Chapter 9

1220 คำ
เดนิมยังพูดเรื่อยๆ แต่นิ้วเรียวแกร่งแกล้งสะกิดหลังมือบางอย่างหยอกเย้า เป็นผลให้เจ้าของมือรีบดึงมือออก พร้อมส่งดวงตาวาววับให้ “ต้องขอโทษคุณเดนิมจริงๆ พอดียายพราวลูกสาวผมเกิดเอกซิเดนกะทันหัน เธอเลยขอรออยู่ที่โรงแรมน่ะครับ” “น่าเสียดายนะครับ แต่เอาไว้คราวหน้าก็ได้ เชิญครับรถพร้อมแล้ว” ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ และยิ้มเลยมาให้หญิงสาวที่หน้าเรียบเฉยด้วย เธอแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น รอกระทั่งร่างสูงเดินไปพร้อมกับผู้เป็นลุงถึงเดินทาง คนบ้า! รติรสเข่นเขี้ยวว่าเขาอยู่ในใจ แก้มเธอร้อนวูบวาบไปหมดกับการฉวยโอกาสนั่น คนอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย ขณะเดียวกันนั้น ใจดวงน้อยไหวสั่นแปลกๆ สัมผัสจากฝ่ามือหนาส่งกระแสความอุ่นร้อนแปลกๆ กระทบหัวใจให้เต้นผิดจังหวะ “ผมเตรียมรถสองคันนี้ไว้ สะดวกและลุยได้เต็มที่เพราะทางที่จะไปตัดผ่านทะเลทราย” รถที่ว่า คือรถกระบะยกสูงแบบสี่ประตู รติรสเห็นแล้วแอบกังขานิดหน่อย เมื่อเห็นรถยี่ห้อหนึ่งซึ่งมีขายในเมืองไทยและได้รับความนิยมไม่น้อย “ผมนึกว่าเราจะนั่งอูฐกันไปเสียอีกแน่ะ” “หึหึ คงไม่ไหวหรอกครับคุณไพรัช อูฐเหล็กสองคันนี้น่าจะทำให้เราสะดวกมากกว่า” เดนิมพูดกลั้วหัวเราะ รถสองคัน กระบะหลังบรรทุกข้าวของเต็มคันรถ กล่องสีน้ำตาลหลายใบวางซ้อนกัน ความสูงของกล่องเลยขอบกระบะรถจนต้องใช้เชือกเส้นใหญ่รัดไว้อีกที รติรสมองแล้วขมวดคิ้วอย่างกังขา นี่เขาจะไปสองสามวันหรือสองสามเดือนกันแน่ “ของนิดๆ หน่อยๆ พวกอุปกรณ์กีฬากับหนังสือต่างๆ ผมเอาไปบริจาคให้โรงเรียนเล็กๆ ที่เราจะผ่านไปน่ะ” เดนิมบอกเบาๆ อย่างกับอ่านใจหญิงสาวได้ ใบหน้าคมคายมองไปที่หลังท้ายกระบะ แล้วหันมามองดวงหน้าสวย เขายิ้มให้ ผายมือเชิญให้เธอขึ้นรถที่เบาะหลัง ส่วนไพรัชนั้นขึ้นไปนั่งรอท่าแล้ว หญิงสาวสบตาคม นึกหมั่นไส้ที่เขาทำอย่างกับว่ารู้ใจเธอไปเสียหมด ดวงหน้าสวยเชิดน้อยๆ ก่อนจะขึ้นไปบนรถ เดนิมมองแล้วก็แอบยิ้มขำ สงสัยว่ากว่าทริปนี้จะจบเธอมิต้องคอเคล็ดหรอกหรือ ถ้าเอาแต่เชิดใส่เขาแบบนี้ ชายหนุ่มขึ้นไปนั่งคู่คนขับทางด้านหน้า ซึ่งฟาติก ทำหน้าที่เป็นพลขับในคราวนี้ ส่วนรถอีกคันมีคนของเขาขับไปพร้อมเพื่อนร่วมทางอีกหนึ่งคน รถเคลื่อนขบวนออกจากหน้าตึกบริษัทของเขา ขับผ่านบ้านเรือนและการจราจรที่ยังคับคั่งของเขตเมืองอีกพักใหญ่ แล้วจึงเข้าสู่เขตชานเมือง รติรสเกาะขอบหน้าต่างรถมองอาคารสิ่งปลูกสร้างรวมกระทั่งผู้คนอย่างเพลิดเพลิน ขณะที่ไพรัชพูดคุยเกี่ยวกับการทำเหมือง การคัดเลือกและส่งออกอัญมณี และการผลิตแผงโซลาร์เซลล์อย่างสนอกสนใจ “ประเทศไทยก็เป็นประเทศที่ส่งออกอัญมณีอันดับต้นๆ นะครับ ช่างของไทยมีฝีมือมากในการขึ้นรูปกับการเพิ่มมูลค่าให้เครื่องประดับ” ช่างฝีมือของประเทศไทย มีความสามารถในการขึ้นรูป วาดลวดลาย สร้างสรรค์เครื่องประดับให้มีลวดลายอันวิจิตรงดงาม ทำให้เครื่องประดับที่ส่งออกจากไทยล้วนได้รับความนิยมในตลาดโลก “ครับ เรามีช่างที่มีฝีมือ แต่ก็ยังขาดแคลนเพชรพลอยที่มีคุณภาพ อย่างของบริษัทผมก็จะนำเข้า ทำให้สินค้าของเรามีราคาแพงมากขึ้น แล้วอีกอย่างสินค้าพวกนี้ผลิตมาเพื่อผู้บริโภคตลาดบน โอกาสทำกำไรก็มี ขาดทุนก็ไม่น้อย” “คุณไพรัชเก่งมากนะครับ ทำธุรกิจตั้งหลายอย่าง ถ้ายังไงแนะเคล็ดลับความสำเร็จให้ผมบ้างนะครับ ผมเห็นธุรกิจของคุณทำกำไรงามและนำหน้าแซงคู่แข่งไม่น้อย” “โอ๊ย ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับคุณเดนิม ผมโชคดีที่ได้ผู้ช่วยอย่างยัยรสหลานสาวผม รายนี้เขาคอยดูแลงานให้ผมตลอดตั้งแต่เรียนจบมา อ้าว... หลับไปซะแล้ว” เดนิมมองผ่านกระจกหลัง ก็พบว่า หญิงสาวที่กำลังกลายเป็นหัวข้อสนทนาหลับไปเรียบร้อยแล้วจริงๆ เรียวปากได้รูปกดยิ้ม มองดวงหน้าละมุนละไมอย่างไม่อยากถอนสายตา ไพรัชหัวเราะในลำคอเบาๆ เปลี่ยนประเด็นเรื่องคุยทันทีเมื่อพบว่าคู่สนทนากำลังสนใจสิ่งใด “ยัยรสน่ะน่าสงสาร พ่อแม่ของเธอเสียหมดแล้ว ผมเลยรับเอามาอุปการะส่งเสียให้เรียนจนจบ แต่เธอก็เป็นเด็กดีขยันขันแข็งทำงานหนักเอาเบาสู้ บางครั้งผมเองก็ยังสงสาร เป็นผู้หญิงตัวนิดเดียวแต่ทำงานไม่แพ้ผู้ชาย” “เป็นผู้ช่วยของคุณไพรัชได้นี่ต้องเก่งไม่หยอก แถมดูแล้วยังเป็นคนฉลาดอีกด้วยนะครับ” “ใช่ครับ ผมก็ได้แกนี่แหละคอยช่วยแบ่งเบาภาระ ทำแต่งานจนไม่มีแม้แต่เวลาจะหาแฟนด้วยซ้ำ” “หือ คุณรสเธอยังโสดเหรอครับ” “ต้องพูดว่าไม่รู้จะหาแฟนได้ไหม มัวทำแต่งานทุกวันจนแทบไม่ได้พบเจอหน้าใครอยู่แล้วล่ะครับ หึหึ” ไพรัชพูดกลั้วหัวเราะ ซ่อนดวงตาแพรวพราวเอาไว้ใต้เปลือกตาและสีหน้ายิ้มๆ เดนิมกวาดตามองใบหน้าละมุนนั้นอีกครั้ง หากยามที่บังเอิญได้สบตากับผู้สูงวัยที่มองผ่านกระจกมานั้น รอยยิ้มในดวงตาคู่นั้นทำให้เขาต้องยิ้มบางๆ ฟาติกเองก็จับตามองเจ้านายพอๆ กับถนนหนทางที่ตอนนี้กำลังเข้าเขตทะเลทราย สองข้างทางกลายเป็นทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา ตัดผ่านด้วยถนนเส้นเล็กๆ สำหรับให้รถวิ่ง เจ้านายของเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนจนถึงขั้นเก็บอาการไม่อยู่ แต่พอมาถึงมิสรติรส แม้ว่าจะมองนิ่งๆ ทำสีหน้าเรียบๆ แต่ฟาติกรู้ว่าคงสนใจหญิงสาวไม่น้อย “ผู้ชายคนนั้นคงโชคดีน่าดูนะครับ” “แล้วคุณเดนิมไม่อยากเป็นผู้ชายคนนั้นบ้างเหรอครับ” ไพรัชกระเซ้ากลับตรงประเด็น จึงได้เห็นรอยยิ้มบางๆ บนหน้าคมสัน “ถ้ามีโอกาสแบบนั้นก็ดีสิครับ” “โอกาสน่ะมีอยู่แล้วล่ะครับ เพียงแต่ว่าคุณเดนิมจะสนใจโอกาสที่ว่านั่นหรือเปล่า” ไพรัชพูดยิ้มๆ หวนคิดไปถึงข้อสันนิษฐานของพราวพิลาสที่ว่า หนุ่มอาหรับคนนี้คงจะพอใจในตัวหลานสาวของเขา เพราะสายตาของเดนิมยามที่มองรติรสนั้นมันไม่ธรรมดาเลยทีเดียว การผ่านโลกมาหลายสิบปีก็พอจะบอกเขาได้ อีกอย่างผู้ชายด้วยกันมองปราดเดียวก็พอรู้เท่าทันความคิดของอีกฝ่าย แต่ก็คงว่าไม่ได้ รติรสนั้นสวยงามน่ารักยิ่งเวลานี้กำลังเป็นสาวสะพรั่งดั่งดอกไม้ที่กำลังแย้มบาน ภู่ภมรที่ได้พบเห็นก็ต่างติดตาต้องใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม