คฤหาสน์ตระกูลไป๋
ในยามนี้ทั่วบริเวณพื้นที่ด้านในของคฤหาสน์เจ้าพ่อไป๋โหย่งอี๋ เต็มไปด้วยสมาชิกแก๊งสามพยัคฆ์ซึ่งมาร่วมงานศพหัวหน้าใหญ่รุ่น 3 ที่เพิ่งฝังร่างลงสู่ผืนดิน ณ.สุสานของตระกูลไป๋เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
และสมาชิกแก๊งต่างเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ตามบัตรเชิญของไป๋เริ่นเจิน บุตรชายคนโตของเจ้าพ่อใหญ่ซึ่งสมาชิกภายในแก๊งยังไม่มีใครล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นเพียงลูกติดท้องของภรรยารอง หาใช่สายเลือดโดยแท้จริง
สมาชิกแก๊งสามพยัคฆ์ที่มีมากมายนับหลายหมื่นคนต่างส่งตัวแทนเข้ามาร่วมการประชุมตามบัตรเชิญดังกล่าวกันอย่างพร้อมเพรียง ในแผ่นดินจีนสมาชิกกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค จึงส่งตัวแทนของแต่ละมณฑลซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าของแต่ละเมืองเข้าร่วมประชุมแทน
ในขณะที่ทางฮ่องกงและไต้หวันมีหวังเหล่ยเป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมและไป๋หลันฮวาลูกสาวแท้ๆ ของเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมจากทางประเทศญี่ปุ่นและประเทศฮ่องกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสาขาใหญ่ของแก๊ง
หากแต่ทั้งสองกลับไร้สิ้นเงาและตัวตนไม่ปรากฏกายแม้กระทั่งพิธีสวดศพซึ่งจัดขึ้นถึง 7 วันจวบจนกระทั่งถึงวันฝังศพ ทั้งสองก็ยังคงไม่โผล่มาร่วมงาน สร้างความแปลกใจให้กับสมาชิกของแก๊งกันอย่างถ้วนหน้า
“ลูกสาวนายใหญ่ใจคอไม่ยอมมาเหยียบงานศพคนเป็นพ่อเลยว่าไหม แม้กระทั่งวันฝังก็ไม่เห็น สงสัยคงจะกลัวใครรู้ว่ามีพ่อเป็นมาเฟียกลัวจะเสียชื่อเสียงและเสื่อมความนิยมแน่ๆ”
“ก็แหงละ...เป็นดาราดังด้วยไม่ใช่เหรอ สวยซะขนาดนั้นแถมดังข้ามประเทศไปถึงเกาหลีและญี่ปุ่น คิวงานถ่ายหนังและละครนางแน่นทั้งปีที่เกาหลีและญี่ปุ่นเลยนะ นานๆ จะมีซีรีย์หรือหนังเล่นให้กับประเทศบ้านเกิด”
“แต่เห็นมีการแถลงข่าวเมื่อวานออกมาแล้วนะว่า ทีมงานผู้สร้างซีรีย์เรื่องนางครวญรอรักพันปี ทาบทามไป๋หลันฮวา เป็นตัวละครเอกของเรื่องนี้ เห็นว่าบทผีฮูหยินแม่ทัพไร้พ่าย ทางผู้สร้างเล็งเธอเอาไว้ซะด้วย นี่ก็รอไปปรากฏตัวให้สัมภาษณ์ที่สถานีโทรทัศน์ แต่มิรู้ว่าทำไมพวกนั้นยังติดต่อไม่ได้”
“ท่าทางสงสัยจะเล่นตัววะ ก็ต้องแหงละบริษัทผู้สร้างเป็นลูกหนี้ของนายใหญ่นี่หว่า ได้ข่าวว่านายให้กู้เงินไปถึงหนึ่งพันล้านหยวนเลยเชียวนะ คงตั้งใจจะให้ลูกสาวตัวเองเป็นดาราผูกขาดกับที่นี่แต่จนแล้วจนรอดไป๋หลันฮวาก็ไม่ยอมร่วมงานด้วยเสียทีเพราะไม่มีคิวให้”
“แต่ครั้งนี้ก็ไม่แน่วะเพราะเธอบินมาจีนเพื่อมาจัดการทุกสิ่งทุกอย่างแทนหัวหน้าในรอบห้าปีตั้งแต่บินไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นอะไรก็เกิดขึ้นได้ และอีกอย่างมีข่าวเล็ดรอดออกมาว่าลูกสาวนายใหญ่จะขึ้นคุมแก๊งสามพยัคฆ์แทน”
เสียงกระซิบกระซาบโจษขานไปทั่วลานประชุมกว้าง ภายในห้องโถงขนาดใหญ่ของคฤหาสน์ซึ่งแปรสภาพกลายเป็นห้องเลี้ยงรับรองสมาชิกแก๊งที่เป็นตัวแทนมาร่วมงานประชุมในครั้งนี้เอ็ดอึงไปทั่วบริเวณงานเลยทีเดียว
“แล้วไป๋เริ่นเจินละเอาไปเก็บไว้ที่ไหน รายนั้นเป็นลูกชายของคุณนายรองกับนายใหญ่ไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ได้สืบทอดตำแหน่ง”เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นด้วยความสงสัย
เพื่อนคาบข่าวหันซ้ายมองขวาไปทั่วบริเวณด้วยกลัวจะมีคนได้ยิน ก่อนจะก้มลงกระซิบบอกเพื่อนที่คอยฟังอยู่นับหลายสิบชีวิต นี่ขนาดกลัวข่าวรั่วไหลยังกระซิบบอกเพื่อนร่วมแก๊งมากมายถึงเพียงนี้ ถ้าไม่กลัวคงกระจายขายข่าวไปทั่วทั้งงานไปเลยทีเดียว
“มีข่าวเล็ดรอดออกมาจากสำนักงานทนายความที่เพิ่งถูกระเบิดตายคารถเมื่อวันก่อน ลูกน้องของพี่หัวที่นายใหญ่แอบส่งคนให้ไปคอยสอดส่องทนายจู ล่วงรู้มาว่านายใหญ่ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ลูกสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น รวมไปถึงระบุว่าตำแหน่งหัวหน้าแก๊งสามพยัคฆ์ รุ่นที่ 4ให้ไป๋หลันฮวาสืบทอดแทนตามสายเลือด”
“ตามสายเลือด!”ทุกคนในที่นั้นเอ่ยออกมาเป็นถ้อยประโยคเดียวกัน
ทุกสายตาหันกลับไปมองเก้าอี้นั่งตัวมหึมาแกะสลักเป็นลวดลายมังกร แต่ที่น่าแปลกใจอย่างยิ่งยวดนั่นก็คือ มังกรที่ถูกนำมาแกะสลักนั้นมีด้วยกันถึงสามตัว หัวมังกรแกะสลักประดับอยู่ด้านซ้ายและขวา ตรงกลางจะเป็นหัวมังกรตัวใหญ่สุดอันเป็นสัญลักษณ์ของสามราชา กษัตริย์ในตำนานของยุคโบราณ และเก้าอี้ตัวดังกล่าวสำหรับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งสามพยัคฆ์เท่านั้น
“หรือว่าไป๋เริ่นเจินไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของนายใหญ่”เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมาท่ามกลางสายตาของตัวแทนสมาชิกแก๊งที่เข้ามาร่วมประชุมกำลังมองไปที่จุดเดียวกัน
ร่างสูงโปร่งค่อนข้างผอมของไป๋เริ่นเจินปรากฏกายด้วยชุดสูทสากลแพงลิบลิ่ว พร้อมด้วยคุณนายรองผู้เป็นแม่หรือเยี่ยนหรานที่มาเฟียสาวทรงเสน่ห์มักเรียกชื่อเดิมของเจ้าหล่อนเป็นประจำ
สองแม่ลูกปรากฏกายต่อหน้าสมาชิกของแก๊งที่เข้ามาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา คงเหลือแต่เพียงหัวหน้าแก๊งทางฮ่องกงหวังเหล่ยและไป๋หลันฮวาหัวหน้าแก๊งจากทางญี่ปุ่น ที่ยังไม่ปรากฏตัวจนถึงเวลานี้
ดวงตาสีดำยาวรีทอดสายตามองสมาชิกแก๊งที่มาร่วมประชุมกันอย่างคับคั่งจนครบทุกมณฑลและทุกมุมเมือง ซึ่งนั่งอยู่ภายในห้องโถงของคฤหาสน์ตระกูลไป๋จนเต็มทุกเก้าอี้ แต่เหลือที่เว้นว่างเพียงสองที่นั่งเท่านั้นสำหรับหัวหน้าแก๊งระดับประเทศคือทางฮ่องกงและญี่ปุ่นที่ยังไม่ปรากฏกาย
ร่างสูงในชุดสูทสากลของคนทางด้านหลังยื่นสมุดบันทึกรายงานของสมาชิกแก๊งที่เข้ามาร่วมประชุม พร้อมก้มลงกระซิบกระซาบรายงานข่าวคืบหน้าอย่างเร่งด่วนให้ร่างสูงผอมได้รับรู้อย่างละเอียด พร้อมกับรอยแสยะยิ้มเหยียดของไป๋เริ่นเจินปรากฏออกมาด้วยความพึงพอใจอย่างยิ่งยวด
“ทางนั้นรายงานมาว่าอย่างไงบ้างเจินเอ๋อร์”คุณนายรองผู้เป็นแม่ถามลูกชายของนางกลับไปด้วยความอยากรู้
“ไม่ต้องห่วงแม่! ไอ้ยักษ์มันใช้โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมจากกลางทะเลทรายรายงานมาแล้วว่า ยิงทิ้งไปหนึ่งแต่อีกหนึ่งฝังมันทั้งเป็น เสร็จแล้วจะรีบกลับมาร่วมประชุม รายงานมาตอนเกือบหนึ่งทุ่มนี่คงใกล้จะถึงแล้วละ”ไป๋เริ่นเจินตอบกลับไปให้คนเป็นแม่ล่วงรู้
ริมฝีปากฉาบด้วยลปสติกสีแดงเลือดนกแสยะยิ้มเหยียดด้วยความสะใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ทำงานได้ดีมาก! ในที่สุดพวกตระกูลไป๋ก็ถูกกำจัดไปหมดทุกคนแล้ว คราวนี้ก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าสมบัติทั้งหมดจะตกอยู่กับใคร ถ้าไม่ใช่ของเจินเอ๋อร์กับแม่ รู้แบบนี้น่าจะฆ่าไป๋โหย่งอี๋ให้มันตายไปตั้งนานแล้วก็ดี”นางบ่นพึมพำ
“ก็เคยบอกแล้วว่าให้จัดการมัน แต่แม่ยังอาลัยอาวรณ์อยู่ได้ปล่อยให้มีชีวิตมานานตั้งหลายปี มีโอกาสกำจัดมันตอนอยู่โรงพยาบาลเมื่อหลายปีก่อนก็ไม่ยอมลงมือทำ นี่ถ้ามันยอมให้เงินห้าร้อยล้านหยวนแม่ก็คงไม่ฆ่ามันใช่ไหม ดีที่ไอ้แก่นั่นมันไม่ยอมแม่ถึงตัดใจฆ่ามันลงได้ แล้วเช็คที่แม่ปลอมลายมือของไอ้แก่เอาไปขึ้นเงินกับธนาคารเข้าบัญชีแล้วหรือยัง ถ้าเงินเข้าแล้วก็อย่ามือเติบให้มันมากนักละ”ไป๋เริ่นเจินกล่าวเสียงย้ำเน้นหนักกลับไป
“ได้เรียบร้อย!”คนเป็นแม่ตอบกลับไปเสียงห้วน
ความรู้สึกของคนเป็นแม่ในขณะนี้ไม่พอใจอยู่ลึกๆ ที่ลูกชายสอดปากว่ากล่าวตักเตือนนา ต่อหน้าลูกน้องที่คอยอารักขาซึ่งยืนอยู่ด้านหลังนับสิบชีวิต
“นี่ก็ใกล้เวลาเริ่มประชุมแล้ว เมื่อไรถึงจะได้ประกาศสมาชิกในแก๊งเสียทีจะมัวยืนรออะไรอยู่อีก ทำไมถึงไม่รีบลงไปข้างล่าง”คนเป็นแม่ถามลูกชายด้วยความสงสัย
เมื่อยังเห็นคนเป็นลูกยืนมองสมาชิกแก๊งจากทางชั้น 2 ของคฤหาสน์ ในขณะที่ห้องโถงเบื้องล่างเต็มไปด้วยผู้คนแน่นขนัดไปทั่วทั้งลานกว้างนั่งออกันอยู่เต็มไปหมด
“รอฤกษ์ดีที่จะประกาศการเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งนะสิแม่ ถามออกมาได้!”เริ่นเจินตอบกลับไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกเร่งเร้าอยู่ตลอดเวลา
“อะไรนะ! นี่แกงมงายต้องรอฤกษ์รอยามอีกอย่างนั้นเหรอ! นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว รีบลงไปข้างล่างแล้วก็รีบประกาศซะจะได้ล่วงรู้กันเสียทีต่อไปทุกอย่างก็จะได้ตกเป็นของแม่!”คนเป็นแม่รบเร้าเอาแต่ใจอย่างน่ารังเกียจ ก่อนจะรู้สึกตัวว่าพูดเอาแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียว
“เออ..ทุกอย่างมันเป็นทั้งของแกและของแม่ด้วยกันทั้งคู่นะเจินเอ๋อร์”นางรีบเอ่ยแก้กลับไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋เริ่นเจินหันกลับมามองแม่ของตัวเองเขม็งครั้นได้ยินเช่นนั้น ดวงตาแข็งกร้าวเมื่อได้ยินวาจาที่เต็มไปด้วยความละโมบโลภมากและเห็นแก่ตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นนั้น
“ของแม่ที่ไหน!ทุกอย่างตกเป็นของผมต่างหาก อย่าลืมสิว่าใครเป็นคนวางแผนจนทำให้แม่สมหวังได้ เพราะฉะนั้นเลิกมาพูดว่าทุกอย่างเป็นของแม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นจะได้อะไรไปนับต่อจากนี้มันขึ้นอยู่กับผมเท่านั้นว่าจะให้หรือไม่ให้เข้าใจเอาไว้ซะด้วย!!!”
“เจินเอ๋อร์!นี่แกกล้าทำกับแม่แบบนั้นเหรอ”คุณนายรองขึ้นเสียงถามลูกชายอย่างไม่พอใจ
ในขณะที่คนเป็นลูกหันกลับไปจ้องตาเขม็งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความน่ากลัว แทนที่จะเป็นความรักและความเคารพที่ลูกพึงมีต่อผู้เป็นแม่จึงจะถูก หากแต่ไป๋เริ่นเจินกลับตรงกันข้าม ก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบของลูกน้องที่ยืนอารักขาอยู่ด้านหลังเมื่อมีรายงานล่าสุดเข้ามา
“เฮลิคอปเตอร์บินกลับจากทะเลทรายมาถึงแล้วครับ”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏออกมาจากใบหน้าที่ค่อนข้างตอบนั้นทันที
“ในที่สุดก็กำจัดพวกมันจนสิ้นซากเสียที”กล่าวพร้อมส่งสัญญาณมือออกไปโดยพลัน
และทันทีที่สัญญาณมือปรากฏออกมา ภาพของเจ้าพ่อไป๋โหย่งอี๋ผู้ล่วงลับไปแล้วก็ปรากฏขึ้นบนจอโปรเจคเตอร์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เป็นการแสดงให้เห็นว่าหัวหน้าแก๊งคนใหม่รู้สึกอย่างไรกับอดีตเจ้าพ่อผู้ล่วงลับไปแล้ว