บทที่ 4

1007 คำ
"เจ้านายคุณจะมาไม้ไหน แค่คุยกับฉันผ่านโทรศัพท์ก็ได้แล้ว" "ผมว่าถ้าคุณไม่มีธุระด่วนมากรอคุยพรุ่งนี้จะดีกว่านะครับ" ภาณุไม่อยากให้ทรงอัปสรเข้าไปเล่นกับไฟกองนี้เลย ใจจริงเขาอยากบอกเธอให้ขายหุ้นแล้วก็ไปใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่า "เอาที่อยู่คอนโดมา" "คุณอัปสรครับ" "คิดว่าฉันกลัวหรือไง" "กลัวหน่อยก็ดีนะครับ" "หึ.. คุณก็คงไม่ต่างจากเจ้านายของคุณหรอก" "นี่นามบัตรคอนโดครับ" คงช่วยได้เท่าที่ช่วยนี่แหละ ที่เหลือปล่อยให้โชคชะตาทำงานไป ทรงอัปสรรับเอานามบัตรของคอนโดนั้นมาดู เธอก็รู้สึกแปลกใจทำไมคอนโดของเขาถึงเป็นที่เดียวกับคอนโดเธอล่ะ แต่ก็ไม่แปลกหรอกคอนโดนี้หรูหรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หวังว่าคงจะอยู่คนละชั้นคนละโซนนะ ถ้าไม่ใช้ลิฟต์หรือว่าออกมาพร้อมกันก็คงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่นั่น เหมือนที่ไม่รู้ว่าเขาอาศัยอยู่คอนโดเดียวกันกับเธอ แต่พอดูไปถึงเลขชั้นทรงอัปสรก็รีบมองไปดูเลขห้องในทันที.. มันจะบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ? เพราะห้องอีกฝ่ายอยู่ข้างห้องของเธอนี่เอง และห้องนี้ก็เพิ่งขายออกไปไม่นาน หรือว่าเจ้าของคือเขา? อยากจะบ้าตายหวังว่าเขาคงไม่รู้นะว่าเธอพักอยู่ที่นั่น "มีอะไรหรือคะคุณอัปสร" ข้าวปุ้นเห็นว่าทรงอัปสรออกมานานแล้วเลยรีบมาตาม "ไม่มีอะไรหรอกเรากลับห้องกัน" ทั้งสองเดินกลับมาที่ห้องทำงานทรงอัปสรถึงได้เล่าให้ข้าวปุ้นฟัง "มันจะบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอคะ หรือว่าเป็นแผนของเขา" "แผนงั้นเหรอ?" "เขาอยากได้หุ้นที่นี่ทั้งหมด มันต้องเป็นแผนของเขาแน่เลยค่ะ คุณอัปสรย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านดีกว่าไหมคะ" "ไม่หรอก ไม่อยากไปเจอหน้าคน" คนที่ทรงอัปสรพูดก็คือแม่เลี้ยง พ่อของเธอมีธุรกิจส่วนตัวเลยไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับงานของพี่ชาย รวมถึงพี่ชายเขียนพินัยกรรมไว้ให้น้องสาวเพียงผู้เดียว คนอื่นเลยไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเรื่องนี้ คิดถึงเรื่องนั้นข้าวปุ้นเลยไม่พูดต่อ เพราะเธออาศัยอยู่บ้านหลังนั้นก็เลยรู้ว่าใครเป็นยังไง "ข้าวปุ้นดูงานหน่อยนะ ฉันจะกลับก่อน" "คุณหนูให้ข้าวปุ้นไปด้วยดีกว่าค่ะ" ข้าวปุ้นรีบหยิบเอากระเป๋าแล้วเดินตามหลัง "ไม่ได้หรอก อยู่ที่นี่แหละ" "คุณหนูต้องระวังตัวให้ดีนะ มีอะไรรีบโทรมาหาข้าวปุ้นหรือไม่ก็โทรหาตำรวจนะคะ" "มันไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก" และเธอก็ไม่คิดว่าจะไปนัดเจอผู้ชายแบบนั้นในห้องอยู่แล้ว ใครจะเข้าไปหาเสือในถ้ำล่ะ ขับรถไม่นานเพราะคอนโดแห่งนี้อยู่ไม่ไกลคลับ ที่จริงมันเป็นคอนโดของพี่ชาย เธอเป็นผู้รับมรดกแต่เพียงผู้เดียว ตอนนี้มันเปลี่ยนมาเป็นชื่อของเธอแล้ว มาถึงทรงอัปสรก็ให้นิติบุคคลที่นี่โทรขึ้นไปหาเจ้าของห้องนั้นลงมาพบ แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะเจ้าของห้องบอกว่าถ้ามีอะไรให้ขึ้นมาคุยกันบนนี้ "โทรให้ฉันอีกทีได้ไหมคะ ขอฉันคุยเองก็ได้" "คงไม่ได้หรอกค่ะเราไม่อยากรบกวนเจ้าของห้องมากกว่านี้" เอายังไงดีจะไปต่อหรือพอแค่นี้ จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอเลย แต่ถ้าช่วยได้เธอก็ได้ผลประโยชน์ ทรงอัปสรเลยตัดสินใจขึ้นไปชั้นนั้นเพราะถึงยังไงก็เป็นห้องพักของเธอด้วย ..อย่าบอกนะว่าเอาเด็กมากินในห้องนี้ คิดแล้วก็รู้สึกขยะแขยง ก๊อก ก๊อก หลังจากเสียงเคาะหยุดลงประตูห้องก็ถูกเปิดออก "เข้ามาสิครับ" เห็นคนที่มาเปิดประตูทรงอัปสรก็สบายใจขึ้นหน่อยเพราะลูกน้องของเขาอยู่ในนี้ด้วย "ฉันอยากคุยกับเจ้านายของคุณ ฉันยืนรออยู่ตรงนี้ก็ได้" "นายบอกว่าถ้าอยากคุยให้เข้ามาข้างในครับ" "จะอะไรนักหนา ฉันคุยแค่นิดเดียวเอง ฉันแค่อยากใช้สิทธิ์ความเป็นหุ้นส่วนเสนอเรื่องหัวหน้า" "คุณคุยกับเจ้านายเองแล้วกันครับ" ตุนท์เปิดประตูออกให้กว้างกว่าเดิมเพื่อเชิญเธอเข้ามาในห้อง ในเมื่อเธอก็ไม่ได้อยู่กับเขาตามลำพัง จะเข้าไปคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะลูกน้องของเขาก็พอไว้ใจได้อยู่บ้าง ทรงอัปสรเลยยอมก้าวเท้าเข้าไปในห้องนั้น กึก! พอเธอเข้ามาประตูห้องก็ปิดลง หญิงสาวถึงได้หันกลับไปมอง "นี่คุณ!" คนที่ยืนอยู่หน้าประตูเมื่อครู่ตอนนี้อยู่นอกห้องแล้ว เขาปล่อยให้เธออยู่ในห้องกับไอ้บ้ากามนั่นตามลำพังเหรอ "เปิดประตูให้ฉันนะ!" ทรงอัปสรพยายามจะเปิดประตูแต่ก็เปิดไม่ได้ เธอไม่น่าไว้ใจคนของเขาเลย "เอะอะโวยวายอะไรหนวกหูชิบหาย" หญิงสาวหันขวับไปมองคนที่พูดเมื่อสักครู่ "คุณ!" ทรงอัปสรรีบหันหน้าไปทางอื่นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวปิดท่อนล่างอยู่ "บอกคนของคุณเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ" "คุณเองไม่ใช่เหรอที่เข้ามาหาผมในนี้ ยังทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อน" "ใครโวยวายกลบเกลื่อน" "อยากประลองกับผมก็บอกมาเถอะ" "ไอ้ลามก!" "คุณไม่อยากเห็นขนาดของด้วงผมเหรอ" "ด้วง?" "ตัวอ่อนผีเสื้อที่คุณพูดไง" "คุณเปรียบกับด้วงเลยเหรอ ฉันหมายถึงดักแด้ต่างหาก" "อื้อหือจุกกว่าเดิมอีก"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม