น่ารัก

2336 คำ
“ตายแล้วจะหกโมงแล้วคุณหนูยังไม่ลุกอีกเหรอคะ” แดงอ้อยเดินเข้ามาดูคุณหนูของเธอตั้งแต่เช้าตรู่เมื่อเห็นว่าปรินทร์นั้นตื่นขึ้นมาก่อนเธอนานแล้ว พอได้เข้าเห็นสภาพคุณหนูก็ต้องตกใจไม่น้อย ด้วยเนื้อทองนั้นยังคงนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงนอน หน้าตาของหญิงสาวยังคงมีความสุขมากกับการนอนหลับ ไม่รู้สึกเลยแม้แต่นิดว่ามีเธอเดินเข้ามาภายในห้องแล้ว “ลุกได้แล้วค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อจะดุเอานะคะ” แดงอ้อยหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงนอนของเด็กสาวแล้วค่อยๆยกสะกิดปลุก พร้อมกับเอ่ยพูดที่ข้างหูเบาๆ ทำทุกอย่างด้วยความรักและทะนุถนอมถึงแม้บางครั้งจะนึกอย่างตีเด็กสาวสักทีสองทีก็ตาม เธอเลี้ยงของเธอมาตั้งแต่เกิด เลี้ยงเหมือนลูกคนหนึ่งเลย จะไม่รักได้ยังไงกัน “หนูไม่มีทางออกไปหาคนแบบนั้นเป็นอันขาด” เนื้อทองเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตามเสียงเรียกของแดงอ้อยก็ออกปากเถียงออกไปในทันที เธอบอกแล้วว่าไม่มีทางออกไปหาคนใจร้ายแบบนั้นที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัวจนเกือบขาหัก เธอก็จะไม่มีวันออกไปไม่ว่าใครหน้าไหนจะมาขอร้องมากแค่ไหนก็ตาม เขาจะฆ่าจะแกงอะไรเธอก็เชิญตามสบาย เธอยอมตายดีกว่าไปทำตามใจคนอื่น “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ ทำไมไม่ทำตัวน่ารักๆ คุณพ่อจะได้ไม่ดุคุณหนูไงคะ” แดงอ้อยใช้น้ำเย็นเข้าลูบเพื่อให้เด็กสาวใจเย็นลงและยอมรับฟังเธอ ไม่พูดอะไรที่เป็นเชิงบังคับจิตใจออกไป เธอเลี้ยงของเธอมาเธอรู้ดีว่าเนื้อทองนั้นชอบอะไรแบบไหน และไม่ชอบอะไรแบบไหน เด็กสาวเกลียดการบังคับจิตใจ เกลียดการออกคำสั่งเป็นที่สุด มีเพียงอย่างเดียวคือต้องค่อยๆพูด ให้เหตุผล จนเด็กสาวยอมรับฟัง เรื่องทำให้เนื้อทองยอมรับฟังถือเป็นเรื่องยากพอสมควรและไม่ค่อยมีใครทำได้เพราะว่าเนื้อทองนั้นฉลาดรู้ทันคนไปเสียทุกเรื่อง มันก็เลยทำให้เนื้อทองดูดื้อขัดใจผู้ใหญ่อยู่เรื่อย เพราะเธอไม่ชอบฟังคำสั่งของใคร และผู้ใหญ่เหล่านั้นก็ไม่มีเวลามาอธิบายอะไรให้เธอฟัง “คุณพ่อมาอยู่แค่ไม่กี่วันคุณหนูไม่ควรดื้อกับเธอนะคะ” เห็นว่าเนื้อทองนอนฟังเงียบๆเหมือนกำลังคิดตามคำพูดของเธอ แดงอ้อยก็พูดเสริมเข้าไปอีก โดยที่เธอก็ไม่ได้รู้หรอกว่าปรินทร์มาที่นี่เพื่อทำอะไร และจะมาอยู่ที่นี่กี่วัน ปรินทร์ไม่ได้บอกอะไร และไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งกับกระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมมาด้วย เขาปิดตายห้องนอนส่วนตัวให้เป็นความลับ คนใช้อย่างเธอจึงคาดเดาอะไรไม่ได้เลย นอกจากโกหกเด็กสาวออกไป “เชื่อป้านะ ออกไปทำตัวน่ารักๆให้ท่านชื่นใจสักวันสองวันนะคะ” มือบางของหญิงที่เกือบจะชราแล้วตบเบาๆที่ก้นของเด็กสาวที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ ให้เด็กสาวกระตือรือร้นที่จะลุกขึ้นไปทำตัวน่ารักๆอย่างที่เธอแนะนำออกไป ถึงแม้จะไม่รู้ว่าปรินทร์จะชอบไหม แต่มันคงดีกว่าที่เนื้อทองจะเอาแต่ทำตัวต่อต้านคนเป็นพ่ออยู่แบบนี้ “ก็ไม่แน่นะ ถ้าคุณหนูทำตัวดีๆ เย็นนี้คุณพ่ออาจจะกลับกรุงเทพเลยก็ได้ ป้าเห็นมีคนโทรมาคุยงานตั้งแต่ตีห้าแน่ะ” เนื้อทองยังคงเงียบราวกับเธอไม่ได้ยินในสิ่งที่แดงอ้อยพูดออกไปมากมายนั้น แต่แดงอ้อยรู้ดีว่าเด็กสาวกำลังฟังอย่างตั้งใจ เธอเลยเสริมทัพคำพูดเข้าไปอีก เพราะเมื่อตะกี้ก่อนที่จะเข้ามาในห้องนอนของเด็กสาว เธอนั้นเห็นว่าปรินทร์กำลังคุยโทรศัพท์หน้าเครียดอยู่ตรงบริเวณหน้าบ้าน ถ้าให้เธอเดาคงเป็นการคุยเรื่องงานเพราะเจ้านายเธอคนนี้เป็นถึงเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ “จริงเหรอ” เด็กสาวที่อยู่ในชุดนอนกางเกงขาสั้นแค่คืบดีดตัวลุกขึ้นอย่างลืมตัวไปว่าขาของตัวเองนั้นเจ็บอยู่ เมื่อได้ยินคำว่าคนใจร้ายนั้นจะรีบกลับไป แล้วก็รีบยกมือของตัวเองไปจับขาที่เจ็บแปลบขึ้นมาเพราะการขยับลุกอย่างรวดเร็วนั้น รอยยิ้มของเธอปรากฏขึ้นมาด้วยหลังจากที่มันจางหายไปจากใบหน้าของเธอหลายสิบชั่วโมงมาแล้วตั้งแต่พบหน้าผู้เป็นพ่อเลี้ยง “อาบน้ำแต่งตัวเลยนะคะ” แดงอ้อยรีบลุกขึ้นไปเตรียมผ้าขนหนูมาให้กับเด็กสาวเพื่อให้ได้ไปอาบน้ำก่อนจะออกไปที่โต๊ะอาหารตามนัด เธอยังไม่รู้ว่าปรินทร์จะกลับไปในเร็ววันไหมถ้าเด็กสาวทำตัวเป็นเด็กน่ารักตามที่เธอบอก แต่ในตอนนี้เธอต้องช่วยให้เด็กสาวไม่โดนดุเพราะว่าไปช้าก่อน แล้วเรื่องอื่นๆค่อยแก้ไขตามหลัง “อืม” ร่างบางที่โตเป็นสาวเต็มตัวแล้วทั้งตัว ทรวดทรงองเอวดูดีสมส่วนเพราะเธอดูแลตัวเองอย่างดีไม่ได้ปล่อยเลยตามเลยเหมือนตอนวัยเด็ก ลุกขึ้นยืนด้วยขาเพียงข้างเดียวเพราะอีกข้างยังคงเจ็บอยู่มาก ประคองร่างกายที่ห่อคลุมด้วยชุดนอนที่เป็นเสื้อลายการ์ตูนผ้าบางๆและกางเกงขาสั้นแค่คืบภายในไม่ได้ใส่ชั้นในแม้แต่ชิ้นเดียวไปยังห้องน้ำ แดงอ้อยรีบเข้ามาช่วยประคองพาเดินไปอีกแรง เพราะถ้าให้เด็กสาวเดินไปเองเพียงลำพังคงอาจถึงห้องน้ำพรุ่งนี้ก็เป็นได้ “สวัสดีค่ะคุณพ่อ” เนื้อทองอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินมาที่โต๊ะอาหารของบ้านที่อยู่ใกล้กับห้องครัว เธอเดินมาไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้วเพราะว่าบ้านหลังนี้มันแคบมาก ทุกห้องของบ้านติดกันไปหมด สองมือของเธอยกขึ้นพนมเอาไว้ตรงอกแล้วไหว้คนที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงโต๊ะอาหารด้วยการพยายามทำให้มันออกมาเรียบร้อยที่สุด มันก็ออกขัดๆไปนิดตอนยกมือขึ้นไหว้ เพราะปกติแล้วเธอไม่เคยไหว้ใครที่ไหนเลยเพราะมันไม่จำเป็นต้องทำด้วยเธอใหญ่คับโรงเรียนมีแต่คนต้องเคารพเธอ “หืม” ปรินทร์มองอย่างจับผิดไปยังมือของเด็กสาวที่พนมอยู่ตรงหน้าอกที่เขาได้เห็นเต็มตาเมื่อคืนนี้พอดี