงบ้านนั่นเอง “เรื่องมันผ่านไปแล้ว ทำไมแกไม่ยอมเริ่มต้นใหม่สักที ฉันไม่ยอมให้แกตายตามเมียแกไปหรอกนะ” ท่านเจ้าสัวรู้ดีว่าหลานชายรักภรรยามาก แต่จิณณ์ก็มีหน้าที่รับผิดชอบต่อตระกูล จึงไม่อาจตายตามภรรยาไป “ผมอยากตายก็คงตายไม่ได้หรอกครับ ผมไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว ผมต้องดูแลผู้คนมากมาย ต้องดูแลสิ่งที่คุณพ่อทิ้งไว้ ผมรับรองว่าผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดี ขอเพียงคุณปู่อย่าส่งผู้หญิงคนไหนมาวุ่นวายกับผมอีก” คำขอของหลานชายทำให้ท่านเจ้าสัวส่ายหน้า ท่านไม่ยอมให้หลานชายใช้ชีวิตแบบซังกะตายไปแบบนี้ตลอดไปหรอก ท่านผิดที่พรากหัวใจของจิณณ์ไป ท่านจึงต้องการชดใช้ให้หลานชาย “ฉันไม่ยอมให้แกเป็นแบบนี้หรอกเจ้าจิณณ์ ฉันจะหาผู้หญิงมาให้แก จนกว่าแกจะยอมรับ” “อย่าเสียเวลาเลยครับคุณปู่ ไม่มีใครแทนที่น้องอรเมียของผมได้ ผู้หญิงที่ผมต้องการคือน้องอรคนเดียว!” หลังจากวันนั้น ท่านเจ้าสัวยังไม่ล้มเลิกความคิด จัดหาผู้หญิงที่คิดว่าสวยที่สุด ส่งไปให้หลานชาย คนแล้วคนเล่าก็ไม่มีสักคนโดนใจจิณณ์ นายเพิ่มรับหน้าที่เป็นสารถีด้วยความอ่อนใจ เขาหันไปมองหญิงสาวคนล่าสุด ที่เพิ่งรับตัวมา คนนี้ต่างจากทุกคน เพราะเป็นหลานสาวของลูกหนี้ของท่านเจ้าสัว แค่เห็นรูปท่านเจ้าสัวก็ทำท่าเหมือนคนถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง ท่านสั่งให้ลูกหนี้ของท่านส่งตัวหลานสาวมาที่คฤหาสน์ของท่าน พูดคุยตกลงอะไรกันครู่หนึ่ง ก็เรียกเขาให้พาเธอมาส่งให้หลานชาย กำชับเขาก่อนจะมาว่า “แกพาหนูคนนี้ไปถึง ก็รีบกลับมาเลยนะ ไม่ต้องรอรับกลับ ทิ้งไว้ที่นั่นแหละ” เหมือนท่านเจ้าสัววางเดิมพันกับผู้หญิงคนนี้ไว้หมดหน้าตัก ท่านเชื่อว่าเธอจะเปลี่ยนชีวิตของหลานชายของท่านได้แน่นอน นายเพิ่มขับรถไปถึงจุดหมายก็จอดรถตรงหน้าบ้านไม้สักหลังใหญ่ อันเป็นบ้านพักส่วนตัวของจิณณ์ เขาหันมาบอกหญิงสาวที่โดยสารมาด้วยว่า “ถึงแล้วครับ คุณจิณณ์คงอยู่ในบ้าน คุณเข้าไปพบคุณจิณณ์ได้เลยนะครับ” “ค่ะ ลุงขับรถกลับดีๆ นะคะ ขอบคุณที่มาส่ง” หญิงสาวพนมมือไหว้อย่างคนมีมารยาท ก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินทางเดินลงจากรถ แหงนหน้ามองบ้านไม้หลังใหญ่ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เธอพร้อมแล้ว กับการมาเป็นภรรยาของหลานชายท่านเจ้าสัว !” ///
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม