“ขอบใจตะวันมากนะที่ขับรถมาส่งรุ้ง” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มหลังจากที่รถจอดสนิท
“ไม่เป็นไร บอกแล้วไงว่าตะวันเต็มใจ” ชายหนุ่มโต้กลับพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน
“ตะวันเข้าไปอาบน้ำในบ้านรุ้งก่อนนะจะได้สดชื่น หลับสักตื่นแล้วเย็นๆ ค่อยกลับกรุงเทพฯ จะได้ไม่หลับในกลางทาง รุ้งจะได้ไม่เป็นห่วงด้วย”
หทัยชนกเอ่ยบอกสารถีหนุ่มด้วยความเป็นห่วง ตะวันขับรถมาจากกรุงเทพฯ กว่าจะถึงบ้านของเธอใช้เวลาเกือบสิบสองชั่วโมง อาจจะช้ากว่ารถทัวร์ที่เธอเคยใช้บริการ แต่ตะวันก็เน้นความปลอดภัยมากกว่าเรื่องเวลา ซึ่งข้อนี้เธอเองก็รู้ดีและเห็นด้วย แน่นอนที่ว่าร่างกายของเขาต้องเหนื่อยล้าและเหนื่อยอ่อน คำว่าพักผ่อนจึงจำเป็นต่อตะวันเป็นอย่างยิ่ง แล้วเธอเองก็เต็มใจที่จะให้ชายตรงหน้าอาบน้ำและนอนพักในบ้าน
“ตะวันกะว่าจะไปหาโรงแรมพักน่ะ มาถึงเชียงใหม่ทั้งทีจะไม่อยู่เที่ยวก็กระไรอยู่ จริงมั้ยรุ้ง?” เขาพูดอย่างมีแผนในใจ คนใสซื่ออย่างหทัยชนกไม่มีทางที่จะรู้เท่าทันตะวันได้เลย
“มันก็จริงนะ ว่าแต่ตะวันจะไปเที่ยวไหนล่ะ?”
“จะไปเที่ยวไหนก็ต้องแล้วแต่รุ้งไง เพราะรุ้งอยู่ที่นี่ย่อมรู้ดีว่าที่เที่ยวที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง รุ้งต้องเป็นคนพาตะวันเที่ยว”
แผนการของตะวันไม่มีอะไรมาก แค่จัดเตรียมเสื้อผ้าแพ็คใส่กระเป๋าพร้อมสรรพ จองห้องพักไว้ล่วงหน้าก่อนการเดินทางหนึ่งวัน จากนั้นก็บอกว่าจะอยู่เที่ยวต่อที่นี่ โดยมัดมือชกให้หทัยชนกเป็นคนพาเขาเที่ยว
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้เรื่องแค่นี้เอง”
หทัยชนกที่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าตอบแทนชายหนุ่มตรงหน้าด้วยการพาไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่และอาจจะไปย่ำเยือนยังจังหวัดใกล้เคียง ตามแต่โอกาสสมควร เธอตอบตกลงในทันที เรียกรอยยิ้มของตะวันให้อาบทั่วใบหน้า
“เริ่มเย็นนี้เลยนะ ตะวันอยากไปเที่ยวตลาดไนท์พลาซ่า” เขาบอกสถานที่แรกที่ต้องการไป เป็นสถานที่ยอดฮิตของจังหวัดเชียงใหม่
“ไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนั้นห้าโมงเย็นเจอกันที่นี่นะ” เธอนัดหมายหลังจากที่ตอบตกลง
“จ้ะ เจอกันห้าโมงเย็น”
หทัยชนกยิ้มให้กับตะวันอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะเปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถพร้อม ๆ กัน หญิงสาวไปยืนรออยู่หน้าบ้าน ส่วนตะวันไปหยิบกระเป๋าเดินทางที่อยู่หลังรถ รวมทั้งของใช้หลายอย่างที่เธอซื้อติดมือมา
“ขับรถดีดีนะตะวัน ช่วงเช้าที่นี่รถเยอะ” หทัยชนกบอกตะวันด้วยความเป็นห่วง
“รู้แล้วครับคุณผู้หญิง” เขาล้อเลียนหญิงสาวที่ยิ้มเขิน “ตะวันไปก่อนนะรุ้ง เย็นนี้เจอกัน บายจ้ะ”
เขาพูดแล้วโบกมือให้หทัยชนกที่โบกมือตอบกลับ ก่อนที่รถยนต์ของตะวันจะเคลื่อนตัวออกมาจาบ้านหลังงามของเธอ มุ่งตรงไปยังโรงแรมที่เขาจองเอาไว้ล่วงหน้าอย่างมีความสุข ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกายแต่อย่างใด ตรงกันข้ามมีแรงฮึกเหิมมากขึ้นเมื่อได้เห็นหน้าของหทัยชนก
เจ้าของบ้านเรือนไทยมองรถที่ขับออกไปจากถนนซอยบ้านด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกว่าหัวใจเกิดความชุ่มฉ่ำ ราวกับน้ำฝนที่พร่างพรายลงมาบนพื้นดินที่แห้งแล้ง ประตูหัวใจตอนนี้แย้มบานมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว รู้เพียงว่ายามที่อยู่ใกล้ชายคนนี้เธอจะรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เหมือนเขาเข้ามาเติมเต็มความรู้สึกบางอย่างที่ขาดหายไป แต่ทว่าเวลาเพียงไม่กี่วันมันอาจจะให้คำตอบกับเธอไม่ได้มากนัก
เวลาเท่านั้นที่จะตอบคำถามทุกข้อในใจได้หมด
ตกเย็นวันเดียวกัน
ตะวันขับรถมายังบ้านของหทัยชนกก่อนเวลานัดหมายร่วมสี่สิบนาที พอมาจอดเทียบหน้าบ้านก็พบว่าคนที่เขานัดหมายยังไม่ออกมา เขาจึงก้าวลงจากรถแล้วเดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน สาวใช้ตัวเตี้ยป้อมเป็นคนมาเปิดประตู
“มาหาใครเจ้า?” สาวใช้คนเหนือเอ่ยถาม
“มาหารุ้ง” เขาตอบ
“คุณรุ้งกำลังอาบน้ำอยู่เจ้า”
“ถ้างั้นฉันคอยข้างนอกก็แล้วกัน” ยังไม่ทันที่บทสนทนาระหว่างตะวันกับสาวใช้จะเกิดขึ้น เสียงห้าวเข้มของใครคนหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมา
“ใครมาบัวเผื่อน?” เจ้าของเสียงคือชายร่างสันทัด ผิวขาวลักษณะท่าทางคล้ายกับจีน ชายอายุประมาณห้าสิบห้าปี เดินมายังจุดที่ทั้งคู่ยืนอยู่ ดวงตาจ้องมองไปยังหน้าของตะวันนิ่ง
“เพื่อนของคุณรุ้งเจ้า” บัวเผื่อนหันไปตอบผู้เป็นนาย
“เพื่อนของรุ้งเหรอ?” ศักดิ์ชัยบิดาของหทัยชนกหันมาทางตะวันแล้วถาม
“ใช่ครับผมเป็นเพื่อนรุ้ง” ตะวันตอบกลับพร้อมกับพนมมือไหว้ชายตรงหน้า ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ดูจากท่าทางเคารพนบนอบของสาวใช้ทำให้เขาคาดการณ์ว่า น่าจะเป็นหนึ่งในเจ้านายของบ้านหลังนี้ และอาจเป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายใดหนึ่งฝ่ายใดของหทัยชนก การทำความเคารพจึงไม่เป็นเรื่องเสียหายอะไร
สายตาไม่ไว้วางใจของศักดิ์ชัยจึงกวาดมองร่างสูงของตะวันตั้งแต่หัวจรดเท้า เน้นมองอยู่นานตรงใบหน้าของตะวัน จนทำให้คนที่ถูกมองร้อนๆ หนาวๆ อย่างบอกไม่ถูก
“แล้วทำไมฉันไม่รู้จักล่ะ เพื่อนของรุ้งทุกคนฉันก็รู้จักนะ”
ศักดิ์ชัยถามกลับด้วยความสงสัย เขารู้จักเพื่อนของลูกสาวทุกคน แต่ชายหนุ่มรูปร่างดีตรงหน้านี้ เขากลับไม่รู้จัก จึงไม่มั่นใจว่าบุรุษคนนี้เป็นเพื่อนลักษณะไหนของลูกสาว
“คุณลุงคงไม่รู้จักผมหรอกครับ เพราะผมเพิ่งรู้จักรุ้งได้ไม่กี่วันครับ ผมเป็นเพื่อนสนิทของเกตุน่ะครับ เจอรุ้งในงานวันเกิดของเกตุ” ตะวันขยายความให้อีกฝ่ายเข้าใจมากขึ้น
“อ๋อ...เป็นเพื่อนเกตุหรอกหรือ” ศักดิ์ชัยทำเสียงรับรู้ “แล้วมาหารุ้งทำไม?” ก่อนจะเอ่ยปากถามต่อ
“ผมจะไว้วานให้รุ้งเป็นไกด์พาเที่ยวเชียงใหม่น่ะครับ เย็นนี้ก็เลยนัดกันไว้ว่าจะไปเที่ยวตลาดไนท์พลาซ่ากันครับ” ตะวันตอบ
“มาเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ศักดิ์ชัยถามต่อไป
“มาถึงเมื่อเช้าครับ มาพร้อมกับรุ้ง”
คำตอบของตะวันทำให้สีหน้าของศักดิ์ชัยยิ่งเต็มไปด้วยความสงสัย มาพร้อมกับลูกสาวของเขาอย่างนั้นหรือ มันหมายความว่าอย่างไร คนหวงลูกรีบถามคำถามต่อไปทันที