องก์ ๑๓

4051 คำ
วันนี้หยุดอีกแล้ว ตื่นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น แต่ก็นะอยากรู้ว่าอะไรไปถึงไหนแล้ว โทรศัพท์หาเอส มันไม่รับสายคงกำลังตี้กันอยู่แน่ๆ "ว่าไงต้อม เป็นไงบ้างถึงไหนแล้ว" รายต่อไปคือไอ้ต้อม ปกติเวลานี้มันน่าจะวิ่งอยู่ แต่แปลกมันรับเร็วมาก "วิ่งอยู่พี่" "อ้าวแล้วรับไวจังวะ" "ก็เอามาด้วยห้อยคออยู่ กลัวว่าพี่จะโทรฯมา" ต๊าย ทำตัวน่ารักเชียว "อือ แล้วเป็นไง แอดเอ็มยัง" "คุยแล้วพี่ ตอนแรกเขาจะไม่คุย แต่พอผมเอารูปให้ดูเขาก็คุยอ่ะ" หึหึ ไอ้คนไม่รู้จักพอ ผมด่าไอ้เรย์ในใจล่ะครับ คนมันไม่พอต่อให้มีใครหน้าไหนเข้ามามันก็คงเล่นด้วย คราวนี้ล่ะมึงจะเอาให้แสบทรวงเชียว "มันว่าไงบ้าง" "ไม่ว่าไง แต่ผมก็พูดเหมือนจีบเขานะพี่ ผมว่าเขาก็น่าจะเล่นด้วย เพราะเขาบอกว่าจะชวนผมไปดูหนัง" "เมื่อไหร่ วันนี้เลยไหม" "ครับพี่ แต่เป็นตอนเย็น เพราะเขาบอกเขาทำงาน" ก็แหงล่ะ ใครจะมาหยุดวันธรรมดา ถ้าไม่ใช่ไฮโซอย่างผม อิอิ "ที่ไหน พี่จะตามไปดูด้วย" "น่าเอสพานาดพี่" "หือ ทำไมไปไกลจังวะ" "ไม่รู้อ่ะพี่ เขาบอกนัดเจอที่สีลมเดี๋ยวเขามารับ ผมเริ่มกลัวแล้วว่ะพี่" "ไม่ต้องกลัว วันนี้พี่หยุด พี่จะตามไปเอง มันไม่กล้าทำอะไรหรอก แต่ต้อม เวลาอยู่ในโรงหนังน่ะ พยายามล้วงมันเยอะๆหน่อยนะ" "เฮ้ยพี่ ผมเป็นผู้ชายนะ ไม่เอาอ่ะ" อีกล่ะ มันนะชอบเป็นแบบนี้ทุกที "แล้วไง เป็นผู้ชายแสดงว่าไม่รังเกียจ ล้วงเหมือนล้วงของเพื่อน จะคิดอะไรวะ ทำเพราะมันเป็นงานนะต้อม พี่ไม่ได้ให้เราล้วงแล้วเอามาดมนะ แค่ล้วงเพื่อยั่วมัน" "พี่อ่ะก็ว่าไป ใครจะบ้าเอามาดม" แหมนะ มัทำเสียงออดอ้อนน่าหวดจริงๆไอ้นี่ "ตามนั้น แล้วนี่ไม่ไปโรงเรียนเหรอ" "ก็วิ่งก่อนอ่ะพี่ เดี๋ยวกลับไปอาบน้ำ พี่ไม่ทำงานเหรอ" "หยุด จะนอนพอกหน้า เออ แค่นี้ล่ะ ตอนเที่ยงยิงมาเดี๋ยวจะโทรฯไปถามความคืบหน้า" "บ้าพี่ ผมก็ต้องเรียนนะ พี่เองไม่ใช่เหรอที่ไม่ให้เปิดโทรศัพท์เวลาเรียนน่ะ" เอ่อ มันย้อน ผมเคยบอกมันแบบนี้ด้วยเหรอวะ อ้อ เคยๆ ผมไม่ชอบเวลาคุยกับผมแล้วก้มหน้าเล่นแต่โทรศัพท์ทั้งที่เรากำลังคุยกันอยู่ แบบนี้จะปรี๊ดปรอทแตก ผมเลยบอกมันว่าเวลาไปเรียนห้ามเด็ดขาด เอ๊ะแต่แบบนี้เขาเรียกบอกเหรอ อิอิ น่าจะสั่งนะ "เออๆ นั่นล่ะ ตามนั้น งั้นเดี๋ยวเย็นๆพี่โทรฯหา ห้ามทำให้ผิดหวังอีกนะ" "คร้าบ ที่ร้าก" "ไอ้ต้อม มากไปนะ ลามปามเหรอ พี่เป็นใครมาพูดเล่นๆแบบนี้ไม่ได้นะ อย่าให้โมโหนะ จะตามไปราวีถึงโรงเรียนเอาให้อายคนไปเลย เอาไหม" อ่า ผมลืมสเต็ปอีกแล้ว หลุดน่ะครับ มันก็หัวเราะพอใจ "เอาแต่เช้า โดนเลยกู" มันบ่นออกมา เอาเถอะๆ วางสายดีกว่า ถ้าคุยมากไปกว่านี้สเต็ปอาจจะหลุดอีกก็ได้ ยิ่งพยายามทำตัวแรดสงบอยู่ เดี๋ยวมันจะไม่สัมฤทธิ์ผล ว่าแต่ออกไปเช็คเรตติ้งกับไอ้หน้าปลาทูเน่านั่นดีกว่า เดินออกไปนอกห้องไม่ได้ยินเสียงอีป้าแล้วคงไปทำงานแล้ว "อ้าวยังนอนอยู่เลย ว้าไม่หนุกเลย" ผมบ่นคนเดียวเพราะเห็นปลายเท้ามันยื่นออกมานอกโซฟา ปกติมันก็นอนตรงนี้ล่ะครับ เว้นบางวันมันจะไปนอนในห้องอีป้า ไม่ได้นอนเตียงเดียวกันหรอกนะ มันนอนที่นอนปิกนิกที่พื้น เหมือนนอนเฝ้าราชินีก็ไม่ปาน กินกาแฟก็ได้วะ นี่ผมตื่นเช้าแล้วนะเนี่ย ไอ้นี่ยังนอนอุตุอยู่มันไม่ทำการทำงานหรือไงนะ เหลือบตาไปมอง "โอ๊ะ" พระแม่ทั้งสาม อะไรนั่น ผมทำตาโตเพราะมันใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเมื่อคืนนั่นล่ะครับนอนกับเสื้อกล้าม ทำไมเป้ากางเกงมัน ไม่จริงหรอกน่าจะเป็นกางเกงมันพอง หนอนชาเขียวอย่างมันไม่เชื่อหรอก จะว่าผมเป็นโรคจิตไหมเนี่ยเพราะผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เอ๊ะทำไมใจเต้นแรง อุเหม่สะระนังคัจฉามิ ผมรู้สึกเหมือนเลือดมันวิ่งอยู่ทั่วร่างร้อนหน้าขึ้นมา กรี๊ด อภิมหึมามาก เพราะผมไปยืนเป่าลมใส่เป้ากางเกงมัน เพราะถ้าเป็นกางเกงพองมันต้องลง ฉลาดใช่ไหมผมน่ะ แต่มันเห็นเป็นลำเลยอ่ะ อ่า ตายๆ ไม่ได้ๆ "มองไรคุณ ตาค้างเชียว แอบอ่านกินผมเหรอ" "อ๊ะ" ไอ้บ้า ตกใจ ใจหายไปอยู่ตาตุ่ม ผมนี่ทำตัวไม่ถูกเลย อายขึ้นมา สะดุ้งเฮือกใหญ่ มันรีบเอาหมอนมาปิดไว้ "แหมนะ แอบมามองของผมตอนนอน น่ากลัวนะเนี่ย" "อ๊ะ" ยังพูดไม่ออก อายจริงๆ หันหลังให้แล้วล่ะ แต่ทำไมภาพมันยังติดตาอยู่เลย ไม่เอาๆ ไม่คิดๆ "โห ทำตาเยิ้มเลยอ่ะ อยากเหรอคุณ" "บ้าเหรอ" ผมกำลังจะหันไปแว้ดใส่มันพอมีสติ แต่ก็นะต้องแอ๊บเรียบร้อยไว้ แรดสงบๆ อย่าหลุดสเต็ป ผมเดินไปชงกาแฟ "เผื่อถ้วยดิ" มันร้องสั่งมา ไม่มีทาง แต่เอ๊ะทำไมหยิบแก้วมาสองใบ บ้าไปแล้วไอ้นาย "อ่ะ ไม่ทำงานเหรอ" ผมรู้สึกยังอายๆอยู่นะ แต่ก็ต้องคุยบ้างอะไรบ้าง เดี๋ยวมันรู้ว่าผมอายมันจะล้อยิ่งกว่านี้ "ว่าจะเข้าสายๆน่ะ ขี้เกียจ" "อืม" "แล้วคุณไม่ทำงานเหรอ" "หยุด" นี่ผมเป็นอะไรไปแล้ว โอ๊ย เกิดอะไรขึ้น นายพลไม่เคยเป็นคนแบบนี้ จิตหลุดแล้วเรา "ไม่ไปไหนเหรอ" "ยังคิดไม่ออก" "เป็นไรเนี่ยคุณ แปลกๆ อย่าบอกนะว่าคิดกับผมแบบนั้น เฮ้ยไม่เอานะคุณ" ดูมันทำท่า แหมนะ อยากจะกรี๊ดใส่ ใหญ่กว่าแกฉันก็เคยแล้ว อย่ามาทำท่ากระแดะ "บ้าเหรอ ใครจะคิด" ปากพูดแบบนั้นแต่อายนะ ร้อนหน้าแล้ว "แล้วทำไมหน้าแดงจัง อย่าบอกนะว่าเมากาแฟ" โอ๊ย ไม่คุยด้วยแล้ว ออกไปนั่งตรงระเบียงดีกว่า "อ้าว ถามไม่ตอบ คิดอะไรกับผมป่ะเนี่ย" ยังตามมาหลอกมาหลอนอีก โว้ย ขออยู่คนเดียวได้ไหม เดี๋ยวก็สนองซะเลยนี่ไอ้นี่ "อะไรล่ะ ไปอาบน้ำสิ แล้วไปทำงาน" ดูผมพูด เข้าป่าดงพงไพรไปแล้ว เตลิดไปไหนต่อไหน "ไม่เอาอ่ะ กลัวคุณแอบดู" กรี๊ด ขอหน่อยเถอะ ไม่ไหวแล้ว หลุดก็หลุดวะสเต็ปแรดสงบอะไรนั่นน่ะ คงใช้กับไอ้นี่ไม่ได้ผลหรอก "มากไปแล้วนะไอ้หน้าปลาทูเน่า อย่ามาหลงตัวเอง ฉันไม่แอบดูให้เสียลูกตาหรอกนะ ก้นลายๆแตกๆน่ะ ใหญ่ตายล่ะ" "ฮ่าๆๆ ต้องแบบนี้สิตัวจริง" พี่น้องครับ ดูเอานะ ผมไม่ได้เวอร์นะถ้าผมจะเกลียดมัน "ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ไปยืนไกลๆ เสียบรรยากาศ โมโหแต่เช้าเลย" "แหมนะ ทีแบบนี้ไล่เชียวนะ เมื่อกี๊ใครน้าทำท่าเหมือนจะลงลิ้น" "เฮ้ย อย่านะคุณ" ผมจะปาแก้วกาแฟแล้วนะ แต่มันยกมือขึ้นเลยชะงักไว้ก่อน โอย นี่น่ะหรือเขาเรียกปวดตับ "อย่ามากวนได้ไหม ไม่อยากทะเลาะ ใครจะทำอะไรพูดให้มันดีๆนะ" "อิอิ ไม่รู้นะ เห็นก้มๆเงยๆอยู่เป้าผมอ่ะ เห็นไหมบอกแล้วของผมน่ะพิเศษคัดแล้วนะเนี่ย" "โอ๊ย ไปไกลๆได้ไหม" ผมเสียดายกาแฟด้วยหนึ่ง อายด้วยหนึ่ง เลยหันหลังให้มัน ต้นไม้ของอีป้าคือเป้าหมายทึ้งดึงใบมันออกมาอย่างบ้าคลั่ง เกลียดที่สุดคนรู้ทัน เกลียดๆๆๆๆๆ "คุณๆ" มันเรียกผมหลังจากมันออกมาจากห้องน้ำ ผมยังนั่งหน้าเป็นเหล็กงอหน้าพับอยู่ "อะไร อยากกินนมเหรอเรียกอยู่ได้" "อั่นแน่ เรียกดิ อยากลองชิมดูไหมคุณ ผมให้ชิม" "ปึง" คือแถวนั้นตรงระเบียงมันมีไม้กวาดอยู่นะครับ ลอยเลยสิรอพระมาสวดก่อนหรือไร มากไปแล้ว "เฮ้ยคุณ แหมนะพูดสะกิดใจจริงหน่อยทำเป็นรับไม่ได้ หวานน้าของผมน่ะ" "ไอ้เชี่ย ไปตายไหนก็ไปเลยไป๊" ผมปรี่เข้ามากำไม้กวาดไว้ในมือแต่มันก็นะวิ่งเข้าในห้องอีป้าแล้ว แหมออกมาก่อนเถอะจะแพ่นกะบาลให้แยกเลยปากปีจอนัก โอยๆ ไม่ไหวๆ ผมจะสติหลุด เข้าวัยทองจริงๆก็เพราะไอ้นี่ล่ะ ผมรอมันนานพอสมควรกะว่าจะฟาดหัวมันจริงๆนะ แต่ก็เมื่อยก่อนเดินเข้าห้องไป อาบน้ำออกไปทำหน้าดีกว่า มันใหญ่จริงๆนะ ลำพาดยาวถึงขอบกางเกง ใหญ่กว่าไอ้เรย์อีก มันกินเบียร์นะแต่ทำไมมันไม่มีพุง ผิวสีแดงๆ ดูบึกบึนดีจังไม่มีกล้ามใหญ่โตเหมือนไอ้เรย์ดูเป็นซิลิโคนปลอมๆยังไงไม่รู้ กรี๊ด นี่ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย ไม่เอาๆ ไม่คิด มันสกปรกน่าเกลียดออก ไม่เอาๆ อาบน้ำๆ "เฮ้อกู เป็นอะไรมากไหมเนี่ย ทำร้ายตัวเองอีกจนได้" พออาบน้ำเสร็จก็นะ บ่นออกมาเลยผม อิอิ เขินจังไม่อยากบอกว่าทำร้ายตัวเองด้วย ไม่ไหวจริงๆนะ ใครจะว่ายังไงก็ช่างไม่มีใครรู้หรอกว่าผมทำอะไร พยายามลบภาพมันออกจากหัวนะ ยิ่งคิดเรื่องอื่น ยิ่งร้องเพลง แต่ทำไมมันไม่หลุดหายออกไปเสียที ก็เลยสำเร็จโทษตัวเองซะเลย เป็นไงล่ะ ว่าแล้วก็ไปทำหน้าดีกว่า ผมทำหน้าอยู่จนบ่ายกว่าๆหาอะไรกินแล้วก็บึ่งรถไปรอที่เอสพานาด "ใกล้เลิกเรียนยังต้อม พี่อยู่เอสพานาดแล้วนะ" ผมส่งข้อความไปบอกมันแล้วแวะกินข้าวที่ร้านแบล็คแคนยอนชั้นล่างหน่อย เหล่ผู้ชายซิ แถวนี้จะมีพอให้มองไหม "เลิกสามโมงครึ่งนะพี่ โรงเรียนในประเทศไทยอ่ะ" เอ่อ อันนี้ข้อความมันจริงๆนะครับ ตอนแรกกำลังยิงฟันสวยเชียวเรา ปรี๊ดขึ้นทันที "ชอบแบบไหน" ผมส่งกลับไปหามัน มันส่งเครื่องหมายคำถามกลับมาหลายอัน "อุปกรณ์น่ะ จะตีหัวคนซิ กวนตีนนะ" ผมตอบกลับอย่างรวดเร็ว มันก็ส่งกลับอย่างรวดเร็ว ว่า "ฮ่าๆ" เลวที่สุด คอยดูนะไอ้ต้อม หนอยเผลอไม่ได้เลยมันแอบด่า โอ๊ย คันมือ คันปาก จะทำยังไงดี แต่เอ๊ะถ้าเฝ้ามันดูหนัง แต่คืนนี้นัดอีป้าสองทุ่ม สองทุ่มนี่หมายถึงที่สนามบิน ตายล่ะสิ จะทันไหมเนี่ย "ต้อม พี่ไม่เฝ้าเราได้ไหม คืนนี้พี่มีธุระ" ผมส่งข้อความไปหามัน "ไม่เฝ้าก็ไม่ไป" เอ่อ อันนี้ท่านชายต้อมส่งกลับมา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเรียนวิชาอะไรกันแน่ ตอนนี้สามโมงกว่าแล้ว ต๊าย บอกให้มันปิดมือถือตอนเรียนนี่ เออนะไอ้นี่ วอนซะแล้ว ไอ้เราก็เผลอเมาท์ไปหน่อย "ไอ้ต้อม ตกลงเรียนวิชาอะไรเนี่ย ทำไมเปิดมือถือ" โทรฯหาโดยตรง รำคาญพิมพ์ยิกๆอยู่ไม่ทันใจ "โฮมรูมไงพี่ ไม่เคยเรียนเหรอ" "นี่ไอ้ต้อม มากไปแล้วนะเมื่อกี๊ก็แอบด่าฉันใช่ไหม เดี๋ยวนี้แกกล้าหือเหรอ หนอยไม่ทันไร รู้งี้ชั้นใช้ไอ้อูดีกว่าท่าทางจะว่าง่ายกว่าแก ไม่ลามปามด้วย อะไรวะ อารมณ์เสียเลย ชั้ฉัเรียนเมืองนอกนะไม่ใช่เรียนที่นี่เข้าใจไว้ด้วย โฮมรูม โฮมโปรอะไรไม่เคยเรียนโว้ย จะรู้ด้วยไหม" หนึ่งชุดผ่านไป "อิอิ" กรี๊ด ดูมันนะพ่อแม่พี่น้อง อยากตบคน อยากหวดคน อยากเตะก้านคอมัน "หัวเราะอะไรนี่ฉันด่าแกอยู่นะไอ้ต้อม เพื่อนเล่นเหรอ ไอ้บ้า" "แหมพี่ใจเย็นๆ เพื่อนผมมันหัวเราะกันใหญ่แล้ว" งงสิครับ หยุดไปชั่วขณะ นี่ผมด่าดังขนาดนั้นเลยเหรอ "มันได้ยินเหรอ" "มันเปิดสปีกเกอร์พี่นาย" เสียงไอ้อูครับผมจำได้ กรี๊ด กรี๊ด ไอ้ต้อม ผมวางสายไปทันที โมโหมาก ไม่เคยคิดว่ามันจะเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้ โมโหมากถึงมากที่สุด ไอ้เด็กนี่มันเกินไปแล้วนะ นี่ผมเสียรู้เด็กมัธยมเหรอ โอย จะเป็นลมหน้ามืดแล้ว มันโทรฯเข้าครับ ไม่รับ ผมทำใจก่อน ทำใจรับไม่ได้จริงๆ โทรฯเข้ามาอีก ก็ไม่รับ เชิดใส่ เดี๋ยวนะ ขอสูดลมหายใจเข้าปอดสักสามสี่ทีก่อน เดี๋ยวเถอะแก เจอฉันแน่ "อยู่ไหนนะตอนนี้" ผมกดสายทิ้งแล้วโทรฯกลับไปใหม่ "เราทำผิดสัญญานะต้อม ต้องให้เตือนอีกไหม นี่ครั้งที่สอง จะให้พี่ยื่นโอกาสให้อีกเหรอ" เสียงเปลี่ยน ผมนั่งนิ่งสายตาจิกออกไปนอกร้าน จนพนักงานที่ยืนอยู่ตรงนั้นหลบกันเป็นระนาว "แหมพี่ ผมขอโทษ ผมล้อเล่น" "ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่น เปิดลำโพงสิ" "ไม่เอาอ่ะพี่ ผมล้อเล่น ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆไม่คิดว่าพี่จะโกรธ" "บอกให้เปิด" ผมเน้นเสียงดุดันเด็ดขาดนัก "เอ่อ" "เดี๋ยวนี้" "เปิดแล้วพี่" "ดี จำไว้ คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก พี่เป็นใครต้อม ไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอนะ โรงเรียนเลิกสามโมงครึ่งใช่ไหม มารอที่หน้าโรงเรียน" "เอ่อ ครับ พี่จะมา" "ไม่ต้องถาม ฉันจะไปทำโทษแก ข้อหาที่กล้าทำเรื่องน่าอับอายแบบนี้กับฉัน ฉันโทรฯหาแกคนเดียว อยากให้คนอื่นรู้เหรอว่าฉันเป็นอะไรกับแก" "พี่" "อย่ามาลองดีนะไอ้ต้อม ตามนั้น สามโมงครึ่งช้าแม้แต่นาทีเดียว เตรียมใจไว้เลย" อิอิ แอบสะใจเพราะเสียงของเพื่อนๆมัน แต่เท่าที่ได้ยินน่าจะมีแต่ไอ้โป้งกับไอ้อูล่ะครับ เสียงฮือฮาๆอยู่ เป็นไงล่ะบอกแล้วว่าอย่าให้ของขึ้นกำลังคันมืออยู่พอดี ขอตบหัวหน้าโรงเรียนชายล้วนหน่อยสิไอ้ต้อม หึหึ โว้ย ของขึ้น ผมบึ่งรถออกไปทันที ไม่ทันหรอก เหาะไปก็ไม่ทันนี่มันสามโมงกว่าแล้ว ให้มันรอซะบ้าง รถติดอีกต่างหากแถวนั้น เปิดมารายห์ ฟังดีกว่า หอนสักหน่อย "โหพี่ บอกสามโมงครึ่งนี่มันสี่โมงกว่าแล้วอ่ะ" พอเจอหน้ามันก็เข้ามาโวยทันที มีไอ้อูกับไอ้โป้งยืนมองอยู่ไม่ไกลมาก "ฉาด" "นี่แน่" ไม่ให้มันตั้งหลักหรอกครับ ตบหัวมันทีหนึ่งแต่ไม่แรงนะ เหมือนหยอกๆ อารมณ์ดีขึ้นเยอะเพราะเพลงคุณป้า "อ่าพี่ นี่มันหน้าโรงเรียนนะ" "แล้วไง ต่อให้ในโรงเรียนฉันก็กล้าทำ จะลองไหมล่ะ" "อ่า น่ากลัว" "รู้นี่ แล้วยังกล้าลองดี ขึ้นรถเร็วๆ" "จะพาไปไหนอ่ะพี่ ผมหิวข้าวพอดี" "จะพาไปปล่อยที่อัมพวา" "เฮ้ยไม่เอา" "พี่นายๆ หวัดดีพี่ มารับต้อมเหรอ" สองตัวนั่นเดินเข้ามา เพิ่งเห็นนะว่าเพื่อนๆโรงเรียนมันมาออกันอยู่หน้าโรงเรียน โดยเฉพาะทีมฟุตบอล ผมพอคุ้นๆหน้าบ้าง "อืม พี่ไม่รับเราสองคนไปด้วยนะวันนี้ โทษที พี่จะพาไอ้นี่ไปชำระความ" ผมบอกไปแล้วเดินอ้อมไปขึ้นรถ มันสองคนหัวเราะชอบใจ ไอ้ต้อมก็หันไปทำตาขวางด่าเพื่อนอะไรไม่รู้ไม่ได้ฟัง "จะอีกนานไหม เริ่มอีกแล้วนะต้อม" ผมลดกระจกลงร้องออกไป มันรีบขึ้นรถมาทันที "พี่ผมอายเขานะ" "เหรอ ความรู้สึกเดียวกันกับเมื่อกี๊ไงที่เราทำกับพี่" มันอึ้งสิครับ อ้าปากค้าง นั่งนิ่งเลย เชิดใส่เป็นไงล่ะ กล้ามากนะแกมาลูบคมฉัน มันต้องเจอแบบนี้ "ทำไมเงียบ จะเงียบอีกนานไหม อึดอัด" ผมเริ่มพาลแล้วครับ วัยทองจริงๆ ขนาดเปิดเพลงนะเนี่ย "ก็พี่ฟังเพลงอ่ะ" "คุย ฉันอยากคุย" ต๊าย ผมเป็นโรคจิตไปแล้วเหรอ "เอ่อ" มันเงียบนะครับ ทำท่าถอนหายใจ หนอยกล้าถอนหายใจใส่ฉันเหรอแก "พูดสิ ทำไมต้องให้บังคับ" "พี่อ่ะ ทำไมอ่ะชอบขู่ผมอยู่เรื่อยเลยอ่ะ ผมก็มีความรู้สึกนะเว้ยพี่" "สามอ่ะ เพื่ออะไรต้อม ภาษาวิบัติหมด พูดให้เป็นคำไม่ได้เหรอ แล้วเว้ยกับใคร" เหมือนผมเริ่มรั่วแล้ว ความจริงไม่ได้โกรธมันแล้วล่ะครับ แต่หาอะไรด่ามันเล่นๆ เหมือนเป็นคนไม่เต็มเนอะผมน่ะ เห็นอะไรขวางหูขวางตาหน่อยก็พูดไปอย่างนั้นล่ะครับ ไม่ได้จริงจังอะไรมาก "เอ่อ" "นั่น ไม่อ่ะก็เอ่อ รู้ไหมมันแสดงถึงความไม่มั่นใจ" "เฮ้อ คนเรา เอ้ยพี่ เขาโทรฯมาอ่ะ" มันรีบล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ผมหูผึ่งตาลุกวาวทันที "รับสิ" "แล้วบอกว่าไงอ่ะพี่" ผมเอามือลูบท้องตัวเองเป็นสัญลักษณ์ให้มันพูดไปตามที่ผมทำ "อ้อ พี่เหรอครับ ขอโทษนะครับพอดีผมปวดท้อง ท้องเสียครับพี่ ไม่ไหวจริงๆครับ" คุยไม่นานมันก็วางสายไป ผมยังทำท่าทางได้ไม่มากเท่าไหร่เลย "มันว่าไง" "เขาบอกไม่เป็นไรพี่ เขายังถามว่าให้พาไปหาหมอไหม" "ใจดีเชียวนะ แหมทีตอนฉันไม่สบายไม่เห็นมันสนใจขนาดนี้เลย" "แล้วนี่พี่จะพาผมไปไหนอ่ะ" "ไม่รู้ วันนี้พี่จะไปรับเพื่อนที่สนามบิน แต่กว่าจะถึงเวลา ไปไหนดีวะ" ผมก็เริ่มงงกับตัวเอง ไม่รู้ทำไมไปรับมันมาด้วย พอมาแล้วก็ไม่มีจุดหมายปลายทาง "ไปกินติมดิพี่ ผมอยากกินพอดี" "ไม่อยากอ่ะ แกกลับหอไปเถอะถ้างั้นอ่ะ ฉันจะกลับห้อง" "อ้าวนะ พาไปกินหน่อยดิพี่ นะนะ" "โว้ย ทำไมฉันต้องพาแกไปกินด้วย ไปคนเดียวไม่ได้เหรอ" "ก็อยากไปกับพี่อ่ะ นะนะ ที่ไหนก็ได้" "จิ๊" ที่จริงก็ไม่รู้จะไปไหนจริงๆนั่นล่ะครับ คิดไม่ออกเลยจริงๆ "ได้ ฉันก็อยากกินไอติมอยู่พอดี แต่เป็นไอติมแกนะ ไปเลยไหมล่ะ" "เฮ้ยพี่" อิอิ ผมพูดไปอย่างนั้นล่ะครับ ตัดรำคาญ ตั้งใจว่าจะส่งมันลงแถวสถานีรถไฟสักที่แล้วก็กลับไปรออีป้าอยู่ห้องดีกว่า แต่ในเมื่อมันตื้ออยู่ได้ ก็ต้องใช้วิธีนี้ล่ะ ผมทำตาแบบนางแมวสุดฤทธิ์ มันนะสะดุ้งรีบเอามือกุมเป้าไว้ทันที แหมนะ เอาสักทีดีไหมเนี่ย “งั้นไปเอกมัย ไม่รู้จะไปไหน” “ไปไหนก็ได้พี่ ผมไปได้ทุกที่ล่ะ ชิวๆ” “จ๊ะ พ่อคุณชิวมาก นี่ถ้าฉันมีอะไรทำก็คงไม่พาไปหรอกนะ” “อิอิ ไหนบอกอยากกินติม ผม ไง” เอ่อ มันเน้นคำว่าผมนะครับ ผมนี่หันขวับ ต๊าย กล้าลูบคมนะไอ้นี่ “งั้นแวะม่านรูดก่อนไหมล่ะ” “เฮ้ย บ้าเหรอพี่ ไม่เอา” “”หึหึ อย่าคิดมาล้อฉันเล่นนะไอ้ต้อม ฉันมันระดับไหนแล้ว” ผมเชิดหน้าขึ้นสูงกว่าปกติให้รำคอมันระหงส์นั่นล่ะครับ “ไม่เอาหมายถึง ทำในรถก็ได้นี่พี่ ที่ลานจอดรถอ่ะไม่เปลืองเงินค่าม่านรูด” กรี๊ด ผมแทบจะหงายหลัง ฮึ่ม “เอาเลยไหมล่ะ กลางไฟแดงนี่ล่ะ” “เอาดิ พี่กล้าผมก็กล้า” กรี๊ดอีกครั้ง นี่มันแยกทองหล่อนะ โอยๆ เหมือนโดนกระทุ้งด้วยท่อนไม้ ระบายลมหายใจออกก่อน ไม่เอาๆ มีรอยขึ้นตรงคิ้วหรือเปล่าเนี่ย “เออต้อม ถามหน่อย แกกลัวไหมถ้าให้ไปกับไอ้เรย์สองคนน่ะ” ระหว่างที่นั่งกินไอติมที่เมเจอร์เอกมัยผมก็ถามมันล่ะครับ แหมนะน้องๆนีที่ทำงานอยู่ที่ร้านนี่มองไอ้ต้อมตาเป็นมันเลยนะ ไอ้นี่มันก็เข้าท่านะมันไม่ทำท่าอายเดินห่างอะไรเลยนะ เดินชิดตลอด “กลัวดิพี่ แต่พี่ให้ทำผมก็ทำอ่ะ” “อืม ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ยั่วให้มันตายใจ” “แต่ใจนึงผมก็เฉยๆนะ ผู้ชายด้วยกัน ถ้ามาลวนลามผมโดนต่อยแน่ๆ” “จ้าพ่อคนเก่งเอาตัวให้รอดเถอะ” “ของผมหมดแล้วอ่ะพี่ แบ่งบ้างดิ” ดูครับ ไอ้นี่กินไอติมเร็วมาก ตักเอาๆ ตอนคุยน่ะมันไม่ได้มองหน้าผมหรอกนะ จ้วงท่าเดียว “เอาไปดิ พี่ไม่กินแล้ว” “อิอิ งั้นผมกินหมดนะ” “กินอีกไหมล่ะ สั่งมาเพิ่มได้นะ ไม่รีบ” “ไม่เอาอ่ะพี่ กินเยอะไม่ดี พี่ครับ ขอเมนูหน่อย” “นี่หมายความว่าไงวะแก แหมทำมาเป็นพูดดี” “อิอิ ผมเต๊ะท่าไปงั้นล่ะ ให้กินก็กินดิ ผมชอบกิน” “บอกว่าโอเคคำเดียวมันง่ายกว่าไหมเนี่ย เยอะแยะนะ” “อ้าว น้อยก็ไม่ทันพี่ดิ” “ไอ้ต้อม” แหมนะ อารมณ์เสีย นี่ผมดูไม่น่าเคารพยำเกรงหรือว่ายังไงกันนะ ทำไมมันถึงลามปามแบบนี้ “เดี๋ยวไปลงรถไฟเอกมัยนะ ไปเอง พี่มีธุระ” “อ่า ไม่ไปส่งอ่ะ รับเค้ามาแล้วปล่อยทิ้งไว้อ่ะ” “หรือจะเดินไปเองจากตรงนี้ อย่าเรื่องมาก” “ไม่เอาอ่ะ เฮ้อนะ” “อย่ามาถอนหายใจใส่ฉันนะ ตามนั้น” “อ้าวแล้วจะไปไหนอ่ะ” ผมเดินแวะเข้าร้านบูทส์ครับ “ซื้อยาก่อน วิตามินจะหมด” “อ้อ” “มากไปต้อม มากไป” มันเอามือมาวางบนบ่าผมครับ ตัวมันสูงกว่านี่นะ ผมพูดเสียงแข็ง “หือ ไรอ่ะพี่” “มือน่ะมือ ไม่ใช่ที่วางแขนนะ” “โห แตะหน่อยก็ไม่ได้ ผมปวดๆแขนอ่ะ” “ปวดก็ซื้อยาไปนวดดิ เออ เราจะเอาอะไรไหม กินวิตามินซีป่ะจะได้ไม่เป็นหวัด” “เอาหมดอ่ะถ้าพี่ให้” “เริ่ด” ไม่น่าเลยกู อารมณ์เสีย สรุปก็ซื้อวิตามินอย่างละสองชุดล่ะครับให้มันด้วย คือเมเจอร์เอกมัยมันมีโรงเรียนแถวนั้นนะครับ เวลานี้เด็กนักเรียนนี่เดินกันตรึม สรุปตอนนี้คนที่เขินๆกลับกลายมาเป็นผมเสียนี่เพราะน้องๆทั้งเด็กผู้ชายเด็กผู้หญิงมองกันเป็นพรวน เอ๊ะ หรือว่าเราหน้าตาดี ใช่แน่ๆเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ โฮะๆ “มองเชี่ยไรวะ” “ต้อม” “มองอยู่ได้ ไม่เคยเห็นคนไงวะพวกนี้” “ไม่ใช่ถิ่นเรานะต้อมอย่ามากร่าง ไม่ช่วยนะเว้ย” “ไม่กลัวหรอกพี่ มองกันซะ แหมนะ” “เรามีอะไรดีสิเขาถึงมอง” “เออใช่ ผมหล่อไงพี่ อิอิ” “นะ ไปกลับ หิ้วของด้วย” ผมไม่คิดอะไรมากหรอกนะครับ มองก็มองไป มองทำไมผมพอจะรู้ คงมองประมาณว่าไอ้ต้อมนี่มันคงเป็นเด็กผมนั่นล่ะ เพราะหน้าผมกับมันไม่ได้คล้ายกัน ผมน่ะใครมองก็รู้ว่าเป็นคุณเกย์ ส่วนไอ้ต้อมมันก็สูงใหญ่ซะขนาดนั้น เชิดใส่ ฉันมีดีสิถึงควงเด็กหล่อๆอย่างไอ้ต้อมได้ อิอิ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม