Part ซอนญ่า
“เชี๊ยะ!!!ซอนญ่า ไอ้ออสตินเกิดอะไรขึ้นวะ”ฉันได้แต่งัวเงียค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงเรียกที่ตกใจของพี่ชายฉัน ก่อนจะเห็นว่าพี่ชายฉันมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ตกใจสุดขีด ฉันจะค่อยๆ มองตามสายตาพี่ชายและ ก้มลงมองตัวเองก่อนจะพบว่า
เชี๊ยะ!!! อย่างที่พี่ฉันพูด มันเชี๊ยะจริงๆเพราะตอนนี้ร่างกายฉันเปลือยเปล่า ก่อนที่ฉันจะรู้สึกว่ามันดับเบิ้ลเชี๊ยะมากขึ้นไปอีกเพราะข้างๆกายฉันคือพี่ออสติน ซึ่งพี่เขาก็เปลือยท่อนบนเหมือนกัน ส่วนท่อนล่างฉันไม่แน่ใจเพราะมันถูกปิดไว้ด้วยผ่าห่มสีขาว แต่คิดว่าคงเปลือยเหมือนกัน และพอมองไปรอบๆ ก็เห็นสภาพเตียงที่เหมือนพึ่งผ่านสงครามมาอย่างหนัก
และระหว่างที่ฉันกำลังนั่งงงอยู่นั้น เสียงของพี่มาโครก็แทรกขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ฉันตื่นจากภวังค์และหันไปมองหน้าพี่มาโคร
“ไอ้ออสติน มึงจะอธิบายเรื่องนี้กับกูว่าอย่างไร” พี่มาโครหันไปถามคนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ข้างๆ ฉัน พี่ออสตินมองมาทางฉันนิดเดียว เขาเหลือบตามองบนก่อนจะจ้องหน้าตอบพี่ชายของฉัน
“ทำไมกูต้องอธิบาย มึงอยากรู้อะไร มึงก็ถามน้องสาวมึงเอาสิ ” ออสตินเอ่ยขึ้นน้ำเสียงแหบพร่าเพราะเพิ่งตื่นนอนหลังจากที่เขาเพิ่งได้นอนเมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง
ฉันมองหน้าพี่ออสตินที่เขาเหมือนไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ และที่พี่ออสตินพูดแบบนี้เขาหมายความว่าอย่างไร เขาบอกให้ พี่มาโครมาถามฉันได้อย่างไร ในเมื่อฉันเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันรู้แต่ว่าเมื่อคืนฉันเมามาก แล้วตอนเช้า ฉันมาโผล่บนเตียงนอนของพี่ออสตินได้อย่างไร...โอ้ยยปวดหัว
ยิ่งตอนนี้สายตาของพี่มาโครและพี่ออสตินจ้องมาที่ฉันเพียงคนเดียว ยิ่งทำเอาฉันงงเข้าไปใหญ่
“พี่ออสตินพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรคะ ทำไมถึงบอกให้พี่มาโครมาถามที่ซอนญ่าล่ะคะ” เมื่อสงสัยฉันถึงถามพี่ออสตินกลับไป สิ่งที่ได้รับกลับมายิ่งทำให้ฉันงงเข้าไปมากกว่าเดิม
“ไม่ให้ถามที่เธอแล้วจะให้ถามใครในเมื่อตัวต้นเรื่องทั้งหมดมันคือ เธอ” ออสตินจ้องหน้าคนที่นั่งดึงผ้าห่มปิดร่างกายไว้ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“พี่พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร ตัวต้นเรื่องอย่างนั้นเหรอ? พี่กำลังจะบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้คือซอนเป็นคนทำอย่างนั้นเหรอคะ” ฉันถามกลับไปเมื่อได้สติกลับมา เขาพูดแบบนี้ได้ยังไง ฉันไปทำอะไรตั้งแต่เมื่อไร ฉันไม่ใช่เหรอที่เป็นคนโดนกระทำ
“เธอน่าจะรู้ดีแก่ใจว่าทำอะไรลงไป ทำไมต้องให้ฉันพูด” พี่ออสตินพูดขึ้นพลางส่งสายตาไม่พอใจมายังฉันอย่างชัดเจน ยิ่งเห็นแววตาของฉันที่ทำเหมือนกับว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยิ่งทำให้เขาเหมือนจะยิ่งโมโหมากยิ่งขึ้น
“ซอนญ่าแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วออกไปคุยกันกับพี่” มาโครพูดขึ้นพลางหาเสื้อคลุมมาให้น้องสาวของเขา
“โอ๊ย!!!!” ทันทีที่ฉันขยับตัวเตรียมใส่เสื้อคลุมที่พี่มาโครส่งมาให้ ฉันก็เจ็บจี๊ดที่จิโม๊ะฉันอย่างมาก มันเจ็บมากจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง แต่รู้สึกว่าช่วงล่างของฉันคงโดนอะไรมาอย่างหนักแน่ ไม่เช่นนั้นฉันคงไม่เจ็บมากขนาดนี้หรอก
ด้วยเสียงที่ร้องอย่างดังบวกกับสีหน้าที่บ่งบอกว่าฉันเจ็บมาก ทำไห้พี่มาโครหันมามองหน้าฉันแล้วหันไปมองหน้าพี่ออสติน ก่อนจะเอ่ยออกไป
“ลุกไหวไหม หรือจะให้พี่อุ้ม” พี่มาโครยังคงถามฉันอย่างอ่อนโยน
“ลุกไม่ไหว ซอนเจ็บ...” ฉันเงียบลงไม่กล้าบอกว่าเจ็บตรงไหน
แต่เหมือนพี่มาโครจะเข้าใจฉัน เพราะพี่เขาก้มลงอุ้มฉันขึ้นและพาเดินออกไปจากห้องนอนของพี่ออสติน แต่ก่อนเดินออกไปพี่เขายังหันไปบอกพี่ออสตินอีกว่า
“ส่วนมึงรีบแต่งตัวแล้วออกมาคุยกับกูที่ห้องกู” พี่มาโครพาฉันเดินมายังเตียงนอนห้องพักของพี่เขา ก่อนที่พี่เขาจะเดินออกไปสักพัก ก็กลับมาพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าของฉัน
“น้องจะนอนพักเลย หรือจะอาบน้ำก่อน” พี่มาโครถามขึ้นตอนที่เดินถือกระเป๋าเสื้อผ้าฉันเข้ามา ฉันไม่รู้ว่าเขาไปเอามาได้ยังไง เพราะห้องนั้นฉันนอนกับพี่น้ำหวาน
“อาบน้ำก่อนค่ะ รู้สึกครั้นเนื้อครั่นตัวยังไงบอกไม่ถูก” ฉันตอบพี่ชายไปตามตรง เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เหมือนจะเป็นไข้ ทั้งยังปวดเมื่อยไปตามลำตัว และที่สำคัญคือฉันเจ็บตรงน้องสาวตัวเองมาก แทบก้าวขาเดินไม่ไหว ดีหน่อยตรงที่พี่มาโครอุ้มฉันเดินมา
คือตอนแรกกะว่าจะให้พี่มาโครแค่ช่วยพยุงเดินมาแหละ แต่พอขยับก็รู้สึกเจ็บมากจน หน้าฉันเหยเกไปด้วยความเจ็บ พี่มาโครคงเห็นเลยอุ้มฉันขึ้นมา ทั้งที่ฉันยังไม่ได้บอกอะไรเลย เหมือนพี่มาโครจะรู้ว่าฉันเดินไม่ไหว แต่พี่มาโครก็ไม่ได้ถามหรือพูดอะไรออกมา
“อาบเองไหวไหม หรือให้พี่ไปปลุกน้ำหวานมาช่วย” พี่มาโครถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นว่าฉันยังยืนเองแทบไม่ได้เลย
“ไม่เป็นไรค่ะ ซอนญ่าอาบเองได้” ฉันตอบพี่ชายไปแม้ภายในใจก็หวั่นๆ ว่าตัวเองจะไหวไหม แต่ถ้าจะให้พี่มาโครไปปลุกพี่น้ำหวานมาช่วย ฉันว่าฉันฝืนอาบเองน่าจะดีกว่า
“ไหวแน่นะ ถ้าไม่ไหว อย่าโกหกพี่นะ ถ้าเกิดล้มขึ้นมา มันจะแย่ไปมากกว่านี้ หรือจะนอนแช่น้ำอุ่นสักพักก็ได้นะ” มาโครถามย้ำขึ้นมาอีกรอบด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะบอกให้น้องสาวแช่น้ำอุ่นเผื่อความเจ็บปวดจะลดลงบ้าง เขารู้ว่าซอนญ่าคงเจ็บปวดไม่น้อย
“ไหวค่ะ ได้แช่น้ำอุ่นก็ดีเหมือนกัน” ฉันตอบพี่ชายออกไปพลางหันหน้าไปส่งยิ้มนิดๆ ให้
“พี่จะรออยู่หน้าห้อง มีอะไรก็เรียก” พี่มาโครเอ่ยขึ้น แต่เหมือนพี่เขาจะไม่ค่อยอยากเดินออกไปคงเป็นห่วงฉันแหละ
“ค่ะ ซอนจัดการตัวเองได้ พี่ไม่ต้องห่วง ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวซอนเรียกนะคะ” เพราะรู้ว่าพี่ชายฉันเป็นห่วง ฉันจึงบอกออกไปตามนี้ เพื่อให้พี่มาโครยอมเดินออกไป
หลายคนคงสงสัยกันใช่ไหมว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมพี่ชายฉันไม่พูดเรื่องนั้นกับฉันเลย ใช่ค่ะพี่ชายฉันเป็นแบบนี้จริงแหละ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่ชายฉันจะเซฟความรู้สึกฉันเป็นอย่างแรก พี่มาโครไม่ถามฉันสักคำ แต่เลือกที่จะดูแลฉันแทน พี่มาโครคือเซฟโซนของฉันจริงๆ
แต่ความจริงฉันก็อยากให้พี่มาโครถามฉันนะ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นฉันเองก็ยังงงๆ ไม่หาย รู้แต่ว่าเมื่อคืนเรามีปาร์ตี้กัน แล้ว พี่มาโครกับเพื่อนๆ ก็ชวนกันไปเที่ยวผับในตัวเมืองพัทยา ส่วนพี่ออสตินไม่ได้ไปด้วยเพราะมีผู้หญิงมาหาถึงที่พัก ฉันก็เลยไม่ไปเที่ยวกับพี่ๆ ส่วนหนึ่งเพราะฉันอายุยังไม่ถึง 18 ปีดี อีกทั้งฉันไม่อยากให้พี่ออสตินอยู่กับผู้หญิงคนนั้นตามลำพังสองต่อสอง เราสามคน ฉัน พี่ออสติน และผู้หญิงคนนั้น จึงนั่งกินเหล้าด้วยกันต่อจนเมากันทุกคน และเกิดเรื่องกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย พี่ออสตินกับฉันจึงเดินไปส่งผู้หญิงคนนั้นที่ห้อง โดยพี่ออสตินกลับห้องไปก่อน
ส่วนฉันอยู่เคลียร์กับผู้หญิงคนนั้นแล้วจึงเดินกลับห้อง ฉันเปิดประตูเข้าห้องตัวเองไป หลังจากนั้นฉันก็รับรู้ถึงแรงดึงดูดมหาศาล ก่อนจะสติหลุดและจำอะไรไม่ได้อีกเลย แล้วทำไมพอตื่นขึ้นมาถึงได้มาอยู่ห้องพี่ออสตินได้ ทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลย แถมพี่ออสตินยังพูดอะไรแปลกๆ อีกด้วย