ภาพจำที่เขาได้เห็นหน้าอกอันแสนเต่งตึงของเด็กสาวอย่างเธอฉายชัดขึ้นมาในหัวทันที เขาหลุดเข้าไปอยู่ในภวังค์นั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจเพราะภาพมันค่อนข้างติดตาติดใจ “ขอโทษนะคะที่ลงมาช้า พอดีหนูลุกไม่ไหวนะคะ” เนื้อทองแก้ตัวออกไปอย่างน่ารักที่สุดในชีวิต โดยแอบอ้วกแตกไปกับคำพูดของตัวเองอยู่หลายรอบกว่าจะพูดจบ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าแค่อยากให้คนคนหนึ่งไปให้พ้นจะต้องลำบากปากตัวเองขนาดนี้ด้วย “มะไม่เป็นไร” หนุ่มใหญ่ที่ผ่านสนามรักมานักต่อนักรีบส่ายหน้าสลัดความคิดที่มีแต่เรื่องหน้าอกของเด็กสาวออกจากหัว ก่อนจะแอบก้มหน้ายิ้มแห้งๆให้กับพื้นเพราะนึกขำตัวเองที่จำเรื่องบ้าๆอะไรไม่เข้าท่าเข้าท่านั้นฝั่งหัวอยู่ได้ “ทานข้าวเช้ากันเลยดีไหมคะ” เนื้อทองไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรแต่เธอรีบให้อีกฝ่ายกินข้าวเช้าเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปทั้งที่ยังไม่เจ็ดโมงเช้าเนี้ยแหละ เพราะพออิ่มแล้วก็จะได้กลับกรุงเทพไปซะไม่มาอยู่ให้เกะกะลูกนัยน์ตาของเธออีก เธอเบื่อเต็มทนแล้วที่จะต้องมานั่งทำตัวเสแสร้งเป็นคนดีที่มันไม่ใช่ตัวเธอแบบนี้ “ตั้งโต๊ะได้เลย” ปรินทร์หันไปพยักหน้าส่งสัญญาณให้กับแดงอ้อยที่ทำหน้าที่เป็นแม่ครัวในเช้าวันนี้จัดการตั้งโต๊ะอาหารได้แล้ว เพราะเขาก็อยากจะรีบกินข้าวเช้าให้มันเรียบร้อยจะได้จัดการเรื่องที่ตั้งใจมาทำสักที “ค่ะๆ” แดงอ้อยจัดการยกข้าวต้มร้อนๆหอมๆที่เธอตั้งใจทำมาเสิร์ฟให้กับสองพ่อลูกในทันที แล้วยืนรอสักพักเผื่อสองพ่อลูกมีอะไรจะเรียกใช้เธอ ก่อนจะออกไปนั่งตรงระเบียงหลังบ้าน ปล่อยให้สองคนพ่อลูกได้อยู่คุยกันสองต่อสอง เพราะดูท่าแล้วปรินทร์ก็ไม่ได้ดูโมโหจนจะดุคุณหนูของเธอขึ้นมาอีก สถานการณ์ค่อนข้างดีเธอวางใจที่จะปล่อยให้คนทั้งสองอยู่กันตามลำพังได้ เพราะถ้าเธอเฝ้าตลอดอาจทำให้คนทั้งสองที่ควรเปิดใจคุยกันแบบพ่อลูกรู้สึกอึดอัดได้ “คุณพ่อมาที่นี่เพื่อทำอะไรเหรอคะ” เนื้อทองที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นเอ่ยถามออกไปอย่างคนอดใจไว้ไม่ไหว เพราะถ้าเขากลับไปเช้านี้เลย เธอก็คงไม่ได้รู้อะไรอีก และถ้ามีครั้งหน้าที่เขาเกิดบ้าขึ้นมาอีกเธอก็ไม่มีวิธีมาตั้งรับเพราะไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไร เธอควรรู้ทุกเรื่องเพื่อให้เธอเป็นฝ่ายชนะเหมือนในตอนนี้ที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ต้องหนีแบบคนบ้าเหมือนเมื่อวาน “แบบว่ามีธุระอะไรเหรอคะถึงได้มา” ปรินทร์เอาแต่กินข้าวต้มเงียบๆไม่พูดตอบอะไร เนื้อทองเธอก็เลยใส่คำค่ะขาหนักขึ้นไปอีก อ้อนแบบที่ดูละครหลังข่าวมากเลย ทำแบบเดียวกับที่ตัวร้ายล้วงความลับจากพระเอก เพราะเธอไม่ชอบเป็นนางเอก ด้วยไม่อยากมีคู่เป็นพระเอกที่มีแต่คนแย่งกันทั้งที่ไม่ได้น่าแย่งสักเท่าไหร่ “มาดัดนิสัยเธอไง” ปรินทร์หลุดปากพูดออกมาเพราะรู้สึกรำคาญในหูที่ต้องมาฟังเสียงแข็งๆของเธอค่ะขาให้ฟัง หูของเขาใกล้หนวกเต็มทนแล้ว ถ้าเธอยังพูดอีกเขามีหวังต้องไปพบหมอรักษาอาหารแสลงหูนี้แน่ๆ “หนูเป็นเด็กดีของคุณพ่อนะคะ คุณพ่อสบายใจได้เลยไม่ต้องมาคุ้มหรอกค่ะ” ร่างบางผุดลุกไปจากเก้าอี้ของตัวเองด้วยการจับโต๊ะอาหารให้มั่นแล้วไปหย่อนก้นนั่งลงบนตักเขา ทำตัวเป็นลูกสาวตัวน้อยที่อ้อนให้พ่อยอมใจอ่อนไม่ต้องสอนอะไรที่เธอไม่ต้องการ การแสดงนี้เธอเรียนมาจากพวกเพื่อนๆในโรงเรียนที่มักมาเล่าให้ฟังว่าทำแบบนี้แล้วพ่อไม่ลงโทษเวลาทำความผิด เพราะพ่อส่วนมากมักใจอ่อนกับลูกสาวที่อ้อนเก่ง และเธอก็คิดว่าเธออ้อนเก่งพอตัว “อย่างเธอเนี้ยนะเป็นเด็กดี ก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน” ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจแรงใส่คำพูดที่เด็กสาวพูดออกมา มันไม่มีความจริงอะไรเลยแม้แต่นิด เธอก่อเรื่องให้ทางโรงเรียนโทรไปรายงานเขาแทบทุกวันยังกล้าพูดว่าตัวเองเป็นเด็กดีอีก และไหนจะวีรกรรมสารพัดที่แดงอ้อยโทรไปรายงานวันเว้นวันนั้นอีก จะเอาส่วนไหนมาเป็นเด็กดี “ก็แค่เรื่องของเด็กๆ ต่อไปหนูจะไม่ทำแล้วค่ะ” ร่างบางบนตักใหญ่ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเงยหน้ามองหน้าเขาให้ชัดเจนก่อนจะยิ้มแห้งๆเพื่อกลบเกลื่อนวีรกรรมของตัวเอง รอยยิ้มมักปกปิดได้ทุกสิ่งเธอเชื่อแบบนั้น และคนเป็นพ่ออย่างเขาต้องยอมใจอ่อนแหละ “ลงไปนั่งที่ตัวเอง” หนุ่มใหญ่ที่อยู่ในวัยกลัดมันไล่หญิงสาวที่ขยับตัวไปมาอย่างไม่นึกเกรงใจเขาลงไปจากตัก บางสิ่งใต้กางเกงที่เธอไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับมันกำลังตื่นขึ้นเพราะเธอเอาก้นไปเสียดสีมัน เป็นความไม่ได้ตั้งใจของเด็กอย่างเธอที่ไม่รู้อะไรเขาเข้าใจดี แต่ใต้กางเกงเขามันไม่เข้าใจ “กลัวกิ้งกือมันจะตื่นเหรอ” เด็กสาวที่ดูเหมือนจะไร้เดียงสาไม่รู้อะไรขยับก้นของตัวเองไปมาบนตักเขาเข้าอีกชุดใหญ่ ก่อนจะขยับก้นลุกขึ้นจากตักของเขากลับมานั่งที่เก้าอี้ของตัวเองตามเดิม “ยายครีม” เสียงหนาตะโกนเสียงดังออกมาเมื่อเธอมาพูดดูถูกว่าภายใต้กางเกงของเขาเป็นเพียงแมลงตัวเล็กๆ เอ๊ย เมื่อเธอกล้ามาทำแบบนั้นทั้งที่เขาห้ามแล้ว ใต้กางเกงของเขาไม่ใช่สิ่งที่เธอที่อยู่ในวัยสาวจะมาล้อเล่นด้วยได้ เพราะมันอันตรายเกินกว่าเด็กอย่างเธอจะเข้าใกล้ เนื้อทองหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจยกใหญ่เมื่อได้ยั่วอารมณ์เขาแบบนั้น แบบนี้มันค่อยดูเป็นตัวของตัวเองหน่อยไม่ใช่ฝืนทำตัวน่ารักๆจนเสียงจะเป็นเป็ดอยู่แล้วแบบนั้น ทำเอาเธอก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มต่อไปทั้งที่ก่อนหน้านี้กินแทบไม่ลงเพราะฝืนทำตัวเป็นเด็กดีอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม