พอฉันกับพี่มาโครเดินออกมา ก็เห็นพี่ออสตินนั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้วที่โซฟา พี่เขาใส่เสื้อยืดด้านในและใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าทับด้านนอก กางเกงขาสามส่วนสีขาว พี่เขาเป็นลูกครึ่งที่ไม่ถึงกับฝรั่งจ๋า แต่จะคงความเป็นฝรั่งมาแค่สีผิวคือความขาว และความสูง พี่ออสตินสูง 190 ซม. จมูกพี่เขาโด่งมาก เบ้าหน้าที่แบบฟ้าประทาน คือบอกตามตรงหล่อแบบวัวตายควายล้มเลย ฉันอยากกรี๊ดมาก คือก็รู้แหละว่ามีเรื่องอยู่ แต่ไอ้โรคบ้าผู้ชายของฉันมันก็ห้ามไม่อยู่เสียด้วยสิ อ่อ ไม่สิไม่ใช่โรคบ้าผู้ชาย แต่เป็นโรคบ้าพี่ออสตินต่างหาก แต่ฉันก็ยังนั่งนิ่งๆ สำรวมอยู่นะ ส่วนภายในก็ให้มันระริกระรี้ไป
เมื่อมาโครพาซอนญ่าเดินออกมาจากห้องนอน ก็เจอออสตินนั่งอัดบุหรี่อย่างหนักอยู่บนโซฟาอยู่ก่อนแล้ว ทั้งคู่มีสีหน้าเครียดไม่ต่างกัน มาโครพาซอนญ่าเดินมานั่งลงตรงข้ามเพื่อนของเขา ต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมา
“มึงจะเอาอย่างไร จะให้กูรับผิดชอบอย่างไรก็บอกมา อย่ามาทำแบบนี้กูอึดอัด” สุดท้ายเป็นออสตินที่ทนกับความอึดอัดแบบนี้ไม่ไหวเอ่ยขึ้นมาก่อน
“มึงช่วยเล่าให้กูฟังที ว่ามันเกิดเรื่องเหี้ยๆ แบบนี้ได้อย่างไร” มาโครพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดโมโห ที่เห็นเขานิ่งๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกอะไร เขาโมโหมากต่างหาก แต่เพราะมาโครค่อนข้างเป็นคนใจเย็นมีเหตุผลหรือเรียกอีกอย่างว่าโตเกินตัว เพราะความที่เขาต้องมาบริหารงานตั้งแต่อายุยังน้อย เลยทำให้เขาใจเย็นมีสติมากกว่าทุกคน
“ยิ่งกูพูด น้องมึงยิ่งเสียหาย อย่าให้กูพูดอะไรเลย มึงพูดมาเลยว่าอยากให้กูรับผิดชอบอย่างไร กูไม่อยากเสียความเป็นเพื่อนกับมึง” ออสตินพูดขึ้นเสียงเข้มเพราะเขาเองก็อยู่ในอารมณ์โมโหไม่ต่างจากมาโคร ออสตินแทบไม่มองหน้าซอนญ่าเลยเสียด้วยซ้ำ
แต่คำตอบออสตินก็ทำเอาซอนญ่าสตั้นไปเหมือนกัน และเธอกำลังจะโต้แย้งขึ้น ถ้ามาโครไม่สะกิดเธอให้หยุดเสียก่อน
“งั้นตอบคำถามกูมาตรงๆ มึงไม่ได้ข่มขืนน้องกูใช่ไหม” มาโครจึงถามขึ้นเองด้วยแววตาที่เจ็บปวด
“ไอ้มาโคร คนอย่างกูไม่เคยต้องข่มขืนผู้หญิง มึงก็น่าจะรู้ดี กูไม่ได้บอกว่ากูเป็นคนดี แต่ของอย่างนี้กูมีกินไม่เคยขาด ไม่จำเป็นต้องไปข่มเหงน้ำใจใคร” ออสตินตอบเพื่อนเสียงดัง ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะอัดบุหรี่เข้าปอดอีกครั้ง เพื่อหวังดับความเครียดในตอนนี้ให้ลดลงบ้าง
มาโครจึงเป็นฝ่ายเอื้อมมือไปหยิบซองบุหรี่ที่วางไว้บนโต๊ะมาจุดสูบบ้างเพราะตอนนี้เขาเองก็เครียดแทบบ้า
“แต่ซอนญ่าบอกว่าไม่รู้เรื่องเลย รู้แค่ว่าตัวเองเมาแล้วเดินกลับมาที่ห้อง พอตื่นมาก็อยู่ห้องมึงแล้ว ห้องมึงมีกล้องไหม” มาโครถามขึ้นแม้จะรู้ว่าต่อให้มีกล้องก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะเขาไม่ได้กำลังหาคนผิด แต่กำลังหาสาเหตุของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่างหาก
“ไม่มี มีแต่กล้องหน้าห้องและถึงเปิดกล้องมึงก็จะเห็นว่าน้องมึงเป็นคนเปิดประตูเดินเข้ามาเอง มาโครมึงเป็นเพื่อนรักกูนะ กูไม่อยากมีปัญหากับมึงเพียงเรื่องแบบนี้ แต่กูก็อดโมโหให้น้องมึงไม่ได้” ออสตินพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองซอนญ่าเพียงนิด หลังจากที่ชั่งใจอยู่นานว่าจะพูดดีไหม สุดท้ายออสตินก็เลือกที่จะเล่าให้เพื่อนรักเขาฟัง
“ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่ากูจะไม่รู้ว่าซอนญ่าคิดอย่างไรกับกู หรือแม้กระทั่งไปอาละวาดผู้หญิงของกู แต่กูก็เลือกที่จะปล่อยผ่านเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องหยุมหยิมของผู้หญิง ส่วนหนึ่งก็เพราะซอนญ่าเป็นน้องสาวของมึงด้วย กูเลยไม่คิดห้ามปราม แต่ครั้งนี้น้องมึงก็หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นวางยาปลุกเซ็กกู มันไม่เกินไปหน่อยหรือวะ” ออสตินพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดเพราะเขารู้สึกเหมือนถูกหยามหน้า ด้วยฝีมือเด็กอย่างซอนญ่า
“มึงว่าไงนะ ซอนญ่าวางยาปลุกเซ็กมึงอย่างงั้นเหรอ เป็นไปได้ยังไง กูไม่เชื่อว่าน้องกูจะทำแบบนั้น มึงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า” มาโครตกใจมากกับสิ่งที่ออสตินพูดออกมา เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าน้องสาวของเขาจะทำแบบนั้น เพราะเมื่อกี้ซอนญ่ายังบอกว่าไม่รู้ตัวว่ามีอะไรกันกับออสติน แล้วเธอจะเป็นคนวางยาเขาได้อย่างไร เรื่องนี้มันชักไปกันใหญ่แล้วมาโครได้แต่นึกในใจ
ส่วนซอนญ่าเอง ตอนนี้ยังช็อกไม่หายกับคำกล่าวหาของออสติน เธอจะไปวางยาเขาได้อย่างไร สิ่งที่ออสตินพูดถึงก่อนหน้านี้เธอไม่เถียง แต่เรื่องวางยาเธอเถียงขาดใจ
“กูไม่รู้ มึงต้องถามน้องมึงเอง เพราะเหล้าแก้วสุดท้ายที่กูกิน ก็เป็นน้องมึงที่คะยั้นคะยอให้กูกินให้หมดแก้ว และหลังจากนั้น น้องมึงก็เข้ามานอนในห้องกู ที่เหลือมึงก็คิดเองแล้วกัน อย่าให้กูต้องพูด” ออสตินพูดขึ้นเสียงดัง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าคำพูดของเขาจะทำให้อีกคนความปวดใจที่โดนใส่ร้าย
“พี่พูดว่าอย่างไรนะ พี่บอกว่าซอนวางยาพี่งั้นเหรอ ซอนจะทำอย่างนั้นไปทำไม // พี่มาโคร ซอนไม่ได้ทำนะคะ” ซอนญ่าทนไม่ได้เธอจึงแย้งขึ้นมาด้วยความโมโหที่ออสตินใส่ร้ายว่าเธอวางยาปลุกเซ็กเขา ซึ่งสำหรับซอนญ่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่แย่มาก และไม่เคยอยู่ในห้วงความคิดของเธอเลยแม้แต่น้อย ครั้งแรกของเธอต้องเกิดจากความรัก ไม่ใช่เกิดจากความเมาหรือยาปลุกเซ็กส์แบบนี้ เธอจึงแย้งออกไปและหันไปยืนยันความบริสุทธิ์ใจกับพี่ชายตัวเอง
“ถ้าไม่ใช่เราแล้วจะเป็นใครที่วางยาพี่ ไหนบอกมาสิ เมื่อคืนมีแค่เรา พี่กับเฟียส และเหล้าที่พี่กินแก้วสุดท้าย ก็เป็นแก้วที่เราคะยั้นคะยอให้พี่กิน ถ้าไม่ใช่เราแล้วจะเป็นใครได้อีก” ออสตินพูดขึ้นเสียงดังด้วยอารมณ์โมโห
“พี่คงไม่โง่วางยาตัวเองหรอกนะ ไหนจะที่เราเข้ามาในห้องพี่อีก ไหนบอกมาซิว่า เราเข้ามาในห้องพี่ทำไม พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่พี่พูด แล้วมันจะเป็นเพราะอะไร ” พี่ออสตินจ้องมองฉันอย่างไม่พอใจ แววตาที่พี่เขามองฉันมันเปลี่ยนไป จนฉันสัมผัสได้