~ Chapter 4 ~ มอมเหล้า

1439 คำ
อีกด้านหนึ่ง... -วิลล์- “มึงมองเขาทำไมวะ ไหนบอกไม่ได้ชอบ” เสียงงัวเงียที่ดังออกมาจากผู้ชายที่ดื่มเหล้าได้แค่สองแก้วแล้วเมาอย่างพี่วาโยดังขึ้น มันทำให้ผมหันขวับมามองด้วยความไม่พอใจ “แค่มองไม่ได้แปลว่าชอบสักหน่อย เมาแล้วก็นอนไป” “เหรอ หึ มองนั่นแหละเขาเรียกว่าชอบ” “ไร้สาระ” ชอบเหรอ เธอไม่ใช่สเป็กผมสักหน่อย ก็แค่มองว่าเธอจะตกเป็นของเฮียพอตลูกพี่ผมหรือเปล่า “ขอโทรศัพท์หน่อย” ผมถอนหายใจออกมาเมื่อพี่ผมอีกคนที่นั่งเป็นหมาหงอยอยู่เอ่ยขอโทรศัพท์ผม ก่อนที่ผมจะยื่นให้ “ที่นู่นคงเที่ยงคืน พี่ไม่ควรโทรไปหาพายนะ” แม้ผมจะพูดออกไปแบบนั้นแต่พี่เหนือก็ไม่สน ดึงโทรศัพท์ออกจากมือผมแล้วลุกขึ้นเดินหนีไปโทรคุยกับแฟนเก่า โดยปล่อยให้ผมนั่งกับคนเมาหนึ่งคน พอไม่มีคนคุยด้วยมันก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เฮียพอตเตอร์ที่กำลังนั่งเต๊าะพิ้งค์พราวอยู่ ดูท่าเธอจะชอบและพร้อมพลีกายให้มาก ผมไม่เคยเห็นเฮียพอตพลาดสักครั้ง อีกหน่อยคงควงแขนกันออกไปค้างโรงแรม แล้วมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม ผมควรหยุดมอง ใช่ มันควรเป็นแบบนั้น คิดได้ดังนั้นผมก็เลยลุกขึ้นเพื่อไปดูดบุหรี่ แปลกใจใช่ไหมที่คนแบบผมจะดูดบุหรี่ด้วย ก็ดูพี่ผมแต่ละคนสิ ดี ๆ ทั้งนั้น วันนี้เป็นคืนวันเสาร์ ปกติผมไม่มาร้านแบบนี้หรอก แต่เป็นเพราะว่าพี่เหนือกำลังอกหักอย่างหนักทำให้พวกผมต้องพาออกมาข้างนอกแบบนี้บ่อย ๆ ไม่งั้นอาจกลายเป็นซึมเศร้าได้ แต่บังเอิญเหลือเกินที่เจอเธอคนนั้น เห็นหน้าแล้วหงุดหงิด แต่พอพูดถึงทีไรพวกพี่ผมก็แซวว่าผมชอบ อยากจะบ้าตาย ไม่เคยพูดถึงใครเพราะเกลียดหรือไง ผมไม่ถึงขั้นเกลียดหรอก ก็แค่ไม่ชอบ ไม่ชอบที่เธอใช้อภิสิทธิ์ความเป็นดาราไม่มาเรียน และทิ้งงานให้คนอื่นทำคนเดียว มันดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย ตอนนี้ผมยืนดูดบุหรี่อยู่หลังร้าน ผมเกลียดรสชาติของบุหรี่ แต่มันกลับทำให้ผมเคลิ้มได้ และขณะที่ผมยืนดูดบุหรี่อยู่นั้น “สวัสดีค่ะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมันทำให้ผมดึงแท่งบุหรี่ออกจากปาก และมองเธอ “มาคนเดียวเหรอคะ” “_” “มองขนาดนี้ฉันก็เขินน่ะสิ” ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ กับสิ่งที่เธอคนนี้พูดหลังจากที่ผมไล่สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า จริง ๆ มาสถานที่แบบนี้มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ที่เราจะเจออะไรแบบนี้ “ขาย?” “เปล่านะคะ ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น ฉันแต่งตัวเหมือนขายตัวหรือไง!” หลังจากที่ผมพูดจบเธอก็แว้ดเสียงขึ้นมาทันที มันทำให้ผมพยักหน้าเข้าใจเล็กน้อย “ถ้าไม่ขายก็ไม่ต้องมาคุยกับผม” ผมไม่ชอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนไหน แม้จะเป็นแค่ความสัมพันธ์ฉาบฉวยที่มีแค่ตอนกลางคืน จากนั้นตอนเช้าก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เหอะ หมายความว่าคุณชอบซื้อ?” “_” ผมไม่ตอบอะไร จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ผิด ผมเห็นมาเยอะผ่านเฮียพอต เฮียพอตแม่งชอบทำเหี้ยเอาความรู้สึกของผู้หญิงมาเล่น หลอกนิดหลอกหน่อยหลอกฟันแล้วก็เสร็จ ส่วนผมชอบความสัมพันธ์เชิงการค้ามากกว่าแม้จะเสี่ยงหน่อย ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะป้องกันไม่ได้ “งั้น...สำหรับฉันให้เท่าไรคะ” “หึ” ผมแค่นหัวเราะออกมาให้กับคำพูดของเธอ ผมเคยมองคนผิดซะที่ไหน ที่พูดเมื่อกี้คงกำลังเกร็งค่าตัว เธอสวยใช้ได้ แต่เรื่องเงินมันไม่เข้าใครออกใคร จะขายตัวก็ไม่แปลก “แล้วแต่คุณจะเรียก” “ว้าว ดีจังค่ะ” “_” “แล้วให้ฉัน เอ่อ...ไปรอที่ไหนคะ” “หน้าร้าน เดี๋ยวผมออกไป” เธอพยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ส่วนผมก็ยืนดูดยาให้หมดมวน หลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในร้านเหล้าอีกครั้งเพื่อบอกพี่ผม แต่แล้ว “บ้าชิบ...” ผมสบถออกมาเมื่อเห็นว่าเฮียพอตกำลังทำอะไร ร่างหนากำลังช้อนร่างบางของพิ้งค์พราวขึ้นแนบอก ซึ่งการกระทำแบบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกแปลก ๆ ผมไม่ได้ชอบเธอก็จริง แต่เป็นเพราะอะไรไม่รู้มันทำให้ผมก้าวขาออกไปหาเฮียพอต ผมว่าผมไม่ควรให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พรึ่บ! ผมเดินไปขวางเฮียพอตไว้เมื่อเฮียกำลังอุ้มพิ้งค์พราวออกจากร้านเหล้า ก่อนที่เฮียจะหยุดเดิน และพูดขึ้น “ปิดจ๊อบ กูไปละ” “ทำไมเธอ...ถึงอยู่ในสภาพนี้” ผมเอ่ยถามเมื่อเห็นใบหน้าของพิ้งค์พราวแดงก่ำเหมือนกำลังเมาอย่างหนัก ร่างของเธอเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง “ก็เมาไง” “อย่าบอกนะว่ามอมเหล้า แล้วเฮียจะพาเธอไปไหน” “ไปเอาไง มึงถามอะไรเนี่ย กูหนัก” “เฮียไม่เคยมอมเหล้าผู้หญิงไม่ใช่หรือไง” “ก็มอมอยู่นี่ไง ใครบอกให้แม่งเล่นตัว” “เหี้ย... เฮียทำแบบนี้มันไม่ผิดเหรอวะ” “ผิดแล้วไง ใครแคร์” “_” “หรือมึงแคร์...” ผมกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเจอคำถามที่ตอบไม่ได้ ผมไม่ได้สนใจเธอก็จริง แต่การทำแบบนี้มันเป็นเรื่องผิด นอกจากชอบเอาความรู้สึกผู้หญิงมาเล่นแล้ว เฮียผมโคตรเหี้ยที่ทำแบบนี้ “ถ้าไม่แคร์มึงก็ขยับไปดิวะ ฝากบวกพวกมันด้วยว่ากูไปก่อน” ผมมองใบหน้าของเธอที่หลับตาพริ้มพร้อมกับใบหน้าที่แนบอยู่กับอกเฮียพอต จริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องของผมเลย ไม่ใช่เลยสักนิด.. “ไอ้เหี้ยวิลล์ มึงไม่ได้ยินที่กูพูดหรือไง ยืนทำหล่ออยู่ได้” “_” ผมค่อย ๆ ก้าวขาออกไปทางด้านข้างเมื่อน้ำเสียงของเฮียเหมือนคนกำลังจะทนไม่ไหว ผมค่อนข้างเคารพพี่ผมทุกคนนะ เพราะเราโตมาด้วยกัน และพ่อแม่ของพวกเราก็เป็นเพื่อนกันอีก แต่ผม... “แล้วถ้าบอกว่าผมแคร์ล่ะ...” ผมเอ่ยพูดขึ้นขณะที่เฮียพอตกำลังอุ้มเธอคนนี้เดินผ่านหน้าผมไป กึก! “หึ มึงชอบเธอ?” “เปล่า...” ผมตอบโดยไม่ต้องคิด ใครมันจะไปชอบคนที่เจอกันได้แค่วันเดียว แถมเจอเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก “ถ้าไม่ชอบมึงก็ไม่จำเป็นต้องแคร์เหี้ยอะไร” “_” ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเฮียแม่งวกเข้าแต่เรื่องเดิม ๆ เหมือนจะจี้ให้ผมตอบว่าชอบเธอคนนี้ แล้วผมจะตอบออกไปได้ยังไง เพราะผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอคนนี้เลย “เฮีย...ผมไม่ได้ชอบเธอหรอก แต่อย่าทำแบบนี้จะดีกว่า” “หึ มึงกำลังขอกู?” “ก็มันไม่ถูกต้อง” “มึงเห็นกูเป็นคนดีหรือไง” “ก็ไม่ใช่ แต่...” “เออ ๆ กูยอมมึงก็ได้ มึงพูดซะนรกถามหากู มาเอาไปสิ” “เอาอะไร” “มึงจะให้เธอนอนอยู่นี่?” ผมขมวดคิ้วให้สิ่งที่ได้ยินก่อนจะมองหน้าพิ้งค์พราวอีกครั้ง ผมควรปล่อยให้เธอนอนที่นี่นั่นแหละถูกแล้ว หรือว่ามันจะแย่กว่าที่เฮียพอตจะเอาไปวะ ผมคิดสับสนอยู่ในใจ แต่แล้ว “ขยับเข้ามาดิวะ” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่สบอารมรณ์ของเฮีย ทำให้ผมเดินเข้าไปช้อนเอาตัวเธอออกจากลำแขนของเฮียพอต “ไปส่งเธอด้วย...น่ารำคาญเสือกมีน้องเป็นคนดี” ผมไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค้อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ขณะที่เฮียพอตก็เดินกลับเข้าไปหาพี่วาโย กับพี่เหนือที่นั่งกอดขวดเหล้าอยู่ ก่อนที่ผมจะก้มหน้าลงมองใบหน้าแดง ๆ ของเธอคนนี้อีกครั้ง พอเห็นแบบนี้แล้วมันก็อดที่จะด่าไม่ได้ “ยัยบ๊อง เกือบถูกฟันแล้วไหมล่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม