วันต่อมา….
เดียรโทรศัพท์ไปหาคุณรวีบอกว่าขอลางานครี่งวันเพราะต้องไปกรอกใบสมัครงานกับทางฝ่ายบุคคล ถึงแม้ว่าเขาจะใช้เส้นสายเข้าไปแต่ยังไงก็ต้องแจ้งประวัติส่วนตัวและประวัติการศึกษาซึ่งเขาคิดว่าทำแบบนี้ถูกต้องแล้ว เพราะยังไงเขาก็คือพนักงานคนหนึ่ง แพตตี้ควงแขนชายหนุ่มเข้าไปในบริษัทซึ่งตอนนี้ทุกคนกำลังมองทั้งสองคนอย่างไม่วางตา เขาเป็นใครและทำไมคุณแพตตี้ถึงควงแขนสนิทสนมแบบนั้น
“คุณหนูครับนายท่านให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ”
“อืม ไปหาคุณพ่อก่อนแล้วกันเดี๋ยวค่อยไปฝ่ายบุคคล”
เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไปพร้อมกับหญิงสาว และเมื่อมาถึงที่ห้องทำงานของท่านประธานเขาก็เจอท่านอยู่ในห้องและส่งยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร เดียร์ขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะยกมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับคุณท่าน”
“เรียกคุณท่านห่างเหินไปหน้ามั้ยจะเรียกคุณพ่อเหมือนแพตตี้ก็ได้เราคนกันเองนี่หรือว่าฉันเดาอะไรผิดไป…”
เขายิ้มออกมาก่อนจะมองมือของลูกสาวที่ตอนนี้กอดแขนชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันเขาพอรู้มาบ้างว่าลูกสาวหลงผู้ชายหนักมากไปนอนกับเขาแทบทุกวันที่มีโอกาสซึ่งเขากับภรรยาทำอะไรไม่ได้จึงขอแค่อย่าเพิ่งท้องตอนเรียน และแพตตี้ก็ตอบเขามาคำหนึ่งว่า…
‘ไม่มีหรอกค่ะเพราะแพตตี้ไม่อยากอุ้มท้อง ท้องก็ต้องลาย ผิวพรรณแห้งเหี่ยว แถมยังเจ็บด้วยไม่เอาหรอกค่ะ’
คนเป็นพ่อได้ยินแบบนั้นถึงกับใจอ่อน กว่าจะได้ลูกคนนี้มาหมดเงินไปหลายล้านเพราะภรรยาไม่ค่อยแข็งแรงเราทำทุกอย่างที่ทำได้และสุดท้ายมันก็สำเร็จคลอดออกมาเป็นลูกสาวคนนี้และเขารักเธอมากอะไรยอมได้เราสองคนยอมทุกอย่าง
“ผมว่าไม่ดีนะครับท่านเป็นเจ้านายเป็นเจ้าของบริษัท ผมเรียนท่านประธานเหมือนคนอื่นดีกว่า”
เขาไม่กล้าตอบอะไรตรงๆออกไปเลยเลี่ยงที่จะพูดเรื่องอื่นเพราะเขาก็เดาไม่ผิดว่าท่านรู้เรื่องเราสองคนอยู่แล้ว ลูกไปเรียนต่างประเทศยังส่งคนไปเฝ้าดูแลตลอดไม่มีอะไรที่เล็ดรอดจากสายตาได้หรอก
“เดาถูกแล้วค่ะคุณพ่อขา ว่าแต่เรียกหนูกับเดียร์มาหามีอะไรรึเปล่าคะ”
“ไม่ต้องไปบุคคลเอกสารอยู่ที่นี่แล้ว เดียร์มาเซ็นสิกำหนดการเริ่มงานได้ทันที แต่เห็นแพตตี้บอกว่าเราจะไปเคลียร์งานที่เดิมก่อนใช่มั้ย”
คุณพ่อหันไปถามชายหนุ่มที่เดินมานั่งลงตรงโต๊ะทำงานของเขาก่อนจะหยิบเอกสารมาอ่านรายละเอียด อาจจะเพราะว่าเคยชินเล็กน้อยเขาก็จะไม่ปล่อยผ่าน เอกสารทุกอย่างคือปกติแต่ที่น่าตกใจคือเงินเดือนที่มากกว่าที่เดิมสองเท่า มีโบนัส12เดือน และค่าเดินทางทุกอย่างเบิกได้เต็ม ประกันชีวิตประกันสุขภาพมีครบทุกอย่าง
“ให้ผมเยอะไปรึเปล่าครับ”
“ไม่หรอกเห็นรวีบอกว่าที่เดิมให้สองแสนกว่าฉันให้นายสองเท่าเลยเราจะได้มีความอยากทำงานที่นี่หน่อย”
“ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ครับ ผมทำงานที่ไหนก็เต็มที่อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงนะครับผมขอเวลาเรียนรู้งานสักหน่อยผมจะทำให้เต็มที่”
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะทำงานที่ไหนบริษัทอะไรเขาก็ทำเต็มที่อยู่แล้วไม่มีความต้องกังวลใดๆ
“ฉันเชื่อว่านายทำงานเก่งนะเพราะไปที่ไหนก็มีแต่คนอิจฉาเจ้ารวีที่มีผู้ช่วยทำงานแทนได้ทุกอย่าง นายเป็นคนฉลาดมาแต่ไหนแต่ไรฉันรู้ดี ตอนนั้นอยากจะให้มาทำงานด้วยกันเลยด้วยซ้ำแต่ไปอยู่กับรวีพ่อก็เลยไม่รู้จะพูดยังไง”
ท่านเล่าเกี่ยวกับความรู้สึกของตัวเองออกมาให้เขาฟัง ถ้าตอนนั้นได้เดียร์มาอยู่ด้วยตอนนี้คงดีกว่านี้ แต่ไม่เป็นไรหรอกตอนนี้เขามาแล้วและเชื่อว่าเขาจะเต็มที่กับงาน
“ผมจะทำเต็มที่ครับ งั้นเซ็นสัญญาเลยนะครับ”
“อืม เซ็นสิ”
แพตตี้เท้าคางมองชายหนุ่มก่อนจะหยิบทิชชูไปเข็ดใบหน้าให้เขาอย่างเบามือ คุณพ่อแอบสังเกตทั้งคู่และเท่าที่คาดเดาได้คือลูกสาวหวงอยู่ไม่น้อย ถึงขั้นว่าเลขาให้เป็นผู้ชายก็น่าจะมีอะไรแล้ว
“ห้องก็เย็นจะตายทำไมมีเหงื่อ นายตื่นเต้นเหรอ”
“นิดหน่อยครับ”
เขายิ้มกว้างออกมาก่อนจะส่งแฟ้มเอกสารคืนให้ คุณพ่อเดินมาตบบ่าชายหนุ่มก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ
“ฉันดีใจนะที่เดียร์มาทำงานที่นี่ ห้องทำงานของเราอยู่ข้างๆเนี่ยแหละ ส่วนเลขาแพตตี้เขาขอเป็นผู้ชายก็เลยเอาตัวมาอีกสาขาคนนี้ทำงานใช้ได้เลยละเอียดด้วยเราน่าจะชอบ ส่วนรายละเอียดงานผู้ช่วยของฉันจะเป็นคนสอนงานด้วยตัวเอง และฉันจะอยู่ด้วยตลอดจนกว่านายจะรู้ทุกอย่าง ส่วนแพตตี้หนูเรียนรู้งานกับเลขาพ่อ”
“ทำไมหนูถึงไม่ได้เรียนรู้งานกับคุณพ่ออ่ะ”
เธอมองท่านอย่างไม่ค่อยพอใจ เธอก็อยากเรียนรู้งานพร้อมกับเดียร์จะได้เข้าใจทุกอย่างไปพร้อมกัน
“เรานี่ตัวยุ่งจริงๆ พ่อให้แยกกันเพราะเราจะกวนคนของพ่อ ไม่ได้ทำงานพอดี”
“เดียร์เป็นคนของหนูค่ะ ชิ!”
เธอทำหน้าบูดบึ้งเริ่มงอแงใส่ทุกคนในห้องทำงาน เดียร์กุมมือเธอไว้ก่อนจะลูบไล้เธออย่างใจเย็น
“คุณกำลังทำให้ผมทำงานลำบากนะ อยากให้อยู่ด้วยที่นี่มั้ย”
เขาเอ่ยออกมาเสียงอ่อนโยน หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองไร้เหตุผลไปหน่อยและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาอยู่ที่นี่ลำบากไม่มีความสุขได้
“อยากสิ ก็ได้ๆยอมก็ได้”
คุณพ่อ ผู้ช่วยของท่านและเดียร์ยิ้มกว้างออกมาทันที ชายตรงหน้าเขามีวิธีการคุยกับลูกสาวของเขาที่ไม่เหมือนใครแถมยังใจเย็นมากด้วย และที่แปลกคือคนหัวดื้อแบบแพตตี้ยอมได้ถือว่าไม่ธรรมดา
“ขอบคุณนะครับ”
“พาไปช็อปปิ้งเลยนะเย็นนี้อ่ะ”
เธอเอ่ยออกมาเสียงออดอ้อนเหมือนลูกแมวน้อยแสนเชื่อง เขาพยักหน้ายิ้มๆยังไงตอนนี้ต้องตามใจไปก่อน
“ได้สิ ผมจะพาไป แต่ตอนนี้คุณกลับไปห้องทำงานและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก่อน ผมไม่อยากทำงานกับเจ้านายที่ไม่เอาไหนนะคุณเข้าใจที่ผมพูดใช่มั้ย”
“ไม่เอาไหนอะไรฉันออกจะเก่งขนาดนี้ คอยดูเลยนะฉันจะทำงานให้เก่งกว่านายอีก ถ้างั้นหนูไปทำงานนะคะคุณพ่อเจอกันค่ะ”
เธอลุกขึ้นเดินไปกอดเอวคุณพ่ออย่างออดอ้อนก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาแล้วเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี คุณพ่อมองตามลูกสาวไปก่อนจะหันมามองเดียร์ทันที
“นายเก่งมากเลยนะที่ทำให้ยัยแพตตี้ยอมเชื่อฟัง ฉันพูดเท่าไหร่รายนั้นก็ไม่เคยจะฟังเลยเอาแต่ใจโคตรๆ”
“คุณแพตตี้เธอเป็นคนที่เอาแต่ใจและดื้อแต่ว่าเธอเป็นคนมีเหตุผลนะครับ คุณท่านลองเปลี่ยนจากออกคำสั่งมาเป็นพูดคุยด้วยเหตุผลดู ผมว่าจะคุยกันง่ายนะครับ”
คุณพ่อมองเดียร์อย่างทึ่ง ไม่คิดว่าเขาจะมีความคิดที่ฉลาดมากขนาดนี้แถมยังมีทัศนคติที่ดีกว่าคนทั่วไปอีก
“ลูกสาวฉันเลือกคนไม่ผิดจริงๆ นายเหมาะที่จะเป็นเจ้าคนนายคนมากเดียร์ตำแหน่งที่นายได้รับแทบจะทำแทนฉันได้อยู่แล้ว ยินดีที่ได้ร่วมงานนะนายคือคนที่ลูกสาวฉันไว้ใจที่สุด ตั้งใจทำงานนะอย่าทำให้ผิดหวัง”
“ครับท่านประธาน ผมจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ไม่ทำให้ผิดหวังครับ”