หนึ่งสัปดาห์ต่อมา…
ท่านทวีเดินทางไปหาน้าเรย์เพื่อคุยเรื่องที่เขาอยากจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเธอ ก่อนภรรยาจะเสียเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กับเธอเลยสักครั้งจนมาถึงตอนนี้ เราสองครคุยกันด้วยความเข้าใจมาตลอดและเขาคิดว่าเธอจะเป็นเพื่อคู่คิดที่ดีของเขาได้
“เรย์… คุณอยู่มั้ย”
“สวัสดีค่ะคุณลุงทวี น้าเรย์ทำอาหารอยู่ค่ะให้หนูไปตามมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไร ลุงไปหาเอง”
เขายิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเด็กสาวตรงหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อคุยธุระสำคัญ ทับทิมมองตามทั้งสองคนก่อนจะเลิกสนใจแล้วไปเปิดทีวีดูละคร เธอมองพระเอกในจอก่อนจะยิ้มออกมาแก้มปริ เธอชอบเขามากเขาคือพระเอกในดวงใจของเธอถึงแม้ว่าจะมีคู่จิ้นอยู่แล้วก็เถอะแต่เธอก็ยังมีความหวังว่าสักวันจะได้แสดงละครกับเขาและได้รู้จักกันมากขึ้น
“คุณซีเจน่ารักที่สุดเลย”
เธอยิ้มออกมาอย่างเขินอายก่อนจะนั่งดูชายหนุ่มแสดงละครไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจว่าผู้ใหญ่ในห้องครัวเขาคุยอะไรกัน
“คุณทวีมาได้ยังไงคะ”
“ผมโทรหาคุณแล้วแต่คุณไม่รับโทรศัพท์ พอดีว่ามีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อยคุณว่างมั้ย”
“ว่างค่ะว่ามาสิคะ”
เธอวางทุกอย่างตรงหน้าลงก่อนจะหันไปมองสบตากับเขา เธอยอมรับว่ารู้สึกดีกับชายหนุ่มไม่น้อยตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วแต่เขามีสามีอยู่แล้วและเธอพยายามหักห้ามใจตัวเองมาตลอด จนถึงวันที่ภรรยาของเขาเสียชีวิตลงเราสองคนไม่ได้คุยกันเลยเกือบสองเดือนจนได้มาเจอกันอีกครั้งและได้เริ่มคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
“ผมอยาก… อยากแต่งงานกับคุณ”
เรย์เบิกตากว้างอย่างตกใจเธอไม่คิดว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมาด้วยซ้ำ มันไม่ควรเป็นแบบนี้ทุกอย่างมันเร็วไปหมด
“ภรรยาคุณเพิ่งเสียชีวิตเองนะคะ”
“สามเดือนกว่าแล้วนะ ผมรู้ว่ามันเร็วไปแต่คนเรามันต้องเดินไปข้างหน้า ผมแค่อยากมีเพื่อนคุยคอยอยู่เคียงข้าง ทุกวันนี้ผมเหมือนอยู่ตัวคนเดียวลูกก็ไม่คุยด้วย”
เขาเอ่ยออกมาอย่างน้อยอกน้อยใจ ลูกรักแม่มากกว่าพ่อไม่เคยรับฟังเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่ที่รู้ว่าภรรยาป่วยเขาไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเลยเพราะไม่อยากให้เธอเสียใจอีก แต่คนเราเคยทำผิดพลาดและไม่มีทางที่จะมีใครให้อภัยได้เต็มร้อย เธอยังคงระแวงเขาตลอดเวลาจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต ตอนนี้เขาอยากจะเริ่มต้นใหม่เขาอยากแก้ไขทุกอย่างที่เคยทำผิดพลาดและจะไม่ทำร้ายความรู้สึกของผู้หญิงคนไหนอีก
“ฉันเข้าใจคุณนะคะ แต่ลูกชายคุณไม่โอเคหรอกค่ะที่ต้องมีแม่เลี้ยงแบบฉัน”
“ผมคุยกับเขาแล้ว เขาโอเคที่จะให้คุณกับผมแต่งงานกัน แถมยังให้เราสองคนอยู่ด้วยกันที่บ้านใหญ่ ผมจะพาคุณกับหนูทับทิมไปอยู่ที่บ้านที่นั่นมีทุกอย่างและคุณกับหลานจะสุขสบาย”
เรย์มองหน้าคุณทวีอย่างลังเล คนที่ไม่ยอมไปคงจะเป็นหลานสาวมากกว่า เธอไม่มีทางทิ้งหลานไว้คนเดียวถ้าทับทิมอยู่ที่ไหนเธอจะอยู่กับหลานด้วย ท่านทวีกุมมือหญิงสาวเอาไว้แน่นก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
“อยู่ด้วยกันนะผมจะดูแลคุณกับหนูทับทิมเอง”
“ขอเรย์คุยกับทับทิมก่อนนะคะ รายนั้นเดาใจยากค่ะอาจจะไปหรือไม่ไป เรย์ตามใจหลานค่ะถ้าเธอยอมไปเรย์จะไปแต่ถ้าไม่ หวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะ”
ท่านทวีพยักหน้าอย่างจำยอมเพราะเขาคงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ยังหวังว่าเธอจะยอมไปอยู่กับเขาไปใช้ชีวิตด้วยกันในอนาคต
หลังจากนั้นเขาก็กลับบ้านไปส่วนเรย์ก็มานั่งทานข้าวกับหลานสาวที่ห้องอาหาร เธอเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงหวาน
“ทับทิมน้าอยากจะคุยกับหนูหน่อย”
“ว่ามาสิคะคุยอะไรเหรอ”
หญิงสาวมองคุณน้าอย่างสงสัย ท่าทางจะเป็นเรื่องสำคัญเพราะใบหน้าดูซีเรียสมากอย่างเห็นได้ชัด
“คุณลุงทวีเค้าอยากให้เราสองคนไปอยู่ที่บ้านของเค้า เค้าอยากแต่งงานกับน้านะจ้ะ”
ทับทิมมองคุณน้าอย่างคิดไม่ตก ว่าแล้วเชียวไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดาแน่นอน สองคนคงคบหากันมาสักพักแล้วถึงได้ตัดสินใจแบบนี้
“ถ้าคุณน้ารักเค้าก็แต่งกับเขาสิคะ ความรักไม่ว่าจะวัยไหนมันก็มีได้ทั้งนั้นไม่ใช่เหรอคะ ความรักเป็นสิ่งสวยงามทับทิมเชื่อว่าคุณน้าจะมีความสุขนะ”
“แต่น้าอยากให้หนูไปอยู่ด้วย ไปอยู่ด้วยกันนะทับทิม”
เธอมองคุณน้าอย่างลังเลใจจริงเธออยากจะออกไปอยู่คนเดียวถ้าเกิดว่าคุณน้ามีครอบครัวของตัวเองเธอจะได้หายห่วงและจะได้ตั้งใจทำงานให้เต็มที่
“นะทับทิม…”
“ก็ได้ค่ะแต่ว่าถ้าทุกอย่างลงตัวหนูขอออกมาอยู่ข้างนอกนะคะ”
“ก็ได้จ้ะ เอางั้นก็ได้”
น้าเรย์ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะกุมมือหลานสาวเอาไว้แน่น ขอแค่มีหลานไปด้วยเธอก็อยู่อย่างมีความสุขแล้ว ได้แต่หวังว่าการคบหาของเธอกับท่านทวีจะราบรื่นไม่มีอุปสรรคอะไร
หลังจากที่เคลียร์กับหลานสาวเรียบร้อยเธอก็โทรศัพท์ไปบอกข่าวดีกับท่านทวี และแน่นอนว่าเขาดีใจมากสั่งให้แม่บ้านตระเตรียมห้องให้หลานสาวของเรย์และทำห้องของตัวเองใหม่ รวีที่ทราบข่าวจากผู้ช่วยของเขาก็กำมือแน่นอย่างโกรธจัด ลงทุนจัดห้องให้ใหม่แถมยังพาหลานสาวเค้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้าน นี่เห็นว่าจะเตรียมงานแต่งงานอีกทั้งที่แม่เพิ่งจะเสียชีวิตได้ไม่นาน คนเป็นเมียน้อยนี่ต้องจิตใจร้ายกาจขนาดไหนถึงได้เข้ามาเหยียบย้ำหัวใจของแม่เขาถึงที่บ้าน ถึงแม้ว่าท่านจะเสียชีวิตไปแล้วแต่เขารู้ว่าท่านคงเสียใจมากที่พ่อทำแบบนี้
“เอายังไงดีครับนาย ท่าทางครั้งนี้เอาจริงนะครับ”
“ช่างสิ ก็ปล่อยให้แต่งงานมีความสุขกันไปเลย อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะมีความสุขได้นานแค่ไหน”
เขายิ้มร้ายออกมาก่อนจะปิดแฟ้มเอกสารลงกำมือแน่นอย่างระบายความโกรธ มีความสุขได้ก็มีไปแล้วอีกไม่นานจะได้รับรู้ความเจ็บปวดที่แม่ของเขาเคยเผชิญ
‘แล้วเราจะได้เห็นดีกัน’
เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างเสียอารมณ์ก่อนจะเดินไปพร้อมกับผู้ช่วยเข้าเยี่ยมกองถ่ายละครในห้องสตูดิโอของช่องและจะได้ถือโอกาสตรวจงานไปด้วย ส่วนทับทิมที่ตอนนี้มาถ่ายละครที่ช่อง B2 ก็ตั้งใจทำงานเป็นอย่างมาก เธออยากจะเป็นนักแสดงหญิงที่มากด้วยฝีมือและไม่ว่าจะต้องฝึกฝนมากแค่ไหนเธอก็ต้องทำให้ได้
“ทับทิมมาหาพี่หน่อย”
ผู้กำกับตะโกนเรียกเธอเสียงดัง เขาอยากจะให้เธอมาทำความรู้จักกับท่านประธานของช่องเผื่อว่าอนาคตจะได้ร่วมงานกัน หญิงสาววางบทละครลงรีบวิ่งไปหาผู้กำกับทันทีก่อนจะชะงักไปเมื่อชายตรงหน้าคือประธานช่องB2 ไม่มีทางที่จะไม่รู้จักถ้าอยากจะอยู่ในวงการนี้
“สวัสดีค่ะท่านประธาน”
“คนนี้ชื่อทับทิมครับ เป็นนักแสดงหน้าใหม่เพิ่งมาร่วมงานกับช่องของเรา”
“สวัสดี ว่าแต่ชื่ออะไรนะ”
เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ ชื่อก็ว่าคุ้นแล้วนะแต่ใบหน้าคุ้นกว่าเพราะคุณพ่อของเขาเป็นคนเอารูปมาให้ดูเอง
“ทับทิมค่ะ”
เขาได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย สวยกว่าที่เห็นในรูปอีกหลานสาวของเมียน้อยพ่อท่าทางมีอะไรสนุกๆทำซะแล้วสิ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะหวังว่าเราจะได้เจอกันบ่อยๆ”