บทที่ ๙ # รักษาเอกราช
เฟิงหลุนทะลึ่งพรวดขึ้นมา พร้อมทั้งโวยวายเสียงดัง หยางอี้เห็นเช่นนั้นก็หัวใจพองโต แม้จะไม่เข้าใจในภาษาที่อีกคนพูดก็ตาม แต่ทว่ายิ่งทำให้อยากดูดเลียกลีบปากอิ่มมากขึ้นอีกจนน่าตกใจ เนื่องจากความต้องการที่เขามีต่ออนุตัวนุ่มหอมคนนี้ มันมากมายเกินกว่าระงับไหว เมื่อหักห้ามไม่ได้ ก็คงต้องลุย ลองเกี้ยวเมียของตัวเองบ้าง มันจะเป็นอย่างไร
ยิ่งถูกใจมากยิ่งขึ้น เมื่อมือนุ่มนิ่มขยี้ขยำแท่งทวนใหญ่ยักษ์ของเขา ว่าแล้วมือแกร่งจึงเชยคางขึ้นมาก่อนจะเอ่ยคำเกี้ยวพาให้อนุคนงามใจสั่นหวามไหวกลับคืนไปบ้าง
“หึหึ เจ้าตื่นเต้นหรือ แต่ก่อนก็เคยเห็นแล้วนี่ ว่ากระบี่ของสามีนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน” ยิ่งพูดคนหลงมิติยิ่งใจสั่น แทบจะละลายอยู่รอมร่อ
"ปากของเจ้าก็ช่างหวานนัก สามีชอบเหลือเกิน" พูดจบก็หอมแก้มนิ่มนั้นหนึ่งฟอด
เฟิงหลุนเขินจัด นี่เขาถูกอีกคนจูบเป็นครั้งที่สองแล้วนะ จูบที่ริมบึงดอกบัว แถมมีบ่าวไพร่เหมือนเดิมกับรอบนั้น ฮึ่ยยเขินโว้ยย
"ท่าน จูบข้าอีกแล้วนะ" เอ่ยเบา ๆ แต่คนตัวโตก็ได้ยิน องครักษ์ทั้งสองก็เช่นกัน
" เจ้าเป็นภรรยาข้า ไยข้าซึ่งเป็นสามีถึงจูบเจ้าไม่ได้" ยิ้มทั้งปากและตาอย่างชอบอกชอบใจ ที่เห็นคนตัวเล็กออกอาการเขินจัด
"ท่านไปกรมมาตั้งหลายวัน มาถึงก็จูบข้าเลย ใครบ้างจะไม่เขินอายล่ะ" เขาไม่ได้เป็นพระอรหันต์นะ จะได้ตัดกิเลสหมด
"เมื่อสองวันก่อนนั้น ภรรยาข้าทำอันใดไปให้ข้าหรือ สีสันสวยงามยิ่ง" คิดถึงวันก่อนที่องครักษ์นำขนมหวานสีสันสวยงามไปให้ตนที่กรมกลาโหม พร้อมกับแจ้งว่า อนุเก้าเป็นคนทำ สร้างความแปลกใจให้กับเขายิ่งนัก จำได้ว่า ตนนั้นนั่งจ้องอยู่เป็นครู่ก่อนจะย้ำกับองครักษ์ตนที่รับสารน์นั้นมาส่งอีกที
"เจ้าว่าสิ่งนี้คืออันใดนะ อ้าวเทียน" มองชามใบใหญ่นิ่ง ๆ
"อนุเก้าบอกว่าเป็นบัวลอยไข่หวานขอรับท่านแม่ทัพ วันนี้ท่านเฟิงหลุนเข้าโรงครัวทำเองกับมือเลยนะขอรับ" อ้าวเทียนเอ่ยยิ้ม ๆ แต่บังเอิญผู้เป็นนายก้มหัวอยู่จึงไม่เห็น
"อืม เจ้าไปได้" เมื่อองครักษ์เงาของตนไปแล้ว จึงลองตักเจ้าบัวลอยขึ้นมาพินิจพิจารณาอีกครั้ง ดมกลิ่นหอมนั่นอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดใจ เอาเข้าปากเคี้ยวทันที
จิ้นไห่และซินเทียนก็ลุ้นกันหนัก ว่าท่านแม่ทัพจะทานหรือไม่ แล้วก็ต้องตาโต เพราะผู้เป็นนายตักเอา ๆ ดูเหมือนจะอย่างเอร็ดอร่อยเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาทั้งคู่ก็นิ่งเฉย ปล่อยให้ท่านมีความสุขอย่างเต็มที่
ภายในเวลาไม่ช้าบัวลอยไข่หวานชามนั้นก็หมดลง
แม่ทัพมองถ้วยขนมด้วยสายตาเหม่อลอย มันอร่อยมาก ๆ กลับจวนเมื่อไหร่ จะให้คนตัวบางทำให้ทานอีกแน่
เมื่อนึกถึงรสชาติของมันแม่ทัพหนุ่มก็น้ำลายสอ อยากทานขึ้นมาเดี๋ยวนั้นเลย
"อ้อ นั่นเขาเรียกว่าบัวลอยไข่หวานขอรับ" คนตัวเล็กขยับกายไปมา แม่ทัพตัวโตก็รีบพยุงนั่ง rร้อมทั้งจัดสาบเสื้อให้มิดชิด ไม่สนใจว่าจะถูกอนุคนวามมองอย่างไร
"สามีอยากทานอีก ภรรยาทำให้สามีทานได้ไหม" อ้อน ซึ่งมันน่าเหลือเชื่อมาก ทุกคนในที่นี้ต่างหูผึ่งกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่องครักษ์คนสนิท
“…..” หือ อยากทานอีก อร่อยล่ะสิท่าเฟิงหลุนยิ้ม หน้านวลเนียนนั้นฉายแววเจ้าเล่ห์
"ได้ขอรับ" รีบลุกขึ้น แต่คงรีบจัด จึงถึงกับเซเข้าสู่วงแขนแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างว่องไว ไม่ใช่เขาเซเข้าไปนะ ถูกอีกคนตวัดเอวเขาต่างหาก
‘ถึงแตะบ่อย แต่ก็นะ มัน ฟินมาก’
"หลุนเอ๋อร์ เจ้าอย่ารีบนัก หกล้มขึ้นมาจะแย่เอา" ดุอย่างเป็นห่วง
"ขอบคุณขอรับ"
เฟิงหลุนพาคนตัวโตไปที่โรงครัว ทำให้โรงครัวแตกตื่นอีกรอบ !!
“พวกเจ้านี่มันยังไงกันนะ จะแตกตื่นไปทำไม ข้าจะมาทำขนมบัวลอยไข่หวานแบบวันนั้นไง ท่านแม่ทัพอยากทาน" อนุเก้ารีบเอ่ย ก่อนจะถามหาวัตถุดิบตามเดิม
ท่านแม่ทัพมองดูอนุของจวนขูดกะทิก็นึกทึ่ง เขาไม่รู้มาก่อนว่าคนตัวบางจะทำอะไรพวกนี้เป็นจนได้มาเห็นกับตา ยิ่งมองเช่นนี้ยิ่งหลงใหล ท่านแม่ทัพซึมซับภาพนั้นลงกลางใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
การที่เฟิงหลุนทำบัวลอยไข่หวานเป็นนั้น เพราะว่า ช่วงที่เรียนอยู่เขาได้ลงวิชาคหกรรม จึงทำอาหารเป็นทุกอย่าง เขาคิดว่า หากได้อยู่ที่นี่ต่อไป จะเปิดร้านขายอาหารแล้ว เผื่อวันข้างหน้าถูกท่านแม่ทัพหน้าโหดนี่เท เขาจะได้ไม่อดอยากและไม่อดตาย
เวลาพักใหญ่จึงได้บัวลอยไข่หวานเต็มหม้อ บ่าวไพร่เมื่อได้กลิ่นหอมๆต่างก็กลืนน้ำลายเอื้อกทันที
เฟิงหลุนตักใส่ชามใบใหญ่เพื่อให้ท่านแม่ทัพ ตักแบ่งให้จิ้นไห่-ซินเทียน อ้าวเทียน พ่อบ้านหลิว และบรรดาบ่าวไพร่ของตนรวมทั้งองครักษ์ที่เฝ้าจวนและเหล่าแม่ครัว ต่างก็ได้กินบัวลอยไข่หวานของอนุคนงามครบทุกคน !!
เฟิงหลุนยิ้มหน้าบานที่ใคร ๆ ต่างก็ชอบบัวลอยของเขา โดยเฉพาะ สามีหน้าโหด
เขานั่งเท้าคางดูแม่ทัพตักบัวลอยใส่ปากยิ้ม ๆ เขามีความสุขมากที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ หัวใจของคนทำอาหาร เมื่อคนทานมีความสุข คนทำก็ปลื้มใจจนน้ำตาจะไหลแล้ว
หยางอี้ตักบัวลอยเข้าปากไปหนึ่งคำ รสชาติอันหอมหวานก็อบอวลไปทั่วโพรงปากและลิ้น มันกำซาบเข้าสู่ต่อมรับรสทันที
"อร่อยมาก" หยางอี้ชม เขาชอบมาก
ก่อนจะหันไปมองคนทำ สบเข้ากับดวงตากลมเหมือนตากวางของอีกคนอย่างเผลอไผล แล้วตักบัวลอยขึ้นมาเป่าก่อนจะจ่อตรงปากอิ่ม แล้วเอ่ยถามขึ้น
"ภรรยาไม่ทานหรือ อ้าปากสิ ข้าจะป้อนเอง" ทุกคนตกตะลึงอื้ออึง ต่างมองภาพนั้นเป็นตาเดียว
"..... " เฟิงหลุนทำหน้าไม่ถูก เมื่อถูกป้อนแบบนี้
หน้าอีหลักอีเหลื่อของคนตัวบางช่างน่ารัก และน่าหลง จนทำให้ท่านแม่ทัพจอมโหดถึงขั้นสั่นไหวได้
"ทานด้วยกันนะ" เมื่อได้ยินแบบนั้นอีกครั้ง เฟิงหลุนจึงพยักหน้าทันที
"ขอรับ" อ้าปากรับบัวลอยอย่างชอบใจ
สองสามีภรรยา ต่างทานบัวลอยไข่หวานด้วยความสุขใจ ความอบอุ่นอ่อนหวาน ละเมียดละไมในความรู้สึก ได้ลอยวนรอบคนทั้งคู่อย่างอ้อยอิ่ง เสมือนเป็นพยานแห่งรักที่กำลังจุดประกายขึ้นมา แม้จะช้าไปบ้าง แต่กลับมั่นคงยิ่งนัก
"ท่านเหนื่อยหรือไม่ ไม่ได้กลับจวนหลายวัน" เอ่ยถามไปตามธรรมเนียมและตามหน้าที่ หรอกนะ!
"สามีไม่เหนื่อย กลับมาเห็นหน้าภรรยาก็ชื่นใจแล้ว" มองสบตาอีกคนยิ้ม ๆ
"ท่านพี่ ข้าไม่ใช่ฮูหยินเอกนะขอรับ ท่านพี่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยสามีภรรยาก็ได้" บอกไปตรง
"เจ้าเป็นภรรยาของข้า และข้าจะไม่ให้เจ้าไปเป็นภรรยาของใคร" ตาคมกล้าวาบขึ้น พูดไปคนละทางกับเฟิงหลุน
‘ไรวะ ขนลุก !’
"คืนนี้สามีอยากค้างที่เรือนโม่ลี่" หะ !!
ค้างคืนกับเขาสองต่อสองแบบนี้นี่นะ เขาคงสูญเสียเอกราชแน่ ๆ ‘ไม่นะ กูยังไม่พร้อมจะเสียซิงนะ’
เมื่อเห็นอีกคนแตกตื่น หยางอี้ก็ขำ แววตาจึงวาววับ จนคนแตกตื่นถึงขั้นขนลุกขนพอง
"จะแตกตื่นไปไย ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยผ่านคืนวสันต์กับข้าเสียเมื่อไหร่" หยางอี้พูด แล้วรำลึกถึงความหลังครั้งวันวาน ที่ได้ร่วมวสันต์สวาทกับคนตัวหอม ถ้าเขาจำไม่ผิดน่าจะร่วมห้าครั้งนะ
"เจ้าไม่ต้องตื่นเต้นไป ใจเย็น ๆ นะหลุนเอ๋อร์" ปลอบคนตัวเล็กเบา ๆ
‘จะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง เสียความบริสุทธิ์เชียวนะเฟ้ย’ เฟิงหลุนแตกตื่นจนมีเหงื่อผุดขึ้นที่ไรผม คนตัวโตยังไม่ทันจะได้เอ่ยอันใด จิ้นไห่ก็เข้ามารายงานพอดี
"ขอเสียมารยาทขอรับ ท่านแม่ทัพขอรับ มีรายงานขอรับ ตอนนี้รอที่ห้องทำงานแล้ว" จิ้นไห่รีบรายงานท่านแม่ทัพ เขารู้ว่าเป็นการเสียมารยาท แต่ทว่า นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก ชักช้าไม่ได้
“อืม” แม่ทัพหยางถอนหายใจ เมื่อมีงานมารอแล้วจึงต้องตัดใจจากคนงาม ใบหน้าจึงมืดครึ้มลงไปถึงสองส่วน ทำให้คนมองและคนรายงานหายใจไม่ทั่วท้อง
"ภรรยาข้า...สามีคงต้องกลับเรือนใหญ่แล้ว สามีให้เจ้าได้พักก่อน อีกไม่นานเจ้าจะได้ทำหน้าที่ภรรยา สามีไปก่อนนะ" เอ่ยลาคนงามก่อนจะเชยคางขึ้นเพื่อรับจูบจากท่านแม่ทัพ
เฟิงหลุนอื้ออึงในความรู้สึก นี่มันเกิดอะไรขึ้นมานะ ทำไมแม่ทัพใหญ่ถึงพัวพันอยู่กับเขาทั้งที่มีอนุคนโปรดอยู่ตั้งสองคน
แต่ยังไง เอกราชก็ยังอยู่นะ