บทที่ 8 เมีย

1082 คำ
“ยะ...อย่า...ค่ะ” เธอตกใจพยายามส่งเสียงห้ามชายหนุ่ม แต่นาทีนี้เขาไม่ฟังไม่สนใจใด ๆ ทั้งสิ้นแล้ว มือหนาลูบไล้ไปทั่วกายสาวอย่างย่ามใจ และซับในตัวจิ๋วของเธอก็ถูกถอดออก “พี่ธีร์ อย่าทำแบบนี้” ทิพลดาพยายามผลักอกของชายหนุ่ม แต่แผงอกที่หนาแน่นไม่แม้แต่จะขยับ  ก่อนจิตสำนึกเธอจะหลุดไป ถามตัวเองว่าหากเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้น และแก้ไขอะไรไม่ได้เธอจะไม่เสียใจ ใช่ไหม เธอแน่ใจหรือเปล่า? หรือเธอจะขัดขืนแล้วช่วยตัวเองให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนนี้ สุดท้ายเธอก็ปล่อยให้มันเป็นไป ในเมื่อภายในใจลึกๆ คือ เธอชอบธีรกรเพียงคนเดียว ตั้งแต่เมื่อเธอยังเป็นสาวน้อยสนิทกับเขา โดยที่เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะจริงจังกับความรู้สึกนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่เคยเปิดใจให้ใครเข้ามาหรือรับไมตรีจากผู้ชายคนใด เธอพร้อมที่จะเป็นผู้หญิงของธีรกร ให้ครั้งแรกของเธอกับผู้ชายที่เธอชอบด้วยความยินยอมพร้อมใจ และให้ความร่วมมืออย่างดี ใบหน้าของธีร์ซุกลงที่ซอกคอของเธอ เลือดสาววิ่งพล่านไปทั่วกาย เรี่ยวแรงที่มีก็ค่อยๆหายไป ธีรกรเค้นหน้าอกเธออย่างพึงพอใจแล้วเลื่อนมือไปยังกลางลำตัวใช้มือลูบไล้ขาอ่อนเธอ  “อืมม..” ทิพลดาส่งเสียงครางในลำคอเบาๆ แล้วเธอก็สะดุ้งเฮือกเมื่อมือของชายหนุ่มวางบนจุดที่อ่อนไหวของเธอ ใช้นิ้วเล่นงาน จนเธอต้องส่งเสียงครวญครางยาว นั่นใช่เสียงเธอใช่ไหม ร่างบางบิดเกร็ง “อูยยย....” ใบหน้าแดงก่ำอย่างสะกดกลั้นอารมณ์  ชายหนุ่มมองความงามที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็ก้มหน้าลงไปดูดกลืนน้ำหวานของเธอที่กำลังไหลทะลักออกมา “พี่ธีร์ขา..ทิพไม่ไหวแล้ว.” ร่างบางบิดกระตุก และเอ่ยออกมาเสียงสั่น ขาสั่น ชายหนุ่มยิ่งลากลิ้นเพิ่มความเสียวให้เธอ ส่วนสองมือเอื้อมไปขยำหน้าอกบดบี้อย่างมันมือ หญิงสาวได้แต่ระบายความรัญจวนที่ก่อตัวเพิ่มขึ้น เอื้อมมือไปจิกอยู่ที่ท้ายทอยของชายหนุ่ม กดแน่นเข้าหาตัว เธอครางกระเส่า อย่างไม่มีความอายหลงเหลืออีกต่อไป แล้วชายหนุ่มก็แยกขาเรียวให้กว้างขึ้นก่อนที่จะแทรกกายขยับเข้าหาความงามที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรวดเร็ว “โอ้ย...ทิพเจ็บ พี่ธีร์เอาออกไป” เธอสะดุ้งเฮือก และร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเหมือนร่างกายถูกฉีก สองแขนกอดลำตัวเขาไว้แน่น ชายหนุ่มชะงักทันที เขาก้มลงไปดูดดึงที่ยอดดอกบัวคู่งานของเธอลดความสนใจและบรรเทาความเจ็บ แล้วค่อย ๆ กดลงอีกครั้ง และก็เลื่อนปากมาประกบจูบกับหญิงสาวอย่างดูดดื่ม เพราะเขาก็จะไม่ไหวแล้วจึงกดทีเดียวเข้าไปในกายสาว “อูยยย...” เธอรู้สึกเจ็บ จุกแน่น และรู้สึกดีปะปนกันไปหมด “ยังเจ็บอยู่หรือครับ” ธีร์เงยหน้าถามเธอ “อือ..มะ..ไม่เจ็บ...แล้วค่ะ” แต่เธอเริ่มอึดอัด ชายหนุ่มเอื้อมมือจับไปที่เอวบางแล้วโหมกระแทก  ทิพลดาขยับสะโพกตอบรับแรงกระแทกของชายหนุ่ม ทุกท่วงท่าเป็นไปตามธรรมชาติ แล้วภายในห้องที่มืดมิดก็ได้ยินแต่เสียงครวญครางทั้งคืน ซึ่งไม่รู้ว่าฤทธิ์ยาจะหมดเมื่อไหร่ และตอนนี้เธอก็เป็นของเขาโดยสมบูรณ์แล้ว               อุทุมพรเดินเข้ามาในร้าน ช่วงเช้ายังไม่มีลูกค้าร้านจึงค่อนข้างเงียบ ส่วนแม่บ้านก็กำลังทำความสะอาด เธอจึงเดินเลี่ยงเข้าไปข้างใน และเดินตรงไปยังห้องของลูกชาย วันนี้แวะมาที่ร้าน เพราะธีรกรไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้ว อดเป็นห่วงไม่ได้ อีกอย่างก็ชอบอ้างว่างานยุ่ง ต้องมาให้เห็นกับตาว่างานอะไรมากมายนักหนา จนไม่มีเวลากลับไปกินข้าวที่บ้าน ปกติธีรกรจะกลับไปกินข้าวกับอุทุมพรมากกว่าสุดเขต ลูกชายคนเล็ก ที่หายตัวไปแต่ละครั้งนานนับเดือน เนื่องจากต้องไปคุมงานก่อสร้างที่ต่างจังหวัด นานๆ จึงกลับบ้านมาสักครั้ง “ก๊อก ก๊อก” “ธีร์ตื่นรึยังลูก แม่เปิดเข้าไปเลยนะ” เมื่อเรียกแล้วไม่มีเสียงตอบรับจากข้างใน อุทุมพรจึงตัดสินใจผลักประตูเปิดเข้าไป พยายามปรับสายตา ก่อนจะเพ่งมองเข้าไปข้างใน เพราะห้องนี้ผนังเป็นกระจกเกือบทั้งหมด เป็นห้องมุมจึงมีม่านสีทึบๆ ติดไว้รอบด้าน ป้องกันแสงไฟหน้าร้านส่องเข้ามาแยงตาเวลาต้องมาอาศัยนอนที่นี่  อุทุมพรจึงต้องใช้เวลาปรับสายตา แต่พอมองไปที่เตียง “คุณพระคุณเจ้า!! ตายแล้ว ๆ ๆ” ภาพที่เห็นตรงหน้าถึงกับทำให้อุทุมพรตกใจสุดขีด มองเห็นคนสองคนนอนอยู่ด้วยกันบนเตียง ไม่ใช่ลูกชายของเธอเพียงคนเดียว แต่กลับมีผู้หญิงอีกหนึ่งคน ถึงจะเคยรับรู้มาว่าลูกชายมีคู่ควงมากมาย แต่ไม่คิดมาก่อนว่าจะมาเจอภาพของพวกเขา มองดูก็รู้ว่าภายใต้ผ้าห่มผืนนั้น ทั้งคู่ไม่มีเสื้อผ้าติดตัว ห้องนอนที่เป็นส่วนตัวของธีรกร ภายในห้องทำงานที่ไม่เคยให้สาวใดเหยียบย่างเข้ามาก่อน        มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือลูกชายเธอแอบมีเมียแล้วไม่ยอมบอก “อืมม...แม่เหรอ..มีไรรึเปล่ามาแต่เช้าเลย” ชายหนุ่มยังงัวเงีย ตื่นไม่เต็มตาดีด้วยซ้ำ แต่พอลืมตาเห็นแม่มองเลยไปด้านข้าง ไม่ได้มองตรงมาที่เขา จึงหันไปมองตามสายตาของอุทุมพรที่ยังจ้องเขม็งอยู่   เขาก็ต้องชะงักตัวแข็ง ‘นี่มันอะไรกัน’ พอชายหนุ่มขยับตัวก็ทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกตัว ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแล้วมองไปด้านข้างลำตัว       พลันต้องเบิกตาโพรง ดวงจิตแทบหลุดออกจากร่าง ได้แต่คิดในใจ ‘ตายแล้วๆๆ!! จะทำยังไงล่ะทีนี้’ อายก็อาย แต่ที่มากกว่าคือ เธอกำลังตกใจที่ตัวเองยังนอนอยู่ที่นี่ ทั้งที่เมื่อคืนคิดว่าจะรีบกลับออกไปก่อนที่ธีรกรจะตื่นขึ้นมาเห็น ปรากฏว่าไม่ใช่แค่เขา แต่มีแม่เขาอีกคนที่เป็นพยานรู้เห็นการกระทำของเธอ “หนูทิพ!!” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม