บทที่ ๙ # รักษาเอกราช

1603 คำ
     บทที่ ๙ # รักษาเอกราช              เฟิงหลุนทะลึ่งพรวดขึ้นมา พร้อมทั้งโวยวายเสียงดัง หยางอี้เห็นเช่นนั้นก็หัวใจพองโต แม้จะไม่เข้าใจในภาษาที่อีกคนพูดก็ตาม แต่ทว่ายิ่งทำให้อยากดูดเลียกลีบปากอิ่มมากขึ้นอีกจนน่าตกใจ เนื่องจากความต้องการที่เขามีต่ออนุตัวนุ่มหอมคนนี้ มันมากมายเกินกว่าระงับไหว เมื่อหักห้ามไม่ได้ ก็คงต้องลุย ลองเกี้ยวเมียของตัวเองบ้าง มันจะเป็นอย่างไร           ยิ่งถูกใจมากยิ่งขึ้น เมื่อมือนุ่มนิ่มขยี้ขยำแท่งทวนใหญ่ยักษ์ของเขา ว่าแล้วมือแกร่งจึงเชยคางขึ้นมาก่อนจะเอ่ยคำเกี้ยวพาให้อนุคนงามใจสั่นหวามไหวกลับคืนไปบ้าง           “หึหึ เจ้าตื่นเต้นหรือ แต่ก่อนก็เคยเห็นแล้วนี่ ว่ากระบี่ของสามีนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน” ยิ่งพูดคนหลงมิติยิ่งใจสั่น แทบจะละลายอยู่รอมร่อ           "ปากของเจ้าก็ช่างหวานนัก สามีชอบเหลือเกิน" พูดจบก็หอมแก้มนิ่มนั้นหนึ่งฟอด           เฟิงหลุนเขินจัด นี่เขาถูกอีกคนจูบเป็นครั้งที่สองแล้วนะ จูบที่ริมบึงดอกบัว แถมมีบ่าวไพร่เหมือนเดิมกับรอบนั้น ฮึ่ยยเขินโว้ยย           "ท่าน จูบข้าอีกแล้วนะ" เอ่ยเบา ๆ แต่คนตัวโตก็ได้ยิน องครักษ์ทั้งสองก็เช่นกัน           " เจ้าเป็นภรรยาข้า ไยข้าซึ่งเป็นสามีถึงจูบเจ้าไม่ได้" ยิ้มทั้งปากและตาอย่างชอบอกชอบใจ ที่เห็นคนตัวเล็กออกอาการเขินจัด           "ท่านไปกรมมาตั้งหลายวัน มาถึงก็จูบข้าเลย ใครบ้างจะไม่เขินอายล่ะ" เขาไม่ได้เป็นพระอรหันต์นะ จะได้ตัดกิเลสหมด           "เมื่อสองวันก่อนนั้น ภรรยาข้าทำอันใดไปให้ข้าหรือ สีสันสวยงามยิ่ง" คิดถึงวันก่อนที่องครักษ์นำขนมหวานสีสันสวยงามไปให้ตนที่กรมกลาโหม พร้อมกับแจ้งว่า อนุเก้าเป็นคนทำ สร้างความแปลกใจให้กับเขายิ่งนัก จำได้ว่า ตนนั้นนั่งจ้องอยู่เป็นครู่ก่อนจะย้ำกับองครักษ์ตนที่รับสารน์นั้นมาส่งอีกที           "เจ้าว่าสิ่งนี้คืออันใดนะ อ้าวเทียน" มองชามใบใหญ่นิ่ง ๆ           "อนุเก้าบอกว่าเป็นบัวลอยไข่หวานขอรับท่านแม่ทัพ วันนี้ท่านเฟิงหลุนเข้าโรงครัวทำเองกับมือเลยนะขอรับ" อ้าวเทียนเอ่ยยิ้ม ๆ แต่บังเอิญผู้เป็นนายก้มหัวอยู่จึงไม่เห็น           "อืม เจ้าไปได้" เมื่อองครักษ์เงาของตนไปแล้ว จึงลองตักเจ้าบัวลอยขึ้นมาพินิจพิจารณาอีกครั้ง ดมกลิ่นหอมนั่นอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดใจ เอาเข้าปากเคี้ยวทันที           จิ้นไห่และซินเทียนก็ลุ้นกันหนัก ว่าท่านแม่ทัพจะทานหรือไม่ แล้วก็ต้องตาโต เพราะผู้เป็นนายตักเอา ๆ ดูเหมือนจะอย่างเอร็ดอร่อยเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาทั้งคู่ก็นิ่งเฉย ปล่อยให้ท่านมีความสุขอย่างเต็มที่              ภายในเวลาไม่ช้าบัวลอยไข่หวานชามนั้นก็หมดลง           แม่ทัพมองถ้วยขนมด้วยสายตาเหม่อลอย  มันอร่อยมาก ๆ กลับจวนเมื่อไหร่ จะให้คนตัวบางทำให้ทานอีกแน่             เมื่อนึกถึงรสชาติของมันแม่ทัพหนุ่มก็น้ำลายสอ อยากทานขึ้นมาเดี๋ยวนั้นเลย           "อ้อ นั่นเขาเรียกว่าบัวลอยไข่หวานขอรับ" คนตัวเล็กขยับกายไปมา แม่ทัพตัวโตก็รีบพยุงนั่ง rร้อมทั้งจัดสาบเสื้อให้มิดชิด ไม่สนใจว่าจะถูกอนุคนวามมองอย่างไร           "สามีอยากทานอีก ภรรยาทำให้สามีทานได้ไหม" อ้อน ซึ่งมันน่าเหลือเชื่อมาก ทุกคนในที่นี้ต่างหูผึ่งกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่องครักษ์คนสนิท           “…..” หือ อยากทานอีก อร่อยล่ะสิท่าเฟิงหลุนยิ้ม หน้านวลเนียนนั้นฉายแววเจ้าเล่ห์           "ได้ขอรับ" รีบลุกขึ้น แต่คงรีบจัด จึงถึงกับเซเข้าสู่วงแขนแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างว่องไว ไม่ใช่เขาเซเข้าไปนะ ถูกอีกคนตวัดเอวเขาต่างหาก           ‘ถึงแตะบ่อย แต่ก็นะ มัน ฟินมาก’           "หลุนเอ๋อร์ เจ้าอย่ารีบนัก หกล้มขึ้นมาจะแย่เอา" ดุอย่างเป็นห่วง           "ขอบคุณขอรับ"            เฟิงหลุนพาคนตัวโตไปที่โรงครัว ทำให้โรงครัวแตกตื่นอีกรอบ !!             “พวกเจ้านี่มันยังไงกันนะ จะแตกตื่นไปทำไม ข้าจะมาทำขนมบัวลอยไข่หวานแบบวันนั้นไง ท่านแม่ทัพอยากทาน" อนุเก้ารีบเอ่ย ก่อนจะถามหาวัตถุดิบตามเดิม           ท่านแม่ทัพมองดูอนุของจวนขูดกะทิก็นึกทึ่ง เขาไม่รู้มาก่อนว่าคนตัวบางจะทำอะไรพวกนี้เป็นจนได้มาเห็นกับตา ยิ่งมองเช่นนี้ยิ่งหลงใหล ท่านแม่ทัพซึมซับภาพนั้นลงกลางใจมากขึ้นเรื่อย ๆ           การที่เฟิงหลุนทำบัวลอยไข่หวานเป็นนั้น เพราะว่า ช่วงที่เรียนอยู่เขาได้ลงวิชาคหกรรม จึงทำอาหารเป็นทุกอย่าง เขาคิดว่า หากได้อยู่ที่นี่ต่อไป จะเปิดร้านขายอาหารแล้ว เผื่อวันข้างหน้าถูกท่านแม่ทัพหน้าโหดนี่เท เขาจะได้ไม่อดอยากและไม่อดตาย           เวลาพักใหญ่จึงได้บัวลอยไข่หวานเต็มหม้อ บ่าวไพร่เมื่อได้กลิ่นหอมๆต่างก็กลืนน้ำลายเอื้อกทันที            เฟิงหลุนตักใส่ชามใบใหญ่เพื่อให้ท่านแม่ทัพ ตักแบ่งให้จิ้นไห่-ซินเทียน อ้าวเทียน พ่อบ้านหลิว และบรรดาบ่าวไพร่ของตนรวมทั้งองครักษ์ที่เฝ้าจวนและเหล่าแม่ครัว ต่างก็ได้กินบัวลอยไข่หวานของอนุคนงามครบทุกคน !!            เฟิงหลุนยิ้มหน้าบานที่ใคร ๆ ต่างก็ชอบบัวลอยของเขา โดยเฉพาะ สามีหน้าโหด           เขานั่งเท้าคางดูแม่ทัพตักบัวลอยใส่ปากยิ้ม ๆ เขามีความสุขมากที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ หัวใจของคนทำอาหาร เมื่อคนทานมีความสุข คนทำก็ปลื้มใจจนน้ำตาจะไหลแล้ว           หยางอี้ตักบัวลอยเข้าปากไปหนึ่งคำ รสชาติอันหอมหวานก็อบอวลไปทั่วโพรงปากและลิ้น มันกำซาบเข้าสู่ต่อมรับรสทันที            "อร่อยมาก" หยางอี้ชม เขาชอบมาก           ก่อนจะหันไปมองคนทำ สบเข้ากับดวงตากลมเหมือนตากวางของอีกคนอย่างเผลอไผล แล้วตักบัวลอยขึ้นมาเป่าก่อนจะจ่อตรงปากอิ่ม แล้วเอ่ยถามขึ้น           "ภรรยาไม่ทานหรือ อ้าปากสิ ข้าจะป้อนเอง" ทุกคนตกตะลึงอื้ออึง ต่างมองภาพนั้นเป็นตาเดียว           "..... " เฟิงหลุนทำหน้าไม่ถูก เมื่อถูกป้อนแบบนี้           หน้าอีหลักอีเหลื่อของคนตัวบางช่างน่ารัก และน่าหลง จนทำให้ท่านแม่ทัพจอมโหดถึงขั้นสั่นไหวได้           "ทานด้วยกันนะ" เมื่อได้ยินแบบนั้นอีกครั้ง เฟิงหลุนจึงพยักหน้าทันที           "ขอรับ" อ้าปากรับบัวลอยอย่างชอบใจ           สองสามีภรรยา ต่างทานบัวลอยไข่หวานด้วยความสุขใจ ความอบอุ่นอ่อนหวาน ละเมียดละไมในความรู้สึก ได้ลอยวนรอบคนทั้งคู่อย่างอ้อยอิ่ง เสมือนเป็นพยานแห่งรักที่กำลังจุดประกายขึ้นมา แม้จะช้าไปบ้าง แต่กลับมั่นคงยิ่งนัก           "ท่านเหนื่อยหรือไม่ ไม่ได้กลับจวนหลายวัน" เอ่ยถามไปตามธรรมเนียมและตามหน้าที่ หรอกนะ!            "สามีไม่เหนื่อย กลับมาเห็นหน้าภรรยาก็ชื่นใจแล้ว" มองสบตาอีกคนยิ้ม ๆ           "ท่านพี่ ข้าไม่ใช่ฮูหยินเอกนะขอรับ ท่านพี่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยสามีภรรยาก็ได้" บอกไปตรง           "เจ้าเป็นภรรยาของข้า และข้าจะไม่ให้เจ้าไปเป็นภรรยาของใคร" ตาคมกล้าวาบขึ้น พูดไปคนละทางกับเฟิงหลุน           ‘ไรวะ ขนลุก !’           "คืนนี้สามีอยากค้างที่เรือนโม่ลี่" หะ !!                ค้างคืนกับเขาสองต่อสองแบบนี้นี่นะ เขาคงสูญเสียเอกราชแน่ ๆ ‘ไม่นะ กูยังไม่พร้อมจะเสียซิงนะ’           เมื่อเห็นอีกคนแตกตื่น หยางอี้ก็ขำ แววตาจึงวาววับ จนคนแตกตื่นถึงขั้นขนลุกขนพอง           "จะแตกตื่นไปไย ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยผ่านคืนวสันต์กับข้าเสียเมื่อไหร่" หยางอี้พูด แล้วรำลึกถึงความหลังครั้งวันวาน ที่ได้ร่วมวสันต์สวาทกับคนตัวหอม ถ้าเขาจำไม่ผิดน่าจะร่วมห้าครั้งนะ           "เจ้าไม่ต้องตื่นเต้นไป ใจเย็น ๆ นะหลุนเอ๋อร์" ปลอบคนตัวเล็กเบา ๆ           ‘จะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง เสียความบริสุทธิ์เชียวนะเฟ้ย’ เฟิงหลุนแตกตื่นจนมีเหงื่อผุดขึ้นที่ไรผม คนตัวโตยังไม่ทันจะได้เอ่ยอันใด จิ้นไห่ก็เข้ามารายงานพอดี           "ขอเสียมารยาทขอรับ ท่านแม่ทัพขอรับ มีรายงานขอรับ ตอนนี้รอที่ห้องทำงานแล้ว" จิ้นไห่รีบรายงานท่านแม่ทัพ เขารู้ว่าเป็นการเสียมารยาท แต่ทว่า นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก ชักช้าไม่ได้           “อืม” แม่ทัพหยางถอนหายใจ เมื่อมีงานมารอแล้วจึงต้องตัดใจจากคนงาม ใบหน้าจึงมืดครึ้มลงไปถึงสองส่วน ทำให้คนมองและคนรายงานหายใจไม่ทั่วท้อง           "ภรรยาข้า...สามีคงต้องกลับเรือนใหญ่แล้ว สามีให้เจ้าได้พักก่อน อีกไม่นานเจ้าจะได้ทำหน้าที่ภรรยา สามีไปก่อนนะ" เอ่ยลาคนงามก่อนจะเชยคางขึ้นเพื่อรับจูบจากท่านแม่ทัพ           เฟิงหลุนอื้ออึงในความรู้สึก นี่มันเกิดอะไรขึ้นมานะ ทำไมแม่ทัพใหญ่ถึงพัวพันอยู่กับเขาทั้งที่มีอนุคนโปรดอยู่ตั้งสองคน           แต่ยังไง เอกราชก็ยังอยู่นะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม