5
“ไม่ไหวๆ ท้องป่องแล้ว ขอไปห้องน้ำหน่อยนะ”
ร่างอวบอิ่มพาตัวเองลุกแบบพยายามเต็มที่ไม่ให้เซหกล้มหน้าทิ่มพื้น
“ไหวไหมแก”
“ไหวๆ”
ใครถามมนสิชาก็ฟังแทบไม่รู้เรื่องว่าเป็นเสียงใคร มองทิศทางที่พอรู้ๆ ว่าเป็นทางไปห้องน้ำ ก็พยายามเดินตัวตรงไปทันที
“สงสัยจะกินเบียร์มากไป เฮ้อ มึนหัวฉิบเลย”
หญิงสาวรำพึงกับตนเองเบาๆ ยังดีที่ทางเดินมีไฟสีนวลตาให้ความสว่างแม้จะไม่มากมายนัก มันก็ทำให้เดินมาถึงจุดหมายได้ ซึ่งมีลูกค้าที่มาเที่ยว อยู่ตรงทางเดินบ้างประปราย บางคนยืนรอเพื่อน บางคนก็เดินมาเข้าห้องน้ำ
มนสิชารีบเข้าไปทำธุระทันที ท้องป่องๆ ของเธอมันกำลังจะกลั้นไม่ไหวนั่นเอง ตอนเข้าไปยังมีลูกค้าผู้หญิงที่มาใช้บริการสองสามคน หากพอเสร็จออกมา บริเวณอ่างล้างมือไม่มีใครแล้ว มนสิชาไม่ได้กลัว รีบล้างมือเพื่อจะรีบออกไปที่โต๊ะหาเพื่อนๆ
ทว่าตอนดึงประตูห้องน้ำเปิดออก ก็เกือบจะชนกับคนที่พุ่งเข้ามา
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
มนสิชารีบบอก ก่อนจะมองหน้าผู้หญิงที่อาบน้ำหอมมาเสียฟุ้ง เสียงหัวร่อระริกจากเธอผู้นั้นหยุดลง พร้อมเสียงหัวใจของมนสิชาที่เต้นรัวขึ้น ผู้หญิงตรงหน้าสวยเฉี่ยวชนิดที่ว่าขนาดมนสิชาเป็นผู้หญิงเหมือนกันยังมองตาค้าง แต่นั่นยังไม่เท่ากับคนที่ประคองเธอมาแบบชนิดชิดเชื้อ
“ไม่เป็นไรค่ะ” สาวสวยรีบบอกพร้อมยิ้มให้ ก่อนจะหันไปบอกชายหนุ่มข้างกาย “พี่ธันย์คะ ถึงห้องน้ำแล้ว เดี๋ยวนุ่มขอเข้าห้องน้ำแป๊บเดียวนะคะ”
มนสิชาขยับหลบเปิดทางให้แต่ดวงตายังจับจ้องที่ใบหน้าคมสันสะดุดตาของ...สามี
ธันย์ภพทำเสียงรับในลำคอ ขณะที่ตาก็มองหน้าที่ซีดลงถนัดใจของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าภรรยา มือหนาปล่อยไหล่เนียนของสาวสวยรวดเร็ว ก่อนจะถอยไปยืนชิดผนังทางเดิน
“ไม่คิดว่าจะเจอมนที่นี่นะ” เขาทักก่อน
มนสิชาข่มใจ บังคับขาให้ก้าวออกมาจากห้องน้ำ ไม่ให้ขาสั่นแต่มันยากเหลือเกิน แม้จะรู้ว่าธันย์ภพมีผู้หญิงมาพัวพันแต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เห็นจะจะคาตา
“ค่ะ เพื่อนๆ มนชวนมา”
เธอตอบ ละสายตาจากหน้าคมด้วยหัวใจที่โหวงเหวง หันหลังเดินหนี
“นุ่มเขาเมา พี่จะมาห้องน้ำพอดีเลยมาส่ง ที่ออฟฟิศมาเลี้ยงฉลองยอดกันน่ะ” ร่างสูงก้าวตามมาพร้อมบอกเบาๆ
หญิงสาวไม่ได้หันไปมอง ผู้หญิงคนนั้นคงเมาอย่างอื่นมากกว่าจะเมาเหล้าเบียร์ เพราะเธอไม่เห็นอาการมึนเมายามที่เจ้าหล่อนหันไปคุยกับธันย์ภพ เห็นเพียงสายตาที่วาวระริกของผู้หญิงที่กำลังอ่อยผู้ชายมากกว่า
“ตามสบายค่ะ มนขอตัวนะคะ”
ต่อให้รู้สึกโหวงวูบในใจแค่ไหน มนสิชาก็เพียงตอบรับเบาๆ แล้วเดินหนี ไม่ถามว่าเขามากันกี่คน นั่งตรงไหน จะกลับเมื่อไหร่ ที่รู้คืออยากไปให้พ้นจากพื้นที่แคบๆ นี้มากกว่า มันบีบหัวใจเธอให้หายใจไม่ออก
ธันย์ภพมองตามร่างอิ่มไปด้วยสีหน้าหงุดหงิดนิดๆ ไม่ได้ก้าวตามไป เพราะนุ่มออกมาจากห้องน้ำพอดี
ทางด้านมนสิชากลับมาถึงโต๊ะก็คว้าแก้วไปดื่มต่อ ทำเหมือนไม่มีอะไรกระทบกระเทือนใจน้อยๆ ของตัวเอง สายตาจับจ้องเวทีที่กำลังมีการแสดงกายกรรมของคณะแสดงคณะหนึ่งบ้าง หันมาคุยกับเพื่อนๆ บ้าง สองหนุ่มที่มาใหม่ก็ไม่ค่อยคุย ส่วนใหญ่จะฟังสาวๆ มากกว่า เสริมบ้างบางจังหวะ ซึ่งความสนใจของพวกเขาก็อยู่ที่แก้วกนกและขวัญฤดี พร้อมกันนั้น มนสิชาไม่รู้ว่าเธอเผลอไปมองโต๊ะอื่นๆ ได้ยังไง มองคนที่มากันเป็นคู่ๆ นั่งอิงแอบ หัวเราะกัน มุ้งมิ้งกะหนุงกะหนิงกันอย่างน่าอิจฉา ถึงไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นเป็นแฟนกันหรือเปล่า หรือเป็นแค่กิ๊กกั๊กคนคั่นเวลา แต่เธอก็ยังอิจฉา อย่างน้อยๆ คนพวกนั้นก็มีเวลาที่เป็นส่วนตัว แสวงหาความสุขให้กับตัวเอง ขณะที่เธอจมปลักอยู่กับชีวิตเดิมๆ
กินและดื่มกันจนดึกเกือบถึงเวลาปิดร้าน ทั้งหมดก็ตกลงกันกลับ มนสิชากับพิชญธิดาเมาพอควร แก้วกนกกับกิ๊กหนุ่มจึงอาสามาส่งที่บ้านของสองสาว
มนสิชาขอให้มาส่งที่คอนโด ที่นี่ไม่ไกลจากคอนโดของพิชญธิดา และไม่ไกลจากโรงเบียร์เท่าไหร่ ถึงห้องได้ก็แทบพับกับโซฟาห้องนั่งเล่น
แต่นั่งไม่ทันไร ประตูห้องพักก็เปิดเข้ามาโดยธันย์ภพ
“มนนึกว่าพี่ไม่กลับเสียอีก”
หญิงสาวหันไปมอง พบว่าเป็นสามีก็เอ่ยทักก่อน
ชายหนุ่มมองหน้าแดงก่ำแล้วส่ายหัว เดินเลยไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม รินเผื่อมาให้มนสิชาด้วย
“เป็นผู้หญิงคราวหน้าอย่ากินจนเมาขนาดนี้นะ”
“ใครว่ามนเมา แค่มึนๆ อีกอย่างนะ เบียร์แค่ไม่กี่หลอดเอง ยังไม่อ้วกด้วย”
“พี่นึกว่ามนจะไปนอนที่บ้านเสียอีก”
ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งโซฟาตรงข้ามร่างอวบอิ่มของภรรยาสาว จ้องมองใบหน้าหวานสวยที่ล้อมกรอบด้วยผมหยักศกยาวสยาย
มนสิชายักไหล่
“ที่นี่ใกล้ ไม่อยากรบกวนไอ้แก้วกับกิ๊กมันนานๆ น่ะ” เธอตอบแล้วมองสบตาคม
ความอึดอัดในใจมันอัดแน่นไปหมด มองหน้าคมสันหล่อเหลา ก็เหมือนเห็นภาพที่เขากำลังประคองกอดผู้หญิงคนอื่นไปด้วย ถึงวินาทีนี้หญิงสาวรู้สึกว่าอยากไปให้พ้นจากสายตาคู่นี้ ไปให้พ้นจากการรับรู้เรื่องของเขา
“มนมีอะไรจะคุยกับพี่”