ในขณะที่กลุ่มชายฉกรรจ์ที่เต็มไปด้วยอาวุธครบมือต่างก็เห็นเฉกเช่นเดียวกัน แต่ละคนดวงตาเบิกค้างด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ เห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่กำยำกลายร่างเป็นโครงกระดูกของคนตายเข้ามาแทนที่ และแต่ละคนยังมิได้ทันลงมือแต่อย่างใด โครงกระดูกผีที่กระชับมีดอยู่ในมือวิ่งเพียงแค่สามก้าวเท่านั้นพลันถึงตัวพวกมันทุกคน
ฉัว!ฉัว!ฉัว!ฉัว!!!! โครงกระดูกแม่ทัพในตำนานเคลื่อนไหวราวล่องหน เมื่อพระองค์ทรงใช้วรยุทธ์ที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเมื่อสามพันปีก่อน ปลิดชีพชายโฉดทั้งเจ็ดด้วยการใช้มีดสั้นของพระองค์ตรงเข้าเชือดลำคอของแต่ละคนจนเป็นแผลเหวอะหวะโดยไม่รู้ตัว
อ๊าคคคค!!! เสียงร้องโหยหวนดังออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ฉูดดด!!! เลือดแดงฉานพุ่งกระฉูดทะลักออกจากลำคอของแต่ละคนหลั่งไหลเป็นสายธาราดั่งน้ำก๊อก
ตุบ!ตุบ!ตุบ!ตุบ! ร่างกลุ่มชายโฉดที่ถูกโครงกระดูกแม่ทัพในอดีตกาลจับเชือดคอเป็นว่าเล่นหงายท้องล้มลงไปนอนกับผืนทราย แต่ละคนถูกเชือดคอเกือบขาดห้อยร่องแร่งจบสิ้นชีวิตไปโดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองตายเสียด้วยซ้ำ
“บะเจ้า!เก่งโคตรๆ เลย”ไป๋หลันฮวาเอ่ยออกมาทันใดครั้นเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก่อนจะได้ยินสหายร่วมแก๊งเอ่ยสวนแทรกกลับมา
“มันก็ต้องเก่งอะดิเพราะนั่นเป็นผีไม่ใช่คน!”หวังเหล่ยสอดปากแย้งเพื่อนขึ้นมาทันใด
ขวับ!!!! แม่ทัพในอดีตหันกายกลับไปมองไป๋หลันฮวาและหวังเหล่ยที่ยังคงนั่งอยู่บนผืนทรายด้วยกันทั้งคู่มิสามารถขยับเคลื่อนกายหนีไปไหนได้ ด้วยเพราะหวังเหล่ยบาดเจ็บสาหัสนั้นเอง
พรึ่บ!!! เพียงก้าวเดียวพระองค์ทรงยืนจังก้าค้ำศีรษะของสองสหายในขณะที่คนทั้งคู่ทำได้แต่แต่เพียงนั่งตาเหลือกลานด้วยความตกใจอยู่กับที่เช่นนั้น
“เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้างเนี่ยนเจิน”รับสั่งถามหวังเหล่ยกลับไปด้วยทรงเข้าพระทัยว่าเป็นพระสหายสนิทของพระองค์เมื่อสามพันปีก่อน
“มะ...มะ...ไม่...ไม่!!!”หวังเหล่ยกล่าวออกไปแทบไม่เป็นภาษาด้วยความตกใจที่โครงกระดูกผีกำลังส่งเสียงถามกลับมาเช่นนั้นราวกับว่าเป็นมนุษย์ก็มิปาน
ก่อนจะสลบเหมือดหมดสติไปทันทีเพราะเสียเลือดจากการถูกยิงไปมากนั้นเอง ทิ้งเพื่อนสาวร่วมแก๊งให้เผชิญหน้ากับโครงกระดูกผีอยู่เพียงลำพัง
“อาเจิน!อาเจิน!”สุระเสียงรับสั่งเพรียกหาพระสหายด้วยความตกพระทัยครั้นทอดพระเนตรเช่นนั้น
พระองค์มิล่วงรู้ด้วยซ้ำไปว่าบัดนี้มิได้มีร่างเป็นมนุษย์ดั่งเช่นเมื่อครู่ที่ผ่านมา หากแต่คืนร่างเป็นซากโครงกระดูกที่ตายไปนานนับหลายพันปี
พระหัตถ์ใหญ่เอื้อมออกไปหมายประคองร่างของพระสหายสนิทที่ทรงเข้าใจเช่นนั้น ทว่ากลับต้องหยุดชะงักโดยพลันเมื่อสายพระเนตรกระทบเข้ากับมือที่เหลือแต่โครงกระดูกเท่านั้นและที่สำคัญมันคือพระหัตถ์ของพระองค์
“อะไรกันนี่!”รับสั่งออกมาด้วยความตกพระทัยอย่างยิ่งยวด
แม่ทัพในอดีตรีบก้มลงทอดพระเนตรพระวรกายของพระองค์ที่มีแต่ซากโครงกระดูกปรากฏให้เห็นเพียงเท่านั้นในเวลานี้ ท่ามกลางพระอาการที่เต็มไปด้วยความตระหนกพระทัยและงงงันมิรู้วาย
ก่อนจะหันกลับไปทอดพระเนตรไปทั่วบริเวณและหยุดลงที่ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว ปรากฏอยู่ตรงพระพักตร์ห่างจากจุดที่ทรงยืนอยู่ประมาณ 800 เมตร ซากโครงกระดูกแห้งกรังพระดำเนินตรงไปที่ทะเลสาบดังกล่าวทันที
พรึ่บ!!! เพียงก้าวเดียวแม่ทัพในตำนานปรากฏกายอยู่ริมทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว ด้วยทรงใช้วิทยายุทธ์ของพระองค์เร้นพระวรกายจนมาอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว ซากโครงกระดูกแห้งกรังโน้มกายลงไปมองร่างที่เห็นอยู่ในสายน้ำเมื่อกระทบกับแสงจากดวงจันทร์ซึ่งวันนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง ทำให้เห็นทุกอย่างชัดเจน
พระหัตถ์ทั้งสองข้างที่บัดนี้เหลือเพียงซากแห้งกรังเท่านั้น ค่อยๆ ยกขึ้นจับพระพักตร์ที่เป็นกะโหลกก่อนจะรีบสัมผัสไปทั่วว่าสิ่งที่ทรงทอดพระเนตรอยู่ในขณะนี้แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่
“มะ.ไม่จริง!เหตุใดรูปกายของข้าจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ ใยข้าจึงกลายเป็นโครงกระดูก กายเนื้อเลือนหายไปแห่งหนใด นี่ข้าตายไปแล้วเช่นนั้นรึ!..ข้าตายไปแล้วหรือนี่!!”รับสั่งพึมพำด้วยทรงมิอยากจะเชื่อว่าสิ่งที่ทรงทอดพระเนตรอยู่ในขณะนี้เป็นเรื่องจริง
ก่อนจะนึกทบทวนความทรงจำสุดท้ายที่จดจำได้อย่างแม่นยำว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับพระองค์ ภาพการต่อสู้อย่างดุเดือดภายในกระโจมที่ประทับกับนางปีศาจงูพันปีที่เร้นร่างแปลงกายเป็นเหอผิง ราชองคักษ์คนสนิทของพระองค์ปรากฏขึ้นมาทันใดและจบลง
เมื่อทรงจดจำได้ว่าโรคประหลาดของพระองค์ในวัยเยาว์จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุในขณะที่ทรงได้เปรียบนางปีศาจทุกด้าน ภาพในความทรงจำดับวูบลงไปทันใดพร้อมพระอาการนิ่งงันไปชั่วขณะเข้ามาแทนที่
“ไม่จริง!!!!”สุรเสียงแผดดังกึกก้องท่ามกลางความเงียบงันภายในท้องทะเลทรายเวิ้งว้างสุดสายตา
เฮือก!!! ไป๋หลันฮวาสะดุ้งจนสุดตัวกับเสียงที่บ่งบอกถึงความตกใจอย่างสุดขีดของโครงกระดูกแม่ทัพในอดีต ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอทันใดเมื่อ ซากโครงกระดูกพลันมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเธออีกครั้งส่วนของกะโหลกค่อยๆ หันกลับมามองหญิงสาว ทั้งๆ ที่ไร้สิ้นดวงตาทั้งสองข้างแต่อย่างใด แต่เธอกลับล่วงรู้ว่าโครงกระดูกร่างนั้นกำลังมองเธออยู่
“แม่นาง!”รับสั่งเพรียกหาไป๋หลันฮวาพร้อมก้าวเข้าไปหาเธอทันใด
และสุรเสียงรับสั่งของแม่ทัพในตำนานทำให้มาเฟียสาวคนสวยที่กำลังนั่งประคองหวังเหล่ยอยู่ในขณะนั้นรีบวางร่างอันหมดสติของสหายรักร่วมแก๊งลงนอนไปกับผืนทรายอย่างรวดเร็ว
เมื่อโครงกระดูกที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้ากำลังก้าวตรงเข้ามาหาเธอ สองมือยกขึ้นพร้อมเป็นสัญญาณห้ามพลางกระเถิบถอยหลังในท่านั่งออกห่าง เตรียมลุกวิ่งหนีให้เร็วที่สุด
“ทะ..ทะ..ท่านผีผู้กล้า...มะ...ไม่ต้องถามหนูนะ...เพราะหนูก็ไม่รู้เหมือนกัน..อยากกินอะไร..บะ...บอกเลย..เดี๋ยวจัดให้แถมกระดาษเงินกระดาษทอง บ้านพร้อมที่ดิน แรมโบกินี่อีกหนึ่งคันและเงินอีกพันล้านหยวนให้ไปใช้ในเมืองผีเลยสิเอา!..เป็นการขอบคุณที่ช่วยฆ่าไอ้พวกวายร้ายนั่นให้...เหอ...เหอ”หญิงสาวพูดพลางหัวเราะแห้งๆ ออกมา
ในขณะที่แม่ทัพในตำนานทรงแปลกพระทัยกับถ้อยเจรจาดังกล่าวของสตรีตรงพระพักตร์อย่างยิ่งยวดทันทีที่ทรงได้ยินเช่นนั้น
“เจ้ากล่าวถ้อยเจรจาสิ่งใดอย่างนั้นหรอกรึ! ข้ามิเข้าใจแม้แต่น้อย...สิ่งที่ข้าต้องการล่วงรู้นั่นก็คือ”รับสั่งได้เพียงเท่านั้นก็ทรงหยุดนิ่งลงไปโดยพลัน
แวบบบ!!! แสงวาววับเปล่งประกายออกมาจากกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนคอขาวผ่องของสตรีสาวแสนสวยที่มีความงดงามอย่างประหลาด ตามด้วยแสงวาววับสะท้อนวูบวาบออกมาจากกระดองเต่าที่อยู่บนซากโครงกระดูกของแม่ทัพในอดีตด้วยเช่นกัน
แม่ทัพในตำนานก้มลงทอดพระเนตรแสงสะท้อนที่สว่างวาววับออกมาจากซากโครงกระดูกของพระองค์ทันที พระหัตถ์สัมผัสกับกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่ยังอยู่ในสร้อยและสวมอยู่ที่พระศอมาตลอดหลายพันปีที่ทอดร่างสงบนิ่งนอนอยู่ใต้ผืนทรายดังกล่าว
“เหตุใดกระดองเต่าที่จารึกอักขระโบราณจึงกลายเป็นสร้อยมาอยู่กับข้าและยังมีอีกครึ่งซีกอยู่กับแม่นางผู้นี้ด้วย”รับสั่งพร้อมเงยพระพักตร์ทอดพระเนตรไป๋หลันฮวาทันที
“หรือเจ้าคือปีศาจตนนั้นที่ปรากฏกายขึ้นในกระโจมของข้าพร้อมทิ้งกระดองเต่านี้เอาไว้”รับสั่งถามแม่มาเฟียสาวคนงามกลับไป
ใบหน้างดงามอย่างประหลาดส่ายไปมาติดต่อกันเป็นคำตอบปฏิเสธอย่างชัดเจนของเธอได้เป็นอย่างดี
“หนูไม่รู้! ไม่รู้อะไรเลย!ตื่นขึ้นมาก็เห็นเจ้ากระดองเต่าชิ้นนี้กลายเป็นสร้อยคล้องอยู่ที่คอของหนูแล้ว อีกอย่างตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยบุกเข้ากระโจมใครด้วย ปีศาจอะไรก็ไม่เคยเป็น! หนูไม่รู้จัก!!!”ประโยคสุดท้ายหญิงสาวหยอดเสียงสูงเน้นหนักพลางโบกมือไหวไปมาปฏิเสธเป็นพัลวัน
“เช่นนั้นหรอกรึ!”แม่ทัพในตำนานรับสั่งพร้อมก้าวเข้าไปหาไป๋หลันฮวา
เหวอออ!!! แม่สาวน้อยแหกปากร้องลั่นด้วยความตกใจ เมื่อซากโครงกระดูกแห้งกรังก้าวพรวดเดียวประชิดถึงตัวเธอโดยพลัน ร่างอรชรชะงักงันดั่งถูกมนต์สะกดตรึงไว้ให้นั่งอยู่กับที่เช่นนั้น ซึ่งแท้จริงแล้วคืออาการก้าวขาไม่ออกของหญิงสาวนั่นเองหาได้ถูกเวทย์คาถาตรึงร่างเอาไว้แต่อย่างใด
พระหัตถ์ที่กลายเป็นซากโครงกระดูก ทำท่าจะเอื้อมจับกระดองเต่าอีกครึ่งซีกที่อยู่บนลำคอขาวผ่องของสตรีสาวตรงพระพักตร์ หากแต่ยังมิทันที่จะเอื้อมไปถึง กระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองชิ้นซึ่งสวมอยู่บนคอของทั้งสอง จู่ๆ ก็ยกขึ้นตั้งตรงราวกับว่ากระดองเต่าทั้งสองชิ้นดังกล่าวต้องการประกบเข้าหากันนั้นเอง
และนั่นเป็นเหตุให้ร่างระหงของไป๋หลันฮวาและซากโครงกระดูกแห้งกรังของแม่ทัพในอดีตถูกแรงดึงดูดมหาศาลของกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ดึงร่างของทั้งสองปะทะเข้าหากันทันที
“เหวอออ!ไม่นะจะดึงเข้าไปทำไม!ไม่เอา!ไม่เอา!”แม่สาวน้อยโวยวายจนเสียงหลงออกมาทันใด
เมื่อกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในลำคอของเธอกระชากร่างงามของทั้งสองโน้มกายเข้าหากันก่อนจะประกบเข้ากับส่วนที่เหลืออีกครึ่งซีกที่อยู่บนร่างของแม่ทัพไร้พ่ายในตำนาน
พรึ่บ!!! แสงสว่างวาววาบพุ่งออกมาจากกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ทันทีที่ประกบเข้าด้วยกัน พร้อมเหตุการณ์ในอดีตขององค์ชายโจวโยว่เฉิงในคืนที่ทรงต่อสู้กับปีศาจงูพันปีปรากฏให้ขึ้นมาอีกครั้ง
ท่ามกลางอาการตกตะลึงของมาเฟียสาวคนงามที่ได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างซึ่งเกิดขึ้นกับซากแห้งกรังที่กำลังยืนอยู่แนบชิดเธอ จวบจนกระทั่งซากโครงกระดูกนั้นคืนร่างกลับกลายเป็นคนมาได้อย่างไร
หา! ไป๋หลันฮวาอุทานออกมาทันทีครั้นเห็นภาพดังกล่าว
เมื่อซากโครงกระดูกนั้นแปรเปลี่ยนเป็นบุรุษรูปงามที่กำลังจุมพิตเธออย่างเร่าร้อนและเลือดที่กลบปากเพราะหกล้มกระแทกเข้ากับโครงกระดูกจนปากแตกเป็นสาเหตุทำให้แม่ทัพลือนามในอดีตกลับมามีพระชนม์ชีพอีกครั้งนั้นเอง
แต่แล้วกลับกลายเป็นซากโครงกระดูกดั่งเดิม ทันทีที่แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าเข้าสู่เวลาแห่งรัตติกาลก่อนจะค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ ต่อหน้าคนทั้งสอง
ฉับพลันอักขระโบราณตั้งแต่ยุคสร้างแผ่นดินปรากฏขึ้นมาโดยพลัน และกำลังลอยอยู่กลางอากาศตรงหน้าคนทั้งสองในขณะนี้ ราวกับว่าเป็นสิ่งที่ผู้ที่ถูกเลือกต้องอ่านพร้อมกันทั้งคู่ ก่อนจะปรากฏเสียงของไป๋หลันฮวาอ่านจารึกโบราณที่กำลังล่องลอยอยู่กลางอากาศตรงหน้าพร้อมกับแม่ทัพในอดีตโดยมิได้นัดหมาย
หยาดโลหิตสตรีพรหมจรรย์ของผู้ที่ถูกเลือกเปลี่ยนร่างไร้ชีพหวนคืนจากความตาย ปรากฏชีวิตใหม่ดั่งที่เคยเป็น เปลี่ยนบาดแผลให้มลายหายไปจนสูญสิ้น เมื่อร่ายคาถาบดบัง
พรึ่บ!!! แสงสว่างเจิดจ้าดับวูบลงไปโดยพลัน ทันทีที่เสียงอ่านอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏให้เห็นตรงหน้าจากคนทั้งสองสิ้นสุดลง ท่ามกลางอาการแปลกใจของแม่ทัพในอดีตและไป๋หลันฮวาต่างหันกลับมามองหน้ากัน
เฮ้ย!!! สาวเจ้าอุทานเสียงหลงด้วยความตกใจ เมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่า ผู้ที่อยู่ตรงหน้าหาใช่คนเช่นเดียวกับเธอความรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ ปรากฏขึ้นมาทันทีครั้นเห็นซากแห้งกรังของแม่ทัพในอดีตกำลังจ้องหญิงสาวเขม็ง
“ทะ...ทำไมหัน..หันกลับมามองกันแบบนี้ละท่านผู้เฒ่า! หนูมะ..ไม่ใช่...ไม่ใช่หนูนะ”ไป๋หลันฮวาโบกไม้โบกมือไปมาเป็นการใหญ่พลางก้าวถอยหลังจากจุดที่ยืนอยู่อย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวก็รู้!!!”ซากแห้งกรังของแม่ทัพในตำนานรับสั่งออกมา
หมับ!! ลำคอขาวผ่องถูกพระหัตถ์ซึ่งเป็นซากโครงกระดูกคว้าเอาไว้ทันท่วงที กะโหลกมนุษย์บริเวณที่เป็นส่วนปากทาบทับลงบนริมฝีปากอวบอิ่มที่ยังมีแผลแตกและมีเลือดออกมาอยู่ตลอดเวลาของสตรีสาวที่พระองค์ได้พานพบหลังจากกลับมามีพระชนม์ชีพอีกครั้ง
และทันทีที่เลือดของหญิงสาวไหลเข้าไปในปากที่เป็นซากโครงกระดูกนั้น ร่างมนุษย์ของแม่ทัพในอดีตค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาทันใดพระเศียรค่อยๆ แจ่มชัดก่อนจะลามเลียหล่อหลอมกลายเป็นมนุษย์จนไปถึงพระบาท พร้อมพระวรกายสูงใหญ่ กำยำ ซึ่งเต็มไปด้วยเลือดเนื้อและชีวิตขององค์ชายโจวโย่วเฉิงปรากฏออกมาอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง
พระหัตถ์ทั้งสองข้างที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อของบุรุษเพศค่อยๆ ยกขึ้นประคองลำคองามระหงของสตรีสาวที่กำลังถูกพระองค์จุมพิตอยู่ในขณะนี้และไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยนางไปง่ายๆ เสียด้วย
ในขณะที่คนถูกระดมจูบกำลังฟินได้ที่เลยทีเดียว จากขัดขืนปฏิเสธเป็นพัลวันในคราแรกกลับเริ่มจูบโต้ตอบกลับไปอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน เสียงอู้อี้เมื่อครู่ที่ผ่านมากลับกลายเป็นเสียงครางในลำคอด้วยความพึงพอใจเข้ามาแทนที่ฉับพลันเสียงหนึ่งพลันดังกึกก้องท่ามกลางความเงียบงัน
“หลันฮวา!!!”