ปัจจุบัน
ก๊อกๆๆๆ
“ยัยน้อง เสร็จหรือยัง” เสียงเคาะประตูห้องน้ำและเสียงเรียกของพี่มาโครทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ และร้องตอบพี่ชายออกไปเพราะกลัวเขาเป็นห่วง
“ซอนใกล้จะเสร็จแล้วค่ะพี่ชาย” เมื่อตอบเสร็จฉันก็รีบอาบน้ำทันที
สุดท้ายการอาบน้ำที่แสนทรมานของฉันก็จบลงอย่างรวบรัดตัดตอน เพราะฉันทนความเจ็บแสบตรงน้องสาวไม่ไหว แถมมันยังบวมเป่งอย่างมาก ยิ่งโดนน้ำยิ่งทรมาน นี่ขนาดว่าเป็นน้ำอุ่นนะ ส่วนร่างกายฉันก็มีรอยจ้ำๆ ไปทั้งตัว โดยเฉพาะเนินอกที่เหมือนโดนกัดจนขึ้นรอย ฉันเลยรีบอาบรีบเสร็จ หยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมก่อนเดินออกจากห้องน้ำไป พอเปิดประตูออกมาก็เจอพี่มาโครยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำ
“อุ้ย! พี่ไม่ต้องอุ้มซอนก็ได้ ซอนเดินไหว” ฉันท้วงขึ้นเมื่อพี่ชายฉันก้มลงอุ้มฉันขึ้นมาก่อนจะพาฉันไปวางบนเตียงนอน และมีชุดของฉันวางไว้พร้อมหมดแล้ว ยันชุดชั้นใน พี่ชายฉันก็เตรียมไว้ให้หมด
ไม่ต้องงงกันนะคะ พี่ชายฉันดูแลฉันแบบนี้มาโดยตลอด นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ บอกแล้วพี่ฉันเป็นพี่ชายที่แสนดีที่สุดในโลก
“ซอนจะนอนเลยหรือจะกินข้าวก่อน” พี่มาโครถามขึ้นเมื่อวางฉันลงเตียง
“ซอนอยากนอนเลยมากกว่า รู้สึกไม่ค่อยดีเลยค่ะ ปวดเมื่อยตามตัวเหมือนจะเป็นไข้เลย” ฉันตอบพี่ชายออกไปพร้อมทำหน้างอแง
“งั้นแต่งตัวไปก่อน อย่าเพิ่งนอน เดี๋ยวพี่จะไปเอาข้าวต้มมาให้กินก่อน จะได้กินยาแก้ไข้ ยาแก้อักเสบ และยา....” พี่มาโครเอ่ยขึ้นและหยุดลงในตอนที่ฉันกำลังสวมใส่เสื้อผ้าเตรียมตัวนอน เพราะฉันรู้สึกไม่ไหวจริงๆ แต่ก็หันหน้าไปพยักหน้าให้พี่ชายตัวเองเพื่อทำตามอย่างว่าง่าย
ทำให้พี่มาโครเดินออกไปด้านนอก ส่วนฉันก็แต่งตัวไป สักพักพี่ฉันก็เดินกลับเข้ามาพร้อมถาดใส่ถ้วยข้าวต้มในมือ ในถาดยังมีถ้วยใส่ยาอีก 2 ถ้วย
“กินข้าวก่อน แล้วค่อยกินยาแก้อักเสบและยาลดไข้ พี่ให้คนไปซื้อยาให้อยู่ เดี๋ยวค่อยกินตาม” พี่มาโครปากพูดไป มือก็ยกถ้วยข้าวต้มมาเป่าให้ฉันไป พี่มาโครซื้อยาอะไรมาอีกจะให้ฉันกินกี่ยากันเนี่ยหรืออาการฉันมันร้ายแรงมาก
“พี่ค่ะเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับซอนกันแน่ค่ะ”
ตอนแรกว่าจะไม่ถามแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ ก็มันแปลกไปหมดทุกอย่าง ร่างกายของฉันก็แปลก พี่ออสตินก็พูดแปลก พี่มาโครพูดแปลก
“เมื่อคืนน้องจำอะไรได้บ้าง เล่าให้พี่ฟังทีซิ” เมื่อเห็นว่าน้องสาวพูดออกมาแบบนั้น มาโครจึงเลือกที่จะถามเธอกลับไป เขาอยากฟังจากปากน้องสาวตัวเองดูก่อน ก่อนที่จะฟังจากออสติน
“เมื่อคืนหลังจากที่พวกพี่ออกไปเที่ยวกัน เราก็นั่งดื่มกันอีกสักพักพอเริ่มเมาซอนจะตกน้ำแต่พี่ออสตินช่วยไว้ได้ แล้วซอนก็มีปากเสียงกับพี่เฟียสนิดหน่อย พี่ออสตินเห็นว่าเมากันมากแล้ว เลยให้แยกย้ายกันไปนอนทั้งหมด ซอนเดินไปส่งพี่เฟียสก่อนเพราะพี่เฟียสบอกว่าเมามากเดินไม่ไหว ซอนเลยอาสาเดินไปส่งที่ห้อง พอส่งพี่เฟียสเสร็จ ซอนเองก็เมามากเช่นกัน เลยเดินกลับมานอนที่ห้องตัวเอง และก็แปลกใจว่าตอนเช้าซอนไปนอนที่ห้องพี่ออสตินได้อย่างไร” ฉันเล่าไปพลางพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อคืนไปด้วย แต่ฉันก็จำอะไรไม่ได้ จำได้แค่ว่าตัวเองเข้ามานอนในห้อง ที่เหลือก็จำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
