Chapter 8

1252 คำ
รติรสลอบมองชายหนุ่มที่พูดและยิ้มหัวอย่างเป็นกันเอง เก็บความแปลกใจสงสัยเอาไว้ในใจ การที่ลุงของเธอต้องการไปดูกิจการของอีกฝ่ายนั้นไม่แปลกเพราะลุงอาจจะคิดร่วมทุนกับเขา แต่พราวพิลาสนี่สิ อยากไปเที่ยวทะเลทราย เธอคิดว่าญาติสาวชอบเดินห้างตากแอร์เย็นๆ มากกว่าทะเลทรายร้อนๆ เดนิมกวาดตามองมาหยุดข้างกายเช่นหลายๆ ครั้ง ช่วงเวลาสองสามวันนี้คงจะทำให้เขาได้รู้จักสาวสวยข้างกายคนนี้มากขึ้น เช้าวันต่อมา คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการไปเที่ยวทะเลทรายกลับยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่ไป” “อ้าว” “ฉันคงไปไม่ได้ ดันมาเป็นเมนส์เอาวันนี้ เธอไปเป็นเพื่อนพ่อก็แล้วกันนะ” พราวพิลาสบอกห้วนๆ รติรสเลิกคิ้วแปลกใจ เมื่อคืนพราวพิลาสแสดงทีท่าสนอกสนใจจะไปเที่ยวทะเลทรายให้ได้ แต่พอเช้าขึ้นกลับบอกว่าตนไปไม่ได้ “หรือว่าเราจะยกเลิกทริปนี้คะ” “เลิกไม่ได้หรอกรส เสียผู้ใหญ่กันพอดี อีกอย่างลุงก็กำลังนึกอยากผูกสัมพันธ์กับมิสเตอร์เดนิมอยู่พอดี เผื่อจะได้ทำธุรกิจร่วมกัน แล้วพราวน่ะอยู่คนเดียวได้หรือเปล่าลูก” ไพรัชถามบุตรสาวคนเดียวอย่างเป็นห่วง “ได้ค่ะพ่อ พ่อไม่ต้องห่วงพราวหรอกนะคะ พราวอยู่ได้ค่ะ” “รสอยู่เป็นเพื่อนเอาไหมพราว” ยามที่ถึงวันนั้นของเดือนทีไร พราวพิลาสมักจะมีอาการไม่ค่อยสบายแทบทุกครั้ง ปวดท้อง ปวดหัว ทั้งยังหน้าซีดตัวร้อน รติรสจึงเป็นห่วง “ไม่เป็นไร ฉันไม่ใช่เด็กอมมือนะยะ เธอไปเป็นเพื่อนคุณพ่อน่ะดีแล้ว แล้วค่อยกลับมารับฉันที่นี่” “แต่ว่า” “จะแต่วงแต่ว่าอะไรกัน มัวแต่พูดกันแบบนี้สายพอดี เธอพาพ่อลงไปรอรถข้างล่างได้แล้วไป” พราวพิลาสรีบไล่ ใครว่าเธออยากเที่ยวทะเลทรายล่ะ แดดร้อนแบบนั้น เดี๋ยวผิวสวยๆ ไหม้หมดพอดี ถ้าเดินตากแอร์ก็ว่าไปอย่าง “งั้นพ่อไปนะพราว ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ ไปเถอะรส” เมื่อเห็นท่าทางลูกสาวยืนกรานเสียงแข็ง ไพรัชก็ต้องตัดใจไปกับหลานสาวคนสวยแทน ชายสูงวัยตีหน้านิ่ง หันไปพยักหน้าให้กับหลานสาว รติรสไม่วายมองญาติสาวอย่างห่วงๆ แต่เธอก็รู้ว่าตนเองคงปฏิเสธงานนี้ไม่ได้ ถึงไม่มีใครบังคับ แต่เธอจะปล่อยให้ลุงเดินทางกับคนไม่รู้จักเพียงลำพังได้ยังไง “ไปนะพราว” พราวพิลาสโบกมือให้ท่าทางไม่สนใจในความห่วงหานั่นสักนิด เช่นทุกครั้งที่เธอมักจะมองผ่านเลยความปรารถนาดีของลูกพี่ลูกน้องคนนี้ เมื่อประตูปิดลง รอยยิ้มหยันเยาะกับดวงตาพึงพอใจปรากฏขึ้นบนดวงหน้าสวย หญิงสาวยกมือขึ้นกอดอก เหยียดปากยิ้ม “หึ คราวนี้แหละแกจะไม่มีหน้าพบคุณเป้อีกยัยรส” แผนการครั้งนี้ต้องสำเร็จสมใจหมาย ไม่มีชายคนไหนจะปฏิเสธผู้หญิงที่เสนอตัวให้ โดยเฉพาะเดนิม ดวงตาเขายามที่มองรติรสบอกได้ดีว่า เขาพอใจในตัวเธอ พราวพิลาสหัวเราะให้กับความคิดของตัวเอง พลางนึกถึงชายหนุ่มที่เธอหมายมั่นปั้นมืออยากได้เขามาเป็นคนรัก หลายต่อหลายครั้งกับการทอดสะพานเสริมใยเหล็กให้อลงกรณ์ เขากลับทำมองเมินเหมือนไม่เห็น สองตาของเขามีเพียงรติรสจนน่าหมั่นไส้ “คุณต้องเป็นของฉันค่ะเป้ไม่ใช่ยัยรส” รถตู้คันใหญ่รออยู่แล้วพร้อมกับชายหนุ่มอาหรับร่างสูงใหญ่ในชุดทะมัดทะแมงอย่างเสื้อยืดสีเข้มสวมทับด้วยแจ็กเกตอีกชั้นกับกางเกงยีน เมื่อไพรัชกับรติรสลงไป เขาก็ยิ้มกว้างส่งให้ “สวัสดีครับมิสเตอร์ไพรัช มิสรติรส ผมฟาติก เป็นผู้ช่วยของคุณเดนิม เจ้านายส่งผมให้มารับพวกคุณ เชิญครับ” ชายหนุ่มหน้าคมเข้ม อายุประมาณสามสิบปีเศษ เรียวปากเข้มมีรอยยิ้มเป็นมิตรรายงานตัวม้วนเดียวจบ ก่อนจะผายมือไปยังประตูรถตู้ที่เปิดรอไว้พร้อมสรรพ ไพรัชเลิกคิ้วสูงก่อนถามอย่างสงสัยเมื่อไม่เห็นเจ้านายหนุ่มของอีกฝ่าย “เราจะไปรถคันนี้กันหรือ แล้วเจ้านายของคุณล่ะ” “เจ้านายรออยู่ครับ ผมแค่มีหน้าที่มารับพวกคุณจากที่พักไปพบเจ้านาย” ชายสูงวัยพยักหน้า แล้วก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ส่วนรติรส เธอหันมามองชายหนุ่มอีกครั้งก็ได้รับรอยยิ้มสดใสให้อย่างคนอารมณ์ดี เธอจึงยิ้มตอบเล็กน้อยแล้วก้าวตามขึ้นรถไป ฟาติกส่งสัญญาณให้คนขับออกรถได้หลังจากที่เขาขึ้นมานั่งและปิดประตูเรียบร้อย รถเคลื่อนผ่านย่านชุมชนที่คับคั่งด้วยตึกสูง ผู้คนที่ออกมาซื้อหาข้าวของเครื่องใช้ปะปนไปด้วยนักท่องเที่ยว ซึ่งมีหลายเชื้อชาติ ทั้งตะวันตกและตะวันออก “บันดัรเป็นเมืองเล็กก็จริง แต่ด้วยทรัพยากรอันมีค่าที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่เริ่มมีนักลงทุนเข้ามาทำธุรกิจ เพราะนโยบายของประเทศเราไม่ได้ปิดกั้นในเรื่องนี้” ฟาติกเล่าเนิบช้า คล้ายกับว่าเขาอ่านใจผู้ร่วมทางได้ว่ากำลังสนใจเรื่องอะไร ไพรัชหัวเราะเบาๆ สองข้างทางมีผู้คนหลากหลายใช่แต่ชาวบันดัร เขาเห็นชาวตะวันตกใส่สูทผูกไทรวมอยู่ในนั้นด้วย “งั้นถ้าผมสนใจลงทุนในบันดัรนี่ต้องทำอย่างไรบ้าง” รติรสไม่ได้สนใจฟังถ้อยสนทนาของทั้งสองนัก เพราะความสนใจของเธออยู่ที่อาคารลักษณะแปลกตาแบบต่างๆ ซึ่งเป็นศิลปะการก่อสร้างบ้านแบบเฉพาะของชาวพื้นเมืองประเทศนี้นั่นเอง ตึกสูงทันสมัยรูปทรงแบบยุโรปก็มีไม่น้อย แต่พอรถเคลื่อนห่างจากเขตใจกลางเมือง เธอได้เห็นที่พักอาศัยของชาวบ้านรอบๆ ผู้คนยังแต่งชุดแบบพื้นเมือง ผู้ชายสวมดิชดาชาตัวยาวคลุมถึงข้อเท้า มีหมวกสวมอยู่บนศีรษะ ขณะที่ผู้หญิงจะสวมใส่ชุดอาบายาสีสันต่างๆ ซึ่งมีตั้งแต่สีเข้มอย่างสีดำ ไปถึงสีอ่อนๆ มีผ้าคลุมผมหรือฮิญาบพันรอบศีรษะ เห็นเพียงใบหน้าเล็กน้อยเท่านั้น หญิงมัวเพลิดเพลินกับทัศนียภาพสองข้างทาง กระทั่งรถหยุดลงตรงหน้าอาคารหลังหนึ่งขนาดหกชั้น “ที่นี่เป็นออฟฟิศใหญ่ บริษัทของเจ้านายผมเองครับ มาเถอะครับเจ้านายรออยู่” ฟาติกลงไปก่อนเพื่อเปิดประตูให้ ระหว่างนั้นร่างสูงสง่าของเดนิมก็เดินเข้ามาใกล้ “เรียบร้อยไหม” “ครับเจ้านาย” เดนิมพยักหน้าให้คนสนิท ก่อนจะยื่นมือไปสัมผัสกับไพรัช เอ่ยทักทายปราศรัยกันพอเป็นพิธี ก่อนที่มือหนาจะยื่นมาตรงหน้าหญิงสาว รติรสมองมือแล้วมองหน้าคมเข้มที่มองมาด้วยสายตาพราว การทักทายแบบสากลของเขาบังคับให้เธอต้องยื่นมือออกไปสัมผัส “คุณพราวพิลาสไม่ไปด้วยหรือครับ เมื่อคืนผมเห็นเธอสนใจอยากไปท่องทะเลทรายกับเรา”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม