ไคล์ส่งสายตาไปทางเลขา “ออกมากับผมข้างนอกสักครู่คุณลักนารา” พูดจบชายหนุ่มลุกยืนแล้วเดินออกมารอ
ลักนาราทำตามความต้องการ ลุกเดินออกมาโดยมีสายตาแมทธิวเฝ้ามอง เมื่อประตูห้องวีไอพีปิดลง ไคล์ระบายลมหายใจแล้วสบตา
“ผมต้องการให้เพื่อนผมเซ็นเอกสารร่วมทุน ผมอยากให้คุณช่วย ถ้างานนี้สำเร็จผมจะให้รางวัลอย่างที่ตกลงกันเอาไว้”
หญิงสาวขมวดคิ้ว ไม่มั่นใจว่าตนเองสามารถทำได้หรือเปล่า
“แน่ใจเหรอคะว่าฉันจะทำได้” เธอย้อนถามสีหน้ากังวล
“คุณลองใช้เสียงอ้อนสักหน่อย น่าจะได้ผล ผมรู้จักนิสัยเพื่อนผมดี”
“ทำไมคุณไม่คุยกับเพื่อนไปเลยล่ะคะว่าต้องการให้ร่วมธุรกิจด้วย”
ไคล์ถอนหายใจ “ถ้าคุยง่ายผมทำไปแล้วละครับคุณเลขา”
ลักนาราชั่งใจ เหมือนชายคนนี้รู้ ว่าเธอต้องการเงินสักก้อนไว้ซื้อบ้านให้แม่มาอยู่ด้วยกัน ไม่อยากให้แม่อยู่คนเดียว ตอนนี้แม่เองก็เจ็บออดๆ แอด ยิ่งทำให้เป็นห่วงมากขึ้น
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะลองดู” เธอยอมทำ ต่อให้ถูกคิดว่างก หรือหน้าเงินก็ไม่แคร์ เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
เสียงประตูห้องเปิดออก แมทธิวมองเพื่อนด้วยความสงสัย เห็นสองร่างนั่งเคียงกันบนโซฟา ยิ่งเห็นทรวดทรงของเลขาเพื่อนยิ่งทำเอาเลือดในกายหนุ่มร้อนฉ่า หากได้กกกอดสักคืนคงดีไม่น้อย เขาแทบทนไม่ไหว อยากสร้างความสัมพันธ์อันดีเร็วๆ เสียตอนนี้เลย
คนสวยหย่อนกายลงนั่ง ทว่าบุรุษเพศกลับมองว่ามันดูยั่วยวนใจ แมทธิวดวงตาทอประกาย เมื่อเห็นเรียวขาโผล่พ้นเดรสสั้น ไคล์ทรุดกายลงเคียงข้าง แล้วเหลือบมองสองคนสบตากัน ลักนาราเม้มริมฝีปาก
“ลักมีเรื่องอยากรบกวนคุณแมทธิวน่ะค่ะ” หญิงสาวเปรยออกมาเสียงเบา ทว่าคนรอฟังกลับชะงัก
“ได้สิครับ มีเรื่องอะไรอยากให้ผมช่วยงั้นเหรอ” เขารีบตอบ น้ำเสียงกระตือรือร้น
ลักนาราหยิบแฟ้มเอกสารวางลงตรงหน้า แมทธิวชะงักแล้วช้อนสายตามองเพื่อนที่กำลังยกแก้วไวน์กระดกดื่ม แถมแสร้งทำหน้าไม่รู้เรื่องอีก
“ช่วยเซ็นให้ลักหน่อยได้ไหมคะ” พูดจบ หญิงสาวโปรยยิ้มที่คิดว่ามันทรงเสน่ห์ที่สุด หัวใจคนมองเต้นกระหน่ำ แมทธิวแถมสำลักเมื่อเห็น เช่นเดียวกับชายอีกคนแต่เขาจำต้องรักษาท่าทีเอาไว้
พอเห็นอีกฝ่ายนิ่ง ลักนาราเลยเอื้อมจับมือเขามา แมทธิวยิ่งตระหนกตกประหม่า เกิดมาไม่เคยพบหญิงสาวคนใดทำให้หัวใจเต้นแรงได้ขนาดนี้มาก่อนเลย เธอยัดปากกาใส่มืออีกฝ่าย และคู่สัญญายอมจรดปากกาเซ็นราวกับถูกมนต์สะกดให้ทำตาม
ไคล์กระตุกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ ลักนาราหยิบแฟ้มมาแล้วปิดมันลง ก่อนลุกยืน
“ขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ” คนตัวเล็กไม่รอช้า รีบเลี่ยงออกมาเพื่อหายใจ
คนสวยยืนมองตนเองในกระจกห้องน้ำ คิ้วบางขมวดเล็กน้อย ไม่เคยแต่งตัวแบบนี้มาก่อนเลย มันไม่เหมาะกับคนอย่างเธอเลยสักนิด มันเหมาะกับผู้หญิงอย่างโยธิกามากกว่า
เพื่อนทรยศ!
แค่คิดในอกก็ปวดร้าวขึ้นมา เธอไม่เคยเสียดายแฟน แค่เสียดายวันเวลาที่เคยใช้ด้วยกันเท่านั้น
แอด...
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก ลักนาราหันมองดวงตาสองคู่ผสาน ยิ้มเยาะเย้ยยันส่งผ่านมาทันที สาวรูปร่างสูงโปร่ง หุ่นทรงน่ามองก้าวเข้ามาแล้วล้างมือตรงอ้างน้ำหน้ากระจก ก่อนหันมาส่งสายตาถึงลักนารา
“ไม่เจอกันนานเลยนะลัก สบายดีไหม” โยธิกาทักทาย แล้วกวาดมองทั่วเรือนร่าง ลักนาราทำให้เธออิจฉา ทั้งหน้าตารูปร่าง ทำไมไม่เป็นดารานางแบบให้รู้แล้วรู้รอดไปเสีย
“ฉันสบายดีมากกว่าที่เธอคิด” หญิงสาวตอบห้วน
โยธิกาหัวเราะร่วน แล้วยกมือโบกที่ต้นคอราวกับอากาศในห้องน้ำร้อนนักหนา คนมองหน้าชาเมื่อเห็นรอยแดงเป็นจ้ำตรงนั้น ริมฝีปากบางกัดแน่นเพื่อลดทอนความโกรธ
“ช่วงนี้ฉันนอนน้อย ไม่ค่อยมีเวลาทำอะไรเลย”
เสียงหัวเราะร่วนยิ่งบาดลึกเข้ามา ลักนารากำมือแน่นฟื้นความรู้สึก เธอไม่ได้อาลัยอาวรณ์แฟนเก่าแม้แต่น้อย ทว่ากลับเกลียดการเย้ยหยันของเพื่อนที่ไม่เคยรู้จักนิสัยใจคอกันดีมากพอ
“แล้วมาบอกฉันทำไม!” คนโดนเย้ยย้อนถาม
โยธิกาเชิดหน้าแล้วยิ้มบางๆ ก่อนยักไหล่
“เผื่อเธออยากรู้น่ะสิลัก” โยธิกาหลุบตามองรองเท้า ขึ้นมาจนถึงเรียวขาอันงดงามของเพื่อน “แล้วนี่ลักกำลังเปลี่ยนการแต่งตัวเพื่อหวังอะไรหรือเปล่า แต่ฉันจะบอกให้นะ ไม่ว่าจะแต่งตัวแบบไหน มันก็สู้ลีลาบนเตียงไม่ได้หรอก”
ลักนาราหน้าชา กัดฟันข่มอารมณ์
“ถ้าการแต่งกายใช้วัดระดับเรื่องอย่างว่า เธอคงเป็นผู้หญิงข้างถนนแล้วล่ะมั้งโย!”
คนฟังกำมือแน่น แสร้งยิ้มออกมา
“นั่นสินะ เพราะแฟนเก่าเธอก็ติดใจฉันอย่างกับอะไรดี” โยธิกาหัวเราะส่งท้าย
“ก็เหมาะกันแล้ว ของต่ำๆ มันต้องคู่กัน!”
โยธิกาง้างมือ อีกฝ่ายก็ทำเช่นกัน สองคนเผชิญหน้ากัน
“ปากดีเกินไปแล้ว เสียแฟนให้ฉันมันคงทำให้เธอคับแค้นใจมากสินะลัก!”
ลักนารายิ้มเหยียด “แต่ที่ฉันเห็น มีแต่เธอที่เดือดร้อนยืนหาเรื่องฉันไม่เลิก!”
แอด...
ยังไม่ทันสองสาวได้ปะทะคารมต่อ พนักงานสาวในร้านก้าวเข้ามา กวาดตามองหาแล้วหยุดที่ลักนารา
“คุณลักนาราหรือเปล่าคะ”
เจ้าของชื่อพยักหน้า “ใช่ค่ะ”
“เอ่อ... คุณไคล์ให้มาตามน่ะค่ะ ท่านเห็นคุณหายมานาน”
ลักนาราชะงักลืมคิดว่าตนมาทำงาน
“ขอบคุณมากค่ะ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้” พูดจบคนตัวเล็กหยิบกระเป๋าสะพายไหล่ แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำทันที