“ตายแล้วจะหกโมงแล้วคุณหนูยังไม่ลุกอีกเหรอคะ”
แดงอ้อยเดินเข้ามาดูคุณหนูของเธอตั้งแต่เช้าตรู่เมื่อเห็นว่าปรินทร์นั้นตื่นขึ้นมาก่อนเธอนานแล้ว
พอได้เข้าเห็นสภาพคุณหนูก็ต้องตกใจไม่น้อย ด้วยเนื้อทองนั้นยังคงนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงนอน
หน้าตาของหญิงสาวยังคงมีความสุขมากกับการนอนหลับ ไม่รู้สึกเลยแม้แต่นิดว่ามีเธอเดินเข้ามาภายในห้องแล้ว
“ลุกได้แล้วค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อจะดุเอานะคะ”
แดงอ้อยหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงนอนของเด็กสาวแล้วค่อยๆยกสะกิดปลุก พร้อมกับเอ่ยพูดที่ข้างหูเบาๆ
ทำทุกอย่างด้วยความรักและทะนุถนอมถึงแม้บางครั้งจะนึกอย่างตีเด็กสาวสักทีสองทีก็ตาม
เธอเลี้ยงของเธอมาตั้งแต่เกิด เลี้ยงเหมือนลูกคนหนึ่งเลย จะไม่รักได้ยังไงกัน
“หนูไม่มีทางออกไปหาคนแบบนั้นเป็นอันขาด”
เนื้อทองเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตามเสียงเรียกของแดงอ้อยก็ออกปากเถียงออกไปในทันที
เธอบอกแล้วว่าไม่มีทางออกไปหาคนใจร้ายแบบนั้นที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัวจนเกือบขาหัก เธอก็จะไม่มีวันออกไปไม่ว่าใครหน้าไหนจะมาขอร้องมากแค่ไหนก็ตาม
เขาจะฆ่าจะแกงอะไรเธอก็เชิญตามสบาย เธอยอมตายดีกว่าไปทำตามใจคนอื่น
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ ทำไมไม่ทำตัวน่ารักๆ คุณพ่อจะได้ไม่ดุคุณหนูไงคะ”
แดงอ้อยใช้น้ำเย็นเข้าลูบเพื่อให้เด็กสาวใจเย็นลงและยอมรับฟังเธอ ไม่พูดอะไรที่เป็นเชิงบังคับจิตใจออกไป
เธอเลี้ยงของเธอมาเธอรู้ดีว่าเนื้อทองนั้นชอบอะไรแบบไหน และไม่ชอบอะไรแบบไหน
เด็กสาวเกลียดการบังคับจิตใจ เกลียดการออกคำสั่งเป็นที่สุด มีเพียงอย่างเดียวคือต้องค่อยๆพูด ให้เหตุผล จนเด็กสาวยอมรับฟัง
เรื่องทำให้เนื้อทองยอมรับฟังถือเป็นเรื่องยากพอสมควรและไม่ค่อยมีใครทำได้เพราะว่าเนื้อทองนั้นฉลาดรู้ทันคนไปเสียทุกเรื่อง
มันก็เลยทำให้เนื้อทองดูดื้อขัดใจผู้ใหญ่อยู่เรื่อย เพราะเธอไม่ชอบฟังคำสั่งของใคร และผู้ใหญ่เหล่านั้นก็ไม่มีเวลามาอธิบายอะไรให้เธอฟัง
“คุณพ่อมาอยู่แค่ไม่กี่วันคุณหนูไม่ควรดื้อกับเธอนะคะ”
เห็นว่าเนื้อทองนอนฟังเงียบๆเหมือนกำลังคิดตามคำพูดของเธอ แดงอ้อยก็พูดเสริมเข้าไปอีก
โดยที่เธอก็ไม่ได้รู้หรอกว่าปรินทร์มาที่นี่เพื่อทำอะไร และจะมาอยู่ที่นี่กี่วัน
ปรินทร์ไม่ได้บอกอะไร และไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งกับกระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมมาด้วย
เขาปิดตายห้องนอนส่วนตัวให้เป็นความลับ คนใช้อย่างเธอจึงคาดเดาอะไรไม่ได้เลย นอกจากโกหกเด็กสาวออกไป
“เชื่อป้านะ ออกไปทำตัวน่ารักๆให้ท่านชื่นใจสักวันสองวันนะคะ”
มือบางของหญิงที่เกือบจะชราแล้วตบเบาๆที่ก้นของเด็กสาวที่ยังคงนอนนิ่งอยู่
ให้เด็กสาวกระตือรือร้นที่จะลุกขึ้นไปทำตัวน่ารักๆอย่างที่เธอแนะนำออกไป
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าปรินทร์จะชอบไหม แต่มันคงดีกว่าที่เนื้อทองจะเอาแต่ทำตัวต่อต้านคนเป็นพ่ออยู่แบบนี้
“ก็ไม่แน่นะ ถ้าคุณหนูทำตัวดีๆ เย็นนี้คุณพ่ออาจจะกลับกรุงเทพเลยก็ได้ ป้าเห็นมีคนโทรมาคุยงานตั้งแต่ตีห้าแน่ะ”
เนื้อทองยังคงเงียบราวกับเธอไม่ได้ยินในสิ่งที่แดงอ้อยพูดออกไปมากมายนั้น
แต่แดงอ้อยรู้ดีว่าเด็กสาวกำลังฟังอย่างตั้งใจ เธอเลยเสริมทัพคำพูดเข้าไปอีก
เพราะเมื่อตะกี้ก่อนที่จะเข้ามาในห้องนอนของเด็กสาว เธอนั้นเห็นว่าปรินทร์กำลังคุยโทรศัพท์หน้าเครียดอยู่ตรงบริเวณหน้าบ้าน ถ้าให้เธอเดาคงเป็นการคุยเรื่องงานเพราะเจ้านายเธอคนนี้เป็นถึงเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่
“จริงเหรอ”
เด็กสาวที่อยู่ในชุดนอนกางเกงขาสั้นแค่คืบดีดตัวลุกขึ้นอย่างลืมตัวไปว่าขาของตัวเองนั้นเจ็บอยู่ เมื่อได้ยินคำว่าคนใจร้ายนั้นจะรีบกลับไป
แล้วก็รีบยกมือของตัวเองไปจับขาที่เจ็บแปลบขึ้นมาเพราะการขยับลุกอย่างรวดเร็วนั้น
รอยยิ้มของเธอปรากฏขึ้นมาด้วยหลังจากที่มันจางหายไปจากใบหน้าของเธอหลายสิบชั่วโมงมาแล้วตั้งแต่พบหน้าผู้เป็นพ่อเลี้ยง
“อาบน้ำแต่งตัวเลยนะคะ”
แดงอ้อยรีบลุกขึ้นไปเตรียมผ้าขนหนูมาให้กับเด็กสาวเพื่อให้ได้ไปอาบน้ำก่อนจะออกไปที่โต๊ะอาหารตามนัด
เธอยังไม่รู้ว่าปรินทร์จะกลับไปในเร็ววันไหมถ้าเด็กสาวทำตัวเป็นเด็กน่ารักตามที่เธอบอก
แต่ในตอนนี้เธอต้องช่วยให้เด็กสาวไม่โดนดุเพราะว่าไปช้าก่อน แล้วเรื่องอื่นๆค่อยแก้ไขตามหลัง
“อืม”
ร่างบางที่โตเป็นสาวเต็มตัวแล้วทั้งตัว ทรวดทรงองเอวดูดีสมส่วนเพราะเธอดูแลตัวเองอย่างดีไม่ได้ปล่อยเลยตามเลยเหมือนตอนวัยเด็ก ลุกขึ้นยืนด้วยขาเพียงข้างเดียวเพราะอีกข้างยังคงเจ็บอยู่มาก
ประคองร่างกายที่ห่อคลุมด้วยชุดนอนที่เป็นเสื้อลายการ์ตูนผ้าบางๆและกางเกงขาสั้นแค่คืบภายในไม่ได้ใส่ชั้นในแม้แต่ชิ้นเดียวไปยังห้องน้ำ
แดงอ้อยรีบเข้ามาช่วยประคองพาเดินไปอีกแรง เพราะถ้าให้เด็กสาวเดินไปเองเพียงลำพังคงอาจถึงห้องน้ำพรุ่งนี้ก็เป็นได้
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
เนื้อทองอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินมาที่โต๊ะอาหารของบ้านที่อยู่ใกล้กับห้องครัว
เธอเดินมาไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้วเพราะว่าบ้านหลังนี้มันแคบมาก ทุกห้องของบ้านติดกันไปหมด
สองมือของเธอยกขึ้นพนมเอาไว้ตรงอกแล้วไหว้คนที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงโต๊ะอาหารด้วยการพยายามทำให้มันออกมาเรียบร้อยที่สุด
มันก็ออกขัดๆไปนิดตอนยกมือขึ้นไหว้ เพราะปกติแล้วเธอไม่เคยไหว้ใครที่ไหนเลยเพราะมันไม่จำเป็นต้องทำด้วยเธอใหญ่คับโรงเรียนมีแต่คนต้องเคารพเธอ
“หืม”
ปรินทร์มองอย่างจับผิดไปยังมือของเด็กสาวที่พนมอยู่ตรงหน้าอกที่เขาได้เห็นเต็มตาเมื่อคืนนี้พอดี
ภาพจำที่เขาได้เห็นหน้าอกอันแสนเต่งตึงของเด็กสาวอย่างเธอฉายชัดขึ้นมาในหัวทันที
เขาหลุดเข้าไปอยู่ในภวังค์นั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจเพราะภาพมันค่อนข้างติดตาติดใจ
“ขอโทษนะคะที่ลงมาช้า พอดีหนูลุกไม่ไหวนะคะ”
เนื้อทองแก้ตัวออกไปอย่างน่ารักที่สุดในชีวิต โดยแอบอ้วกแตกไปกับคำพูดของตัวเองอยู่หลายรอบกว่าจะพูดจบ
ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าแค่อยากให้คนคนหนึ่งไปให้พ้นจะต้องลำบากปากตัวเองขนาดนี้ด้วย
“มะไม่เป็นไร”
หนุ่มใหญ่ที่ผ่านสนามรักมานักต่อนักรีบส่ายหน้าสลัดความคิดที่มีแต่เรื่องหน้าอกของเด็กสาวออกจากหัว
ก่อนจะแอบก้มหน้ายิ้มแห้งๆให้กับพื้นเพราะนึกขำตัวเองที่จำเรื่องบ้าๆอะไรไม่เข้าท่าเข้าท่านั้นฝั่งหัวอยู่ได้
“ทานข้าวเช้ากันเลยดีไหมคะ”
เนื้อทองไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรแต่เธอรีบให้อีกฝ่ายกินข้าวเช้าเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปทั้งที่ยังไม่เจ็ดโมงเช้าเนี้ยแหละ
เพราะพออิ่มแล้วก็จะได้กลับกรุงเทพไปซะไม่มาอยู่ให้เกะกะลูกนัยน์ตาของเธออีก
เธอเบื่อเต็มทนแล้วที่จะต้องมานั่งทำตัวเสแสร้งเป็นคนดีที่มันไม่ใช่ตัวเธอแบบนี้
“ตั้งโต๊ะได้เลย”
ปรินทร์หันไปพยักหน้าส่งสัญญาณให้กับแดงอ้อยที่ทำหน้าที่เป็นแม่ครัวในเช้าวันนี้จัดการตั้งโต๊ะอาหารได้แล้ว
เพราะเขาก็อยากจะรีบกินข้าวเช้าให้มันเรียบร้อยจะได้จัดการเรื่องที่ตั้งใจมาทำสักที
“ค่ะๆ”
แดงอ้อยจัดการยกข้าวต้มร้อนๆหอมๆที่เธอตั้งใจทำมาเสิร์ฟให้กับสองพ่อลูกในทันที
แล้วยืนรอสักพักเผื่อสองพ่อลูกมีอะไรจะเรียกใช้เธอ ก่อนจะออกไปนั่งตรงระเบียงหลังบ้าน
ปล่อยให้สองคนพ่อลูกได้อยู่คุยกันสองต่อสอง เพราะดูท่าแล้วปรินทร์ก็ไม่ได้ดูโมโหจนจะดุคุณหนูของเธอขึ้นมาอีก
สถานการณ์ค่อนข้างดีเธอวางใจที่จะปล่อยให้คนทั้งสองอยู่กันตามลำพังได้ เพราะถ้าเธอเฝ้าตลอดอาจทำให้คนทั้งสองที่ควรเปิดใจคุยกันแบบพ่อลูกรู้สึกอึดอัดได้
“คุณพ่อมาที่นี่เพื่อทำอะไรเหรอคะ”
เนื้อทองที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นเอ่ยถามออกไปอย่างคนอดใจไว้ไม่ไหว
เพราะถ้าเขากลับไปเช้านี้เลย เธอก็คงไม่ได้รู้อะไรอีก และถ้ามีครั้งหน้าที่เขาเกิดบ้าขึ้นมาอีกเธอก็ไม่มีวิธีมาตั้งรับเพราะไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไร
เธอควรรู้ทุกเรื่องเพื่อให้เธอเป็นฝ่ายชนะเหมือนในตอนนี้ที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ต้องหนีแบบคนบ้าเหมือนเมื่อวาน
“แบบว่ามีธุระอะไรเหรอคะถึงได้มา”
ปรินทร์เอาแต่กินข้าวต้มเงียบๆไม่พูดตอบอะไร เนื้อทองเธอก็เลยใส่คำค่ะขาหนักขึ้นไปอีก
อ้อนแบบที่ดูละครหลังข่าวมากเลย ทำแบบเดียวกับที่ตัวร้ายล้วงความลับจากพระเอก
เพราะเธอไม่ชอบเป็นนางเอก ด้วยไม่อยากมีคู่เป็นพระเอกที่มีแต่คนแย่งกันทั้งที่ไม่ได้น่าแย่งสักเท่าไหร่
“มาดัดนิสัยเธอไง”
ปรินทร์หลุดปากพูดออกมาเพราะรู้สึกรำคาญในหูที่ต้องมาฟังเสียงแข็งๆของเธอค่ะขาให้ฟัง
หูของเขาใกล้หนวกเต็มทนแล้ว ถ้าเธอยังพูดอีกเขามีหวังต้องไปพบหมอรักษาอาหารแสลงหูนี้แน่ๆ
“หนูเป็นเด็กดีของคุณพ่อนะคะ คุณพ่อสบายใจได้เลยไม่ต้องมาคุ้มหรอกค่ะ”
ร่างบางผุดลุกไปจากเก้าอี้ของตัวเองด้วยการจับโต๊ะอาหารให้มั่นแล้วไปหย่อนก้นนั่งลงบนตักเขา
ทำตัวเป็นลูกสาวตัวน้อยที่อ้อนให้พ่อยอมใจอ่อนไม่ต้องสอนอะไรที่เธอไม่ต้องการ
การแสดงนี้เธอเรียนมาจากพวกเพื่อนๆในโรงเรียนที่มักมาเล่าให้ฟังว่าทำแบบนี้แล้วพ่อไม่ลงโทษเวลาทำความผิด
เพราะพ่อส่วนมากมักใจอ่อนกับลูกสาวที่อ้อนเก่ง และเธอก็คิดว่าเธออ้อนเก่งพอตัว
“อย่างเธอเนี้ยนะเป็นเด็กดี ก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน”
ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจแรงใส่คำพูดที่เด็กสาวพูดออกมา มันไม่มีความจริงอะไรเลยแม้แต่นิด
เธอก่อเรื่องให้ทางโรงเรียนโทรไปรายงานเขาแทบทุกวันยังกล้าพูดว่าตัวเองเป็นเด็กดีอีก
และไหนจะวีรกรรมสารพัดที่แดงอ้อยโทรไปรายงานวันเว้นวันนั้นอีก จะเอาส่วนไหนมาเป็นเด็กดี
“ก็แค่เรื่องของเด็กๆ ต่อไปหนูจะไม่ทำแล้วค่ะ”
ร่างบางบนตักใหญ่ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเงยหน้ามองหน้าเขาให้ชัดเจนก่อนจะยิ้มแห้งๆเพื่อกลบเกลื่อนวีรกรรมของตัวเอง
รอยยิ้มมักปกปิดได้ทุกสิ่งเธอเชื่อแบบนั้น และคนเป็นพ่ออย่างเขาต้องยอมใจอ่อนแหละ
“ลงไปนั่งที่ตัวเอง”
หนุ่มใหญ่ที่อยู่ในวัยกลัดมันไล่หญิงสาวที่ขยับตัวไปมาอย่างไม่นึกเกรงใจเขาลงไปจากตัก
บางสิ่งใต้กางเกงที่เธอไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับมันกำลังตื่นขึ้นเพราะเธอเอาก้นไปเสียดสีมัน
เป็นความไม่ได้ตั้งใจของเด็กอย่างเธอที่ไม่รู้อะไรเขาเข้าใจดี แต่ใต้กางเกงเขามันไม่เข้าใจ
“กลัวกิ้งกือมันจะตื่นเหรอ”
เด็กสาวที่ดูเหมือนจะไร้เดียงสาไม่รู้อะไรขยับก้นของตัวเองไปมาบนตักเขาเข้าอีกชุดใหญ่
ก่อนจะขยับก้นลุกขึ้นจากตักของเขากลับมานั่งที่เก้าอี้ของตัวเองตามเดิม
“ยายครีม”
เสียงหนาตะโกนเสียงดังออกมาเมื่อเธอมาพูดดูถูกว่าภายใต้กางเกงของเขาเป็นเพียงแมลงตัวเล็กๆ เอ๊ย เมื่อเธอกล้ามาทำแบบนั้นทั้งที่เขาห้ามแล้ว
ใต้กางเกงของเขาไม่ใช่สิ่งที่เธอที่อยู่ในวัยสาวจะมาล้อเล่นด้วยได้ เพราะมันอันตรายเกินกว่าเด็กอย่างเธอจะเข้าใกล้
เนื้อทองหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจยกใหญ่เมื่อได้ยั่วอารมณ์เขาแบบนั้น
แบบนี้มันค่อยดูเป็นตัวของตัวเองหน่อยไม่ใช่ฝืนทำตัวน่ารักๆจนเสียงจะเป็นเป็ดอยู่แล้วแบบนั้น
ทำเอาเธอก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มต่อไปทั้งที่ก่อนหน้านี้กินแทบไม่ลงเพราะฝืนทำตัวเป็นเด็กดีอยู่