“เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา คุณเทวายังขยับนิ้วได้อยู่เลยนะคะ” พยาบาลสาวรายงานตามความเป็นจริงที่เธอเห็น
“เทวา นายคงทรมานมากใช่ไหม ฉันรู้ แต่นายต้องสู้นะ นายต้องฟื้นขึ้นมา ในโลกนี้ฉันเหลือนายเพียงคนเดียว นายจะปล่อยให้ฉันเหงาอยู่คนเดียวไม่ได้นะ” ทัพเทวินทร์เขย่าแขนน้องชายเบาๆ ด้วยความเป็นห่วงแทบขาดใจ มือหนาล้วงลงไปในถุงพลาสติกแล้วหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมา
“นี่ไงหนังสือการ์ตูนที่ฉันซื้อมาฝากนาย ฉันจะอ่านให้นายฟังนะ ...” แล้วตัวละครในการ์ตูนก็ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดที่มีทั้งเสียงสูงบ้างเสียงต่ำบ้างแทรกด้วยเสียงหัวเราะที่สุดฝืนซึ่งน้อยคนนักที่จะได้ฟัง เนื้อหาในเรื่องโคตรตลก แต่คนที่ได้ฟังกลับยืนร้องห้องไห้กันเป็นแถว นับตั้งแต่พยาบาลสาวจนถึงบอดี้การ์ดหน้าโหดทั้งสามคน ก็ไม่อาจที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้
“คุณเทวินทร์คะ คุณเทวินทร์ คุณเทวามีน้ำตาไหลด้วยค่ะ” พยาบาลสาวเรียกทัพเทวินทร์ด้วยความตื่นเต้นดีใจ
ร่างสูงหยุดอ่านหนังสือการ์ตูนแล้วหันมามองหน้าคนไข้นิ่งอย่างดีใจ “เทวา นายได้ยินที่ฉันเล่าการ์ตูนให้นายฟังแล้วใช่ไหม นายได้ยินใช่ไหม ฟังฉันนะเทวา นายต้องเข้มแข็งเอาไว้ ลูกผู้ชายต้องอดทนนะโว้ย เข้าใจไหม อ้อ...วันนี้ฉันมีเรื่องมาเล่าให้นายฟังด้วยนะ” ทัพเทวินทร์จ้องหน้าน้องชายนิ่ง ก่อนที่จะพูดในสิ่งเขาคิดว่าถ้าน้องชายของเขารับรู้ ทัพเทวาจะต้องดีใจและเห็นด้วยกับการกระทำของเขาเป็นแน่
“สองสามเดือนที่ผ่านมาฉันตามหาผู้หญิงแพศยาที่ทำให้แกต้องเป็นแบบนี้ แต่ก็ฉันยังหาแม่นั่นไม่เจอไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน แต่ฉันก็จับน้องสาวของผู้หญิงแพศยาคนนั้นมาได้แล้วนะ ตอนนี้ฉันกำลังขังหล่อนเอาไว้ ฉันจะทรมานหล่อน ลงโทษหล่อนให้สาสมกับที่พี่สาวของหล่อนทำกับแก”
พอพูดถึงตรงนี้ นิ้วมือของคนไข้ก็เริ่มกระดิกจนทัพเทวินทร์สังเกตเห็น
“เทวา! นายรู้สึกตัวแล้ว นายเห็นด้วยกับฉันใช่มั้ย นายลืมตาขึ้นมาคุยกับฉันสิเทวา” ทัพเทวินทร์เขย่าแขนน้องชายแรงขึ้นอีกนิด แต่คนไข้ก็ยังไม่ลืมตาเขายังคงนอนสงบนิ่งอยู่อย่างนั้น
“ไม่เป็นไรนะเทวา ยังไงฉันก็จะรอวันที่นายฟื้นขึ้นมาจัดการกับพวกหล่อน ฉันจะจับผู้หญิงคนนั้นไว้เป็นเชลยและขังเธอเอาไว้ที่ไร่ เพื่อรอวันที่นายฟื้นขึ้นมาคิดบัญชีกับหล่อน และเร็วๆ นี้ฉันจะพาหล่อนมากราบขอโทษนายให้ได้ฉันสัญญา”
นิ้วของทัพเทวาพยายามกระดิกอีกครั้งเมื่อได้ยินพี่ชายของเขาพูดจบ และนิ้วมือของเขาก็ขยับได้มากกว่าเดิม จนทุกคนที่เห็นต่างก็รู้สึกดีใจโดยเฉพาะทัพเทวินทร์ที่ยิ้มทั้งน้ำตา แต่ก็ไม่มีใครทราบว่า ภายในใจของคนไข้ที่นอนอยู่บนตียงรู้สึกอย่างไร ทัพเทวาต้องการจะบอกอะไรให้พี่ชายของเขาให้รับรู้กันแน่
เมื่อกลับมาจากโรงพยาบาลพ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งไร่ทัพเทวัญ ก็เดินทางกลับที่พักบ้านไร่ทันที เพื่อรีบไปดูหน้าเชลยสาวที่เขาฝากให้แม่บ้านกับสาวใช้ดูแลให้ แต่พอลงจากรถก็พบกับ ชัชวาลย์ เพื่อนรักของเขามายืนรออยู่ก่อนแล้ว
ชัชวาลย์ โชติสกุล คือหุ้นส่วนสำคัญคนหนึ่งที่ร่วมลงทุนเกี่ยวกับกิจการโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งสองคบหากันมานานหลายปีแล้ว ชัชวาลเป็นหนุ่มหล่ออารมณ์ดี ใครเข้าใกล้ก็รู้สึกอบอุ่น เขาเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายๆ คนเชียวล่ะ แต่เพราะยังไม่เจอใครถูกใจ ชายหนุ่มจึงยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที
“เฮ้ยไอ้ชัช! มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ไม่เห็นโทร.มาบอกล่วงหน้าเลยว่าจะมา” ทัพเทวินทร์ทักทายแขกพิเศษอย่างอารมณ์ดีและติงเพื่อนนิดๆ อย่างแปลกใจ
“เอ้า...ถ้าโทร.มาก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์สิวะ” สายตาขี้เล่นและเจ้าเล่ห์หน่อยๆ มองเจ้าบ้านด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“แล้วมีธุระอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าเนี่ย ถึงได้แวะมาไม่บอกไม่กล่าว” พ่อเลี้ยงหนุ่มทำหน้าฉงนเมื่อยังไม่รู้จุดประสงค์ของเพื่อนรักที่หอบสังขารมาหาเขาจนถึงที่นี่
“ก็ไม่ได้มีธุระอะไรสำคัญมากมายหรอก ก็แค่จะมาบอกว่า ทางเราชนะการประมูลที่จะสร้างรีสอร์ทที่ห้วยพรรณรายได้แล้วก็แค่นั้น” ชัชวาลย์ทำหน้าเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่ก็ทำเอาคนฟังถึงกับกระโดดกอดคอเพื่อนรักอย่างกับถูกรางวัลที่หนึ่งก็ไม่ปาน
“จริงเหรอวะ นายเก่งมากไอ้เพื่อนรัก ยังงี้ต้องฉลองกันหน่อยแล้ว มาๆ มานั่งนี่เลย เร็ว” เจ้าบ้านหนุ่มโอบไหล่เพื่อนรักมานั่งโต๊ะไม้หน้าเรือนใหญ่ เลยทันได้เห็นเชลยสาวทำท่าผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ที่หน้าต่างบ้านชั้นสอง ซึ่งชัชวาลย์ก็มองเห็นหน้าหญิงสาวเข้าพอดีเช่นกัน ทัพเทวินทร์สังเกตได้จึงรีบเรียกสาวใช้มาบริการน้ำให้แขกพิเศษทันที ส่วนตัวเขาขอตัวเข้าไปในบ้านสักครู่อย่างรีบเร่ง ซึ่งทำให้แขกหนุ่มมองตามอย่างแปลกใจในท่าทางลุกลี้ลุกลนของเจ้าของเพื่อนรัก
“ป้าเพ็ญออกไปก่อน เดี๋ยวฉันจัดเอง” ร่างสูงใหญ่บอกแม่บ้านซึ่งกำลังปัดกวาดเช็ดถูอยู่ชั้นล่างเบาๆ ก่อนที่ขายาวๆ จะก้าวขึ้นบันไดไปหาเชลยสาวในห้องนอนอย่างด่วนจี๋
กริ๊ก! เสียงลูกบิดประตูดังกริ๊ก แล้วตามมาด้วยร่างสูงใหญ่ของเจ้าของบ้าน ณัฐกานต์รีบถอยห่างออกจากชายหนุ่มให้มากที่สุดทันที ขณะที่เขากำลังเดินเข้ามาใกล้
“นาย ไอ้ อุ๊บ!” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยอะไรออกมา ปากบางก็ถูกปิดด้วยอุ้งมือหนาทันทีที่เขาคว้าตัวเธอไว้ได้ ร่างบางดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของคนตัวโตไปมาด้วยท่าทางฮึดฮัด แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งแน่นจนเธอหายใจแทบไม่ออก เสียงอู้อี้ก็เริ่มทำท่าจะเงียบลงเมื่อโดนคนตัวโตตะคอกเบาๆ
“หยุด! เลิกดิ้น! แล้วฟังฉันให้ดี”
“...” ณัฐกานต์นิ่งสดับรับฟังชายหนุ่มอย่างเสียไม่ได้
“ดีมาก วันนี้ห้ามออกมาจากห้องเด็ดขาดถ้าฉันไม่อนุญาต และห้ามส่งเสียงดังด้วย ไม่อย่างนั้นคืนนี้เธอเจอดีแน่ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน” ร่างสูงใหญ่ขู่เชลยสาวเสียงเข้มต่ำท่าทางขึงขังเอาจริง
“เข้าใจที่ฉันพูดไหม!” ทัพเทวินทร์ถามย้ำตะคอกใส่หูหญิงสาวอีกครั้งอย่างข่มขู่แกมบังคับ
ร่างบางพยักหน้าหงึกๆ อย่างเข้าใจ และหญิงสาวก็เข้าใจจริงๆ เพราะลางสังหรณ์มันบอกเธอว่า เขาเอาจริงแน่ถ้าเธอไม่ทำตามคำสั่ง และเธอก็รู้ด้วยว่าถ้าชายหนุ่มโมโหขึ้นมาเธอต้องตายแน่ๆ
เมื่อเห็นว่าร่างเล็กในอ้อมแขนไม่แสดงฤทธิ์เดชใดๆ ออกมาแล้ว อ้อมแขนแข็งแรงดุจปลอกเหล็กจึงคลายออก และหันหน้าหญิงสาวมาเผชิญหน้า “ถ้าพูดกันรู้เรื่องง่ายๆ แบบนี้ ก็ค่อยน่ารักหน่อย” สายตาคมจ้องใบหน้าหวานอีกครั้งก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
ชัชวาลย์มองหน้าเพื่อนรักนิ่งเมื่อทัพเทวินทร์เดินมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง ตอนแรกเขาก็คิดว่าเพื่อนของเขาจะพาเด็กสาวคนนั้นที่เขาเห็นตรงหน้าต่างมาแนะนำให้รู้จัก แต่กลับเห็นร่างสูงเดินมาตัวเปล่า แถมยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อสบตากับเขา
“เฮ้ยเทวินทร์! ฉันรู้สึกว่าแกดูแปลกๆ ว่ะ” คนพูดทำท่าสำรวจและสังเกตความผิดปรกติของคนตรงหน้าอย่างเปิดเผย
“ฉันดูแปลกยังไง ก็ปรกติดีนี่ ทำไมเหรอ” คนพูดแกล้งทำเป็นไหวไหล่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำหน้าเหลอหลาจนชัชวาลย์เริ่มจะหมั่นไส้
“แล้วผู้หญิงที่ฉันเห็นอยู่ในบ้านเมื่อกี้นี้ล่ะเป็นใคร อย่าบอกนะว่าคนใช้ ฉันไม่เชื่อหรอก หน้าตาสวยขนาดนั้น หรือว่าเป็นเมียแก! แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะแกไม่เห็นพามาแนะนำให้รู่จักนี่นา บอกมาซะดีๆ ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” ชัชวาลย์มองหน้าเพื่อนรักอย่างเอาจริงเอาจัง จนทัพเทวินทร์ต้องจำใจบอกความจริงบางส่วนให้กับคนขี้สงสัยได้รับรู้