คนแอบฟังฟังแล้วต้องลอบถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ เฮ้อ...ตกลงเป็นข่าวเดียวกัน ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่น่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน คำว่าท่านแม่ทัพสุดหล่อนั่นเธอก็ได้ยินมาจากผู้เป็นเพื่อนหนหนึ่งแล้ว ตอนนี้ยังได้ยินจากสาวๆ กลุ่มนี้อีก นี่ถ้าเพื่อนของเธอมาได้ยินเข้าคงได้วิ่งตามไปดูเหมือนแม่สาวกลุ่มนี้แน่นอน
“ยายนกนะยายนก ทำไมไปห้องน้ำนานจัง” หญิงสาวบ่นถึงผู้เป็นเพื่อนที่ไปเข้าห้องน้ำพักใหญ่แล้วและให้เธอยืนคอยอยู่ตรงนี้ ขณะกำลังยืนหันรีหันขวางอยู่ก็ต้องเซจนเกือบล้มคว่ำลงกับพื้นเพราะแรงกระแทกด้านหลังจากหญิงสาวกลุ่มดังกล่าวที่พากันรีบเดินไปข้างหน้า แม้จะไม่ทันล้มแต่ก็สร้างความขุ่นเคืองให้เกิดกับคนเกือบเจ็บตัวไม่น้อย
อะไรกันนักหนา...ก็แค่ผู้ชายหน้าคล้ายดารา บ้าที่สุด มารยาทแย่จริงเชียว จะขอโทษสักคำก็ไม่มี ขวัญชีวาบ่นออกมาอย่างหัวเสีย
“อ้าว แกเป็นอะไรไปทำหน้ายังกับตูด” กรวรรณที่เพิ่งออกจากห้องน้ำเอ่ยถามผู้เป็นเพื่อนที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่อย่างแปลกใจ
ซึ่งคนถูกถามเกือบจะพลั้งปากบอกถึงสาเหตุแต่ยั้งไว้ได้ทัน เพราะถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าคนในคลิปอยู่ในห้างนี้ด้วยมีหวังได้ลากเธอไปตามหาเป็นแน่ จึงทำเป็นเสบ่นออกไป “ก็แกนั่นแหละไปเข้าห้องน้ำนานจนฉันนึกว่าแกไปหลับอยู่ในนั้นแล้วนะยายนก”
ดวงหน้าน่ารักของคนถูกต่อว่ายิ้มกว้าง ไม่ได้สลดกับคำต่อว่าแต่อย่างใด “ที่ฉันไปนานเพราะมัวแต่แอบฟังเรื่องตื่นเต้นน่ะสิ ตอนนี้เรารีบไปกันเถอะ” พูดพลางก็ดึงกึ่งกระชากแขนผู้เป็นเพื่อนแต่คนถูกดึงขืนตัวเอาไว้
“แกจะไปไหน แล้วมีเรื่องตื่นเต้นอะไรอีกล่ะ”
“ก็ฉันได้ยินพวกผู้หญิงในห้องน้ำคุยกันว่าคนอยู่ในคลิปที่ฉันให้แกดูตอนอยู่ในร้านเสริมสวยน่ะอยู่ในห้างนี้ด้วย แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนเท่านั้น” กรวรรณบอกเพื่อนน้ำเสียงตื่นเต้น “แกเดินไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ เผื่อเจอจะได้ขอลายเซ็นไว้เป็นที่ระลึก ฉันอยากเห็นใกล้ๆ ว่าเหมือนท่านแม่ทัพของฉันจริงอย่างที่ว่ากันหรือเปล่า”
“แม่ทัพบ้าบออะไรของแกนักหนายายนก ฉันละเบื่อแกจริงๆ” ขวัญชีวาพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจเธออุตส่าห์ไม่บอกเรื่องคนในคลิปแล้ว แต่เจ้าตัวยังไปรู้มาจากในห้องน้ำจนได้
“ก็ในเรื่อง ลำนำรักทะเลทราย น่ะ เอ็ดดี้ เผิง พระเอกที่ฉันบอกหน้าเหมือนคนในคลิป แสดงเป็นท่านแม่ทัพซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องไงล่ะ”
“เออ...เอาเข้าไป ตอนแรกฉันได้ยินแกพูดว่าคนในคลิปหน้าเหมือนพระเอกดังไม่ใช่หรือยายนก แต่ตอนนี้ทำไมกลับกลายเป็นว่าพระเอกดังหน้าเหมือนคนในคลิปซะงั้น”
กรวรรณหัวเราะเสียงระรื่น “แหม อย่าง เอ็ดดี้ เผิง เป็นพระเอกคนดังไง จับต้องได้ยาก แต่คนในคลิปน่าจะเป็นคนธรรมดาที่เดินอยู่ตามท้องถนน น่าจะจับต้องได้ง่ายกว่า”
คำตอบแบบกำปั้นทุบดินของผู้เป็นเพื่อน ขวัญชีวาฟังแล้วได้ส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “แหม ถ้าเป็นคนธรรมดาจับต้องได้ง่ายอย่างที่แกพูด ตอนนี้คงมีคนคอยแต่จ้องจะจับแล้วละมั้ง เอาละ...แกจะไปตามหาขอลายเซ็นใครก็ไปคนเดียวเถอะ ฉันขอไปซื้อของขวัญวันเกิดให้พี่กฤตก่อนดีกว่า”
“เอาอย่างนั้นก็ได้เดี๋ยวฉันตามขึ้นไป ตอนนี้ขอเดินหาท่านแม่ทัพของฉันก่อน” พูดจบกรวรรณก็เดินผละจากไปทันทีโดยมีสายตาของคนถูกทิ้งมองตามพลางส่ายหน้าเบาๆ อีกครั้ง แล้วเดินตรงไปยังแผนกเครื่องแต่งกายบุรุษ
ขณะเดียวกับฌอนซึ่งบังเอิญมีใบหน้าละม้ายคล้ายกับพระเอกคนดังชาวไต้หวันและกำลังถูกกล่าวขวัญอยู่ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังจะเดินผ่านกลุ่มหญิงสาวหลายคนที่ตอนแรกมีท่าทีคล้ายจะเดินเข้ามาหา แต่กลับพากันยืนมองมาด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ ชายหนุ่มจึงแกล้งยกสมาร์ตโฟนขึ้นคุยเป็นภาษาจีนแล้วเดินผ่านไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยแกมหยิ่ง ถ้าเจ้าตัวมีดวงตาข้างหลังและหูทิพย์คงได้เห็นและได้ยินที่หญิงสาวกลุ่มนั้นพูดตามหลังเป็นแน่
“ดูใกล้ๆ แล้วชักไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า เพราะตอนเห็นในคลิปไม่ได้ใส่แว่นกันแดด แต่เห็นใกล้ๆ แล้วหล่อจัง ปากแด๊งแดงน่าจูบชะมัด”
“นั่นสิ แล้วที่บอกว่าคล้าย เอ็ดดี้ เผิง พอมองใกล้ๆ ก็มีส่วนคล้ายเท่านั้น คนนี้สูงกว่าและหล่อกว่าอย่างที่ฉันว่าจริงๆ”
“บางมุมเหมือนคนไทยนะ แต่พูดภาษาจีน แล้วหล่อจริงอย่างที่เธอว่า”
“ถ้าอย่างนั้นเราอย่าเข้าไปถามดีกว่า เสียมารยาท แล้วท่าทางดูหยิ่งๆ ด้วย”
คนถูกพูดถึงตามหลังอย่างฌอนกำลังเดินตรงไปยังแผนกเครื่องแต่งกายบุรุษโดยมีเดฟเดินตามหลังราวกับเงาตามตัวไม่ห่าง เมื่อชายหนุ่มเหลียวกลับไปมองไม่เห็นใครเดินตามมาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เฮ้อ...”
เดฟยิ้มขำท่าทางของเจ้านายก่อนจะพูดภาษาจีนเร็วปรื๋อเพราะอยู่กันตามลำพังแล้ว “นี่แหละครับอิทธิพลของโลกโซเชียล นายไม่สังเกตหรือครับว่าเดี๋ยวนี้ใครต่อใครจ้องแต่โทรศัพท์กันแทบจะตลอดเวลา ดังนั้นถ้ามีข่าวหรือคลิปอะไรออกมาก็แชร์ต่อกันไปไม่นานก็ดังเป็นไฟ...เอ้อ...”