โครม!
เสียงอึกทึกครึกโครมดังออกมาจากภายในบ้านไม้สองชั้นหลังขนาดกะทัดรัดที่ตั้งอยู่ท้ายสุดของซอย ทำให้ใบบัวที่กำลังสาวเท้าเดินเอื่อยๆอยู่ถึงกับต้องวิ่งเข้าบ้านอย่างเร็วไว
'แม่อีกแล้วสินะ'
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดความวุ่นวายขึ้นที่บ้านหลังนี้ เหตุเพราะแม่ของเธอที่เอาแต่เข้าบ่อนแล้วไปกู้หนี้ยืมสินจากนอกระบบมา ทำให้พวกนั้นตามมาระรานถึงบ้านเสมอ บ่อยครั้งที่ใบบัวอยากจะย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อหนีผู้เป็นมารดาแต่ก็ไม่เคยเลยที่จะตัดใจทิ้งไปได้สักครั้ง เพราะแม่ของเธอไม่มีใครแล้วจริงๆ
"อย่าทำร้ายฉันเลย อีกสองวันจะหามาคืนให้"
หญิงวัยกลางคนอายุราวๆสี่สิบห้าปีพนมมือไหว้อ้อนวอนสีหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว ชายฉกรรจ์ใบหน้าเหี้ยมเกรียมรูปร่างสูงใหญ่สองคน ในมือของมันกำไม้หน้าสามกวัดแกว่งไปมา หลังจากทุบตีข้าวของเสร็จแล้วก็มุ่งหน้ามาทางผู้เป็นเจ้าของบ้าน
"หยุดนะ!"
ใบบัวมายืนขวางเอาไว้
"ลูกมึงมาแล้ว เอาจากลูกมึงสิวะ ได้ข่าวว่าหน้าที่การงานดีไม่ใช่เหรอ?"
หนึ่งในนั้นแสยะยิ้ม
"เท่าไหร่?"
ใบบัวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วน แต่ข้างในนั้นนึกกลัวอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องจ่ายหนี้แทนมารดา จนตอนนี้เงินทองของเธอแทบไม่มีเหลือจะเก็บแล้ว เพราะต้องตามเช็ดตามล้างหนี้สินให้มารดาอยู่เสมอๆ
"แสนนึง"
"แสนนึง!"
ใบบัวโพล่งย้ำออกมาก่อนจะหันไปทางมารดาใช้สายตาคาดคั้นเอาคำตอบ คงไม่พ้นเอาไปละลายในบ่อนเช่นเดิม
"เอาไปหมื่นเดียวก่อน"
ใบบัวเปิดกระเป๋าหยิบเงินในซองให้ชายฉกรรจ์หน้าโหดหนึ่งในนั้นไปทั้งซอง เงินที่เธอรับจ๊อบไปสอนพิเศษมาหลังเลิกงาน หวังเพียงหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเพิ่มอีกทางก็ไม่มีเหลือ
"ถือว่าเป็นแค่ดอกเบี้ย ที่เหลือรีบหามาคืนกูภายในหนึ่งอาทิตย์"
"จ้ะๆๆ"
มารดาของใบบัวรีบรับคำด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่า ก่อนที่พวกมันจะรีบออกพากันออกไป ใบบัวมองสำรวจไปรอบๆบ้านที่มีข้าวของหล่นกระจายระเนระนาดก่อนจะทรุดนั่งลงไปด้วยน้ำตาคลอหน่วย รู้สึกเหนื่อยหน่ายหัวใจเหลือเกิน หนึ่งแสนบาทภายในหนึ่งอาทิตย์จะไปหามาจากไหน
"หนูจะช่วยแม่อีกแค่ครั้งเดียว ถ้ามีอีกหนูจะหนีไปอยู่ที่อื่นและไม่กลับมาอีก"
"เออ! ถ้ากล้าทิ้งกูกูจะไปอาละวาดถึงโรงพยาบาล"
"แล้วแต่แม่เลย อย่างมากเขาก็แค่ไล่ออก"
"กูเบ่งคลอดมึงมา ส่งเสียให้เรียนจบ มึงก็ต้องตอบแทนบุญคุณกูสิวะ อีใบบัว"
สภาพดูไม่จืดและคำพูดคำจาที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเพราะผีพนันเข้าสิงของผู้เป็นมารดาทำให้ใบบัวเริ่มเดือดขึ้นมาบ้าง
"เพราะแม่เป็นคนแบบนี้ไง"
"แบบไหนมึงพูดออกมาให้หมดนะอีบัว"
"แม่ก็น่าจะรู้ตัวเองดี อย่าให้บัวต้องพูดออกมาตรงๆเลย เพราะแบบนี้ไงพ่อถึงได้ทิ้งแม่ไป แม่เป็นคนที่น่ารังเกียจไม่มีใครอยากอยู่ด้วยรู้เอาไว้ด้วย" ตะโกนใส่หน้าผู้เป็นมารดาอย่างหมดความอด
เพียะ!
แรงเหวี่ยงของฝ่ามือของผู้เป็นมารดาฟาดลงมาอย่างแรง ใบบัวรู้สึกชาไปทั้งหน้า แม้ว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกแม่ผีพนันทำร้าย แต่ครั้งนี้เธอหมดความอดทนแล้วจริงๆ
"มึงไปเลย ออกไปจากบ้านกู ไปหาพ่อมึงไป ไปเลย!"
ชี้ไปตรงประตูรั้วบ้าน ใบบัวลูบหน้าที่ถูกตบจนแดงเป็นจ้ำด้วยน้ำตานองหน้า ก่อนจะรีบวิ่งออกไปด้วยความเสียใจ
ทุกวันนี้ที่ต้องอยู่เพราะคำว่าบุญคุณล้วนๆ แม่ของเธอพร่ำบ่นแต่พูดคำว่าบุญคุณอยู่แทบจะตลอดเวลา ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ใบบัวถึงจะทดแทนบุญคุณท้วมหัวของแม่หมดเสียที หาเงินมาได้ทุกวันนี้เธอแทบจะไม่ได้ใช้จ่าย เงินเดือนทั้งเดือนต้องเอาไปใช้หนี้ให้แม่ทั้งหมด ใบบัวรู้สึกเหนื่อย เหนื่อยจนแทบอยากจะหยุดหายใจไปจากโลกนี้ โลกที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะเกิดมาเลยด้วยซ้ำ
"ไง สภาพนี้ ทะเลาะกับน้าแพรวมาอีกใช่มั้ย?"
นิธิหนุ่มข้างบ้านของใบบัวนั้นเอง เป็นหนุ่มข้างบ้านที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและเป็นที่ปรับทุกข์ นิธิเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อตี๋อายุรุ่นราวคราวเดียวกับใบบัว เป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ พูดง่ายๆก็พวกเด็กเนิร์ดใส่แว่นบ้าเล่นคอมจนได้ดีก็ไม่ผิด
"อ่ะน้ำ"
คราบน้ำตายังเปื้อนทั้งสองแก้ม ก่อนจะรับน้ำจากนิธิมาด้วยมือที่สั่นพร่า ทะเลาะกับแม่ทีไรใบบัวก็มักจะออกมานั่งหลบอยู่ตรงสนามเด็กเล่นไม่ไกลจากซอยบ้านที่เธออยู่เสมอ มาบ่อยจนนิธิรู้เสียแล้ว ว่าถ้าใบบัวหายไปต้องไปตามหาตรงจุดไหน
"นายเพิ่งเลิกงานเหรอ?"
"ก็เดินตามหลังเธอมาทันเหตุการณ์พอดี คราวนี้แสนนึงใช่มั้ย ยืมจากเราไปก่อนก็แล้วกัน"
"ไม่อ่ะนิธิ นายก็มีเรื่องต้องใช้เงินมากมาย ฉันไม่อยากทำให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะฉัน ฉันจัดการเองได้ นายไม่ต้องห่วง"
"น่า เราเพื่อนกัน เธอค่อยมาคืนตอนที่มีก็ได้"
"หยุดเลย และก็ไม่ต้องแอบเอาไปให้แม่ ไม่อย่างนั้นฉันโกรธจริงๆ"
"อืม ก็ได้ จะให้ช่วยอะไรก็บอกแล้วกัน"
พูดพรางหย่อนกายนั่งลงตรงชิงช้าตัวข้างๆ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพราะใบบัวไม่ชอบการปลอบโยนแบบโลกสวย เธอชอบให้พูดอะไรออกมาตรงกับใจเหมือนในตอนนี้ เขาเองก็อยากจะพูดอะไรตรงๆออกมามากมาย แต่ก็ไม่กล้า เพราะความเป็นเพื่อนมันค้ำคอมานานจนไม่อยากให้ความสัมพันธ์ดีๆนี้หายไป