“หลังจากนั้นน้องจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” พี่มาโครถามขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะส่งถ้วยข้าวต้มที่เป่าจนเย็นแล้วมาให้ฉัน ฉันรับมันมาพร้อมส่ายหน้าเป็นคำตอบให้พี่ชายตัวเอง ก็ฉันจำอะไรไม่ได้จริงๆ
“น้องรู้ตัวไหมว่าเมื่อคืนน้องกับออสตินทำอะไรกัน” พี่มาโครถามขึ้น น้ำเสียงก็ปกตินะ แต่แววตาพี่เขาดูกังวลอย่างไงแปลกๆ ฉันจึงส่ายหน้าเป็นคำตอบให้พี่มาโครอีกครั้ง แต่ก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันจึงถามพี่ชายตัวเองออกไป
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นคะ พี่เล่าให้ซอนฟังได้ไหม” พี่มาโครยกมือมาลูบหัวฉันเบามือเหมือนเคย แต่แววตาพี่เขาดูเจ็บปวด อย่างชัดเจน
“ถ้าพี่เล่าให้ฟัง น้องต้องสัญญาว่าน้องจะเข้มแข็ง น้องจะไม่ฟูมฟาย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น น้องยังมีพี่คนนี้อยู่ทั้งคน ถ้าน้องสัญญาว่าจะเข้มแข็ง พี่ก็จะเล่าให้ฟัง” พี่มาโครพูดขึ้นและเรียกฉันว่า น้อง นั่นคือสรรพนามที่พี่มาโครจะเรียกฉันในเวลาที่อยากจะปลอบใจฉัน
“น้องสัญญาว่าน้องจะมีสติ จะไม่ฟูมฟาย พี่เล่ามาเถอะน้องรับได้ทุกอย่าง” ฉันบอกกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและแน่วแน่ และใช้สรรพนามเหมือนที่พี่ชายฉันใช้ ส่วนเวลาปกติ ฉันจะใช้แทนตัวว่า ซอน หรือซอนญ่า
“เรื่องเมื่อคืนพี่ก็ยังไม่รู้อะไรมากนัก รู้แต่ว่าน้องกับไอ้ออสตินน่ามีอะไรกันแล้ว และ...// ไม่จริง พี่รู้ได้อย่างไร” ไม่รอให้พี่มาโครพูดจบ ฉันก็แทรกขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร มันต้องไม่ใช่เรื่องจริงแน่ ฉันเสียครั้งแรกแบบไม่รู้สึกตัวเหรอ เป็นไปไม่ได้
“ซอนญ่า น้องต้องตั้งสติและฟังพี่ น้องไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น พี่อยู่ตรงนี้แล้ว” มาโครพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ก่อนจะดึงตัวน้องสาวเข้ามากอดไว้แนบอกเมื่อซอนญ่ายังตกใจไม่หาย
“ไม่จริงอ่ะ ทำไมน้องไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น แล้วพี่รู้เรื่องได้อย่างไรว่า...” ซอนญ่าถามเสียงอู้อี้หน้ายังแนบอยู่กับอกพี่ชาย
“พี่เองก็ยังไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะเมื่อคืนพี่ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่พอกลับมา น้ำหวานโทรมาบอกว่าน้องไม่อยู่ที่ห้อง และคิดว่าน้องอยู่ห้องพี่ แต่พอพี่เข้าไปในห้องก็ไม่เจอน้อง พี่เลยว่าจะไปถามไอ้ออสตินว่าเห็นน้องบ้างไหม...” พี่มาโครหยุดเล่าไปนิดหนึ่งด้วยแววตาเศร้าก่อนจะเล่าต่อด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดเต็มที
“ก็มาเจอน้องนอนอยู่บนเตียงกับมันแบบนั้น ถ้าน้องบอกว่าไม่รู้เรื่องเหมือนกัน พี่ก็เลยต้องรอถามเอาความจากไอ้ออสตินมันดูอีกที”
“ ส่วนที่พี่บอกว่าน้องกับไอ้ออสตินมีอะไรกัน เพราะพี่ดูจากอาการของน้อง บวกกับตอนที่พี่เข้าไปเจอน้องกับไอ้ออสตินในห้อง ทั้งคู่ต่างก็เปลือยกาย แบบนี้ก็คงเดาได้ไม่ยาก เพราะพี่ก็ผ่านเรื่องอย่างนี้มาพอสมควร” มาโครบอกน้องออกไปตามความจริง แค่เห็นสภาพของทั้งคู่เขาก็รู้ไปถึงไหน ๆแล้ว เรื่องแบบนี้เขากับเพื่อนทำกันอยู่บ่อยๆ ทำไมจะไม่รู้
“แต่ทำไมน้องไม่รู้สึกอะไรเลยละ” ฉันถามแทรกขึ้นมาอีกครั้ง คิ้วยังผูกโบไม่หายทั้งงงทั้งตกใจกับเรื่องที่พี่มาโครเล่ามา
“น้องจะไม่รู้สึกได้อย่างไรก็น้องเจ็บจนเดินไม่ไหวอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วรอยตามเนื้อตัวอีก” มาโครตอบพร้อมกับมองเนื้อตัวของซอนญ่าที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมา คนอย่างออสตินไม่เคยมีคำว่าเบา ออกจะซาดิสเสียด้วยซ้ำ ตามที่เขาพอรับรู้มาจากปากของเจ้าตัว เพราะเรื่องอย่างนี้พวกเขาก็มีเล่าสู่กันฟังบ้างเวลาได้ฟันสาวๆที่ถูกใจ ฉนั้นเขาจึงคิดว่าใต้ร่มผ้าของซอนญ่าจะต้องมีรอยจ้ำๆ จำนวนมากแน่นอน
ที่พี่มาโครตอบฉันมาก็มีเหตุผล มันก็อาจใช่ที่ฉันเดินแทบไม่ไหวและมีรอยจ้ำๆ เต็มไปหมด แต่ฉันไม่ได้หมายความถึงความรู้สึกในตอนนี้ ฉันหมายถึงความรู้สึกในตอนที่ถูกพี่ออสตินกระทำ พี่มาโครแน่ใจเหรอ ฉันไม่รู้สึกตัวเลยจริงๆนะ
“คือน้องหมายความว่า ตอนที่ทำอะไรกัน ทำไมน้องไม่รู้สึกตัว มันทำกันเบาขนาดนั้นเลยหรือคะ” ฉันถามพี่ชายออกไปด้วยความสงสัยไม่หาย แต่มันกลับทำให้พี่ชายฉันอึดอัดขึ้นมา พี่มาโครค่อยๆเอานิ้วชี้ เขี่ยหางคิ้วตัวเอง ก่อนจะตอบฉันมา
“มันก็ไม่ได้เบาขนาดนั้นหรอก ยิ่งเป็นคนอย่างไอ้ออสตินยิ่งหนัก ไม่งั้นน้องจะมีสภาพแบบนี้เหรอ แต่ที่น้องไม่รู้สึกตัว น้องคงเมาแหละ เพราะน้องเองก็เป็นคนประเภท เมาแล้วหลับปางตายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยิ่งเมาหนักยิ่งไม่ต้องพูดถึง” พี่มาโครอธิบายฉันชะยืดยาว ก็คงจะจริงอย่างที่พี่ชายฉันว่า เพราะฉันเป็นคนเมาแล้วหลับลึกมาก ใครลากไปไหนก็ไม่รู้ตัว
แกร๊ก
เสียงเปิดประตูด้านนอกดังขึ้น ทำให้ทั้งฉันและพี่มาโครหันไปมอง แม้จะไม่เห็น แต่ก็รู้ว่ามีคนเข้ามาในห้องรับแขก
“น้องนอนพักไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปคุยกับไอ้ออสตินก่อน” พี่มาโครเอ่ยขึ้น ก่อนจะหยิบถาดข้าวต้มที่ฉันเพิ่งกินเสร็จออกไปด้วย
“ในเมื่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเกี่ยวข้องกับซอนโดยตรง ซอนขออยู่ด้วยได้ไหมค่ะ” ฉันเอ่ยบอกพี่มาโครขึ้นในตอนที่พี่เขากำลังจะเดินถึงประตู ทำให้พี่มาโครหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันมามองหน้าฉัน ฉันจึงส่งสายตาแน่วแน่ไปให้พี่เขา ก็มันถูกแล้วไม่ใช่หรือในเมื่อเรื่องที่เกิดขึ้นมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับฉัน ฉันก็ควรจะไปร่วมรับฟังหรือแก้ปัญหาด้วย
พี่มาโครคิดแว๊ปหนึ่งก็พยักหน้าให้ฉัน ก่อนจะเดินกลับมาช่วยประคองฉันลงจากเตียง
“แต่พี่ขออย่างหนึ่ง พี่จะเป็นคนคุยเองน้องนั่งฟังเฉยๆนะ” พี่ชายฉันพูดขึ้นเมื่อเรากำลังจะเดินออกไปนอกห้องกัน