ตอนนี้ช่วยหญิงสาวให้รอดตายก่อน เรื่องแก้แค้นเอาไว้ทีหลัง ยังไงเขาก็ไม่มีวันลืมความเจ็บปวดที่เขาได้รับมาตลอดระยะเวลาเกือบสามเดือน นับตั้งแต่วันที่น้องชายของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เกือบสามเดือนแล้วที่น้องของเขายังไม่ฟื้น แม้ว่าอาการทางร่างกายจะดีขึ้นแต่อาการทางสมองก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย หมอบอกว่าโอกาสที่ทัพเทวาน้องชายของเขาจะกลายเป็นเจ้าชายนิทราตลอดไปมีสูงมาก
“ออกไปได้แล้วฝน เดี๋ยวฉันจะดูแลหล่อนเอง อ้อ...เกือบลืม เธอช่วยไปทำข้าวต้มร้อนๆ และหายาลดไข้มาให้ฉันที่ห้องด้วยนะ”
“ได้เจ้า” หยาดฝนเดินออกไปด้วยความรู้สึกที่ยังงงไม่หายกับการแสดงออกของเจ้านายหนุ่ม ที่ดูเหมือนจะห่วงใยในตัวของเชลยสาว แต่เธอก็ได้แต่เพียงเก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจเท่านั้น
สิบห้านาทีต่อมาหยาดฝนก็นำสิ่งที่เจ้านายของเธอต้องการมาให้ และก่อนออกจากห้องไปเด็กสาวยังถูกกำชับให้ไปบอกทุกคนว่าอย่าเข้ามารบกวนเขาถ้าไม่มีเรื่องด่วน โดยให้เด็กสาวเฝ้าอยู่นอกบ้านเพื่อป้องกันคนเข้ามาวุ่นวาย
เมื่อปิดประตูลงกลอนเสร็จเรียบร้อยแล้วทัพเทวินทร์ก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปปฐมพยาบาลเชลยสาวทันทีโดยเริ่มต้นจากการเช็ดตัว และชายหนุ่มคงจะเช็ดตัวให้หญิงสาวไม่ได้ถ้าไม่ถอดเสื้อผ้าของเธอออก มือหนาไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายเมื่อเริ่มปลดตะขอเสื้อนอกแต่เมื่อชายหนุ่มเริ่มปลดตะขอบราตัวเล็กๆ มือหนาของเขาก็เริ่มสั่น แต่เสือผู้หญิงอย่างเขามีหรือที่จะละสายตาจากสิ่งสวยๆ งามๆ ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า
แต่เพราะร่างกายที่กำลังสั่นเทาด้วยความหนาวชายหนุ่มจึงไม่มีเวลามามองร่างงามนั้นได้นานนัก แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าทรวงอกคู่สวยของหญิงสาวดูสวยงามยวนตามากเพียงใด และร่างกายของเชลยสาวตอนนี้ก็มีเพียงบิกินีตัวจิ๋วเท่านั้นที่ปกปิดส่วนที่หวงแหนที่สุดของเจ้าหล่อน ไม่ให้สายตาคมของเขาได้สำรวจไปไกลเกินกว่านั้น
ชายหนุ่มเช็ดตัวให้หญิงสาวจนเกือบทุกซอกทุกมุมเลยก็ว่าได้ จนกระทั่งเวลาเกือบเที่ยงคนไม่ค่อยสบายถึงได้ฟื้นขึ้นมา แต่ก็ยังอยู่ในสภาพที่อ่อนเพลียเต็มทีและสมองของเธอก็ยังรู้สึกเบลอๆ ไม่หาย ร่างเล็กจึงไม่ได้ออกอาการขัดขืนชายหนุ่มแต่อย่างใด เมื่อหญิงสาวถูกร่างใหญ่บังคับให้ทานข้าวกับทานยาก่อนที่จะหลับตานอนพักต่ออีกครั้ง
ตะวันลับฟ้าไปนานแล้วใบหน้าเรียวรูปไข่ก็เริ่มมีสีสันขึ้นมาทีละน้อย ดวงตากลมโตที่อยู่ใต้ขนตางอนหนาเป็นแพรค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ และเมื่อม่านตาขยายเต็มที่ ณัฐกานต์ถึงได้รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องลำพังเพียงคนเดียว แต่มีไอ้คนเลวคนนั้นที่หญิงสาวมีเรื่องกับเขาที่ผับในคืนนั้นอยู่ในห้องด้วย และใบหน้าคมเข้มของเขาก็อยู่ใกล้ใบหน้าของเธอเพียงแค่คืบ ความหวาดกลัวจึงเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
“กลัวฉันเหรอสาวน้อย” สายตาอันทรงเสน่ห์เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจ สบตากับดวงตาคู่สวยที่กำลังเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก สายตาคมเลื่อนมองลงมายังริมฝีปากบางอิ่มสีชมพูระเรื่อนั้นอย่างหลงใหล ชายหนุ่มคิดอยากจะครอบครองมันนัก ริมฝีปากที่สั่นระริกกำลังเริ่มขยับอ้าน้อยๆ เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทันที่จะเอื้อนเอ่ยสิ่งใด ปากหยักสีสดก็ประกบลงมาเสียก่อนอย่างรวดเร็วดั่งอสรพิษฉกเหยื่อ
ร่างบางสั่นสะท้านหวั่นไหว หญิงสาวรู้สึกกลัวผู้ชายตรงหน้าขึ้นมาจับใจ สองมือและสองแขนเล็กพยายามผลักไสอกแกร่งให้ออกห่าง แต่ยิ่งพยายามผลักร่างหนาออกเท่าไหร่ อ้อมแขนแข็งแรงดุจปลอกเหล็กก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้นเท่านั้น จนหญิงสาวแทบจะหายใจไม่ออก จูบที่จาบจ้วงรุนแรงแต่แฝงไปด้วยความเสน่หาอย่างร้ายกาจของชายหนุ่ม ทำให้ร่างบางไม่อาจต้านทานได้ จนเมื่อเขาถอนริมฝีปากออกอย่างช้าๆ ร่างที่ยังคงอ่อนระทวยเพราะรสจูบถึงกับหอบหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพราะขาดอากาศหายใจอยู่นาน
“แค่จูบเดียวถึงกับจะขาดใจตายเชียวหรือ อย่าบอกนะว่าฉันเป็นคนแรกที่จูบเธอ สาวน้อย” แววตาเจ้าเล่ห์กำลังไหวระริกไปมาเมื่อพิศมองใบหน้าเรียวสวยรูปไข่ที่กำลังแดงซ่าน และริมฝีปากที่บวมเจ่อด้วยฝีมือของเขาอย่างพึงพอใจ สัมผัสตอบรับที่ไร้เดียงสา มีหรือที่ผู้ชายอย่างเขาจะไม่รู้ว่าหญิงสาวช่างอ่อนหัดเหลือเกิน แต่ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกชอบใจยิ่งนัก
เผียะ!
“ไอ้คนสารเลว!” ณัฐกานต์โกรธผู้ชายตรงหน้าจนตัวสั่น เขามีสิทธิ์อะไรมาทำกับเธอแบบนี้ ‘ใช่แน่ๆ ไอ้ผู้ชายคนนี้มันต้องเป็นพวกบ้ากาม จิตวิปริตชอบจับผู้หญิงมาฆ่าข่มขืนแน่ๆ’ ร่างบางเริ่มลนลานกระถดถอยหนีหันซ้ายหันขวาเพื่อที่จะหาอาวุธอะไรก็ได้ เธอจะได้เอามาตีหัวไอ้คนชั่วนี่ให้หายแค้นที่มันบังอาจมาทำหยาบคายกับเธอ
“เธอบังอาจมากนะสาวน้อยที่กล้าตบหน้าฉัน คราวนี้ฉันไม่ปล่อยให้เธอได้นอนพักสบายๆ แน่”
ร่างเล็กกระถดถอยห่างออกไปจนชนหัวเตียง มือเล็กกำลังคว้าได้แจกันที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ได้อยู่แล้ว แต่เร็วเท่าความคิดร่างสูงใหญ่ของทัพเทวินทร์ก็เข้ามาประชิดตัวหญิงสาวและคว้าข้อแขนของเธอเอาไว้ได้เสียก่อน
“คิดจะสู้ฉันเหรอ...หึๆ คิดอะไรโง่ๆ เธอรู้ตัวรึเปล่าว่าตอนนี้เธอก็เปรียบเหมือนหนูที่อยู่ในกรงเล็บราชสีห์อย่างฉัน แค่ตะครุบครั้งเดียวเธอก็ไม่รอดแล้ว” คนตัวโตค่อยๆ เดินย่างสามขุมเข้าหาหญิงสาว ขณะที่คนตัวเล็กก็หาทางหนีทีไล่เดินวนไปรอบห้อง ปากก็ตะเบ็งด่าโต้เถียงชายหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“แล้วคนเลวๆ อย่างนายไม่เคยได้ยินหรือไง สักวันราชสีห์ก็ต้องยอมแพ้หนูตัวเล็กๆ จนได้”
“นั่นมันในนิทานแต่นี่มันชีวิตจริง เธอคิดเหรอว่าจะมีวันนั้น แต่ก็เอาเถอะฉันจะรอวันที่หนูเอาชนะราชสีห์ได้ก็แล้วกัน แต่อย่าให้นานนักนะเพราะว่าฉันใจร้อน และตอนนี้ก็กำลังร้อนมากด้วย ร้อนราคะยังไงล่ะ” สายตาคมลุกวาวขึ้นทันทีที่จับร่างของหญิงสาวผลักลงไปบนที่นอนหนานุ่มอย่างแรง ราชสีห์เจ้าป่ากำลังต้อนเหยื่ออันโอชะของเขาอย่างใจเย็น นี่เป็นบทเรียนแรกที่เขาจะมอบมันให้กับหญิงสาว เพื่อแก้แค้นให้กับน้องชายของเขาที่กำลังทุกข์ทรมานเพราะฝีมือของพี่สาวของเธอในตอนนี้ เขาจะต้องทำให้เธอทรมานทั้งกายและใจ
“ออกไปนะ ไอ้คนเลว แกจะทำอะไรฉัน โอ๊ย! ปล่อยนะ ฉันเจ็บ ปละ...” สองแขนของหญิงสาวถูกจับไขว้ไว้บนศีรษะด้วยมือหนาเพียงข้างเดียวจนแน่น ส่วนมืออีกข้างของชายหนุ่มก็บีบคางหญิงสาวเอาไว้เพื่อที่เขาจะได้จูบเธออย่างถนัดถนี่ ร่างเล็กดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง พยายามจะกัดลิ้นของคนร่างยักษ์ให้ได้ แต่เขาก็รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของเธอเสียก่อน
แคว่ก!
ชายหนุ่มถอนจูบหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะใช้มือขวาดึงชุดที่ร่างบางสวมอยู่ออกอย่างแรงจนขาดวิ่นเหลือแต่บิกินีตัวจิ๋ว เนินทรวงที่ผุดผาดดีดดิ้นโผล่ขึ้นมาท้าทายสายตาของชายหนุ่ม ร่างบางสะท้านไหวอย่างหวาดผวา มือหนารีบคว้าหมับเข้าที่ฐานบัวคู่งามอย่างกระหาย พลางกอบกุมยอดบัวงามทั้งสองข้างมาดูดเม้มหยอกเอินสลับกันไปมาอย่างห้ามใจไม่อยู่ ทัพเทวินทร์ยอมรับว่าดอกบัวคู่งามหญิงสาวเต็มตึงและสวยงามน่าสัมผัสมากกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยพบมามากเพียงใด
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย!” เสียงอ้อนวอนที่ตวาดออกมาเบาหวิวราวกับเสียงกระซิบ ชีพจรของหญิงสาวเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกมาจากซี่โครงด้วยความตื่นตระหนกตกใจ กลัวในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตนเอง