อุทุมพรเพ่งมองจนเห็นชัดแล้วว่าผู้หญิงที่อยู่บนเตียงกับลูกชายคือใคร ก็ยิ่งตกใจขึ้นอีก ทำอะไรไม่ถูกยืนอึ้งไปหลายนาที
“ธีร์ทำกับน้องแบบนี้ได้ยังไง” ก่อนจะหันมาแว๊ดใส่ลูกชายทันที ชายหนุ่มยกมือขึ้นคลึงขมับ เพราะยังรู้สึกมึนๆและปวดหัว กำลังคิดทบทวนอย่างหนักว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
“เมื่อคืนดื่มเหล้ามาเยอะใช่ไหม ทำไมทำตัวเหลวไหลอย่างนี้ โอ๊ย...แม่จะเป็นลม จะทำยังไงละทีนี้ แม่จะมองหน้ากาญจนาได้ยังไงไปทำกับลูกสาวเค้าแบบนี้” อุทุมพรทำท่าเหมือนลมตีขึ้นจวนเจียนจะยืนไม่ไหว
“เออ... ผม... ผม ... จำไม่ได้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น” ธีรกรพูดค่อย ๆ เหมือนรำพึงรำพันกับตัวเอง
“แต่นี่มันห้องนอนผมแล้วคุณเข้ามาได้ยังไง”
ชายหนุ่มหันไปพูดกับหญิงสาวข้างตัว ที่ยังคงนั่งก้มหน้าเงียบ รอบกายพันด้วยผ้าห่มจนเห็นแต่ส่วนหัวที่โผล่ออกมา
ทิพลดาอยากจะแทรกแผ่นดิน แล้วหนีหายกลับไปที่ห้องเธอไม่ต้องพบเจอหน้าผู้คนอีกเลย
“เออ....” เธอกำลังคิดอย่างหนักว่าจะตอบอย่างไรดี
“แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วออกมาคุยกับแม่ทั้งสองคน” อุทุมพรกล่าวน้ำเสียงเด็ดขาด ก่อนจะเปิดประตูเดินออกไป
“เมื่อคืนผมถูกวางยา” หลังจากที่อุทุมพรเดินออกไปแล้ว ธีรกรคิดทบทวนสักพักก็พูดขึ้น จ้องหน้าเธออย่างต้องการค้นหาความผิดปกติ
แต่ทิพลดาก้มหน้าไม่กล้าสบตา ชั่วโมงนี้เธอไม่ต้องการให้ใครมาค้นหาความจริงใด ๆ เพราะหลังจากที่เธอเสียตัวให้เขาแล้ว ก็รู้สึกอายจนวางหน้าไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้าซ่อนความอาย จึงทำให้ธีรกรเข้าใจผิดคิดว่า ทิพลดามีพิรุธ เขาไม่เข้าใจความอายของผู้หญิงที่เพิ่งสูญเสียพรหมจรรย์แบบทิพลดา
“ใครส่งคุณมา” ” น้ำเสียงชายหนุ่มที่เอ่ยออกมาดูราบเรียบ เดาพื้นอารมณ์ไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกอย่างไร ยิ่งทำให้หญิงสาวเกิดอาการร้อน ๆ หนาว ๆ
‘หมายความว่าอย่างไร’ ทิพลดาเงยหน้าขึ้นมอง
‘จะบอกดีไหมว่าเขาเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว ถ้าเธอมาไม่ทัน มีหวังเขาจะได้เมียต่อจากเสี่ยเดชแน่ แถมมีแผนการอะไรบ้าง เธอก็เองก็สุดจะคาดเดา’
“เปล่าค่ะ ทิพแค่..แค่..บังเอิญเจอพี่ธีร์แถวหน้าห้องน้ำร้านอาหารเมื่อคืน เห็นว่ามีอาการแปลก ๆ จึงตามมาดู”
หลังจากนั้น ทิพลดาก็ตัดสินใจเล่าความจริงให้ธีรกรฟัง เว้นแต่เรื่องที่เธอใช้ขู่ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของนุชจรีเธอจึงไม่พูดถึง ส่วนเขาจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเขา
ธีรกรนั่งฟังที่ทิพลดาเล่าจนจบ บางครั้งก็หรี่ตามองมาด้วยความเคลือบแคลงสงสัยคิดว่ามันบังเอิญเกินไป แต่ไม่เป็นไรเรื่องแบบนี้เขาสืบได้ ถ้ามีเรื่องปิดบังหรือโกหก เขาก็มีวิธีจัดการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหมือนกัน
เรื่องของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาต่างหาก ที่เริ่มทำให้เขาหนักใจว่าจะจัดการอย่างไร เหมือนผีผลักจริงๆ ที่ทำให้เรื่องราวออกมาตรงตามความต้องการของอุทุมพร คราวนี้ธีรกรคงดิ้นไม่หลุด
“จะเป็นเรื่องจริงหรือโกหก ไม่นานก็รู้ว่าคุณพูดความจริงไหม”
“ก็แล้วแต่พี่ธีร์จะเชื่อหรือเปล่า ความจริงกับสิ่งที่ทิพรู้ก็บอกไปหมดแล้ว” หญิงสาวออกตัว ธีรกรจ้องหน้าเธอก่อนที่จะพูด
“รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่ผมจะต้องให้รับผิดชอบคุณ ความจริงที่ผมอยากบอกอีกอย่าง คือ ผมยังไม่เคยคิดจะแต่งงาน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ผมก็จะแต่ง คุณก็รู้ว่าเราไม่ได้รักกัน ยังรู้จักกันน้อยมาก นิสัยคุณกับผม เราต่างไม่รู้จัก ฉะนั้นถ้าจำเป็นแต่งงานกัน ผมอยู่ส่วนผม คุณอยู่ส่วนคุณ ต่างคนต่างอยู่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายชีวิตกันและกัน แต่ก่อนเป็นอย่างไร ก็ให้เป็นไปเหมือนเดิม และถ้าเราคนใดคนหนึ่งเจอคนใหม่ อีกฝ่ายจะต้องยินยอมเลิกโดยดี เรื่องนี้จะให้ทนายทำสัญญาขึ้นมาแล้วคุณกับผมเซ็นสัญญากันตามนี้ หรือคุณว่าไง”
ยังไม่ทันจะได้แต่งงานกัน ธีรกรวางแผนถึงวันที่จะเลิกเรียบร้อย ที่ต้องทำสัญญา เพราะเขาไม่มั่นใจว่าเธอเกี่ยวข้องกับการที่เขาถูกวางยาหรือไม่ บางทีอาจจะเป็นแผนการเพื่อเข้ามาแต่งงานกับเขาก็ได้ ถ้าพิสูจน์แล้วว่าไม่เกี่ยวข้องถึงมีสัญญาก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าผลออกมาว่าเกี่ยวกับเธอ เขาก็มีวิธีตอบแทนเธออย่างสาสมแน่
“ได้ พี่ธีร์ทำสัญญาขึ้นมาได้เลย” ทิพลดาพร้อมจะเซ็นสัญญา ในเมื่อสิ่งที่เธอทำลงไปก็ไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่หวังดีอยากช่วยเหลือไม่ให้ ธีรกรต้องตกเป็นเหยื่อของญาติผู้พี่ของเธอ บางทีอาจเกี่ยวพันไปถึง เสี่ยเดชก็ได้ แต่เรื่องของเธอมันสุดจะคาดเดา จึงทำให้เหตุการณ์เลยเถิดจนถึงขั้นต้องแต่งงานกัน
“ตอนนี้...คุณควรจะแต่งตัวก่อน”
“พี่ธีร์ออกไปก่อนได้ไหม .. คือทิพจะแต่งตัว”
“เห็นมาจนหมดแล้ว เมื่อคืนยังใจกล้ากระโดดขึ้นเตียงเอง ตอนนี้ทำมาเป็นอาย” ธีรกรยังนั่งมอง ไม่สนใจจะลุกออกไปเพื่อให้เธอแต่งตัว อย่างที่สุภาพบุรุษที่ดีควรทำ
ทิพลดาได้แต่ข่มใจไม่มีทางเลือก อายก็อาย แต่ช่วยไม่ได้จึงกระชากผ้าห่มห่อตัวเองแล้วจะวิ่งเข้าห้องน้ำ
“โอ๊ย” พอจะก้าวขาลงจากเตียง ความรู้สึกเจ็บตรงจุดกึ่งกลางลำตัว ทำให้ทิพลดาล้มลงกับพื้นห้องเย็นเฉียบ พร้อมกับซู้ดปากแสดงอาการเจ็บ เธอใช้มือพยุงตัวเองค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง และก็ยื่นมือไปเก็บเสื้อผ้าตามพื้น ที่เมื่อคืนเหวี่ยงจนระบุทิศทางไม่ได้
“เป็นไรไปอีกล่ะ” ธีรกรที่นั่งมองทิพลดาอย่างไร้ความคิดที่จะช่วยเหลือ
“ก็เจ็บนะสิถามได้” หญิงสาวรู้สึกโมโห เขาช่างไร้น้ำใจกับเธอ ยิ่งกว่าคนแปลกหน้า ทั้งที่เธอคิดช่วยเหลือเขาด้วยความหวังดี ไม่ได้คิดจะวางแผนจับอย่างที่เขาเข้าใจ ถ้าเขาจะเอ่ยปากไม่รับผิดชอบ เธอก็ยังพร้อมจะยอมรับข้อตกลงนั้น